ลืมมันไม่ได้ - ลืมมันไม่ได้ นิยาย ลืมมันไม่ได้ : Dek-D.com - Writer

    ลืมมันไม่ได้

    เปงเรื่องทีเศร้ามากๆเราอ่านแล้วยังร้องไห้ ลองอ่านดูละกานนะ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,344

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.34K

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 มิ.ย. 46 / 16:21 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      >>สวัสดีคับ ขอแนะนำตัวก่อนนะ ผมชื่อปอย
      >>เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้
      >>
      >>เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาประมาณ 2 ปีแล้ว
      >>
      >>แต่ว่าผมก้อไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้
      >>
      >>แต่ความทรงจำที่น่าประทับใจเหมือนกัน แต่ก้อแฝงไปด้วย
      >>
      >>เรื่องเศร้าซึ่งผมไม่ได้อยากให้มันเกิดหรอก
      >>ลองอ่านดูนะคับ
      >>
      >>ก่อนอื่นต้องท้าวความไปตอนสมัย ป.6 นะคับ
      >>
      >>เมื่อวันที่ผมได้จบ ป.6 วันสุดท้ายที่ได้มาโรงเรียน
      >>
      >>มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาร้องไห้ และ
      >>
      >>สัญญากับผมว่าถ้าเกิดเขาขึ้นมัธยมเมื่อไร
      >>เขาจะมาเป็นแฟนกับผม
      >>
      >>(ตอนนั้นเด็กผู้หญิงคนนั้นอยู่ ป.1)
      >>
      >>เนื่องจากผมไปทำอะไรให้เธอประทับใจก้อไม่รู้
      >>
      >>แต่เด็กคนนั้นก้อมาชอบผมแล้ว
      >>
      >>และบ้านผมก้ออยู่ใกล้โรงเรียนด้วย
      >>ผมเลยไปหาเธอทุกๆเย็นหลัง
      >>
      >>เลิกเรียน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมไม่ได้กลับไปหาเธอ
      >>
      >>(อาจจะเนื่องจากชีวิตมัธยมสนุกมั๊ง)
      >>
      >>ทำให้ผมลืมเธอไป และแล้วเวลาก้อผ่านไปได้ 6 ปี …….
      >>(เร็วเนาะ)
      >>
      >>มีอยู่วันหนึ่งผมกับเพื่อน ๆ
      >>
      >>ได้ไปงานเลี้ยงรุ่นที่โรงเรียนมัธยม
      >>ตอนนั้นผมได้เข้ามหาลัยแล้ว
      >>
      >>และแล้วก้อเหมือนฟ้าบันดาล
      >>
      >>ให้เราได้มาเจอกันอีกครั้งในงานนั้นเอง
      >>
      >>เธอเข้าเรียนที่เดียวกับผมหรือนี่ ผมจำเธอไม่ได้หรอก
      >>
      >>แต่… เธอเป็นคนเข้ามาทักผมเอง “ พี่ ๆ พี่ปอยใช่มั๊ย ”
      >>
      >>เธอเข้ามาสะกิดหลังผม ผมก้อหันไปมอง
      >>
      >>สิ่งที่ผมได้เห็นก้อคือ เด็กผู้หญิงน่ารัก ตัวขาว ๆ
      >>หน้าขาว ๆ หมวยนิด
      >>
      >>ๆ ผมอึ้งไปซักพักนึง
      >>
      >>แล้วผมก้อตอบไปว่า “ ใช่คับ แล้วน้องเอ่อ…… ” “ ฟางไง
      >>
      >>พี่ปอยจำฟางไม่ได้หรอ “
      >>
      >>ผมก้อลองนึกดู แต่ว่าตอนนั้นเป็นอะไรไม่รู้นะ
      >>เหมือนกับว่าสมองมันทึบ
      >>
      >>ๆ คิดอะไรไม่ออก
      >>
      >>อาจจะเนื่องจากแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเล็กน้อย
      >>แต่แล้วผมก้อตอบไปว่า
      >>
      >>“ อ๋อ .. ฟางเองเหรอ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเนี่ย “
      >>
      >>นี่เป็นคำตอบที่ผมคิดได้ไงเนี่ย
      >>
      >>ไปได้ขุ่น ๆ จิง ๆ แล้วเธอก้อพูดขึ้นมาอีกว่า “
      >>
      >>แล้วจำสัญญาที่ฟางเคยให้ไว้ได้มั๊ย “
      >>
      >>แต่ตอนนั้นผมได้แต่คิดว่า เอ็งเป็นใครข้ายังจำไม่ได้เลย
      >>
      >>แล้วจะจำได้ไงว่าเอ็งสัญญาอะไรกะข้าไว้
      >>
      >>เลยได้แค่ตอบไปอีกว่า “ จำได้สิ “
      >>เป็นคำตอบที่ซี้ซั้วจิง ๆ (-_ -“ )
      >>
      >>แต่ไม่รู้จะตอบยังไงนี่นา
      >>
      >>พอผมตอบเธอไป เธอทำหน้าดีใจมาก ๆ หน้าขาว ๆ อมชมพูของเธอ
      >>พร้อมรอยยิ้ม
      >>
      >>ทำให้ผมยิ่งคิดอีกเธอเคยสัญญาอะไรกับเราไว้ว้า…
      >>รีบคิดหน่อยสิเฟ้ย
      >>
      >>แต่พอผมคิดเสร็จเท่านั้นแหละ
      >>
      >>เธอถามผมมาว่า“ แล้วฟางเคยสัญญาอะไรกับพี่ปอย
      >>บอกหน่อยได้มั๊ย “
      >>
      >>เอาแล้วไง… ซวยแล้ว
      >>
      >>แล้วเราจะตอบยังไง
      >>รู้งี้ตอบไปตั้งแต่แรกว่าจำไม่ได้ก้อจบเรื่องแล้ว
      >>
      >>ผมยืนนึกอยู่ซักพัก
      >>
      >>เธอเริ่มทำหน้างอนแล้ว ผมเลยตัดสินใจบอกเธอไป “
      >>พี่ขอโทษนะ
      >>
      >>พี่จำไม่ได้ “ ผมได้แต่คิดว่า
      >>
      >>ซวยแล้วตู จะทำไงดีล่ะ แต่แล้ว…… ( -_- )’
      >>เมื่อผมตัดสินใจมองหน้าเธอ
      >>
      >>เธอกลับยิ้มแล้วบอกผมว่า
      >>
      >>“ ไม่เป็นไรหรอก ฟางรู้ว่ามันนานแล้ว แต่ฟางไม่เคยลืมนะ
      >>“
      >>
      >>คำพูดของเธอทำให้ผมนึกสงสัยเข้าไปอีก
      >>
      >>ผมเป็นคนขี้อาย แต่ว่าเมื่อแอลกอฮอล์ออกฤทธิ์
      >>
      >>ก้อจะทำให้คนเรากล้าและบ้าบิ่นมากกว่าเดิม
      >>
      >>( พวกผู้ชายทั้งหลายอย่างเราน่าจะรู้ดี )
      >>ผมเลยบอกกับเธอว่า
      >>
      >>“ งั้นพี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้มั๊ย
      >>กลับบ้านดึกได้หรือเปล่า “
      >>
      >>เธอยิ้มแล้วบอกว่า “ ไม่ได้หรอก”
      >>
      >>แป่ว…. คำนี้อยู่ในหัวสมองของผม
      >>คนน่ารักอย่างเธอจะไปกับผมทำไม เนอะ ๆ
      >>
      >>แล้วเธอก้อพูดว่า
      >>
      >>“ พูดเล่นน่ะ วันนี้ฟางบอกพ่อว่าจะค้างบ้านเพื่อน “
      >>เอาแล้ว
      >>
      >>สวรรค์เปิดทางให้คนอย่างเราแล้ว
      >>
      >>ผมเลยบอกเธอว่า “ งั้นไปกินข้าวกันข้างนอกดีกว่านะ “
      >>เธอไม่ตอบ
      >>
      >>แต่ผมลุกไปแล้ว
      >>
      >>ผมนึกว่าเธอคงเดินตามมา
      >>แต่เธอกำลังงกระซิบอะไรอยู่กับเพื่อนเธอไม่รู้
      >>
      >>แล้วเธอก้อตามผมมา
      >>
      >>ผมถามว่าคุยอะไรกันเหรอ (
      >>แล้วมันเรื่องอะไรของเอ็งวะนายปอย )
      >>
      >>เธอบอกว่า
      >>
      >>“ ฟางบอกเพื่อนว่าวันนี้ไม่กลับนะ
      >>ถ้าพ่อโทรมาบอกว่าฟางนอนแล้ว”
      >>
      >>ผมก้อลองคิด
      >>
      >>เฮ้ย! ไม่กลับ
      >>แสดงว่าวันนี้ก้อต้องอยู่กับเราทั้งคืนน่ะสิ (
      >>
      >>คิดแบบเข้าข้างตัวเองนะ ) แล้วผมก้อพาเธอไป
      >>
      >>กินข้าวกันที่ร้านประจำใกล้มหาลัย ( นั่งแท็กซี่ไป )
      >>
      >>ขาไปนั่งกันเงียบไม่ค่อยพูดอะไรเท่าไหร่
      >>
      >>เพราะกลัวพูดไปก้อเข้าตัวอีกแหละ พอไปถึงก้อสั่งอาหารมา
      >>
      >>แล้วผมก้อบอกเธอว่า “ พี่ขอโทษนะที่พี่จำไม่ได้ “
      >>
      >>เธอก้อยิ้มแล้วไม่พูดอะไร ผมก้อถามอีกว่า
      >>
      >>แล้วฟางสัญญาอะไรกับพี่ไว้เหรอเธอมองหน้าผม
      >>
      >>แต่ผมกลับก้มหน้า ไม่กล้าสบตาเธอ เธอบอกว่า “
      >>ฟางล้อเล่นน่ะ
      >>
      >>พี่ไม่ได้สัญญาอะไรกับฟางไว้หรอก “
      >>
      >>อ้าว…. แล้วเราพามาทำไมเนี่ย
      >>แทนที่จะได้สนุกเฮฮากับเพื่อนเก่า
      >>
      >>แต่ก้อนึกได้ว่า ได้มากินข้าวกับเด็กน่ารัก ๆ
      >>
      >>ก้อคุ้มแล้ว เรานั่งกินข้าวไป คุยกันไป พอข้าวหมด
      >>ผมก้อสั่งเบียร์มา
      >>
      >>แต่เธอไม่ได้กินเหล้านะ เธอกิน SPY
      >>
      >>กินไปได้ซักพัก เวลานั้นก้อดึกแล้ว
      >>ผมสังเกตว่าเธอเริ่มเมา
      >>
      >>เพราะว่าเธอพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วเธอหน้าแดงด้วย
      >>
      >>คนขาว ๆ หน้าแดงออกชมพู ดูง่าย ๆ ผมถามเธอว่า “ เมายัง
      >>
      >>เดี๋ยวพี่พาไปส่ง “ เธอกลับพูดว่า
      >>
      >>“ พี่คงลืมคนที่สัญญาว่าจะเป็นแฟนกับพี่ไปแล้วใช่มั๊ย “
      >>
      >>ผมพอนึกออกแล้ว เฮ้ย! เฮ้ย! เฮ้ย! ตายห่..แล้ว
      >>
      >>ใช่เธอหรือเนี่ย ตอนเด็ก ๆ ไม่น่ารักอย่างนี้นี่หว่า
      >>
      >>โตขึ้นแล้วโคต..น่ารักเลย นี่แหละ สเป็กเลย ทำไมผมจำเธอ
      >>
      >>ไม่ได้นะ แฟน แฟน แฟน ผมคิดถึงคำนี้
      >>ถ้าเราขอเป็นแฟนกับเธอ
      >>
      >>เธอจะว่าไงหว่า… ตามน้ำเลยละกัน
      >>
      >>แล้วเธอก็ถามผมว่า “ ตอนนี้พี่มีแฟนหรือยังจ๊ะ “
      >>ผู้ชายอ่ะนะ
      >>
      >>สันดานเหมือนกันหมด รับรอง ถึงมีก้อบอก
      >>
      >>ไม่มีอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นบังเอิญผมมีแฟนแล้ว
      >>อยู่มหาลัยเดียวกัน
      >>
      >>ผมตอบไปโดยไม่คิดว่า “ ไม่มี “
      >>
      >>เธอยิ้ม ( ทุกครั้งที่เธอยิ้ม
      >>เหมือนว่าโลกทั้งโลกมีอยู่แค่นั้นเองอ่ะ
      >>
      >>แต่ผมเองก้อไม่ได้ตาโตไปกว่าเธอหรอก )
      >>
      >>แล้วเธอก้อบอกว่า “ งั้นเรามาทำตามที่เคยสัญญากันนะ “
      >>โอ้ว…
      >>
      >>เป็นแฟนกับเธอ น่ารักอย่างนี้ใครจะไป
      >>
      >>ปฏิเสธลง ผมคิดได้แค่นี้
      >>คิดโดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของฟาง
      >>
      >>และแฟนผม ผมรีบตอบไปเลยว่า
      >>
      >>“ จิงเหรอ “ ทั้ง ๆ ที่ใจคิดว่าโชคดีชิบ..เลยเรา
      >>แล้ววันนั้น
      >>
      >>ผมก้อพาเธอไปส่งที่บ้านเพื่อน ขากลับเรานั่งคุยกัน
      >>
      >>( จับมือด้วย ) ไปตลอดทาง เมื่อถึงหน้าบ้านเพื่อนเธอ
      >>
      >>ผมเดินเข้าไปส่งเธอในบ้าน บอกให้พี่แท็กซี่รอแป๊ปนึง
      >>
      >>เธอถามผมว่า ( หลาย ๆ คนอาจคิดว่า
      >>ทำไมผมถึงไม่พิมพ์ชื่อฟางไปเลย
      >>
      >>เมื่อใกล้จบพวกคุณก้อจะรู้เอง )
      >>
      >>“ พี่ปอยกลับไหวมั๊ย ถ้าไม่ไหวนอนค้างที่นี่ได้นะ
      >>
      >>มีแค่ฟางกับเพื่อนอีก 2 คนเอง “ ผมตอบไปว่า
      >>
      >>“ ไม่เป็นไร พี่กลับได้ “
      >>แต่ในใจคอยเชียร์ว่าชวนอีกครั้งเหอะ
      >>
      >>เธอตอบว่า “ ตามใจ กลับดีดีนะ “
      >>
      >>แล้วเธอก้อหอมแก้มผมผมแทบเดินตัวลอยออกจากบ้าน
      >>
      >>ได้เป็นแฟนกับเด็กผู้หญิงที่ตรงสเป็ก
      >>
      >>แถมเค้าหอมแก้มเราอีก โอ้ย…..ดีจัง
      >>
      >>และแล้วเวลาก้อผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมคบกับเธอมา 1 ปี
      >>แล้ว
      >>
      >>แล้วผมก้อเลิกกับแฟนไปแล้ว
      >>
      >>เนื่องจากเธอบอกว่า “ ผมดีเกินไป “ ตอนนี้ฟางอยู่ ม.3
      >>แล้ว ผมก้อขึ้น
      >>
      >>ปี 2 ปีนี้เธออายุครบ 15 ปีพอดี
      >>
      >>เธอเกิดเดือนเดียวกับผม
      >>ซึ่งเราจะฉลองวันเกิดในวันเดียวกัน
      >>
      >>และแล้ววันนั้นก้อมาถึง
      >>
      >>วันฉลองวันเกิดของเราสองคน
      >>เนื่องจากเป็นเทศกาลมีวันหยุดหลายวัน
      >>
      >>ครอบครัวของเธอจึงพากันไปเที่ยวที่
      >>
      >>ต่างจังหวัด แต่เธอไม่ไป
      >>เพราะบอกพ่อว่าจะฉลองวันเกิดกับพวกเพื่อน ๆ (
      >>
      >>-_- )”
      >>ตอนแรกผมก้อคิดว่าคงมีเพื่อนเธอมาฉลองด้วยแต่ที่ไหนได้
      >>
      >>พอผมไปถึงบ้านเธอ กลับมีแต่เธอคนเดียว ผมคิดว่า
      >>คงมีแต่เรื่องดี ๆ
      >>
      >>เกิดขึ้นนะ
      >>
      >>ผมบอกเธอว่าผมจะซื้อเค้กไปเอง จะได้ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก
      >>
      >>เธอเลยซื้อกับข้าวเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเตรียมไว้
      >>
      >>เราฉลองกัน คุยกัน ดูหนังด้วยกัน
      >>เป็นหนังที่เราทั้งสองคนชอบ
      >>
      >>เวลาหนึ่งปีช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน เราชอบไป
      >>
      >>ไหนมาไหนด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน
      >>พูดได้เลยว่าชีวิตของผมประมาณ 80 %
      >>
      >>มีเพียงเรียน เล่นกับเพื่อนและอยู่กับ
      >>
      >>ฟาง ตอนนี้เราสองคนรักกันมาก
      >>ประมาณว่าขาดกันไม่ได้เลยแหละ
      >>
      >>และแล้วเวลาก้อล่วงเลยมาจนดึก
      >>
      >>ผมบอกเธอว่าผมจะนอนที่โซฟาห้องรับแขก
      >>
      >>แต่เธอบอกว่าให้ผมไปนอนที่ห้องเธอ ส่วนตัวเธอจะไปนอน
      >>
      >>ที่ห้องของน้อง เมื่อผมอาบน้ำเสร็จ เตรียมตัวเข้านอน
      >>
      >>เวลาที่ผมรอคอยก้อมาถึง มีเสียงเคาะประตู
      >>
      >>( ผมล็อคประตูไว้ ) เธอบอกว่า ขอเข้าไปหน่อยได้มั๊ย
      >>
      >>ผมบอกว่าไม่ได้เพราะว่ายังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ( ลองใจดู )
      >>
      >>เธอบอกว่าจะเอาของขวัญมาให้
      >>ผมเลยเอาผ้าห่มคลุมตัวแล้วเดินไปเปิดประตู
      >>
      >>ชีวิตผมอาจจะเหมือนใน
      >>
      >>หนังบ้าง เป็นเพราะอะไรก้อไม่รู้ ภาพที่ผมเห็น
      >>
      >>ตอนนี้ยังอยู่ในความทรงจำของผมตลอดเวลา เป็นเด็กผู้หญิง
      >>
      >>ใส่แค่ชุดชั้นในสีขาว ( คุณโยะซง กับ คุณกุงเกงใน )
      >>
      >>ผูกโบว์สีขาวที่หัว เธอเข้ามากอดผม แล้วบอกผมว่า
      >>
      >>“ ตอนนั้นที่พี่ปอยช่วยฟางไว้ พี่ปอยเท่ห์มากเลยนะ “ (
      >>
      >>ตอนนั้นผมจำทุกอย่างเกี่ยวกับเธอได้หมดแล้ว )
      >>
      >>ผมบอกไปว่า “ ก้อช่วยเพราะอยากช่วยเท่านั้นแหละ “
      >>ขอย้อนนิดนึงนะคับ
      >>
      >>เหตุการณ์ตอนนั้นมีอยู่ว่า
      >>
      >>ฟางโดนเด็ก ป.5 รังแก เพราะตอนนั้นฟางตัวเล็ก ผอม
      >>ติดขี้เหร่นิด ๆ
      >>
      >>แต่ทำไมตอนโตน่ารักไม่รู้นะ
      >>
      >>ผมเข้าไปช่วย ฟางเลยเห็นผมเป็นฮีโร่มายบาซิน (ไม่ใช่)
      >>
      >>เป็นฮีโร่ตั้งแต่นั้นมา จนถึงทุกวันนี้ ( ไม่ได้เวอร์นะ
      >>)
      >>
      >>ผมถามเธอว่า “ ไหนล่ะของขวัญ “ ( คำถามอาจจะโง่ไปนิด
      >>
      >>แต่ก็แฝงไปด้วยเลศนัย ) เธอยิ้มแล้วบอกว่า
      >>
      >>“ ตัวฟางไง ฟางเป็นของขวัญให้พี่ปอย “ ผมอาย
      >>ไม่รู้จะทำอะไรต่อ
      >>
      >>ผมเดินไปนั่งที่เตียง เธอก้อเดินมา
      >>
      >>นั่งด้วย ผมแอบมองเธอตอนที่เธอเดินมา (
      >>ไม่รู้จะต้องแอบมองทำไม )
      >>
      >>วันนี้เธอดูน่ารักมาก ขาวจั๊วะ
      >>
      >>น่าเจี๊ยะซะนี่กะไร ผมจะข้ามตอนนี้ไปดีมั๊ยน้า…
      >>แทนที่ผมจะเป็นคนเริ่ม
      >>
      >>แต่ที่ไหนได้ล่ะ เธอเข้ามากอดผมทางด้านหลัง เธอบอกว่า “
      >>
      >>อยากอยู่อย่างนี้ตลอดไปจัง “ ตัวเธอช่างนิ่มเหลือเกิน
      >>
      >>ผมจะทนไม่ไหวแล้วนะเนี่ย
      >>และแล้ว..สัญชาตญาณของผู้ชายก็แสดงออกมา
      >>
      >>ผมจับมือเธอออก แล้วผมก็จูบเธอ เธอบอกกับผมว่า
      >>
      >>“ ฟางรักพี่ปอยนะ ฟางจะเป็นของพี่คนเดียว “
      >>อายจังที่จะเล่าต่อ
      >>
      >>แต่ก้อนะ… ในใจผมคิดว่า
      >>
      >>ผมไม่อยากจะมีอะไรกับเธอตอนนี้เลย เพราะเธอยังเด็กอยู่
      >>
      >>แต่มือผมมันไม่ยอมทำตามอย่างที่ใจคิด
      >>
      >>มันไปแล้ว มันไปปลดตะขอคุณโยะซงซะแล้ว หน้าอกเธอขาวเนียน
      >>
      >>ซึ่งไม่น่าจะเป็นของเด็ก ม.3 เลย
      >>
      >>ประมาณว่า หน้ามัธยม นมมหาลัย ( คงพอจะรู้นะว่าไม่เล็ก )
      >>
      >>แต่พอผมเห็นหน้าอกของเธอแล้ว
      >>
      >>ผมคิดขึ้นได้ว่า เรากำลังทำอะไรอยู่เนี่ย
      >>เราทำอย่างนี้ไม่ได้นะ
      >>
      >>ผมเลยบอกกับเธอว่า
      >>
      >>“ พี่ทำไม่ได้หรอก ฟางยังเด็กอยู่ “
      >>
      >>ผมเอาผ้าห่มมาคลุมให้เธอแล้วผมก็ลุกไปนั่งที่โซฟาห้องรับแขกเปิดเพลงเพราะ
      >>
      >>ๆ ฟัง ซักพักเธอเดินมานั่งกับผม เธอใส่เสื้อตัวใหญ่ ๆ
      >>ตัวเดียว
      >>
      >>ดูแล้วก้อน่ารักไปอีกแบบ
      >>
      >>( คงนึกออกนะคับ ) เธอนั่งซบไหล่ผม แล้วเธอก้อยิ้มให้
      >>
      >>ผมอยากหยุดเวลาไว้ให้นานที่สุด
      >>
      >>ตัวเธอมีกลิ่นหอมคงจะหอมจากยาสระผม
      >>
      >>มันทำให้ผมเคลิ้มและหลับไปเมื่อไหร่ก้อไม่รู้
      >>
      >>รู้สึกตัวอีกทีก้อเช้าแล้ว
      >>
      >>ผมตื่นขึ้นมา อ้าว! …
      >>ผมมานอนตักเธอตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ผมถามเธอว่า
      >>
      >>“ นี่พี่นอนตักฟางทั้งคืนเลยเหรอ “
      >>
      >>เธอตอบว่าใช่เธอยังไม่ได้นอนเลย
      >>เธอบอกว่าเธอนั่งมองผมทั้งคืน
      >>
      >>ผมอึ้งเล็กน้อย แต่ก้อแหย่เล่นถามเธอว่า
      >>
      >>“ โม้ป่าว…. “ เธอทำหน้างอนแล้วก้อลุกไปเลย
      >>
      >>ส่วนผมก้อไปอาบน้ำเพราะคิดว่าเดี๋ยวเธอก้อหายโกรธ
      >>
      >>( ขออธิบายนิดนึงนะ เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยสบายบ่อย
      >>
      >>ผมเลยคิดว่าผมจะเป็นคนที่ดูแลเธอไปตลอดชีวิต )
      >>
      >>เวลาก้อผ่านไปเร็วจัง เธอจบ ม.3 แล้ว ซึ่งเธอก้อเรียนต่อ
      >>ม.4ที่เดิม
      >>
      >>ส่วนผมก้อขึ้น ปี 3
      >>
      >>และแล้ววันที่ไม่อยากจะให้เกิด มันก้อเกิดขึ้น
      >>
      >>วันนั้นเรานัดไปดูหนังด้วยกัน
      >>ก่อนหนังเข้าผมเป็นคนไปซื้อตั๋วหนัง
      >>
      >>และของกิน ส่วนเธอบอกว่าเธอจะไปดูเสื้อผ้า
      >>วันนั้นผมไปกับเพื่อนด้วย
      >>
      >>ซึ่งมันก้อพาแฟนไปด้วย เธอกลับมา
      >>
      >>พร้อมเสื้อ 2 ตัว เธอซื้อมาฝากผมด้วย ( ดีใจจัง )
      >>แต่เมื่อผมเดินมา
      >>
      >>สิ่งที่ผมเห็นคือ เธอกำลังคุยกับผู้ชายอยู่ แล้ว
      >>
      >>เธอก็ทำเหมือนเช็ดหน้าให้ เท่านั้นแหละ
      >>
      >>ผมเดินตรงเข้าไปผลักผู้ชายคนนั้นล้ม แล้วเข้าไปชกเค้า
      >>
      >>โดยที่ผมไม่ฟังเสียงเธอและเพื่อน ๆ เธอกับเพื่อน ๆ
      >>เข้ามาห้ามผม
      >>
      >>ผมพยายามสะบัดออก แต่เพื่อนมันล็อคตั้ง 3 คน
      >>ดิ้นไม่หลุดแล้ว
      >>
      >>
      >>
      >>
      >>
      >>เรื่องอาจจะยาวไปนิดนะครับ แต่ผมอยากจะเล่าให้ทุก
      >>ๆคนฟังเท่านั้นเอง
      >>
      >>ขอบคุณที่อ่านนะ
      >>
      >>
      >>
      >>
      >>
      >>เธอถามว่าทำไมทำอย่างนี้ ทำไมไม่ถามเธอก่อน ผมไม่ตอบ
      >>
      >>ผมได้แต่มองหน้าเธอ แล้วผมก้อพูดไปว่า
      >>
      >>“ เธอนี่ร้ายไม่ใช่เล่นแฮะ
      >>ขอแค่ทำดีกับเธอจะเป็นใครก้อได้ใช่มั๊ย “
      >>
      >>เธอน้ำตาไหล แล้วเธอก้อตบหน้าผม
      >>
      >>ผมรู้ตัวว่าพูดแรงเกินไปนิด
      >>ผมเลยขอตัวกลับบ้านก่อนเพราะกลัวเพื่อน ๆ
      >>
      >>จะเบื่อในการกระทำของผม
      >>
      >>พอกลับถึงบ้าน ผมคิดได้ว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะไปขอโทษเธอ
      >>
      >>ผมทำอะไรลงไปเนี่ย งี่เง่าจิง ๆ แต่…… หารู้ไม่ว่า
      >>
      >>นั่นเป็นวันสุดท้ายที่ผมได้พูดกับเธอ
      >>มีโทรศัพท์จากพ่อของเธอ
      >>
      >>บอกให้ผมรีบไป
      >>
      >>ที่โรงพยาบาล ผมถามว่าเกิดอะไรขึ้น
      >>พ่อของเธอบอกว่าเธอไม่สบาย
      >>
      >>ให้ผมรีบมา เพราะเธอบอกว่า
      >>
      >>อยากเจอผม ผมรีบไปโรงพยาบาลทันที เมื่อไปถึง…
      >>
      >>ผมถามพ่อของเธอว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อเธอไม่ตอบ
      >>
      >>แต่ว่าผมพอนึกได้ว่าเธอไม่ค่อยสบาย เธอเป็นไมเกรน
      >>
      >>ผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอไม่สบายใจ ทำให้เธอคิดมาก
      >>
      >>ผมเลยบอกว่าขอผมเข้าไปเยี่ยมได้ไหม
      >>พ่อบอกว่าเข้าไปได้เลย
      >>
      >>ตอนนี้เธอกำลังหลับอยู่
      >>
      >>ผมเดินเข้าไปเห็นเธอนอนหลับเหมือนกับว่าไม่มีอะไร
      >>
      >>เหมือนตอนที่เรานอนเล่นด้วยกันแล้วเธอก้อหลับไปไม่มีผิด
      >>
      >>ผมชอบมองหน้าเธอตอนกำลังนอน ดูเธอน่ารักดี ผมจับมือเธอ
      >>
      >>มือเธอเย็นพอสมควร ผมนึกว่าเป็นเพราะแอร์ที่เปิด
      >>
      >>ค่อนข้างหนาว แต่ผมสังเกตว่าเธอหน้าขาวผิดปกติ
      >>
      >>ผมมองเห็นไดอารี่บนโต๊ะข้างเตียงที่เธอเคยเขียนเป็น
      >>
      >>ประจำ ผมเลยหยิบขึ้นมาอ่าน เธอเขียนว่า วันนี้วันที่…/
      >>…/ 254… (
      >>
      >>ขอโทษนะคับที่บอกไม่ได้ )
      >>
      >>“ วันนี้ฟางทำให้พี่ปอยโกรธ
      >>แต่ทำไมพี่ปอยไม่ยอมฟังฟางบ้าง
      >>
      >>ฟางไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นอย่างนั้น ฟางขอโทษนะพี่ปอย
      >>
      >>มันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่ปอยคิด
      >>
      >>ฟางแค่จะเช็ดเสื้อให้เค้าเพราะฟางไปชนเค้าทำให้น้ำหก
      >>ใส่เสื้อเค้า
      >>
      >>ฟางรู้ว่าฟางผิด พี่ปอยอย่าโกรธฟางนะ
      >>
      >>ฟางไม่ได้ตังใจจะตบหน้าพี่ปอยด้วยนะ ฟางขอโทษ
      >>
      >>และฟางก้อไม่ได้โกรธพี่ด้วย ฟางรักพี่ปอยเสมอนะ
      >>แลฟางจะรักตลอดไป “
      >>
      >>พอผมอ่านจบ น้ำตามันไหลออกมาได้ยังไงไม่รู้
      >>
      >>ผมมีความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังจะเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตไป
      >>
      >>ผมลองเอามือแตะที่ จมูกเธอ
      >>เลยทำให้ผมได้รู้ว่าเธอไม่หายใจแล้ว
      >>
      >>ผมก้มหน้าลงไปซบที่ตัวเธอ
      >>
      >>เธอจากผมไปแล้ว ผมร้องไห้โฮ เธอจากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ
      >>
      >>ผมรู้สึกผิดที่ทำให้เธอตาย ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะผม
      >>
      >>ตอนนี้เราคงคุยโทรศัพท์กันและหลับคาโทรศัพท์ด้วยกัน
      >>
      >>ผมแค้นตัวเองที่ไม่ได้แม้แต่ขอโทษเธอด้วยซ้ำ
      >>
      >>เธอกลับเป็นคนขอโทษผมเอง ตอนนี้ผมได้แต่มองหน้าเธอ
      >>
      >>ผู้หญิงที่รักผมมาตั้งแต่ ป.1 แต่ผมกลับลืมเธอไปตั้ง 6
      >>ปี
      >>
      >>เมื่อเราได้กลับมาพบกัน อีกครั้ง และเราสองคนได้รักกัน
      >>
      >>ตัวผมกลับทำให้เธอต้องตาย ผมนั่งมองเธอ
      >>
      >>นึกถึงเรื่องที่มันเกิดตั้งแต่ผมอยู่ ป.6
      >>
      >>นั่งนึกถึงวันที่ได้เจอเธออีกครั้ง
      >>ตอนที่เราได้เป็นแฟนกัน
      >>
      >>วันเกิดของผมและเธอ
      >>
      >>ทำไมมันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน
      >>
      >>เราเคยสัญญากันไว้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
      >>ตลอดเวลาที่ผ่านมา
      >>
      >>ผมไม่เคยคิดที่จะเลิกกับเธอด้วยซ้ำ
      >>ถึงแม้ว่าเราจะทะเลาะกันบ้าง
      >>
      >>งอนกันบ้าง แต่วันนี้ ไม่มีคนชื่อฟางอีกแล้ว ไม่มีใครคอย
      >>
      >>ทะเลาะกับผม ไม่มีใครคอยเป็นห่วงผม
      >>ไม่มีคนนอนหลับคาโทรศัพท์กับผมอีก
      >>
      >>คงรู้แล้วนะว่าทำไมผมเรียกฟางว่า
      >>
      >>เธอ เพราะว่าทุกครั้งที่ผมนึกถึงฟาง
      >>ทุกครั้งที่ผมพิมพ์ชื่อฟาง
      >>
      >>น้ำตามันก้อจะไหลออกมา มันทำให้ผมเศร้า
      >>
      >>และทุกครั้งที่ผมคิดถึงเธอผมก้อจะหยิบไดอารี่ของเธอขึ้นมาอ่าน
      >>
      >>เธอเริ่มเขียนไดอารี่ตั้งแต่วันแรกที่เราได้เป็น
      >>
      >>แฟนกัน ทุก ๆ ครั้งที่เราทะเลาะกัน เราไม่พูดกัน
      >>ผมจะเป็นคนโทรไปหาเธอ
      >>
      >>แล้วเธอจะหยิบไดอารี่ขึ้นมาอ่านให้
      >>
      >>ฟังทุกครั้ง และเราก้อจะดีกัน (
      >>
      >>ตอนที่ผมกำลังพิมพ์อยู่นี้ผมได้หยิบไดอารี่ขึ้นมาดู
      >>ในไดอารี่
      >>
      >>มีรูปของเราสองคน
      >>
      >>แปะไว้ ทำให้ผมน้ำตาไหลอีกแล้ว ) ผมได้ไปงานศพเธอ
      >>
      >>บ้านของเธอนับถือศาสนาคริสต์ ทางบ้านก้อเลยใช้วิธีฝัง
      >>
      >>เธอไว้ “ วันนี้เธอฟางดูสวยกว่าทุกวันนะ “
      >>ผมพูดขณะที่นั่งเกาะข้างโลง
      >>
      >>เธอไม่เหมือนคนตายเลย วันนี้เธอใส่เสื้อที่เธอซื้อมา
      >>
      >>ซึ่งผมก้อใส่เสื้อตัวที่เธอซื้อให้เหมือนกัน
      >>เธอเคยพูดไว้ว่า “
      >>
      >>ไดอารี่เล่มนี้ เป็นสิ่งที่แทนความรู้สึกของ
      >>
      >>ฟาง หากวันไหนฟางไม่ได้อยู่กับพี่ปอยแล้ว
      >>
      >>ขอให้พี่ปอยเก็บไดอารี่นี้ไว้ด้วยนะ
      >>พี่ปอยอ่านแล้วพี่จะรู้เอง
      >>
      >>ว่าฟางรู้สึกยังไง “ วันนี้ เธอได้จากผมไปแล้ว
      >>ไดอารี่เล่มนี้
      >>
      >>จึงเป็นตัวแทนของเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปลอบใจผมเมื่อผมเหงา
      >>
      >>ทุกวันนี้ผมยังทำใจไม่ได้
      >>เพราะเธอยังคงอยู่ในใจผมตลอดเวลา
      >>
      >>หากผมย้อนเวลากลับไปได้
      >>ผมจะกลับไปตั้งแต่วันแรกที่เราคบกัน
      >>
      >>ผมจะรักเธอให้มากกว่าเดิม ผมจะไม่ทำให้เธอ เสียใจ
      >>
      >>ผมจะไม่ให้เหตุการณ์มันเป็นอย่างนี้
      >>เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป
      >>
      >>แต่ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเธอได้จากผมไปแล้วนี่นา
      >>
      >>ทุกวันนี้ผมยังพกไดอารี่ของ
      >>
      >>เธอติดตัวไปไหนมาไหนตลอด
      >>แต่ก้อยังดีนะที่ผมยังมีตัวแทนของเธออยู่
      >>
      >>ผมยังได้เห็นหน้าเธอเมื่อคิดถึง แล้วเธอ
      >>
      >>จะยังคิดถึงผมอยู่หรือเปล่าน้า…. ผมคิดว่า คนที่ออกไปรบ
      >>
      >>ที่เรียกกันว่าหน่วยกล้าตาย กับคนที่พลีชีพ
      >>เป็นคนที่กล้าหาญ
      >>
      >>แต่คนที่ต้องทนอยู่รับความเจ็บปวดจากการที่คนที่เรารักจากเราไปน่ะสิ
      >>
      >>น่านับถือกว่า ผมไม่ได้เข้าข้าง
      >>
      >>ตัวเองนะ แต่ถ้าให้เลือกระหว่างตาย
      >>
      >>กับยังมีลมหายใจแต่ว่ายังต้องเจ็บปวดใจอยู่
      >>ผมเลือกความตายดีกว่า
      >>
      >>เพราะผมไม่อยากทนรับความเจ็บปวด ที่มันฝังใจ
      >>
      >>แต่มันก้อแก้ไขไม่ได้แล้วเนอะ ยิ่งผมได้ฟังเพลง
      >>เธอจะอยู่กับฉัน
      >>
      >>ตลอดไป ของวงแคลช แล้วผมเอาไดอารี่มานั่งดูรูปเก่า ๆ
      >>ของเราสองคนด้วย
      >>
      >>ก้อทำให้ผมได้รู้ว่า เคยมีคนที่เรารัก
      >>
      >>และรักเรา ผมดีใจที่ได้พบกับเธอ เป็นแฟนกับเธอ
      >>
      >>มันเป็นความทรงจำที่ดีจิง ๆ
      >>ถึงแม้ว่านึกถึงแล้วจะต้องร้องไห้ก้อเหอะ
      >>
      >>เอาเป็นว่ายังไงผมก้อยังจะรักน้องฟางตลอดไปละกัน
      >>
      >>
      >>
      >>เรื่องของผมก้อมีเท่านี้แหละคับ
      >>ตอนนี้ผมหยิบไดอารี่ขึ้นมาดูอีกแล้ว
      >>
      >>ขอให้ทุกคนรักษาคนรักของตัวเองให้ดีนะคับ
      >>
      >>
      >>
      >>T.T
      >>
      >>
      >>

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×