มิตรภาพ......เล็กๆ - มิตรภาพ......เล็กๆ นิยาย มิตรภาพ......เล็กๆ : Dek-D.com - Writer

    มิตรภาพ......เล็กๆ

    โดย AlloJung

    มุมมองความคิดของเขาและเธอที่เจอกันทางอินเตอร์เนต แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปละ มิตรภาพจะยังคงอยู่เหมือนเดิมหรือไม่

    ผู้เข้าชมรวม

    333

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    333

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 ก.ย. 46 / 11:21 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      วันแรกของการเริ่มต้นที่ฉันได้พบเขา นักดาบหนุ่มในโลกเกมonline ตอนนั้นเขายังนักดาบอยู่ในขั้นHeroอยู่เลย ส่วนฉันก็เป็นเพียงนักบวชขั้นอ่อนๆเท่านั้น คุณคงถามใช่ไหมละว่านี่มันเรื่องอะไรกัน เอาละฉันจะเริ่มเล่าถึงเรื่องราวทั้งหมดให้คุณฟังเดี๋ยวนี้ละ
      เรื่องทั้งหมดนี้มันก็คงจะเกิดไม่ได้ถ้าไม่มีป๊อปเพื่อนตัวแสบของฉันเอง พี่ชายของป๊อปนั้นทำงานอยู่ในบริษัทเกม พอมีเกมใหม่ๆทีไรก็มักจะเอามาให้น้องสาวเล่น แต่ไม่รู้คราวนี้เป็นอะไรยายป๊อปเกิดเล่นเกมคนเดียวไม่ได้
      “นะ นะ มิ้นนะมาเล่นเกมเป็นเพื่อนป๊อปหน่อย นะจ๊ะเพื่อนร้ากกกกกกกก”
      “ ก็มิ้นบอกแล้วไงว่าเล่นเกมไม่เป็น”
      “ก็ลองดูหน่อยจะเป็นไรไปละ”
      “เออ……”ฉันพยายามหาเหตุผลมาให้ป๊อปหยุดตื้อสักที
      “วันๆก็ได้แต่นั่งทำรายงานวิชาอาจารย์แก จนหัวบานหมดแล้วเนี้ย”
      “อย่าเลยมิ้น ป๊อปรู้นะว่ามิ้นทำเสร็จตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว”
      “เออ….”
      “แล้วใครว่าป๊อปชวนมิ้นเล่นเดี่ยวนี่ละ จะชวนเล่นตอนปิดเทอมต่างหาก แค่เรียนอย่างเดียวก็ปวดหัวจะตายแล้ว”
      “ก็ๆ ใช่ๆแล้วทำไม.......ไม่ไปชวนแจสละ ยายนี่เห็นชอบเล่นเนตจะตาย”
      “เฮอมิ้น พูดอย่างกับไม่รู้จักแจส ยายนี่ก็เล่นเพราะเข้าเว็ปดารานักร้องทั้งนั้นแหละ”
      “เออ…..จริง”
      “นะ เพื่อนสุดLOVEของฉันหัดหาอะไรแปลกใหม่ทำซักบ้างสิ เดียวก็เรียนจนใส่แว่นหนาเตอะหรอก”
      “พอๆ ก็ได้ๆครั้งนี้ครั้งเดียวนะแล้วคราวหน้า ป๊อปเธอต้องเลี้ยงข้าวฉันกับแจส”
      “เออน่า ได้จ้าๆ พอทักเรื่องไม่สวยเข้าหน่อยไม่ยอมเชียว”
      “อะไรนะ!!”
      “ฮะอะไรๆ ไหนใครใส่แว่นหนาเตอะไม่มี๊ ไม่มี”
             ในที่สุดฉันก็หลวมตัวตอบรับยายนี่เข้าอีกแล้ว  แต่พอปิดเทอมเล่นไปไม่กี่สัปดาห์เครื่องคอมพิวเตอร์ของป๊อปก็โดนไวรัสกิน ให้พี่ชายไปซ่อมให้ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะเสร็จ แถมยายนี่ก็ยังมาฝากให้ฉันเล่นตัวนักเวทย์ให้อีกโดยยังพูดขู่อีกว่า
      “ถ้ามิ้นไม่ยอมเล่นให้ป๊อปนะ พอคอมป๊อปซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ป๊อปก็ต้องเล่นหามรุ่งหามค่ำ เพราะเล่นตามคนอื่นเขาไม่ทัน ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน แล้วก็ยังจะ……..”
      “หยุดstop!! เลิกบ่นเลยป๊อป เฮ้อ^^เล่นให้ก็ได้ แต่ไม่รับประกันนะ ถ้าฉันเล่นมั่วทำตัวเธอเละ ”
             เอาอีกแล้วในที่สุดฉันก็รับปากอีกจนได้ แต่นั้นอาจเป็นเพราะฉันเริ่มเกิดอาการที่เขาเรียกกันว่า”ติดเกม”แล้วก็ได้ แล้วก็เป็นจริง พอฉันเริ่มเล่นเกมไปคนเดียวโดยที่ไม่มีป๊อปมาคอยช่วย หรืออะไรๆก็มีแต่ป๊อป ตอนแรกฉันก็เลยเล่นมั่วไปเหมือนกันด้วยความที่สูตรเกมอะไรก็ไม่มี ฉันพยายามจะไม่ติดเกมมาก แต่คุณรู้ไหมมันทำใจลำบากเหมือนกันนะ เพราะเมื่องั้นอาจจะโดนพ่อยึดคอมไปโดยปริยาย ตัวละครนักบวชของฉันก็เริ่มพัฒนามาเรื่อย พร้อมกับเริ่มรู้จักเพื่อนในเกมมากขึ้น ไม่เคยคิดมาก่อนเลยจริงๆนะ ว่าโลกในอินเทอร์เนตจะได้เจอมิตรภาพได้มากมายขนาดนี้ ทั้งพี่ น้อง เพื่อน แล้วก็เขา .....
      กริ๊งๆๆๆๆๆ~~~
      “ยายมิ้นมัวทำอะไรอยู่ย่ะ เมื่อไหร่จะมาฉันกับแจส รอเธอนานจนจะกินยักษ์ได้ทั้งตัวอยู่แล้ว”
      “ฮ่า เที่ยงแล้วหรอ”ปั้ปๆๆฉันหันไปมองดูนาฬิกาเจ้ากรรมที่ทำให้ยายป๊อปโทรมาตามฉันที่บ้าน
      “ก็ไอ้นาฬิกาที่ป๊อปซื้อมาให้มิ้นวันเกิดอ่ะสิ มันทำพิษเดินช้าไปครึ่งชั่วโมงอีกแล้ว”
      “555555 นาฬิกาที่ป๊อปซื้อมาจากตลาดของมือ2อ่ะหรอ เห็นว่ามันเข้ากับมิ้นก็เลยซื้อมาให้อ่ะ”
      “เข้ายังไงพูดให้ดีๆนะ”
      “ก็เธอมันเค็ม สมฉายามิ้นแสบน้ำทะเล”
      “ไม่เข้าใจอ่ะ”
      “ก็เค็มนักก็ของมือ2นี่แหละถูกดีเข้ากับมิ้นเลย”
      “หึย~~ไปถึงโดนแน่”
      “เล่นเกมอยู่ละสิท่ามิ้น”
      “อืม ก็ รอโฟร์ทเขาอยู่อ่ะเห็นบอกจะไปดูผลสอบ ยังไม่มาเลย”
      “รีบมาได้แล้ว ป่านนี้คงจีบสาวที่โรงเรียนอยู่มั้ง”
      “ย่ะ ขอให้เธอหิวลงแดงตาย อยู่ข้างยัยแจสนั้นแหละ”

      ร้านอาหารแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า

      “นี่มิ้นดูผู้ชายโต๊ะนู้นสิ เท่มากม้าก”แจสชี้ให้ฉันดูนักเรียนชายคนหนึ่ง
      “ไหนๆ”ฉันมองตามไปที่แจสบอก ก็เห็นนักเรียนชายหัวตั้ง ทาเยลที่ผมมันแผล็บ ผมจึงชี้โด่เหมือนกับโดนฟ้าผ่ามาอย่างนั้น
      “ตาน้ำมันเครื่องเยิ้มหัวนะหรอ เอ๋ ฉันว่าบ้านนายนั้นคงรวยน่าดูนะ”
      “ทำไมอ่ะ “ ป๊อปหันมาถามฉัน
      “ก็หัวเยิ้มขนาดนั้น ที่บ้านไม่เป็นเศรษฐีน้ำมันแล้วจะให้เป็นอะไรได้ละ”
      “555555”พวกเราหัวเราะพร้อมกันเสียงดังลั่น เฮ้อก็กลุ่มของเรามีเรื่องอะไรก็หัวเราะได้หมด จนคนทั้งร้านหันมามอง รวมทั้งกลุ่มของตานั้นด้วย
      “ท่าทางเขาจะโกรธพวกเรานะเนี้ย เดินออกจากร้านไปเลย”
           ก็ตอนที่หัวเราะพร้อมกันนายนั้นก็ดันหันมามองที่ฉันพอดี ก็เลยรู้อะสิว่าพวกเราหัวเราะเขาอยู่ แล้วยังหันมาทำเป็นโค้งให้ฉันอีก ทำฉันเอ๋อไปเลย ท่าทางคงจะไปดูผลสอบมา เพราะถือสมุดพกออกไปด้วย เหมือนกับโฟร์ทเลยแหะ


           วันนี้ผมจะต้องไปดูผลสอบที่โรงเรียน ผมไม่อยากจะไปเลยละครับ เพราะรู้ตัวดี ว่าผลเกรดเฉลี่ยออกมาต้องไม่ดีแน่ๆ คุยกับเพื่อนเรื่องนี้ก็ดีแต่ซ้ำเติม ไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนประสาอะไร ผมพูดมากมันก็หาว่าผมขี้บ่นเหมือนผู้หญิง แล้วก็ว่าต้องไปติดใครมาแน่ๆเลย แต่เดี๋ยวคุณก็รู้เองแหละว่า มันไม่จริงเลยจริงๆนะ  ผมนะก็กลัวแต่ต้องไม่พ้นโดนพ่อกับแม่ว่าเอาแน่ๆ
           แต่ก็ยังดีที่มีเธอ มิ้น เธอเล่นเป็นนักบวชในเกมonlineล่าสุดที่ผมเล่น ตอนแรกที่ผมเจอเธอ เธอไม่ค่อยจะพูดเลย ออกจะเงียบๆ ถ้าไม่มีคนคุยกับเธอเธอก็คงไม่พูด   ด้วยความเป็นนักบวชเธอจึงดูแลทุกคนเป็นอย่างดี ไม่ยอมให้ใครตายเลยล่ะ ผมก็เริ่มชอบเธอตั้งแต่ตอนนั้น แล้วพอๆได้เริ่มคุย เริ่มรู้จักเธอ จริงๆจะรู้เลยว่าเธอนะไม่ใช่คนเงียบหรอก แต่เธอไม่อยากคุยเพราะเหตุผลอะไรของเธอ ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ
      “ไม่เป็นไรหรอกโฟร์ท ถ้าคราวนี้เกรดออกมาไม่ดีก็ค่อยพยายามกันใหม่”
      “มิ้นอ่ะ แต่ยังไงเราก็กลัวว่ามันจะแย่กว่าปีที่แล้ว แล้วอีกอย่างหนึ่ง…….”
      “อะไรรึ”
      “โฟร์ทกลัวว่าจะไม่ได้เจอมิ้นอีกอะสิ เพราะถ้าผลสอบออกมาไม่ดี โฟร์ทก็คงจะต้องเลิกเล่นเกม”
      “อืม ถ้าเป็นอย่างนั้น……มิ้นก็คงจะเลิกเล่นเหมือนกัน แต่มันก็อาจจะดีกับเราทั้ง2คนนะ เพราะถ้าเปิดเทอมมิ้นก็คงจะต้องเลิกเล่น”

      อ๋อ ผมลืมบอกไปมิ้นเธอนะมาเล่นเกมนี้ตอนปิดเทอม ส่วนผมนะปิดเทอมช้ากว่าเธอ แล้วก็เล่นเกมมาตลอดไม่ว่าจะเปิดหริอปิดภาคเรียน หุหุ
      “มิ้น โฟร์ทต้องไปก่อนนะ ถ้าดูผลสอบเสร็จเมื่อไหร่แล้วจะรีบมา”
      “จ้า”
      กริ้งๆๆๆๆๆ~~~~~
      ”อยู่ไหนแล้วฮ่ะไอ้โฟร์ท จะให้ฉันกับไอ้เอกรอถึงไหนว่ะ “นนโทรมาตามผมจากป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน
      “เออ มาแล้วๆอยู่ในรถเมล์เนี้ย รอเดี๋ยวสิ”
      “เออ มาซักที”ท่าทีโกรธของนนเบาลง เมื่อเห็นผมเดินลงมาจากรถเมล์ที่ชลอจอดคันล่าสุด
      “ไป ไปตายกันเว้ย”ผมพูดด้วยตอนนั้นเห็นเป็นเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ
      “เอ้ยไอ้นี่ปากอัปมงคล”
      เวลาผ่านไป~~~~~
      “หน้าซีดออกมาเชียว”เอกทักผม เมื่อเห็นผมเดินออกมาจากหอประชุม พร้อมสมุดพก
      “ได้เกรดเท่าไหร่ว่ะ ไหนมาดูดิ”
      “เออ ได้มากกว่าพวกเรีฃาอีกนี่หว่า แล้วมาทำหน้าเศร้า เหมือนพึ่งกินนมบูดมาทำไมกัน”
      “แต่ก็ยังน้อยกว่าปีที่แล้วอยู่ดี”ผมพูดอย่างเศร้าๆ
      “เฮ้ย ทำอะไรฮ่ะ ไอ้เอก ไอ้นน ไม่เอาเว้ย”
      “ให้รางวัล คนหน้าเศร้าไง”ว่าแล้ว นน กับเอกก็เอาเยลใส่ผมที่พึ่งซื้อจากป้าหน้าโรงเรียนมาละเลงใส่หัวผม
      “เอ้าอย่าหนีสิ ช่วยกันจับโฟร์ทเร็ว”
      “ฮ่ะฮ่าเสร็จฉัน “ นนพูดเมื่อสำเร็จดังจุดมุ่งหมาย
           ตอนนี้หัวของผมจึงเต็มไปด้วยเยลใส่ผม มันเยิ้มเต็มหัว ผมก็ชี้ตั้งอย่างกับโดนไฟฟ้าช็อตมายังไงอย่างงงั้น แล้วอย่างนี้สาวๆที่ไหนจะมองผมละ นั้นๆน้องพินห้อง8 ที่เมื่อกี้แอบส่งยิ้มให้ผม ตอนนี้เธอกับเพื่อนๆแอบหัวเราะกันเบาๆ
      “ไอ้เอก ไอ้นน ไอ้เพื่อนเลว”
      “อย่าเชียวนะไอ้โฟสร์ทถ้าไปล้างออกไม่ต้องคบกันเป็นเพื่อนจริงๆด้วย”เอกพูด
      “เออใช่ พวกเราหวังดีกับแก อยากเห็นแกหัวเราะ ไม่ใช่มาทำหน้าบึ้งอย่ากับไปกินรังมดมา”นนเสริม
      “คร้าบๆๆๆๆๆๆเพื่อนรักทั้ง2 เพื่อนโฟสคนนี้ซึ้งในพระคุณที่เพื่อนทั้ง2มีให้กระผมเป็นอย่างยิ่ง ชาตินี้จะไม่ลืมพระคุณเล้ย”
      “ดูมัน ติดบ่นยายมิ้นมาละสิท่า  โอ้ย ”ผมจับหัวเพื่อนทั้ง2มาชนกัน อย่างน้อยก็เพื่อเป็นการชำระความแค้นครั้งนี้ที่ทำไว้กับผมอย่าง     แสนสาหัส คุณคิดดูผมจะไปล้างเยลออกก็ไม่ได้เพราะโดนขู่ว่าจะเอาเรื่องนี้ไปป่าวประกาศให้น้องๆที่แอบชอบผมรู้ แล้วจะไห้ผมทำยังไงได้
      “’งั้นกลับละ”ผมเริ่มทนเพื่อนทั้ง2ไม่ไหว จึงว่าจะกลับไปหามิ้นดีกว่า
      “ไม่ได้ แกต้องไปกินข้าวในห้าง กับฉันทั้ง2”
      “ไอ้เวง ให้ไปทั้งสภาพอย่างนี้เนี้ยนะ”
      “ก็เอออะสิว่ะ 555555”ไอ้เอก กับนนพูดพร้อมหัวเราะพร้อมกัน
      “ไอ้เพื่อนแท้”ผมละหมดอารมณ์ไปต่อล้อต่อเถียงกับมันจริงๆ
            ผมกับเพื่อนจึงเข้าไปกินข้าวในร้านอาหารแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่พวกเราคุ้นเคยเป็นอย่างดี และเรื่องมันก็คงจะไม่มีอะไรถ้าไม่มีกลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเข้ามาในร้าน ยายคนที่ใส่เสื้อฟ้านั้นนะท่าทางจะเป็นหัวโจกทีเดียว ถึงได้กล้านินทาผมแล้วก็หัวเราะซะดังลั่นอยขนาดนั้น คงนึกว่าผมไม่รู้สินะ ผมนะเห็นอาการเจ้าหล่อนตั้งแต่เริ่มพูดแล้ว หน้าตาก็น่ารักดีแต่ทำไมนิสัยถึงแสบเหลือล้น ทำให้ผมoนึกถึงใครสักคนที่รู้จัก แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกสักที
      “เอ้ยจะกลับแล้วเหรอโฟร์ทยังกินไม่ทันอิ่มเลย”นนจอมตะกละพูด
      “หรือเพราะถูกสาวๆกลุ่มนั้นแซวว่ะฮ่า~~~~”เอกเสริมอีก
      “ไอ้บ้าฉันจะกลับไปหามิ้นหรอก”
      “ระวังนะเว้ยคืนนี้อย่าดึก เดี๋ยวตอนเช้าตื่นมาจะไม่มีแรง”
      “ไอ้ทะลึ่ง”ผมพูดแล้วก็รีบลุกเดินออกไปพร้อมสมุดพก แต่ก็ไม่ลืมโค้งให้เจ้าหล่อนเสื้อฟ้าทีหนึง ฮะฮ่า~~หน้าเจ้าหล่อนจ๋อยไปเลยคงนึกไม่ถึงละสิท่าว่าผมจะทำอย่างนั้น
      อ้ออีกอย่างผมขอโทษด้วยที่เพื่อนผมมันทะลึ่งนี่แค่ส่วนน้อยนะ คุณคงเข้าใจว่าผู้ชายก็คงต้องมีเรื่องพวกนี้บ้างล่ะ

      ฉันกลับมาถึงบ้านแล้วก็รีบตรงไปเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อดูว่าโฟร์ทมาหรือยัง
      “มิ้น โฟร์ทมารอมิ้นตั้งนานแล้วรู้ไหม”
      “ก็โฟร์ทอยากปล่อยให้มิ้นรอโฟร์ทก่อนทำไมละ”
      “งอนหรอจ๊ะ”
      “ป่าวหรอก ว่าแต่ไปรับสมุดพกมาเป็นไงบ้าง”
      ฉันถามโฟร์ทแล้วเขาก็เงียบไป ฉันจึงรู้คำตอบทันทีว่าคืออะไร
      “โฟร์ทจะใช้เวลาอยู่กับมิ้นให้มากที่สุดนะ”
      “อืม”ฉันตอบแค่นั้นเพราะรู้สึกใจหายเหมือนกันที่จะต้องไม่เจอคนที่คุ้นเคย ที่เคยคุยกันบ่อยๆ  ถึงฉันจะไม่รู้ว่าตัวจริงโฟร์ทตี่ฉันก็พอใจที่จะได้รู้จักโฟร์ทในโลกของเกมในอินเทอร์เนต เพราะในความเป็นจริงโลกเรายังมีเรื่องราวอีกมากมายเหลือเกิน หนทางมันไม่ได้ราบรื่น มีเรื่องต้องให้คิดอีกมาก ไม่เหมือนในอินเทอร์เนตที่เราสามารถปล่อยใจได้ตามสบาย หรือบางคนอาจจะแสดงตัวตนให้คนอื่นคิดเป็นยังไงก็ได้ ขอเพียงแต่ใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์ เพราะอินเทอร์เนตยังเป็นหนึ่งในสื่อที่เชื่อใจใครได้น้อยที่สุด คุณอาจจะเห็นว่าฉันเป็นยายแก่โบราณทึนทึก แต่ทั้งหมดนั้นก็เป็นความรู้สึกของฉันจริงๆ
           โฟร์ทเขาก็เคยบอกฉันบ่อยๆ”ถ้าเป็นมิ้นของจริงต้องขี้บ่นแถมแสบอีกด้วย”พูดไปก็ชักจะคิดถึงเขาขึ้นมาอีกแล้วสิ  เพราะนี่ก็เป็นเวลานานหลายเดือนแล้วที่ฉันไม่ได้เจอโฟร์ท เราต่างเปิดเทอมจึงไม่มีเวลาที่จะเล่นเกม และต้องเลิกเล่นไนที่สุด
      “เต้นรำกับผมสักเพลงนะ ก่อนจากกัน”
      “ตาบ้า อยู่ในเกมนะย่ะจะให้เต้นรำกันยังไง”
      “ก็อย่างนี้ไง “โฟร์ทเริ่มเอาดาบมาฟันฉัน
      “อ๋อจะท้าดวลกับมิ้นหรอ ได้เลยถึงโฟร์ทเป็นนักดาบมิ้นก็ไม่กลัวหรอก”ฉันเริ่มนึกสนุกด้วย จึงเริ่มร่ายเวทย์ใส่สู้กับโฟสอย่างสนุกสนาน
      “ตาบ้าทำไมไม่สู้ฉัน เดี๋ยวก็ตายหรอก”ฉันถามโฟร์ทเมื่อเห็นว่ากำลังเป็นฝ่ายเดียวที่โจมตีเขา
      “ให้โฟร์ทฆ่ามิ้นนะหรอ ทำไม่ได้หรอก”เราจึงเลิกสู้แล้วคุยกัน
      “โฟร์ทจำไว้นะว่ามิ้นจะไม่มีวันลืมมิตรภาพของเราครั้งนี้เลย”
      และนั้นก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันพูดกับโฟร์ท



      “ผ่ายมาหลายเดือนแล้วสินะ ที่โฟร์ทไม่ได้เจอมิ้น”ผมพูดกับตัวเองเมื่อกดปุ่มปิดเครื่องคอมพิวเตอร์หลังจากพิมพ์หลายงานเสร็จ

      ก็พอดีกับที่เอกและนนโทรมาชวนผมไปร้านหนังสือ
      “เกิดขยันอะไรขึ้นมาว่ะ ร้อยวันพันปี ก็ไม่เคยเห็นพวกเอ็งเข้าร้านหนังสือ”ผมพูดกับเอกขณะกำลังเดินไปร้านหนังสือ
      “เอกมันไปติดใจคนขายเข้าอ่ะสิ ชื่อน้องแจสมาทำงานได้เดือนกว่าแล้ว”นนรีบบอก
      “เออ”
      “แล้วไม่สนใจบ้างหรอ ข้าเห็นเพื่อนเขานะน่ารักๆทั้งนั้นเลย”
      “ไม่อ่ะ”
      “คิดถึงยายมิ้นอีกละสิท่า”
      “เฮ้อ อย่าพูดเลย”
      “แล้วทำไมไม่นัดเจอกันละ”
      “ก็เขาไม่ยอมอะ ข้าก็ไม่รู้จะทำยังไง”

      วันนี้ยายป๊อปจอมยุ่งเจ้ากี้เจ้าการให้ฉันมาร้านหนังสือที่แจสทำงานอยู่จนได้ ก็คนมันบอกแล้วว่าไม่อยากออกจากบ้าน
      “จะหมกตัวอยู่แต่ในบ้านทำไมล่ะ ออกมาเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้านบ้าง”
      “ก็อยากจะอ่านหนังสือ เธอเองก็เหมือนกันจะสอบแล้วน่ะย่ะ ยังจะมามัวเที่ยวอยู่ได้”
      “โอ้ย จ้าๆคุณครุเจ้าระเบียบ เดี๋ยวกลับบ้านไปศิษย์จะรีบอ่านหนังสือตั้งแต่เย็นจนเช้าเลย”
      “มากไปๆ ยายป๊อป”
      “แต่ตอนนี้เชิญคุณครูออกมานอกบ้านบ้างเถอะ ขืนอยู่แต่ในบ้างเดี๋ยวก็ขายไม่ออกกันพอดี”
      “แล้วนี่มาน่ะไม่เสียป่าว แจสนัดหนุ่มๆเอาไว้เพียบเลย”ยายแจสแย่งหูโทรศัพท์ไปพูด
      “เหอๆ ได้ยินแล้วช่วยฉันตัดสินได้มากเลยนะย่ะ อืมงั้นพวกเธอไปก่อน เดี๋ยวมิ้นตามไป”
      “สำเร็จ”ยายป๊อปกับยายแจสพูดเมื่อชวนฉันสำเร็จ

      “ไหนว่ะน้องแจสของไอ้เอก” ผมบอกเอกเมื่อมายืนรอที่หน้าร้านหนังสือนานแล้ว
      “ใจเย็นๆ โฟร์ท”
      “เอองั้นไปอ่านหนังสือรอในร้านก่อนแล้วกันนะ”ผมพูดอย่างเซ็งๆเพราะนี่ก็ปาเข้าชั่วโมงกว่าแล้วที่มายืนรออยู่หน้าร้าน

      “มาถึงหรือยังเนี่ยยายมิ้น ป๊อปลองโทรตามสิ ”
      “มาแล้วจ๊ะ”
      “ป่านนี้หนุ่มๆของฉันจะกลับกันหรือยังเนี้ย”ยายแจสยังคงพร่ำเพ้อเพ้อตลอดทางเดินไปร้านหนังสือ
      “คนเรา แทนที่จะห่วงว่าจะโดนไล่ออกที่มาทำงานช้า กับห่วงว่าจะไม่ได้เจอผู้ชาย”
      “ก็เพราะมิ้นนั้นแหละ”แจสหันมาค้อนฉัน
      “ช่วยไม่ได้ เล่นนัดฉันซะตอนเที่ยง รถก็ติดสิย่ะ”

      “มาแล้วๆ”นนเดินเข้ามาในร้าน ตามผมไปหาน้องแจสอะไรนั้น
      “เพื่อนๆของเธอก็มาด้วยนะเว้ย “
      “เออ คุยกันไปก่อนแล้วกัน ข้าอ่านหนังสือติดพันอยู่” ผมขี้เกียจจะไปยืนฟังนน กับเอกและแม่สาวๆพวกนั้นคุยกัน
      “เออไม่ไปแล้วจะเสียใจ”
      เสียใจเรื่องอะไรกัน ผมยืนอ่านหนังสือของผมอย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว
      “ว่าไงนะ!!!”ผมถามเอกกับนน เพราะไม่อยากจะเชื่อคำพูดที่เพิ่งได้ยินเมื่อกี้
      “เอออะไรอีกละ ก็ฉันบอกว่าเพื่อนของแจสชื่อป๊อปกับชื่อมิ้นไง”
      “แล้วมิ้นนี่ที่ผมยาวๆ ตาโตๆใช่ไหม”
      “ก็เอออะสิ แล้วรู้ได้ไงอ่ะ”
      “เขาบอกฉัน แล้วตอนนี้พวกเธอไปไหนแล้ว”
      “ก็นี่มันนานมาแล้ว ป่านนี้ก็คงกลับบ้านกันแล้วมั่ง”
      “แย่แล้วเว้ย”เอกกับนนไม่ทันได้ถามอะไรผม เพราะตอนนี้ผมวิ่งตรงไปร้านหนังสืออย่างไม่คิดชีวิต เพราะอะไรนะหรอ?ผมว่า คุณคงรู้ ผมไม่รู้หรอกว่าใช่มิ้นหรือปล่าว แต่ถ้าไม่ผิดเธอเคยบอกลักษณะรูปร่าง หน้าตาผมไว้ แล้วก็บอกว่าเธอมีเพื่อนสนิทชื่อแจส และ
      ป๊อป นั้นไง!! มิ้น มิ้นจริงด้วย ผมมองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งในร้านหนังสือกำลังยืนคุยกับคนขายที่คงจะเป็นเพื่อนของเธอ ลักษณะของเธอนั้นตรงกับคนที่ผมอยากเจอ
      โครม!!!
      “เห้ย รีบไปดูโฟร์ทเร็ว”
      “เป็นอะไรไปเนี่ย มิ้นๆ โฟร์ทต้องรีบไปหามิ้น โอ้ย”ผมพยายามจะลุกแต่ก็รู้สึกเจ็บที่หัวอย่างมาก หันไปมองรอบๆด้ายจึงรู้ว่าตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล
      “เออ หมอขอวินิจฉัยอาการของคุณว่า เกิดจากการเดินเซ้อซ่าจึงไปชนเข้าอย่างจังกับแผ่นไม้ที่คนงานกำลังขนอยู่”นนแกล้งเรียนแบบพูดเหมือนหมอ
      “ไม่ตลกนะเว้ย”ผมพูดอย่างอารมณ์เสีย และตั้งแต่นั้นมาผมก็พยายามหามิ้น ถามเอก ก็บอกว่าไม่ได้ขอเบอร์แจสไว้ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมโกรธไอ้นี่ที่ไม่ได้ขอเบอร์ผู้หญิง เฮ้อผมคงไม่มีวาสนาเจอเธอจริงๆสินะ


           เป็นเวลาผ่านไปนานแล้ว ที่ฉันเรียนจบจากชั้นมัธยมปลาย ได้เข้ามาอยู่ในมหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝัน อยู่ในคณะที่ชอบ แต่ความรู้สึกตอนนี้เหมือนมันขาดอะไรอะไรบางอย่างไป ป๊อป และแจสเพื่อนรักทั้ง2ของฉัน ป่านนี้ไม่รู้ว่าเป็นยังไงกันบ้างแล้ว แจสย้ายไปภาค
      ใต้กับครอบครัว จึงไปเรียนต่อที่นั้นเมื่อเดือนที่แล้วยังโทรคุยกันอวดว่าพูดภาษาใต้ได้คล่องแล้วอยู่เลย ส่วนป๊อปถูกพ่อส่งไปเรียนต่อที่ระเทศฝรั่งเศส ตอนแรกเจ้าตัวก็ไม่ยอมไป แต่พอหลังๆก็ส่งรูปถ่ายคู่กับหนุ่มเมืองน้ำหอมมา ฉันก็เลยเดาว่าป่านนี้คงมีแฟนเป็นชาว
      ฝรั่งเศสไปแล้ว เวลาโทรไปหาก็มักจะแกล้งทักทายฉันด้วยภาษาฝรั่งเศส อย่างเช่น
      “กอม มอง ตะเล วู๊”พอฉันถามคำแปลยายนี่ก็บอกแต่ให้ไปหาเอง
      ต่างคนต่างก็เรียนกันหนัก พักหลังนี้พวกเราจึงเลยไม่ได้โทรติดต่อกันบ่อยๆเหมือนตอนแรกที่ต้องห่างกัน มาตอนนี้ฉันถึงรู้ว่าเพื่อนสมัยมัธยมเป็นเพื่อนที่สนิทกันที่สุดแล้ว แม้ว่าเราจะทั้งแกล้งทั้งล้อกันสารพัด แต่พวกเราก็ไม่เคยจะโกรธกันจริงๆสักที

           วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ร้อนและอบอ้าวของกรุงเทพ   ผมเดินทางผ่านถนนสายเดิมที่ตัดผ่านหน้าโรงเรียนเก่า ถนนสายที่ผม เอก และนนเคยเดินหยอกล้อเล่นกันทุกเช้า ป้าที่ขายเยลแต่งผมคนเดิมยังคงนั่งอยู่ที่ประจำ แต่วันนี้ดูจะมีริ้วรอยเพิ่มมากกว่าเก่า ผมก็เลยอดคิดถึงช่วงที่อยู่มัธยมปลายไม่ได้ คิดถึงไอ้เพื่อนซี้ตัวแสบขึ้นมาจับใจ ตอนนี้นนก็คงช่วยพ่อทำงานในอู่ซ่อมรถกิจการของครอบครัว ธุรกิจคงรัดตัวเหลือเกิน ซักจนไม่มีเวลามาเจอกัน
      “เออนะโฟร์ท เรายังไม่ว่างนะ”เป็นคำพูดประจำตัวที่พูดกับผม
      ส่วนเอกไปเรียนต่อราชภัฏตอนนี้ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง สงสัยจะมีเพื่อนใหม่ เลยลืมเพื่อนอย่างผมไปแล้วแน่ๆ มีแต่ผมคนเดียวในกลุ่มนี่แหละที่โดนพ่อกับแม่เคี้ยวเข็นเอ็นติดจนได้ ถึงจะมีเพื่อนมากมายแต่ยังไงก็คงลืมพวกนี้ไม่ได้

      “โอ้ย” อยู่ๆก็มีผุ้ชายซุ่มซ่ามที่ไหนไม่รู้มาเดินชนฉัน หนังสือตกกระเด็นเต็มไปหมด แต่ดูสิแทนที่ตานั้นจะมาช่วยฉันเก็บ ไม่มีละ กับยืนเฉยมองฉันตาไม่กะพริบ ยังๆไม่เลิกอีก ขณะฉันเดินหนีออกมาแล้วก็ยังไม่เลิกเดินตามซะที นี่ถ้าเข้าไปในร้านอินเทอร์เน็ตแล้วยังไม่เลิกตามอีกนะ จะบอกให้ตำรวจมาจับไปซักให้เข็ด

           เยี่ยม!!ยอด!!โอ้.......... ผมไม่รู้จะมีคำไหนที่จะบอกถึงความดีใจ ความสุขที่ประดังเข้ามาในตัวผมให้คุณได้รู้เลย วันนี้วันที่ผมเคยสิ้นหวังกับมันมาแล้ว ว่าจะไม่มีวันเกิดขึ้น แต่มันก็มีวันนี้จนได้
           ผมได้พบเธอแล้วครับ ผมได้เจอมิ้นแล้ว เธอก็คือยายเสื้อฟ้าหัวโจกที่นินทาผม ทำไมโลกชั่งกลั่นแกล้งผม กลั่นแกล้งชายผู้แสนดีแต่อาภัพรัก ฮึฮึ ผมเห็นว่ามันใกล้จะจบเรื่องก็เลยขอชมตัวเองสักที แต่ยังนะครับเรื่องมันยังไม่จบเท่านี้

      “เมลล์ใครแปลกๆ”ฉันพูดกับตัวเองเมื่อกดon MSN
      เฮ้อ!!ทำไงดีละ ตาที่เดินชนฉันคนฉันก็เข้ามาในร้านอินเทอร์เนตด้วย แถมยังมานั่งข้างๆฉัน นั้นแล้วยังชะโงกมาดูอะไรที่จอคอมฉันอีก
      “สวัสดีครับมิ้น”
      “สวัสดีค่ะ”
      “ใครอะ แล้วรู้ชื่อมิ้นได้ยังไงกันคะ”ฉันถามคนที่แอดเมลล์เข้ามาใหม่
      “แหม่ ลืมกันแล้วหรอมิ้น”
      “?”
      “คุณมิ้นครับ”
      “อะไรรึ”
      “คุณจะให้เกียรติเต้นรำกับผมสักเพลงได้ไหมครับ” โฟร์ท ต้องใช่โฟร์ทต้องเป็นเขาแน่ๆ
      “ตาบ้า แล้วจะให้เต้นได้ยังไงอะฮ่ะก็ในนี้มัน........ “ในนี้มันอินเตอร์เนตใช่ไหมล่ะ”ฉันยังพิมพ์ตอบไม่ทันจบก็มีเสียงหนึ่งแทรกขึ้น
      เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นไปดู ฉันก็เห็นเขาตาโรคจิตที่ตามาฉันมาที่นี้ ใช่แล้วเขายังเป็นคนเดียวกับที่ฉันเคยล้อว่าตาหัวน้ำมันเยิ้ม

      “ถ้าเป็นตอนนี้มิ้นคงจะปฏิเสธเต้นรำกับโฟร์ทไม่ได้แล้วล่ะ”ผมเริ่มจู่โจมถามมิ้นขณะที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว นั้นๆเธอรีบเดินออกจากร้านไปเลย ท่าทางคงจะงอนผมน่าดู แต่ผมรู้ว่าใจเธอกับใจผมตอนนี้คงคิดเหมือนกัน
      “มิ้นอย่าพึ่งไปสิ อ่านี่ครับพี่ ค่าอินเตอร์เนตของ2คนครับ มิ้นๆรอโฟร์ทด้วย”

           ตั้งแต่วันนั้นฉันกับโฟร์ทก็ได้ติดต่อพูดคุยเป็นเพื่อนกันมาตลอด เราพอใจที่จะคบกันเป็นเพื่อน เพราะยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง
      คงต้องแล้วแต่เวลาและความเป็นไปเพื่อดูว่าความสัมพันธ์ของเราจะเป็นได้แค่ไหน แต่สิ่งที่ฉันดีใจที่สุดที่ฉันไม่ใช่การได้เจอโฟร์ท แต่ มันคือมิตรภาพต่างหากละ คือสิ่งที่ฉันดีใจและมันทำให้ฉันมีความสุขมาก มิตรภาพที่ยังไม่จางหายไปตามกาลเวลา มิตรภาพที่ยังคงอยู่เสมอไม่ว่าเราจะคบกันผ่านทางไหน ตราบใดที่เรามีความจริงใจให้แก่กันสิ่งนี้ก็คงจะยังมีอยู่เสมอ
           และจากสิ่งนี้นี่เอง ที่ทำให้ฉันตั้งใจที่จะไม่ละทิ้งมิตรภาพเก่าๆที่ฉัน ป๊อปและแจส เคยมีให้กัน ฉันจึงตัดสินใจโทรหาพวกเธอ
      ป๊อปพึ่งเลิกกับแฟนหนุ่มชาวฝรั่งเศส เธอบอกเธอดีใจมากที่ฉันโทรไปหา เพราะเธอไม่รู้ว่าจะไปปรึกษาใคร “ยามที่ไม่มีใครก็มีแต่เพื่อนละน่ะให้คอยปลอบใจ” ป๊อปบอกเมื่อทำใจเรื่องคนรักได้แล้ว ส่วนแจสก็บอกว่าเหงามากเพราะครอบครัวเธอต้องย้ายไปทำธุรกิจที่ภาคเหนืออีก พวกเราทั้ง3คนจึงให้สัญญากันว่าจะเป็นเพื่อนกันจนวันตาย

           เดี๋ยวสิ เดี๋ยวสิครับมิ้นอย่าพึ่งจบๆ ลืมผมไปทั้งคนได้ยังไง ผมก็มีเรื่องจะเล่าเหมือนกันนะคร้าบ
      แหะๆแต่มันก็ไม่ยาวอะไรหรอกครับ เอกเริ่มเคลียธุรกิจอู่ซ่อมรถของได้ก็เลยเริ่มมีเวลาให้เพื่อน มันบอกว่ามีแต่ผมกับนนนี่แหละที่เป็นเพื่อน2คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ ส่วนนนก็ตามประสาคงไม่พ้นเรื่องติดผู้หญิง มันบอกกับผมว่า “ ตอนนี้เรานะรักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรียน และเกาะเพื่อนกิน ไปจนตาย55555” ดูมัน ในกลุ่มของผมเนี้ยดูเหมือนจะมีผมคนเดียวที่ทั้งแสนดีทั้งอ่อนโยน โอ้ยสารพัดความดี “ใช่ไหมฮ่ะมิ้น อ้าวมิ้น มิ้นหายไปไหน”


      แต่ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ยังไงก็ตาม แต่ฉันมีอยู่สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกคุณ ก็คือ

      “มิตรภาพของเพื่อนนั้นจะอยู่กับเราตลอดไป”





      ---จบ- - -

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×