เรื่องเล่า......ของฉัน - เรื่องเล่า......ของฉัน นิยาย เรื่องเล่า......ของฉัน : Dek-D.com - Writer

    เรื่องเล่า......ของฉัน

    โดย melody48

    ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เราก็ไม่เคยลืมเลยละ

    ผู้เข้าชมรวม

    408

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    408

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 ต.ค. 46 / 22:44 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      วันนี้นั่งเขียนไดอะรี่เหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือ ทำไมวันนี้เรากลับมานั่งพลิกอ่านของเก่าๆนะ ทำให้เปิดไปเจอ………….
      ที่จริงแล้วมันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากเลย ฉันได้รับคัดเลือกจากโรงเรียนพร้อมเพื่อนและรุ่นน้องอีกประมาณ 10 คน
      เฉพาะโรงเรียนของฉันนะถ้านับทั้งจังหวัดละก็ประมาณ1รถบัสอะ
      เพราะตอนที่ไปเราไปรถบัสกันทำให้ฉันไม่ได้สนใจมากนักในเรื่องของการนับจำนวนคนที่ไป
      ค่ายที่ไปจัดขึ้นในจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือตอนล่าง รู้สึกจะเป็นการชุมนุมเข้าค่ายภาคเหนือรึไงนี่ละ
      จำไม่ค่อยได้แล้ว ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ค่ายนี้ประมาณ 1 อาทิตย์ คิดแล้วก็น่าสนุกแต่จะทนไหวไหมน้าาาาา
      เมื่อไปถึงค่ายก็ลงจากรถเค้าให้เวลาในวันนั้นทั้งวันเพราะจะได้ตั้งค่ายและก็ไปเดินเที่ยวได้ พวกเราไปถึงค่ายประมาณ11 โมงเช้าเห็นจะได้ ทุกคนก็ขนของลงมาจากรถ เสร็จแล้วก็มาเลือกที่ตั้งค่ายของตัวเอง โรงเรียนในจังหวัดชั้นที่ไปมี 3 โรงเรียน แต่ต้องกางเต๊นท์ประมาณ 6 เต็นท์ เพราะแยกระหว่าง ป.6กะม.1 ฉันอยู่ม.1แต่รู้สึกจะไม่ทันแล้วละ เพราะร.ร.อื่น แย่งที่ไปแล้ว ก็เลยต้องมากางเต๊นท์ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง รู้สึกหยั่งกะว่าเป็นต้นโพธิ์นะ แค่นั้นยังไม่พอข้างๆยังมีปลวกอยู่ด้วย เอาพวกเราขนลุกไม่กล้ากางเลยละ
      แต่ทำไงได้อยากมาช้าเอง ที่ดีๆคนอื่นเค้าก็จองไปหมดแล้ว ก็เลยต้องจำใจกางเต๊นท์ตรงบริเวณนั้น
      พอกางเต๊นท์ไปได้สักพัก มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อหมวย เธอเดินหน้าตาตื่นมาและถามทุกคนว่า “มีใครหิ้วกระติกน้ำมาด้วยรึป่าว”
      ทุกคนส่ายหน้าเหมือนกันหมด เอาละสิ “ไม่มีจริงๆหรอ ทำไงดีกระติกน้ำหาย แต่เค้าว่าต้องอยู่ในรถแน่ๆ” หมวยพยายามพูด
      ทุกคนได้แต่งง เลิ่กลั่ก ถ้าอยู่ในรถก็ไปเอาสิ แต่ช้าไปแล้วรถเจ้ากรรมกลับไปแล้ว แหม…..มันน่านัก คนขับนี่นะ
      ไม่ยอมตรวจของบนรถเลยว่าเด็กจะลืมของไว้รึป่าว
      ทำไงดีอะหยั่งงี้ก็ไม่มีกระติกใส่น้ำไว้กินอะดิ ทุกคนออกความเห็น แต่ก็ไม่มีใครโทษหมวยผู้ซึ่งเป็นเจ้าของกระติกเพราะกะลังเครียดว่าตอนกลับเนี่ยกระติกจะยังอยู่ไหม ถ้าไม่เป็นอันว่างานนี้หมวยโดนแม่สวดแน่เป็นที่รู้กันของเพื่อนๆ ก็เลยได้แต่ปลอบว่า
      ไม่เป็นไรๆ ตอนกลับก็คงอยู่บนรถอะแหละ แล้วเรื่องน้ำก็ไปกินกะเต๊นท์เด็กป.6 ร.ร. ก็ได้ ส่วนใครที่เอากระติกน้ำมา(แบบใช้เดินทาง
      ไกลอะนะ)ก็เอาไปใส่น้ำมาไว้ด้วยละกาน ทุกคนต่างออกความเห็น
      และเย็นนั้น เราก็นอนด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อยจนถึงปานกลางเพราะที่นอนใต้ต้นโพธิ์ แถมยังมีปลวกอยู่ข้างๆอีก
      พวกเราทุกคนก็เลยสวดมนต์ก่อนนอนกันทุกคนและหากใครจะไปเข้าห้องน้ำก็ให้ปลุกกันได้แบบไม่ต้องเกรงใจเลย
      และคืนนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดี วันรุ่งขึ้น เราต้องไปซ้อมพิธีเปิดงาน เล่นเอาเกือบตาย เพราะฝุ่นงี้เยอะมากๆๆ แถมคนก็ไม่ใช่น้อยๆ
      ฉันกับเพื่อนพอซ้อมเสร็จก็กลับมาที่พัก ไม่นานเค้าก็เรียกรวมเพื่อจะให้เข้าฐาน วันนี้เข้าฐานกับเพื่อนร.ร.เดียวกัน ก็สนุกดี มีฐานเยอะแยะเลย แต่ก็เหนื่อยเหมือนกัน และตอนเย็นกลับมาก็ต้องซ้อมการแสดง(ของแต่จะจังหวัดเอง)เพื่อใช้แสดงในคืนรอบกองไฟ ปรากฏว่าคืนนั้นทุกคนนอนหลับสนิทกันทุกคนแต่รู้สึกต้องตื่นมาตอนตี4 ตี5 มาวิ่ง อากาศตอนเช้าหนาวมากๆแน่สิก็อยู่ในหน้าหนาวด้วยนี่นา เล่นเอาไม่อยากลุกเลย น้ำค้างหยดแหมะๆ แต่เราทุกคนก็ต้องออกไปวิ่ง เสร็จก็ทำความสะอาดที่พักและก็กินข้าว วันนี้มีพิธีเปิด แต่เป็นการเปิดค่ายเล็กๆที่เรียกว่าการเปิดค่ายเฉพาะเขตอย่างเราอยู่เขต7 ก็เปิดเฉพาะเขต7 ทุกคนก็บ่นเรื่องฝุ่นอีกตามเคย แต่ก็ไม่รุ้จะทำยังไงดี ก็ต้องอดทนกันไป เมื่อพิธีใกล้จะเสร็จ ฉันหันไปเจอเด็กผู้หญิงคนนึง แบบว่า ขาวมาก ปากแดงๆ ไม่ค่อยสูงมาก ผมบ๊อบสั้นๆ น่ารักมากเลยละ
      ฉันก็ยืนจ้องเลยนะ อิอิ ไม่รู้ว่าทำไมทั้งๆที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่ฉันกลับมองว่าเธอคนนี้น่ารักมากๆ
      ตอนหลังรู้มาว่าเธออยู่จ.พิจิตร วันนี้ต้องไปเข้าฐานเช่นเคย แต่ว่าต้องเปลี่ยนกลุ่มคือจะโดนแยกไม่ให้อยู่กับเพื่อนร.ร.เดียวกันแต่ฉันก็ยังนับว่าโชคดีหน่อยที่ได้อยู่กับเพื่อนร.ร.เดียวกัน1คน “หมวย”นั่นละ พอเปลี่ยนชุดมาเสร็จก็มาเข้าแถวเพื่อนที่จะแยกไปตามฐาน
      ฉันก็ยังมองผู้หญิงคนนั้นอยู่(แปลกจิงๆ) จนเมื่อถึงเวลาเข้าฐาน แถวฉันโชคดีมากเพราะได้ไปกับแถวของเธอ ฐานแรกเป็นฐานไรไม่รู้จำไม่ได้แล้ว แต่พี่ๆให้นั่งลงเเละฉันได้นั่งตรงกับเธอด้วย (ทางค่ายเนี่ยเค้าจะแจกสมุดเล่มหนึ่งสีฟ้าให้ไปหาเพื่อนที่อยู่คนละจังหวัดกับเรามา)มีคนให้เธอเขียนให้หลายคนฉันก็อยากให้เธอเขียนให้เพราะอยากรู้ชื่อเธอ แต่ก็ไม่ได้หรอกเพราะว่าไม่กล้าอะสิ ทำไงดีละ ก็มองซ้ายมองขวา เป็นอันว่าเอาก็เอาว่ะ ฉันก็เลยยื่นสมุดไปให้และก็บอกว่า ช่วยเขียนให้หน่อยนะ เธอก็รับไปและก็เขียนให้ น่ารักมากๆเลยละ วันนี้รู้แล้วว่าเธอคนนี้ชื่อออย ฉันกลับมาที่พักในตอนเย็นมาเล่าให้มิ้มเพื่อนสนิทนะฟัง มิ้มก็บอกว่าบ้าและถามว่าคนไหนอะ
      เวลาผ่านไป………เราไม่ได้คุยกันแม้แต่เจอหน้าก็ยังไม่ได้เจอเลย แต่ทุกวันที่ทำพิธีหน้าเสาธงตอนเช้าก่อนเข้าฐานฉันก็มักจะแอบมองอยู่เสมอ อิอิ
      จนกระทั่งวันนี้ เราต้องไปซ้อมพิธีปิด ฉันมองไม่เห็นออยเลย อ่อแต่ว่าเห็นแล้ว เธอวิ่งไปเชิญธงที่มีหลายๆสีอะ กับเขตอื่นๆอะนะ
      และก้อกลับมาที่พัก ฉันบอกมิ้มว่า “อยากถ่ายรูปกะออยอะมิ้ม ไปถ่ายให้หน่อยดิ”มิ้มทำท่ากล้าๆกลัวๆ
      พอดีมีรุ่นน้องคนนึงชื่อเบนซ์ เดินเข้ามา “อ่า ถ่ายรูปกันหรอ ถ่ายด้วยๆ” ฉันก็เลยบอกว่างั้นต้องไปเป็นเพื่อนพี่ถ่ายรูปด้วยนะ เบนซ์ตอบตกลงโดนไม่ลังเล แหม ก็รู้สึกเธอจะชอบถ่ายรูปออกขนาดนั้น เมื่อถ่ายที่ค่ายเสร็จ เรา(3 คนอะนะ)ก็เดินไปที่ค่ายของจ.พิจิตร ของออยอะ แบบไม่ค่อยจะกล้าแล้วดิ เพราะเค้าห้ามคนจ.อื่นเข้าไป ไม่รู้จะทำไง พอดีมีเด็กคนนึงเดินมา ฉันก็เลยถามว่าน้องรู้จักคนที่ชื่อออยไหม เด็กคนนั้นทำท่างงๆ ฉันก็เลยบอกว่า มน-สิ-การ อะ คือชั้นพูดไปหยั่งงี้ เด็กก็ทวนกลับมาว่า อ๋อ มะ-นะ-สิ-การ พี่ออยอะหรอ
      ใช่ๆ ไปเรียกให้หน่อยได้ไหม เด็กคนนั้นก็เดินหายเข้าไปเลย ฉันก็บ่นกับมิ้มและเบนซ์ประมาณว่าจะออกมาไหมว้าาาา……..
      แล้วเธอก็เดินออกมา คือแบบฉันไม่กล้าพูดไรเลยอะ ได้แต่ยืนมองหน้า เบนซ์เลยบอกว่าถ่ายรูปหน่อยได้ไหม ออยก็เดินเข้ามาหาฉันเลย แบบว่างงมากก…… เบนซ์ก็นับ 1-2-3 เสร็จ ถ่ายรูปเสร็จแล้ว ฉันก็เลยบอกว่าขอบใจนะ ออยถามว่าชื่อไร ฉันก็ตอบไปว่าชื่อมิลค์ และก็เดินแยกกันไปเลย …..ตอนที่ถ่ายออยจับมือฉันด้วย อิอิ
      และก็มาถึงวันสุดท้าย เราทุกคนต้องไปทำพิธีปิดรวมกันทั้งค่ายทุกเขตเลยอะนะ เราก็บอกมิ้มว่าเดี๋ยวจะต้องไปเอาที่อยู่ออยมาให้ได้ พอทำพิธีเสร็จ อะโห……วิ่งกันให้มั่วไปหมดไม่รู้ใครเป็นใครเลย ฉันก็ได้แต่มองหาออย เจอแล้วก็รีบวิ่งเข้าไปหา(จับมือมิ้มไปด้วย)
      ฉันก็เดินเข้าไปและบอกว่า ออยขอที่อยู่ได้ไหม ออยทำท่างง เราก็ยื่นสมุดให้ ออยก็กำลังจะเขียน มิ้มก็บอกว่า มิลค์เร็วๆ เดี๋ยวๆ ฉันรีบบอก ออยส่งสมุดคืนให้ ฉันก้มลงดู แล้วก็บอกว่าจะเขียนจดหมายไปหานะ แล้วก็รีบแยกกันเลยเพราะต้องรีบกลับไปเก็บของจะได้กลับบ้าน …..
      เวลาผ่านไปหลายวันแล้ว ฉันกลับจากค่ายมาหลายวันแล้ว และที่ไม่ลืมก็คือ “ออย” ฉันเขียนจดหมายไปหาเธอ
      และเธอก็ตอบกลับ ฉันได้รับจดหมายจากเธอ 2 ฉบับ ฉบับแรกเธอตอบที่ฉันเขียนไปหา และฉบับที่2 เป็นการ์ดอวยพร วันเกิดล่วงหน้า
      เพราะเธอกำลังจะไปเชียงใหม่ตอนปิดเทอม เธอน่ารักมาก….
      แต่แล้วทุกอย่างก็หยุดแค่นั้นเมื่อเธอไปเชียงใหม่และอาจกลับพิจิตรในตอนเปิดเทอมแต่ฉันก็ไม่ได้เขียนไปหาเธออีกเลย ……………..
      ฉันพลิกไดอะรี่หน้าสุดท้ายที่บันทึกเรื่องราวในการเข้าค่ายนี้จบลงแล้ว ฉันกำลังคิดว่าถ้าฉันเขียนจดหมายไปหาเธอ เธอยังจะจำฉันได้ไหม มีอยู่วันหนึ่งฉันเล่นเพิช และบังเอิญได้รู้จักกับเด็กพิจิตร คุยไปเรื่อยๆถึงรู้ว่าอยู่ร.ร.เดียวกะออย ฉันก็ถามว่ารู้จักไหม เธอคนนั้นก็บอกว่ารู้จักอยู่ห้องเดียวกันแต่ไม่ค่อยสนิทนะ ตอนนั้นฉันงี้ดีใจเลยนะ แต่จนวันนี้เราก็ยังไม่ได้คุยกันเลยไม่ว่าจะเป็นในเพิชหรือทางจดหมาย ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตอนนั้นฉันถึงอยากรู้จักกับออยมาก อยากคุยด้วย มันแปลกเหมือนกันเนอะ แต่ฉันขอบอกไว้ว่าฉันไม่ได้เป็นทอม ดี้ หรือเลสเบี้ยน อะไรหรอกนะ

      ยังมีเรื่องราวอีกมายที่ฉันไม่ได้เล่าไปเอาไว้คราวหน้าละกานนะ แต่ขอบอกว่าเรื่องนี้เป็นความจิง แต่อาจจะมีบางส่วนที่ตกหล่นไป ถ้าเพื่อนของฉันเข้ามาอ่านคงไม่ว่ากันนะ………………………Love ~ U ~

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×