หายใจอีกครั้ง T-T - หายใจอีกครั้ง T-T นิยาย หายใจอีกครั้ง T-T : Dek-D.com - Writer

    หายใจอีกครั้ง T-T

    ใครอ่านเรื่องนี้แล้วไม่ร้องไห้ยกมือขึ้น อยากรู้ว่าใครจะใจแข็งขนาดนั้น

    ผู้เข้าชมรวม

    971

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    971

    ความคิดเห็น


    15

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 ก.พ. 48 / 00:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      6เดือนผ่านไป พี่ใหญ่ของดีทูบีก็กลับมาจากการเรียนภาษา ทั้งแฟนเพลง ครอบครัว ต่างก็มารอรับบีมกันทั้งนั้น รวมถึง น้องคนเล็กของดีทูบีที่มีงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ต่อจากละครเรื่องคู่กรรม2 ถึงแม้ละครเรื่องนี้จะถูกต่อว่าในเรื่องของความเหมาะสมของตัวแสดงกับบทบาท และเรื่องของบทละครโทรทัศน์ แต่ละครเรื่องนี้ก็ทำให้แดนได้พิสูจน์ฝีมือทางการแสดงของเขา ทำให้เขาได้รับความนิยมจากแฟนกลุ่มใหม่ๆ นอกจากนี้ หกเดือนที่บีมไม่อยู่ แดนก็ยังตั้งใจเรียนซึ่งทำให้การเรียนด้านดนตรีของเขาก็กำลังไปได้ดี เห็นได้ชัดว่า ถ้าแดนเรียนจบเมื่อไร ทางอาร์.เอส.จะได้โปรดิวเซอร์ฝีมือดีเพิ่มในค่ายอีกคนแน่นอน

      กลับมาถึงเหตุการณ์ปัจจุบันต่อ พอบีมลงจากเครื่องและก้าวเข้าสู่สนามบินดอนเมืองเท่านั้นแหละ เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นลั่นสนามบิน เป็นสัญญาณให้แดนก้าวลงจากรถและอาศัยช่วงชุลมุน วิ่งเข้าไปในสนามบิน โดยมีจุดมุ่งหมาย คือห้องวีไอพีที่บีมจะเข้าไปหาครอบครัวของเขา แดนวิ่งฝ่าฝูง เอ๊ย ฝ่ากลุ่มแฟนเพลงเข้าไป ไม่มีใครสังเกตเห็นเขา เพราะต่างคนต่างเบียดกันถ่ายรูปบีมที่ไม่ได้เห็นหน้ามาถึง6เดือน แดนเองก็อดไม่ได้ที่จะชะโงกหน้ามองหน้าบีม ที่ยิ้มแย้มอยู่หน้าประตูห้องวีไอพี ซึ่งหน้าห้องมีเจ้าหน้าที่ของสนามบินหลายคนกันแฟนเพลงอยู่สุดชีวิต ถ้าแดนไปถึงตรงนั้น เจ้าหน้าที่ก็คงปล่อยให้เขาเข้าไป แดนมองบีม ‘พี่ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ เอ๊ะ เปลี่ยนสิ หล่อขึ้น’ แดนอมยิ้มกับตัวเอง หารู้ไม่ว่า หายนะกำลังคืบคลานเข้ามา “เฮ้ย นั่นพี่แดน” เสียงแฟนเพลงคนหนึ่งร้องขึ้น ‘ซวยละตู’ แดนคิดในใจ เขาไม่มีเวลาพอที่จะคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะแฟนๆต่างกรูเข้ามาหาเขา ที่ไม่มีกำแพงห้องกั้นแบบบีม

      เจ้าหน้าที่หน้าห้องวีไอพีต่างก็งงๆ ว่าทำไมแฟนเพลงถึงเลิกเบียดกัน แต่กลับไปมะรุมมะตุ้มกันอยู่อีกทาง แต่ในใจของเจ้าหน้าที่เหล่านั้นต่างก็โล่งอกไปตามๆกันที่ไม่ต้องต่อสู้กับแฟนเพลงอีก แต่ความโล่งอกนั้นก็ดับวูบในทันที เมื่อหัวหน้าเจ้าหน้าที่ร้องสั่งลูกน้อง “ยืนบื้ออะไรอยู่วะ ไปกันให้น้องแดนสิ เร็วเข้า” เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีแม้แต่เวลาถอนหายใจ ต่างก็เรียกเพื่อนวิ่งเข้าไปยืนกั้นรอบตัวนายแดน แล้วพามาส่งที่ห้องวีไอพีจนสำเร็จ ระหว่างทางเดิน แดนต้องบอกกับแฟนเพลงตลอดทางว่า “ใจเย็นนะครับ เดี๋ยวพี่ออกมาใหม่นะ”

      พอถึงหน้าห้องวีไอพีเท่านั้นแหละแดนถึงได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนเปิดประตูเข้าไป “ขอโทษฮะที่มาช้า” แดนยกมือไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ ซึ่งได้แก่ พ่อแม่ของบีม ครูแหม่ม-พัชริดาและสามี แล้วหันไปยิ้มให้น้องบัว โบ๊ท เบียร์ น้องๆของบีมทั้งสามคน ก่อนจะหันมาหาคนที่ยืนพิงกำแพงรออยู่ “พี่บีม” แดนเรียกเบาๆน้ำตาคลอ พี่น้องร่วมวงที่รักกันมากโผเข้ากอดกันแน่น ไม่ต้องพูดอะไรพวกเขาก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกและคำพูดมากมายของอีกฝ่ายที่พรั่งพรูอยู่ภายในและอยากจะปล่อยมันออกมา

      “นั่งเถอะ” บีมบอกแดนแล้วนั่งลงตรงที่ว่างบนโซฟาตัวยาว “แดนเข้ามาทีห้องมืดเลยแฮะ” บีมแซว ครูแหม่มอมยิ้ม “ไปว่าเค้าได้ไงบีม แดนขาวขึ้นตั้งเยอะนะ หมดค่าไวท์เทนนิ่งไปเยอะมากเลยล่ะ” ว่าแล้วก็หัวเราะ แดนหันมาค้อนครู บีมมองหน้าน้อง “แดนหล่อขึ้นจริงๆด้วย ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลย” แดนรู้สึกเขินจึงถามแก้เขินขึ้นมาว่า “แล้วเดี๋ยวพี่ต้องไปไหนต่อบ้าง”

      “ก็ว่าจะเข้าไปหาเฮีย” บีมหมายถึงเฮียฮ้อผู้บริหารค่ายเพลงที่เขาอยู่ “ไปทักทายพี่ๆที่บริษัท แล้วก็แวะไปสกาย-ไฮด์ด้วย แล้วก่อนกลับบ้านก็...” เสียงบีมแผ่วลง รอยยิ้มจางหาย แดนมองพี่ แดนยิ้มแต่ตาเศร้า “ไปหาพี่บิ๊ก” บีมพยักหน้าเบาๆ “อย่าเครียดสิพี่ พี่บิ๊กคงไม่อยากเห็นพี่เศร้าหรอกนะ” แดนบอก บีมจึงยิ้มเนือยๆ “เดี๋ยวผมไปด้วยนะ ขับรถตามไป”

      “แดน พี่ขอไปรถแดนดีกว่า” บีมบอกแดนแล้วหันหาพ่อแม่ “เดี๋ยวพ่อแม่กลับบ้านก่อนเถอะครับ บีมอยากคุยกับน้องครับ” เสียงเศร้าๆทำให้พ่อแม่พยักหน้าตกลง...

      จากสนามบินจนถึงบริษัทบีมกับแดนคุยกันตลอดทางไม่ได้หยุด ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละสถานที่ “แดน ทำไมไม่ออกเดี่ยว” บีมถาม แดนหน้าเครียด “พี่ไม่น่าถาม ผมออกไม่ได้ ผมรอพี่อยู่ พี่บิ๊กด้วย” บีมพยักหน้าอย่างเข้าใจ “แล้วพี่ล่ะจะเอาไงต่อ จะเรียนต่อมั้ย”

      บีมมองหน้าด้านข้างของคนขับ “พี่คิดว่า พี่จะเรียนต่อนะ ก็ไม่แน่ แล้วแดนล่ะเป็นไงบ้าง”

      “คู่กรรมช่วยผมมากเลย ตอนนี้แฟนผมเพิ่มกลุ่มแม่บ้านมาด้วยแล้ว” แดนอมยิ้ม หัวเราะในลำคอ “ผมเพิ่งเปิดตัวหนังรอบพิเศษไปเมื่อวาน จะเข้าโรงพรุ่งนี้แล้วล่ะ เดี๋ยวไปดูด้วยกันนะพี่ ไม่ได้ไปไหนกับพี่หลายวันแล้ว พาน้องบัวไปด้วยนะ”

      บีมค้อนน้องชาย “แล้วบิ๊กล่ะแดน เค้า...” บีมถาม

      แดนยิ้มน้อยๆ “พี่บิ๊กดีขึ้นเยอะฮะ กายภาพบำบัดช่วยได้มาก แล้วพอหมอให้กินอาหารได้ เค้าก็กลายเป็นคนกินเก่งไปเลย ดูดีขึ้นมากเลยล่ะ ไม่ต่างอะไรจากปรกติที่เค้าเคยเป็นอยู่ เราได้แต่รอเวลา เวลาที่เค้าจะกลับมา” รถติดแดนมองไปนอกรถ “นั่นไงพี่” แดนชี้ไปที่โปสเตอร์โฆษณาหนัง

      “โหแดน แย่งนางเอกพี่เหรอ เล่นกับพอลล่าหรอเนี่ย” บีมยิ้ม แดนหัวเราะ ก่อนที่จะเข้าเกียร์และขับรถไปยังโรงพยาบาลวิชัยยุทธที่บิ๊กยังนอนหลับใหลไม่ได้สติอยู่

      “พ่อครับ สวัสดีครับ” บีมยกมือไหว้พ่อของบิ๊ก เมื่อเปิดประตูเข้าไป

      “อ้าวบีม” พ่อรับไหว้บีมและแดนที่ตามเข้ามา “ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ไปรับ”

      “ไม่เป็นไรหรอกครับ พ่อต้องดูแลบิ๊ก” บีมว่าแล้วเดินเข้าไปข้างเตียงบิ๊ก “ไงบิ๊ก พี่กลับมาแล้ว คิดถึงนายมากเลย” บิ๊กมองบีม สายตาเลื่อนลอย ส่งเสียงอ้อๆแอ้ๆ แสดงให้เห็นว่ารู้ว่ามีคนมาหาเขา แต่ไม่มีใครรู้ว่า ตอนนี้ บิ๊กอยู่ที่ไหน แล้วเห็นบีมรึเปล่า ส่งเสียงทักทายบีมบ้างมั้ย...

      หลังจากที่ลงมาจากห้องบิ๊กที่โรงพยาบาล นักข่าวที่รออยู่ กรูกันเข้ามาทำข่าวบีมและแดน พวกเขาได้แต่ปฏิเสธอย่างสุภาพ “เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะเข้าบริษัทนะครับ เฮียอยากให้พวกพี่ไปสัมภาษณ์ที่นั่นมากกว่า เพราะพวกเราต้องคุยกับเฮียก่อน” แดนบอก

      “แต่วันนี้น้องบีมน้องแดนก็เข้าไปหาเฮียฮ้อมาแล้วไม่ใช่หรือคะ” นักข่าวสาวถาม

      “ใช่ครับ แต่ยังไม่ได้คุยอะไรมาก บีมเพิ่งกลับ เฮียอยากให้พักผ่อนก่อน แล้วเราจะคุยพรุ่งนี้ บีมคิดว่าเฮียคงจะโทรไปติดต่อพวกพี่ๆเองนะครับ ขอตัวครับ” แดนกดรีโมตเปิดประตูรถ ทั้งคู่ก้าวขึ้นรถ แล้วรถก็แล่นออกไป และจอดลงหน้าบ้านบีม “ไม่เข้าไปเหรอแดน” แดนส่ายหน้า “พี่ไปอยู่กับครอบครัวเถอะ” บีมพยักหน้า แล้วบอกน้องว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปหาที่บ้านตอนนะ เฮียนัดนักข่าวไว้สี่โมงแน่ะ กะให้เวลาพี่พักเต็มที่ก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ใช้รถพี่แล้วกันนะ เปลี่ยนบ้าง”

      แดนยิ้ม พยักหน้ารับ “พรุ่งนี้ไปดูหนังมั้ยพี่ เข้าโรงพอดี หนังผมน่ะ” แดนขำ

      “เอาสิ พี่อยากดูเหมือนกัน” บีมยิ้มให้น้องอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าบ้านไป แดนมองจนพี่ชายเข้าไปในบ้านได้ซักพัก แล้วขับรถกลับบ้านตัวเองบ้าง...
      9โมงครึ่งของวันต่อมา บีมขับรถเข้าซอยสายไหม7 เพื่อที่จะไปบ้านแดน แค่บีมลงจากรถเท่านั้นแหละ เจ้าหมาสองตัวที่ชื่อ แร็พ และ ฮิปฮอป ก็กระโดดโลดเต้นตะกายบีมกันยกใหญ่ พี่เด็ด พี่ชายคนเดียวของแดนก็เดินออกจากบ้านมารับ “อ้าว พี่เด็ดมาอยู่นี่แล้วเหรอครับ บีมคิดว่าอยู่คอนโด” บีมยกมือไหว้แล้วเดินตามพี่เด็ดเข้าบ้าน “แดนมันขอน่ะ นี่ มันยังไม่ตื่นเลยนะ” พี่เด็ดเล่า

      บีมหัวเราะ แล้วก็ได้ยินเสียงัวเงียๆพูดลงมาจากชั้นบน “อะไรๆ ตื่นแล้วนะ พี่บีมเดี๋ยวแดนอาบน้ำก่อน เดี๋ยวลงไปหา” แดนบอกแล้วเดินกลับเข้าห้อง ทำภารกิจส่วนตัว

      40นาทีผ่านไป แดนเดินลงมาหาบีมและพี่ชาย “เสร็จแล้วครับพี่” แดนเสยผมทำ “สูงขึ้นหรอ” บีมถาม แดนพยักหน้า “เสื้อสวยนี่” บีมกับแดนทักพร้อมกัน เสื้อยืดสีน้ำเงินของแดนดูเท่มาก ส่วนเสื้อยืดสีขาวขอบดำของบีมก็ดูดีไม่แพ้กัน “แฟนคลับซื้อให้” แดนตอบก่อน

      “ของพี่ซื้อที่โน่นน่ะ” บีมหมายถึงออสเตรเลียที่เขาเพิ่งกลับมา แดนนั่งลงข้างๆบีม มีคนยกน้ำมาให้ “จะกินข้าวเช้าก่อนมั้ย” พี่เด็ดถาม แดนส่ายหน้า “ไม่เอาอ่ะ”

      “นี่ รู้มั้ยว่าพี่รอจนจะหลับแล้วน่ะ ถ้าไม่ได้พี่เด็ดมาคุยกับเจ้าสองตัวนี่นะ หลับแน่” บีมลูบหัวแร็พกับฮิปฮอป “ไปยัง” แดนพยักหน้าแล้วลุกขึ้น เดินออกไปหน้าบ้าน ทั้งสองก้าวขึ้นรถ “ไปไหนดี” บีมถาม “แล้วแต่พี่” นั่นคือคำตอบของแดน “เดี๋ยวค่อยคิดแล้วกัน” บีมสรุป

      สถานที่ที่จะไปพวกเขาตกลงกันได้ว่าเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แดนกับบีมไปถึงเวลา11โมงพอดี “มีรอบ11โมง20กับเที่ยง10อ่ะพี่ เอารอบไหน” แดนถาม เมื่อเขาทั้งคู่ยืนอยู่หน้าเคาเตอร์ขายตั๋วหนัง พนักงานขายมองสองหนุ่มสลับไปสลับมาด้วยความตื่นเต้น ไม่คิดว่าจะได้เห็นหน้าสองหนุ่มใกล้ๆขนาดนี้ เธอเลยเขินแปลกๆ บอกไม่ถูกเหมือนกัน แดนเห็นดังนั้นก็หันไปยิ้มให้สาวน้อย ทำให้เธอยิ่งเขินเข้าไปใหญ่ “ไปแกล้งน้องเค้า” บีมหันไปว่าแดนแต่ก็แอบขำอยู่ในใจเหมือนกัน ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ แดนหันไปพูดกับพนักงานสาวคนนั้น “ดูหนังด้วยกันมั้ยครับ” แล้วก็หัวเราะเบาๆ พนักงานสาวยิ่งทำตัวไม่ถูก บีมแลบลิ้นแล้วส่ายหน้า “มันก็บ้าๆบอๆอย่างนี้แหละครับ อย่าถือสานะ” บีมบอก “ตกลงรอบเที่ยง10แล้วกันครับ” ว่าแล้วก็เลือกที่นั่ง เป็นธรรมดาที่พอลูกค้าไป พนักงานก็ต้องทำหน้าที่ต่อ แต่แดนกับบีมไม่รู้เลยว่า หลังจากที่พวกเขาเดินออกมา เกิดอะไรขึ้นบ้าง

      “แดนบีม” พนักงานสาวคนนั้นพูดแล้วสลบคาเคาเตอร์ พนักงานคนอื่นต้องออกมาดูกันใหญ่ แดนกับบีมได้ยินเสียงคนโวยวายก็หันกลับไปดู เห็นคนมุงอยู่ตรงช่องที่ตนออกมา ก็เดินกลับไปดู “เค้าเป็นอะไรครับ” บีมถามเสียงนุ่ม เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น

      “เป็นลมค่ะ ไม่รู้เป็นอะไร” พนักงานที่ออกมาแทนบอก แล้วหันมามองเจ้าของเสียง “ดีทูบี” เธอพูดแล้วฟุบลงไปอีกคน แดนขำ บีมหันไปบอกพนักงานคนข้างๆว่า “โทษครับ เพื่อนคุณเป็นลม” แล้วก็เดินออกมาฮาไปกับแดนด้วย “ไปหาอะไรกินก่อนเถอะพี่ ผมหิว” ว่าแล้วก็พากันไปกิน

      กว่าจะออกจากร้านอาหาร ก็11.45น. “ไปไหนดีพี่ ยังมีเวลา” แดนถาม

      “เดินเล่นหน่อยดีกว่า คันไม้คันมืออยากแจกลายเซ็น” บีมพูด แม้เขาจะพูดเล่นๆ ไม่ได้มีเจตนาใดๆ และไม่คิดว่าจะมีใครมาขอลายเซ็น เพราะเขาคิดว่าดีทูบีก็ไม่ใช่กลุ่มนักร้องดังแบบแต่ก่อนแล้ว แต่คำพูดของบีมก็เป็นจริง เมื่อทั้งคู่เปิดประตูร้านอาหารออกมา วัยรุ่นกลุ่มใหญ่ก็กรูเข้ามาหาพวกเขาเพื่อขอลายเซ็น คนที่มีมือถือถ่ายรูปได้ ก็ขอถ่ายรูปกันไป แดนกับบีมรู้ตัวว่าเกะกะหน้าร้าน เลยพาแฟนเพลงเดินไปตรงที่ว่างใกล้กับทางขึ้นโรงหนัง

      “แดน อีก5นาทีเที่ยง” บีมหันมาบอกเวลา “เดี๋ยววันนี้คงต้องพอก่อนนะครับ พวกพี่ขอตัวก่อนนะ” บีมบอกอย่างสุภาพ แดนลุกขึ้น บอกลาแฟนๆแล้วเดินออกมาพร้อมบีม...

      “ไงแดนบีม” พนักงานบริษัท RS PROMOTION จำกัด (มหาชน) ต่างร้องทักทายสองหนุ่มอย่างเป็นกันเอง “พี่แหม่มหวัดดีครับ

      “อ้าวมาพอดีเลย กำลังจะโทรไปเรียก” ครูแหม่มยิ้มรับ “เฮียบอกว่าจะให้เราสองคนไปแถลงข่าวออกทางZ” ครูแหม่มหมายถึงคลื่นวิทยุ FM.88.5 Z POP ซ่าป่วน คลื่นวิทยุที่ได้รับความนิยมจากวัยรุ่นเป็นจำนวนมากอีกคลื่นหนึ่ง แดนบีมพยักหน้ารับ “เดี๋ยวแดนบีมไปหาเฮียก่อนนะ แล้วไปSKY-HIGHเลย ช่วงพี่แนนเริ่ม4โมง เราสองคนเริ่มตอนสี่ครึ่ง”...

      16.30 ที่คลื่น88.5 “วันนี้พี่แนนบอกน้องๆไปแล้วใช่มั้ยคะ ว่าจะมีแขกพิเศษมากๆมานั่งคุยกับเรา ตอนนี้เขาทั้งสองก็มานั่งอยู่กับพี่แล้ว ยินดีต้อนรับแดน-บีมค่า” จิงเกิ้ลปรบมือคือเสียงที่ดีเจ.แนนเลือกยิง “สวัสดีครับ” สองหนุ่มพูดพร้อมกัน

      ดีเจ.แนนคุยถึงเรื่องภาพยนตร์ที่แดนเล่นแล้วถาม “บีมจะไปดูมั้ยคะ”

      “ก็เพิ่งไปมาวันนี้ครับ” บีมตอบ

      “เข้าโรงปุ๊บไปดูปั๊บ วิจารณ์หน่อย น้องเล่นเป็นไงบ้าง”

      “แดนเล่นดีครับ เค้าเก่งขึ้นบีมคิดว่าเค้าเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมาก ขรึมน้อยลง ขี้เล่นขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ขาวขึ้น หล่อขึ้น แต่แดนก็ยังเป็นแดน”

      ดีเจ.อมยิ้ม “แล้วแดนว่าพี่บีมเป็นยังไงบ้างเปลี่ยนไปมั้ย”

      “เปลี่ยนครับ” แดนตอบยิ้มๆ “พี่บีมเองก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้น หล่อขึ้นเหมือนกัน และก็ยังเป็นพี่ที่น่ารักเหมือนเดิม” ทั้งคนฟังทางบ้านและในห้องส่งต่างอมยิ้ม เพราะรับรู้ได้ถึงความรักความผูกพันที่พี่น้องมีให้กัน ดีเจ.แนนคุยกับบีมเรื่องการไปเรียนภาษาของเขา

      “แล้วเรื่องงานเพลงล่ะ ทั้งสองคนว่ายังไงบ้าง จะออกเดี่ยวมั้ย หรือจะออกด้วยกัน ได้คุยกับทางผู้ใหญ่บ้างรึยังคะ”

      “ก่อนหน้าที่จะมาเราก็ไปคุยกับทางผู้ใหญ่มาแล้วล่ะครับ” แดนบอก

      “ที่เราตกลงกันคือบีมจะไปเรียนต่อปริญญาโทครับ คิดว่าจะเป็นที่เยอรมัน แต่ไม่แน่ว่าจะไปเมื่อไหร่ คงอีกไม่นานนี้ครับ คิดว่าคงเป็นหลังปีใหม่น่ะครับ”

      “สองปีที่พี่บีมไม่อยู่นี้ แดนก็จะตั้งใจเรียนต่อน่ะครับ”

      ดีเจ.แนนอ้าปากจะถามต่อ แต่ดีเจหลังไมค์เคาะกระจกเรียกไว้ก่อน “ตอนนี้เดี๋ยวเราจะเปิดเพลงของดีทูบีให้ฟังนะคะ แล้วเราจะกลับมาคุยกับบีมแดนกันต่อ”

      ทำนองเพลงที่แสนคุ้นเคยดังขึ้น แฟนเพลงที่ฟังอยู่น้ำตาจะไหล เพลงช้าๆที่แสนซึ้ง มีบีมเป็นคนถ่ายทอดความรู้สึกผ่านเนื้อร้อง ประกอบกับทำนองที่แสนเศร้าที่มาจากความตั้งใจของแดน “กาลเวลาที่เวียนเปลี่ยนและหมุนไป เรื่องราวมากมาย...ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต” เสียงของแดนขึ้นต้นเพลง เจ้าตัวเองก็รู้สึกเศร้าเช่นกัน “อาจจะทำให้เธอเหนื่อยล้าและอ่อนไหวในบางครา หลับเถอะนะ..ที่รัก...เก็บแรงเอาไว้ในวันต่อไป” บีมร้องคลอท่อนของตัวเองเบาๆ “ฉันจะจับมือเธอเอาไว้” เพลงที่พวกเขาทั้งสองตั้งใจมอบให้กับบิ๊กจากความรู้สึกในใจ

      “พี่โอมมีอะไร” ดีเจ.แนนถามคนเคาะกระจกที่ท่าทางดีใจ ตื่นเต้นสุดๆ

      “เดี๋ยวมีคนพิเศษอยู่สาย3 ออกอากาศเลยนะพี่”

      “ใคร” ดีเจ.แนนถามต่อ

      “อ้อน-ลัคนา” ดีเจ.แนนพยักหน้างงๆ พอจบเพลง เธอก็เริ่มทำหน้าที่ต่อ “น้องๆคะ ตอนนี้เรามีแขกพิเศษอีกคนรออยู่ในสายนะคะ บอกว่ามีเรื่องดีเรื่องด่วนด้วย พี่แนนเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ต้องถามกับเจ้าตัวเค้านะคะ สวัสดีค่ะอ้อน”

      “สวัสดีค่ะ สวัสดีพี่บีมกับแดนด้วยนะคะ” แดนบีมทักทายอ้อนพร้อมกัน

      “เห็นว่าน้องอ้อนมีข่าวดีข่าวด่วน เรื่องอะไรหรอคะ พี่อยากรู้มากๆแล้วเนี่ย พี่โอมหลังไมค์ตื่นเต้นยังกะอะไรดี”

      “ตอนนี้อ้อน นาตาลี ริวแล้วก็พี่กุ้งอยู่ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธนะคะ มาเยี่ยมบิ๊กกัน ตอนแรกที่อ้อนมาถึงคุณพ่อคุณแม่บิ๊กกำลังร้องไห้อยู่ แต่ไม่ใช่เรื่องร้ายนะคะ เรื่องดีค่ะ อ้อนถามคุณหมอมนูญว่ามีอะไรเกิดขึ้น คุณหมอบอกว่าบิ๊กฟื้นแล้วค่ะ บิ๊กได้สติแล้ว” เสียงอ้อนดีใจอย่างถึงที่สุด แดนบีมและดีเจ.แนนร้องไห้ด้วยความดีใจ

      “น้องๆได้ยินมั้ยคะ พี่บิ๊กฟื้นแล้ว พี่บิ๊กของเราฟื้นแล้วนะคะ” ดีเจสาวตื่นเต้นใหญ่

      “บิ๊กเป็นไงบ้างครับอ้อน” บีมถาม

      “ไม่ต้องถามแล้วพี่บีม ขอบคุณมากนะครับอ้อน น้องๆครับเดี๋ยวพวกพี่ต้องขอตัวก่อนนะครับ แล้วเจอกันใหม่นะครับ สวัสดีครับ” แดนถอดหูฟังออก แล้วรีบลุกขึ้นลากบีมไปด้วย ปล่อยให้ดีเจ.แนนทำหน้าที่ต่อเพียงลำพัง ในขณะนั้นแฟนเพลงที่ฟังอยู่ต่างก็กอดคอกันร้องไห้ พวกเขาไม่เคยดีใจอะไรขนาดนี้มาก่อนเลย ดีใจมากจริงๆ...

      แดนจอดรถของบีมเมื่อไปถึงโรงพยาบาลวิชัยยุทธอย่างรวดเร็ว “พี่บีมเร็ว” ทั้งคู่รีบกดลิฟต์ขึ้นไปยังห้องของบิ๊กทันที โดยไม่สนใจแฟนเพลงที่ยืนอยู่เลย ผัวะ...แดนผลักประตูห้องบิ๊กโดยทั้งที่ยังไม่ได้เคาะ บิ๊กหันมามองผู้ที่เดินเข้ามา เขาอ้าปากพยายามจะเรียกแดนและพี่บีม ถึงแม้จะพูดไม่ชัดก็ตาม “ไม่ต้องเรียกผมหรอกครับพี่” แดนยืนข้างเตียงบิ๊ก จับมือบิ๊กไว้แน่น บีมเองก็ยืนอยู่อีกข้างเช่นกัน บิ๊กยิ้มเนือยๆก่อนที่จะฟุบหลับลง หมอมนูญขอตัวออกมาข้างนอก แดนบีมรีบตามออกมา “หมอครับ” บีมเรียก “ขอเราคุยด้วยหน่อยได้มั้ยครับ” หมอพยักหน้าแล้วเดินนำบีมกับแดนไปที่โซฟาของโรงพยาบาล

      “หมอครับ ต่อไปบิ๊กจะเป็นยังไงครับ บีมดูยังไง เค้าก็ไม่ต่างอะไรกับ...” บีมหยุดพูด

      “เด็กทารก แดนว่าพี่บิ๊กตอนนี้เหมือนเด็กทารกมาก พูดไม่ค่อยได้และไม่ชัด”

      “ใช่อย่างที่คุณแดนว่าแหละครับ คุณบิ๊กต้องเริ่มจากหัดพูด หัดเขียนใหม่ รวมทั้งกายภาพบำบัดด้านอื่นๆด้วย ทั้งการเดิน การยืน การลุกนั่ง และอีกหลายอย่าง” หมอมนูญบอก บีมแดนพยักหน้าอย่างเข้าใจ “การที่คุณบิ๊กฟื้นขึ้นมาได้แบบนี้ เรียกว่าเป็นปาฏิหาริย์มาก ถ้าจะมีปาฏิหาริย์อีกครั้ง คือคุณบิ๊กหายเป็นปรกติ มันก็ไม่น่าแปลกนะครับ แต่อาจจะต้องใช้เวลา”

      “นานแค่ไหนครับ” บีมถาม

      “อาจจะ2-3ปี หรืออาจจะนานกว่านั้น” หมอบอก

      “สวัสดีครับคุณหมอ สวัสดีแดนบีม” เฮียฮ้อเดินเข้ามาพร้อมกับครูแหม่ม “เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมรบกวนให้หมอแถลงข่าวเรื่องอาการของบิ๊กจะได้มั้ยครับ อยากจะให้แถลงเรื่องแดนบีมด้วยเลยน่ะครับ” เฮียฮ้อเอ่ยขึ้น หมอมนูญพยักหน้า “ได้สิครับ” เฮียฮ้อหันไปมองแดนบีม “รออยู่นี่ก่อนนะ” เฮียมองไปทางห้องบิ๊ก “เดี๋ยวจะออกมาคุยด้วยหน่อย” “ครับ” แดนบีมตกลงพร้อมกัน...

      บ่ายวันต่อมา การแถลงข่าวเรื่องของดีทูบีและอาการของบิ๊กเริ่มขึ้นไปกว่าครึ่งแล้ว ตอนนี้หมอมนูญเพิ่งพูดถึงอาการของบิ๊กเสร็จว่าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนบิ๊กถึงจะกลับมาเป็นปรกติได้ คราวนี้ก็ถึงตาแดนบีม “ครับ จากที่เราสองคนได้บอกไปเมื่อวานผ่านทางวิทยุนะครับ ก็คือบีมจะไปเรียนต่อที่ประเทศเยอรมัน คิดว่าจะเป็นช่วงหลังปีใหม่ครับ นั่นคืออีก2-3เดือนข้างหน้า เรียนปริญญาโทก็ใช้เวลา2ปีตามปรกตินะครับ ก็จะพอดีกับที่แดนเรียนปริญญาตรีที่ทางนี้จบ”

      “ครับ หลังจากนั้นจะเป็นยังไงพวกเราคงพูดอะไรไม่ได้นะครับ มันเป็นเรื่องของอนาคต เราต้องดูอะไรอีกหลายๆอย่างประกอบด้วยครับ งานเพลงจะยังไม่มีแน่นอนทั้งแดนและพี่บีม เราอยากรอให้พี่บิ๊กหายเป็นปรกติและสามารถร้องเพลงได้ก่อนครับ” หลังจากคำพูดของแดน พิธีกรที่รับหน้าที่สรุปเรื่องจากคำพูดของทั้งสองคน เป็นอันว่าการแถลงข่าวในวันนั้นจบลง...
      ย่างเข้ากลางเดือนมกราคม บิ๊กดีขึ้นจากวันที่เค้าฟื้นขึ้นมามาก บิ๊กลุกนั่งเองได้แล้ว และเริ่มพูดชัดขึ้น เขาตั้งใจมากกับการฝึกกายภาพบำบัด ถึงจะมีบ้างที่เขาท้อ แต่กำลังใจจากหลายๆคนที่ส่งเข้ามาก็ทำให้บิ๊กพร้อมที่จะสู้ต่อไป แดนกับบีมมาอยู่เป็นเพื่อนบิ๊กเสมอๆ จนวันหนึ่งแดนกับบีมยกเครื่องเล่นวีซีดีเข้ามาในห้อง และต่อกับโทรทัศน์ในห้องพักบิ๊ก “เผื่อพี่อยากดูหนังไง” แดนบอก

      บิ๊กพูดเสียงเบาๆกลับมาจับใจความได้ว่า “พี่อยากดูดีทูบี”

      บีมเปิดกระเป๋าเป้ที่เขานำมา “ในนี้มีทั้งซีดี วีซีดี คอนเสิร์ต คาราโอเกะ วัยร้ายเฟรชชี่ก็มีนะ บิ๊กอยากดูอะไรก็บอกแล้วกัน พี่จะเปิดให้” บิ๊กยิ้มอย่างดีใจ และขอบคุณแดนกับบีม...

      “จากวันที่พี่บิ๊กฟื้นขึ้นมา ตอนนี้ก็ผ่านไปเกือบสามเดือนแล้วนะคะ และในวันที่พี่บิ๊กฟื้น พี่ใหญ่ของดีทูบีก็ได้บอกไว้ว่าเขาจะไปเรียนต่อ ซึ่งตอนนี้ ในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้านี้ พี่บีมก็จะขึ้นเครื่องบินไปเยอรมันแล้วนะครับ” ดีเจ.เอ็มกล่าว “ตอนนี้พี่แนนอยู่ที่สนามบินนะครับ เราจะได้คุยกับพี่บีมกัน สวัสดีครับพี่แนน”

      “สวัสดีค่ะพี่เอ็ม ตอนนี้พี่แนนอยู่ที่สนามบินนะคะ คนมาส่งพี่บีมเยอะมากๆ รวมทั้งพี่แดนด้วย ตอนนี้พี่บีมกำลังให้สัมภาษณ์อยู่นะคะ ส่วนพี่แดนก็แจกลายเซ็นอยู่ พอเสร็จจากตรงนี้พี่บีมกับพี่แดนก็จะเข้าไปนั่งในห้องวีไอพี ซึ่งวันนี้ดีเจแนน กัญญาดา คนสวย ได้รับสิทธิพิเศษ เข้าไปนั่งคุยในห้องวีไอพีเลยค่ะ”

      “โอเคครับพี่แนน เดี๋ยวผมจะตัดไปเบรคก่อนนะครับ เดี๋ยวคุยกันใหม่ครับ”

      หลังเบรคแล้ว “กลับมากับพี่แนนนะครับ พี่แนนครับ”

      “สวัสดีครับผม ผมแดนนะฮะ”

      “น้องแดนสวัสดีครับ”

      “พอดีตอนนี้พี่บีมกำลังถ่ายรูปอยู่กับน้องๆน่ะครับ ก็เลยให้แดนคุยก่อน ได้มั้ยฮะ”

      “ได้สิครับ น้องแดนครับ หลังจากพี่บีมไปเรียนต่อ น้องแดนจะมีงานอะไรบ้างครับ”

      “อันนี้ก็ยังไม่แน่ครับ ก็อาจจะเรียนอย่างเดียว เอ่อ พี่บีมมาแล้ว เดี๋ยวคุยกับพี่บีมนะฮะ”

      “สวัสดีครับ บีมครับ”

      “สวัสดีครับบีม บีมช่วยพูดถึงเรื่องการไปเรียนต่อครั้งนี้หน่อยครับ”

      “ก็ครับ บีมจะไปเรียนต่อทางด้านวิศวที่เยอรมันนะฮะ ก็เป็นการเรียนปริญญาโทนะครับ คิดว่าจะตั้งใจเรียนอยู่ที่นั่นอย่างเดียวเลย คงไม่ได้กลับมามีงานทางนี้นะครับ ถ้าจะกลับมาก็คือมาหาครอบครัวครับ”

      “ฝากอะไรถึงแฟนเพลงหน่อยครับ”

      “ระหว่างที่บีมอยู่ที่นั่นนะครับ ก็อยากให้น้องๆทางนี้ ตั้งใจเรียนกันนะครับ ดูแลตัวเองดีๆ ช่วยส่งกำลังใจให้บีม แดน แล้วก็บิ๊กด้วยนะครับ เพราะพวกเราก็ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดนะครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ไม่เคยขาดหาย ขอบคุณมากครับ”...
      ในบ่ายวันหนึ่งชายหนุ่มนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่บ้านของเขา และกำลังส่งอีเมล์หาชายหนุ่มอีกคนที่อยู่เยอรมัน

      พี่บีม...สบายดีมั้ย

      แดนว่าเวลามันผ่านไปเร็วมากเลยนะพี่ นี่ก็สองปีแล้ว พี่บีมจะเรียนจบแล้วนะ ดีใจด้วย แดนเองก็จะจบแล้วเหมือนกัน ดีใจกับแดนด้วยนะพี่ แดนคุยกับเฮียฮ้อแล้ว พอจบมา แดนจะเล่นละครก่อนเรื่องหนึ่ง ระหว่างนั้นก็เขียนเพลงไปด้วย เฮียยินดีรับแดนเข้าทำงานที่บริษัททันทีที่ถ่ายละครเสร็จ เอาเป็นว่าแดนก็มีงานรองรับแล้ว ไม่แพ้พี่บีมหรอก ที่พี่บอกว่าจะทำงานที่นั่นอีก2ปี มันก็นานเหมือนกันนะแดนว่า แต่มันก็ดีแล้วแหละ จบเรื่องของแดนไว้แค่นี้ก่อน

      ตอนนี้พี่บิ๊กดีขึ้นมาก หมอมนูญคนเก่งบอกว่าใช้เวลาอีกปีเดียว พี่บิ๊กก็จะเป็นปรกติทุกอย่าง และสามารถร้องเพลงได้ อีกไม่กี่วันพี่บิ๊กก็จะกลับมาอยู่บ้านแล้วนะพี่ แต่ต้องไปกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาลทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ แล้วก็เช้าวันอาทิตย์ด้วย วันอื่นพ่อพี่บิ๊กจะเป็นคนพาไป ส่วนวันอาทิตย์เป็นหน้าที่ของแดน เวลาอยู่บ้านพี่บิ๊กก็ต้องหัดเขียน หัดเดินทุกวัน ตอนนี้พี่บิ๊กใช้มือได้คล่องแล้ว พูดก็ชัดมากแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์แบบ ก็อย่างที่บอก อีกปีน่ะพี่

      แดนคุยกับพี่บิ๊กนะ พี่แกบอกว่า พอหายเป็นปรกติ พี่แกจะกลับไปเรียนให้จบก่อน ก็อีก2ปี รวมๆแล้วก็อีกนานนะพี่ ที่ดีทูบีจะได้กลับคืนวงการ ไม่รู้จะยังมีคนซื้อเทปเราอยู่มั้ยนะ แต่ยังไงก็ตาม แดนอยากร้องเพลงกับพวกพี่อีกครั้ง ในนามของดีทูบี โชคดีนะพี่ ตั้งใจทำงานนะ คิดถึงพี่เสมอ...แดน 13/23/50...



      1/01/52 HAPPY NEW YEAR บิ๊กแดน!!

      การทำงานของพี่ที่แดนถามมาว่าเป็นไงบ้างน่ะ กำลังไปได้ดีนะ ตกลงว่าพี่จะทำงานต่ออีกปีนะ อย่าเพิ่งตกใจสิ แดนเองก็กำลังไปได้สวยกับหนังเรื่องใหม่ไม่ใช่หรือไง ถ่ายถึงไหนแล้วล่ะ พี่อยากดูจัง แล้วบิ๊กล่ะ เรียนเป็นไงบ้าง แก่ที่สุดในคณะเลยล่ะสิ แต่น่ารักๆแบบบิ๊ก เพื่อนก็คงเยอะเหมือนเดิมใช่มั้ยล่ะ ก็ตั้งใจเรียนตั้งใจทำงานทั้งคู่นะ พี่เองก็จะตั้งใจเหมือนกัน ปีหน้าพวกเราคงได้เจอกันพร้อมหน้าจริงๆซะทีนะ คิดถึงพวกนายมาก...พี่บีม...



      ปลายเดือนมีนาคม พ.ศ.2553 ในงานรับปริญญาของบิ๊ก มีคนมาแสดงความยินดีกับเขาเยอะมาก ทั้งแฟนๆของดีทูบี เพื่อนๆ ครอบครัว พี่น้องในวงการบันเทิง ตอนนี้บิ๊กกำลังยืนให้แฟนๆถ่ายรูปโดยมีบีม วิศวกรหนุ่มใหญ่วัย30 แต่หน้าแค่24-25 ยืนอยู่ทางขวา ทางซ้ายของบิ๊ก 1ในทีม ABORIGINES แดนนั่นเอง...

      ต่อมาดีทูบีมีผลงานเพลงอีกครั้ง หลังจากหายไปนานหลายปี แต่จำนวนแฟนเพลงของพวกเขาก็ไม่ได้ลดลงเลย กลับเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำไป และนอกจากนี้ พวกเขาก็จะมีภาพยนตร์อีกเรื่องที่รอต่อจากอัลบั้มใหม่ ซึ่งเกี่ยวกับมิตรภาพของผู้ชายสามคนที่มีความฝันร่วมกัน เรื่องของดีทูบีนั่นเอง ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม ได้ไปฉายที่หลายประเทศทั่วโลก สร้างรายได้ให้นักแสดง ทีมงาน ผู้ผลิตมากมาย และเป็นการการันตีคุณภาพของหนังไทย สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศได้มาก...

      3ปีผ่านไป พ.ศ.2556

      บิ๊ก ทำฝันของตัวเองให้เป็นจริง จากเบื้องหน้า มาทำเบื้องหลัง จากผู้ช่วยผู้กำกับก็ได้เป็นผู้กำกับในที่สุด โดยมีคนพิเศษของเขาให้กำลังใจอยู่ข้างๆ เธอไม่ใช่คนในวงการแต่ก็เป็นผู้หญิงที่น่ารัก และเป็นคนดี ซึ่งอีก2ปีต่อมาพวกเขาก็ได้แต่งงานกัน

      แดน producer ฝีมือดี ปั้นนักร้องหลายคนให้ประสบความสำเร็จภายในสังกัดRS-PROMOTION ตอนนี้แดนกำลังดูใจกับดาราสาวหน้าใหม่แต่มากความสามารถของRS พวกเขาดูใจกันมานาน และเธอคนนี้ก็เพิ่งกลับจากเมืองนอก เธอจริงจังและจริงใจกับแดนซึ่งทำให้แฟนคลับต้อนรับเธออย่างอบอุ่น ส่วนตอนนี้ต่างคนก็ต่างตั้งใจทำงาน เรื่องแต่งงาน มีแน่แต่ยังไม่ใช่เวลานี้

      บีม ได้เป็นวิศวกรสมใจ เขาทำงานอยู่กับบริษัทแห่งหนึ่ง โดยมีสาวสวยมากความสามารถคอยให้กำลังใจ พวกเขาไปกันได้ดี และจะเป็นคู่ชีวิตของกันและกันในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้

      สำหรับ D2B พวกเขายังมีงานในวงการอีกหลายชิ้น ทั้งละคร ภาพยนตร์ โฆษณา และงานเพลงชุดสุดท้ายที่กำลังจะวางแผง ตำนานของดีทูบีกำลังจะจบลงอย่างสวยงาม ประสบความสำเร็จอย่างถึงที่สุด และที่สำคัญ ดีทูบี ชื่อนี้ จะบันทึกอยู่ในใจของแฟนเพลงที่นับจำนวนไม่ถ้วนของพวกเขา ทั้งในและนอกประเทศ ตราบนานเท่านาน...

      “ซักคำว่าห่วงใย โลกทั้งใบก็ไม่เฉา เปลี่ยนเวลาตรงนี้ที่มืดและหนาว กลายเป็นเช้าที่สว่าง แล้วคนจะขาดใจ คงหายใจได้อีกครั้ง ให้พอมองเห็นทาง ต่อชีวิตที่อ้างว้างด้วยมือเธอ เหตุผลที่ฉันยัง...หายใจ...เหตุผลของฉันมี...แต่เธอ”

      เสียงใสของดีเจสาวดังขึ้นหลังจากเพลงจบ “และเพลงนี้คืออีกเพลงเพราะๆ ของสุดยอดนักร้องที่เป็นตำนานของประเทศไทย ดีทูบี กับเพลงหายใจอีกครั้งค่ะ”....

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×