ช่วยแต่งชื่อเรื่องอีกซิคะ ช่วยหน่อย - ช่วยแต่งชื่อเรื่องอีกซิคะ ช่วยหน่อย นิยาย ช่วยแต่งชื่อเรื่องอีกซิคะ ช่วยหน่อย : Dek-D.com - Writer

    ช่วยแต่งชื่อเรื่องอีกซิคะ ช่วยหน่อย

    โดย big dream

    พอดีว่าไม่มีพรสวรรค์การแต่งชื่อเรื่องแน่ะค่ะ ช่วยหน่อยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

    ผู้เข้าชมรวม

    342

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    342

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 ส.ค. 48 / 08:33 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ฉัน‘ปรางค์วลี’หรือ‘ปรางค์’ฉันเป็นผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง  ตอนนี้ฉันเรียนจบชั้นมัธยมต้นแล้ว  จบจากโรงเรียนแห่งหนึ่งเป็นโรงเรียนที่ฉันมีเพื่อนมากที่สุด ฉันกับเพื่อนนัดกันว่าจะไปสอบเข้าโรงเรียนประจำชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นโรงเรียนที่คนมีฐานะเค้าเรียนกัน...ฐานะฉันก็ดีเหมือนกัน และ เป็นโรงเรียนที่สอบเข้ายากมาก   ปรากฎว่ามีฉันกับเพื่อนอีก4-5คนที่สอบติด  แล้วนี่ฉันต้องจากกับเพื่อนจริงๆหรือนี่   งานนี้ฉันเศร้าอยู่ตั้งหลายวัน
          “เก่งจังเลย ปรางค์ ฉันอุตส่าห์อ่านหนังสือแทบตายแต่ก็ทำไม่ได้” ‘ขวัญ’เพื่อนสนิทของฉันว่า
          “ก็เธอไม่ยอมมาเรียนพิเศษที่เดียวกับฉันนี่”ฉันว่า
          “แล้วนี่โรงเรียนเปิดวันไหนล่ะ”ขวัญถาม
          “อีกเดือนนึง  แต่ต้องไปเรียนปรับพื้นฐานอีก4วันก่อนโรงเรียนเปิด”ฉันทำหน้าเซ็งๆ
          “โชดดีจังเลย  ดูโรงเรียนฉันสิเรียนปรับพื้นฐานตั้งแต่สัปดาห์หน้ายันเปิดเทอมโน่นแหละ”ขวัญว่า  
          “แต่เธอยังมีเพื่อนที่รู้จักอีกตั้งหลายคน ฉัน....ที่สนิทก็มีแค่‘นาต’คนเดียว”ฉันว่ากลับ
          “โชคดีนะ  ฉันต้องไปแล้วละ”ขวัญพูดจบก็เดินจากไป  ส่วนฉันก็นั่งเศร้าอยู่ที่ร้านนั้นคนเดียว ซักพักก็เดินกลับบ้านไป.....อยากร้องไห้จังเลยแต่ร้องไม่ออก          
      *********************************************
          พรุ่งนี้แล้วสินะที่ฉันต้องไปเรียนปรับพื้นฐาน แต่ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ช่างมันเถอะ  อย่างน้อยฉันก็มีเพื่อนแหละน่า  
          วันนี้ฉันรีบแต่งชุดนักเรียนชุดใหม่ส่องกระจกนานอยู่หลายนาที  เอ้อ...ชุดนี้มันเข้ากับฉันดีแฮะ  แต่พอฉันก้าวเข้าไปในโรงเรียน.......ให้ตายซิ   มีคนที่ใส่ชุดนักเรียนกี่คนกันละเนี่ย(มีแต่คนใส่ชุดบ้านมาทั้งนั้น)ฉันพยายามมองหาเด็กหญิงม.4ที่สวมชุดนักเรียน อ้อนั่นไงฉันเจอแล้ว สวยซะด้วยแต่ว่าฉันจะเข้าไปทักยังไงดีน้า จะไปพูดสวัสดีค่ะ......ก็ดูผู้ดีเกินไป หรือจะเข้าไปถามชื่อเลย.....เสียมารยาทน่า  
          “อ้าววันนี้เธอก็ใส่ชุดนักเรียนมาด้วยหรอ  ฉันก็เหมือนกันน่าอายชะมัดเลยแฮะ”เด็กผู้หญิงคนนั้นเข้ามาทักฉันอย่างมั่นใจ....ใครจะมาเหมือนฉันล่ะไม่มั่นใจในตัวเองเลย  
          “เอ้อ....หวัดดี เธอชื่ออะไรหรอ.....”ฉันพยายามยิ้มอย่างเต็มที่  เมื่อไหร่นาตจะมาซักทีน้า        
          “ฉันชื่อพรีม  ท่าทางเธอกระวนกระวายจังเลย”พรีมว่า  
          “ฉันชื่อปรางค์  กำลังรอเพื่อนอยู่”ฉันตอบออกไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก  
          “แล้วเธอมาจากไหนหรอ  ต่างจังหวัดหรือเปล่า ฉันมาเรียนคนเดียวที่นี่ไม่รู้จักใครเลย”พรีมตอบพลางฉีกยิ้มกว้าง  พรีมนี่สวยชะมัดเลย...ยิ่งตอนที่ยิ้มยิ่งสวย  แต่นี่มันสายแล้วนะ ยัยนาตยังไม่มาอีก.....
          “ฉันก็อยู่ที่นี่มานานแล้ว  ไปห้องประชุมดีกว่าสายแล้ว”ฉันตอบ.....ขอโทษด้วยยัยนาตอยากมาสายเองฉันไปล่ะนะ...ขอโทษอีกครั้ง
          “แล้วไม่รอเพื่อนเธอก่อนล่ะ  เดี๋ยวก็หาเธอไม่เจอหรอก”พรีมว่าพลางทำหน้าสงสัย  
          “ไม่ละ  ไม่อยากรอถ้าไม่เห็นก็คงโทรตามเองแหละ”ฉันตอบพลางเบ้ปากแล้วรีบเดินอ้าว  
          “รอดีกว่า เดี๋ยวเพื่อนปรางค์โกรธนา”พรีมดึงมือฉันไว้  ฉันก็ตกลงรอก่อน(เพื่อมิตรภาพที่แสนงดงาม)....ซักพักยัยนาตก็มา ฉันก็เลยแนะนำให้พรีมกับนาตรู้จักกัน  แล้ววันนี้ก็ผ่านไปโดยดี(หรือเปล่า) ฉันก็เทศน์ยัยนาตจนปากแห้งคอแห้งหมด  
      *********************************************
          หลังจากที่ฉันเข้าเรียนปรับพื้นฐานครบวันก็ได้รู้อะไรมากขึ้น(แต่ความไม่มั่นใจก็เหมือนเดิม)ฉันรู้จักเพื่อนอีกหลายคนแต่ไม่คิดจะสนิทด้วยหรอก.....แบบว่าไม่ค่อยมั่นใจเวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อน  
          ฉันเรียนสัปดาห์แรกงานก็โคตรเยอะเลย  แถมวันเสาร์นี้รุ่นพี่ก็จัดงานรับน้องใหม่อีก ไม่รู่ว่าจะโดนอะไรบ้าง  แต่งานนี้รุ่นพี่เค้ารับน้องกันเป็นกลุ่มๆ  ฉันได้อยู่กลุ่ม2 กลุ่มเดียวกันกับนาตและพรีม.......โชคดีจังเลย   แต่ละกลุ่มจะมีรุ่นพี่คอยคุมอยู่กลุ่มละสองสามคน  พรุ่งนี้ฉันไม่รู้เลยว่าจะโดนอะไร ยิ่งไม่ค่อยรู้จักรุ่นพี่เสียด้วยสิ....อา...ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเลย  
          “อ้าวพรีมมาแต่เช้าเลยนะ”ฉันทักพรีมทันทีที่เห็นหน้า  
          “จ้า  แล้วนาตล่ะ..........สายตามเคยสินะเดี๋ยวก็โดนทำโทษหรอก”พรีมถามหานาตทั้งๆที่รู้ว่านาตมาสายได้ทุกวัน  ไม่รู้ว่าทำไม....สงสัยหาโรงเรียนไม่เจอ  ฮิฮิฮิ  
          “วันนี้จะรอนาตอีกมั้ย พรีม”ฉันถามพรีม  
          “อืม รอดีกว่านะ ถ้านาตโดนทำโทษละก็ จะได้โดนด้วยกันไง”โธ่.....พรีมพูดออกมาได้ไงเนี่ย  ไม่รู้เลยว่ารุ่นพี่จะโหดหรือเปล่า  คิดแล้วสยอง  
          “แต่ว่าถ้าพี่เค้าโหดขึ้นมาล่ะจะทำยังไง”ฉันถามออกไป   ทั้งที่รู้ว่าพรีมจะตอบว่าอะไร......ก็ตอบว่า ไม่เป็นไรหรอกน่า  ทุกทีที่ฉันกังวลพรีมก็พูดอย่างนี้ทุกที  
          “ไม่เป็นไรหรอกน่า”เห็นมั้ยว่าฉันทายถูก
          “เธอนะ...มองโลกในแง่ดีเกินไปหรือเปล่า”ฉันถามออกไปเล่นๆ  
          “ก็ยังดีกว่าคนที่มองโลกในแง่ร้ายละน่า”พรีมว่า  ตั้งใจจะกัดฉันหรือเปล่าเนี่ย  
          “น้องๆกลุ่ม2 มารวมตัวกันทางนี้นะครับ”พี่ที่คุมกลุ่มฉันตะโกนเรียกรุ่นน้อง เอาละซี่ยัยนาตยังไม่มาอีก  คราวนี้ฉันจะเทศน์ให้น่วมอีกคอยดูนะ
          “รออีกแป๊บนึงซิคะรุ่นพี่  เพื่อนฉันยังไม่มาเลยค่ะ”โอ้โห....ยัยพรีมมั่นใจถึงขนาดว่าไปขอร้องรุ่นพี่เลย  
                    “ไม่ได้  เธอเป็นใครมาพูดกับรุ่นพี่หยั่งงี้ได้ไง”รุ่นพี่คนนั้นถามด้วยสีหน้า(หล่อๆ)บอกบุญไม่รับ
          “ขอโทษค่ะรุ่นพี่ ขอโทษแทนเพื่อนฉันด้วยนะคะ อย่าเอาเรื่องเลยนะคะ”ฉันรีบเข้าไปขอโทษขอโพย  
          “อ้อ....เธอชื่อปรางค์ใช่มั้ย”อีตาพี่คนนี้รู้จักฉันได้ไงเนี่ย  
          “พี่รู้จักปรางค์ได้ไงค่ะ”พรีมถามแบบกล้าๆกลัวๆ  
          “ก็ไอ้ตั้มมัน...เอ๊ย...ไม่ใช่ไม่มีอะไรหรอก”เออแปลก..อยู่ๆก็รู้จักชื่อฉัน..ประสาทแล้วมั้ง  
          “พรีม ปรางค์หวัดดีจ้า แฮ่กๆๆ”ยัยนาตเรียกฉัน แล้วทำไมต้องหอบแฮ่กๆด้วยละ  สงสัยรีบวิ่งมาแหงๆเลย   ถ้าฉันไม่ได้อยู่ต่อหน้า(หล่อๆ)รุ่นพี่  ฉันจะถามยัยนาตออกไปว่าหาโรงเรียนไม่เจอหรือไง
          “ไปกันเลยนะ อย่าไปสนใจคนใจร้ายเลย”พรีมรีบดึงข้อมือฉันกับนาตแล้วสะบัดหน้าใส่รุ่นพี่คนนั้น  ที่ยืนยิ้มๆอยู่....ฉันเองก็ได้ข่าวว่าโรงเรียนนี้มีหนุ่มป็อบด้วย   สงสัยพี่คนนั้นคงเป็นหนึ่งในนั้นด้วยมั้ง  
      *********************************************
          “วันนี้พี่จะให้น้องแนะนำตัวก่อนนะคับ  แล้วต้องจำชื่อเพื่อนๆให้ได้มากกว่าสิบคนนะ”คำสั่งบ้าอะไร ฉันไม่ใช่อัจฉริยะน่ะ จะให้จำได้ตั้งสิบคน...ยิ่งเป็นคนขี้ลืมอยู่ด้วย  
          “พรีมเธอจำได้มั้ย”ฉันถามพรีมหลังจากที่ทุกคนแนะนำชื่อตัวเองเรียบร้อยแล้ว....ก็ที่ฉันจำได้ไม่ถึงสิบคน....จะบ้าตาย แล้วต้องโดนอะไรบ้างละทีนี้
          “ให้ตายซิ...ฉันจำได้แค่เก้าคนเอง”พรีมบอกเนือยๆ
          “ฉันล่ะ จำได้แค่หกคน เอ้า....เป็นไงเป็นกันละ...สู้ตายนะ”ฉันถอนใจแล้วพยักหน้าหงึกๆ  
          “นี่...พวกเธอรู้อะไรมั้ย  ฉันจำได้สิบคนเป๊ะเลยละ”ยัยนาตหันมาบอกพลางยิ้มรื่น  
          “พรีม...ใกล้ถึงตาเธอแล้วนะ”ฉันเตือนพรีมหลังจากที่เห็นว่าเหลืออีก2-3คนก็ใกล้ตัวพรีมแล้ว      
          “ฮือๆๆ...ตายแน่เลย นาตบอกฉันบ้างซี่”พรีมหันไปขอความช่วยเหลือจากนาต
          “เอ๋...ฉันรู้สึกว่าฉันจะลืมไปชื่อนึงนะ งั้นเรา...ก็โดนด้วยกันนะ”นาตหน้านิ่วคิ้วขมวด..คงพยายามนึกอยู่ละมั้ง
          “อ้าวน้องพรีมเชิญเลยครับ”อ้าวถึงตาพรีมแล้วหรือนี่ เดี๋ยวก็ต้องเป็นฉัน...อยากตาย...เฮ้ยใครก็ได้ช่วยเอาฉันไปจากที่นี่ที...พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยปรางค์ด้วย
          ยัยพรีมบอกได้แค่แปดคนก็เงียบ  ก็พรีมเป็นคนแรกที่จำได้ไม่ถึงสิบคนนี่  แต่รู้สึกไอ้รุ่นพี่มันจะยิ้มเหมือนมีความสุขนะ  ฉันรู้สึกเกลียดขี้หน้าชะมัด  (ถึงจะหล่อแค่ไหนก็ตาม) คอยดูนะฉันจะไม่ยิ้มให้แม้แต่นิดเดียว  ถ้าเจอฉันจะไม่ทัก(กฏของโรงเรียนมีอยู่ว่าถ้าเจอรุ่นพี่ต้องทักด้วย)
          “น้องพรีมคงจำไม่ได้สินะ ออกมานี่ซะดีๆ”ไอ้รุ่นพี่บ้า...บังอาจมาก อย่าทำอะไรเพื่อนฉันนะ..(คิดได้แค่ในใจไม่กล้าทำอะไรจริงๆหรอก  ฮี่ฮี่ฮี่)
          “รุ่นพี่คะ  แค่นี้เองไม่เห็นจะต้องเอาเรื่องเลยนี่”ฉันรวบรวมความกล้าพูดออกไป....แต่ว่าทำไมต้องมองฉันหยั่งงั้นด้วย....ฉันกลัวน้าาาา  
          “คงไม่ได้นะครับ  กติกาเราตั้งไว้แล้ว”รุ่นพี่คนนั้นพูดอย่างเย็นชา(น่าจะเป็นชาเย็น)  
          “ก็เปลี่ยนไปเล่นอย่างอื่นไม่ได้เหรอคะ  พวกฉันมันขี้ลืมนี่”ฉันตะโกนออกไปโดยไม่สนใจว่าจะทำให้ใครโกรธหรือเปล่า...ผิดคาดแฮะแทนที่จะโกรธกลับหัวเราะกันอย่างสุขใจ...งี่เง่าที่สุดเลย ฉันเป็นตัวตลกหรือไงหา
          “ปรางค์.....พอแล้ว  ยังไงเราก็โดนกันอยู่แล้วนี่.........เอ่อ  รุ่นพี่คะอย่าถือสาปรางค์เลยนะคะ  ปรางค์ก็คงจะกังวลใจมากเกินไปนะคะ  อย่าโกรธนะคะ”นาตหันมาพูดกับฉันจบก็หันไปขอร้องรุ่นพี่........รุ่นพี่ยิ้มมีเลศนัย  น่ากลัวจัง.....แต่ว่าเมื่อตะกี้ฉันพูดอะไรออกไป...อ๊ายยยยยย  แย่ที่สุดเลย
          “ถ้าน้องๆสามคนกล้าทำแบบนี้แสดงว่าอยากโดนใช่มั้ย”ไอ้รุ่นพี่ที่อยู่คนถัดไปว่า  
          “ปละ....เปล่าคะ........ฉันขอโทษค่า....ขอโทษจริงๆ”ฉันพร่ำพูดแต่ขอโทษอยู่พักใหญ่  จนรุ่นพี่ต้องรีบพูดให้ฉันหยุด.....โอ๊ย นี่ฉันไปสร้างเวรสร้างกรรมอะไรนักหนา                
          “พอๆๆได้แล้ว  พี่ไม่มีเวลามาฟังคำขอโทษจากน้องหรอก  เอาเป็นว่าพี่ขอทำโทษน้องทั้งสามคนนะ”รุ่นพี่ที่หล่อที่สุดบอก(แบบว่าหล่อทุกคนเลย).......โอเคโดนก็โดน  
          “เอาเป็นว่าพวกฉันยอมรับโทษค่ะ”ยัยนาตพูดอย่างมั่นใจ  
          “รุ่นพี่จะให้เราทำอะไรล่ะคะ”พรีมก็มั่นใจอีกแล้ว  ว้า...แล้วฉันจะพูดอะไรดีละเนี่ย         
          “เย็นนี้เจอกันน่ะ  วันนี้มาทำกิจกรรมอื่นก่อนแล้วกัน”รุ่นพี่ยิ้มเยาะ.......คอยดูนะวันนี้หรือวันไหนๆก็ตาม ฉันจะไม่ให้พวกรุ่นพี่เห็นรอยยิ้มฉันแม้แต่รอยยิ้มเดียว  
      *****************************************
          วันนี้หลังจากที่รับน้องใหม่เรียบร้อยแล้วฉันก็ต้องโดนทำโทษในตอนเย็นนี้อีกทั้งๆที่วันนี้ฉันโดนไปแล้วตั้งหลายรายการ  เบื่อจังเลย.......คิดถึงขวัญจังเลย  ป่านนี้ขวัญคงมีความสุขอยู่ละมั้ง  ฉันเดินมารอรุ่นพี่พร้อมๆกับนาตและพรีม  คิดแล้วน่าปวดหัว  จะโดนอะไรอีกน้า  หวังว่าไม่หนักหนาอะไรนะ  แต่พอนึกถึงไอ้รอยยิ้มที่รุ่นพี่ยิ้มเมื่อเช้าแล้วหนาวง่ะ.....ง่าาาา
          “อ้าวมากันแล้วหรอ นึกว่าจะให้พี่ทำโทษอีกรายการ”รุ่นพี่แซวแล้วยิ้มน้อยๆ.......ฉันน่ะเหรอบึ้งใส่สิ แต่ก็อยากจะยิ้มให้  ก็รุ่นพี่แต่ละคนหล่อมากๆ โดยเฉพาะเวลายิ้ม เสียก็แต่นิสัย  
          “ว่ามาสิคะจะให้ฉันทำอะไร  ฉันจะได้รีบกลับหอซะที”พรีมบ่นอย่างรำคาญ  แต่แววตาหวั่นๆชอบกล  
          “อย่างน้องๆ ไม่ยากหรอกพี่อยากให้ทำไม่กี่อย่างเอง”แววตาเจ้าเล่ห์แฮะ  คงไม่ให้ทำอะไรพิเรนๆนะ
          “ค่า รุ่นพี่”เราสามคนรับพร้อมกันแบบประชด  
          “ฟังให้ดีนะ  ทุกอย่างเธอต้องทำเป็นเวลาหนึ่งเดือน”
          “หนึ่งเดือน  จะบ้าหรือไงคะ”ฉันตะโกนถามด้วยความตกใจ
          “หยุดเลยนะ  หนึ่งเดือนไม่พอหรือไง”รุ่นพี่ว่า  
          “พอแล้วค่ะ”ฉับรับหน้าจ๋อยๆ     
          “พี่จะพูดยาวไปเลยนะ  อย่าขัดจังหวะไม่งั้นโดน..........ข้อหนึ่งพวกน้องๆ ห้ามเรียกพี่ว่ารุ่นพี่และเรียกแทนตัวเองเป็นชื่อห้ามแทนว่าฉัน  ข้อสองพวกน้องๆต้องทานข้าวเที่ยงกับพี่ทุกวันห้ามเบี้ยวแม้แต่วันเดียว  ข้อสามห้ามไปทานข้าวกับผู้ชายเด็ดขาด ข้อสี่พวกน้องๆห้ามทำหน้าบึ้งอย่างนี้ให้พี่เห็นนะ  ข้อสุดท้ายห้ามมีแฟนในระยะเวลาหนึ่งเดือนนี้  เข้าใจใช่มั้ย  อ้อ....เดี๋ยวมาทำความรู้จักกันก่อนนะ”รุ่นพี่ร่ายยาว
          ฉันจะบ้าตาย ทำอย่างนี้ฉันก็เหมือนเป็นแฟนกับรุ่นพี่สิ  ฉันพยายามจะถามแต่ไม่กล้า ดูสีหน้าเพื่อนฉันก็ไม่ต่างอะไรจากฉันเลย  ต้องมาทานข้าวกับหนุ่มป็อบ  เดี๋ยวก็โดนนินทา  แย่ที่สุดเลย
          “นี่ รุ่นพี่ต้องการอะไรกันแน่คะ  ทำไมพวกฉันต้องทำตามรุ่นพี่ด้วย”พรีมว่าออกไปอย่างดุเดือด  
          “มันเป็นการทำโทษเข้าใจมั้ย”รุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้น  
          “จะให้เริ่มเมื่อไหร่”นาตถามออกไปแบบไม่เคารพแล้ว  
          “วันจันทร์นี้  โอเค้”รุ่นพี่อีกคนหนึ่งตอบ  
          “พี่รู้จักน้องๆแล้ว  แต่น้องยังไม่รู้จักพี่เลย”
          “งั้นก็รีบๆบอกสิ  จะได้ไปพ้นๆหน้าซะที”ฉันขมวดคิ้ว
          “พี่ชื่อพี่พล”รุ่นพี่คนที่หล่อที่สุด
          “พี่ตั้มครับ”รุ่นพี่ที่ยิ้มหวานที่สุด
          “พี่แซนด์ครับ”รุ่นพี่ที่ขรึมที่สุด
          “แล้วจะพยายามจำชื่อให้ได้นะคะ สวัสดีค่ะ”พรีมพูดจบก็สะบัดหน้า(อีกแล้ว)เดินออกไป  เช่นเดียวกันกับนาตและฉัน  สงสัยสะบัดหน้าเพราะกลัวเขาจะไม่เห็นหน้าสวยๆของเทพธิดาอย่างเรา
      *********************************************  
          วันนี้แล้วสินะที่ฉันต้องโดนทำโทษบ้าๆ  โอย...คิดแล้วปวดหัวตึ้บเลย  ฉันไม่เคยกินข้าวกับผู้ชาย(ยกเว้นพ่อกับพี่ชาย)  แล้วฉันจะทำหน้ายังไงดี  อย่าหาว่าฉันเข้าข้างตัวเองเลยนะ....ฉันว่ารุ่นพี่กำลังจีบฉันแบบข่มขู่อยู่นะ  ฉันก็เคยมีผู้ชายมาจีบบ้างนะ แล้วฉันว่ารุ่นพี่คงจะจับคู่ได้เจ๋งเป้งเลย  ใครกันที่ชอบคนอย่างฉันเนี่ย  แต่เอาเป็นว่าห้ามยิ้มให้อีตารุ่นพี่พวกนั้นเห็นก็แล้วกัน    
          “หวัดดีครับน้องปรางค์  น้องพรีมแล้วก็น้องนาต วันนี้คงไม่ลืมนะ”ไอ้พี่ตั้มทักฉันกับเพื่อน  
          “สวัสดีค่ะ พี่-ตั้ม ปรางค์ไปเรียนก่อนนะคะ”ฉันเน้นชื่อพี่เค้าหนักๆ  
          “โชคดีนะครับ”พี่ตั้มยิ้มให้ฉันอีกแล้ว....เธอต้องอดทนอย่าไปแพ้รอยยิ้มพี่เค้านะปรางค์วลี  
          “ขอบคุณค่ะ”ฉันว่า  แล้วรีบเดินไปให้พ้นจาก‘รอยยิ้มพิฆาตหัวใจ’
          “เที่ยงนี้เจอกันนะครับ”พี่ตั้มส่งรอยยิ้มพิฆาตหัวใจก่อนจะเดินจากไป  
          “จะพยายามลืมค่ะ...เอ๊ย..จะไปให้ทันค่ะ”ฉันว่า  แต่ก็ไม่ยิ้มให้สักครั้งเดียว  
          “ไปกันเถอะปรางค์  เดี๋ยวก็เข้าเรียนไม่ทันหรอก”    พรีมสะกิดฉัน
          ฉันเรียนคาบแรกก็โคตรเซ็งเลย  วิชาคณิตบ้าอะไรฟะ  น่าเบื่อฉันเอานิยายออกมาอ่านในคาบนั้นเกือบครึ่งเล่ม  คาบสองภาษาไทยฉันตั้งใจเรียนมาก  คาบที่สามนาฏศิลป์  อี๋.........ฉันเกลียดวิชานี้มากๆ ได้คะแนนเกือบตกทุกครั้งที่สอบ  คาบสุดท้ายของช่วงเช้าฉันกระวนกระวายไม่ต่างไปจากพรีมและนาตเลย ก็ฉันต้องไปทานข้าวกับไอ้รุ่นพี่เฮงซวยทั้งหลายแล้วนะสิ  เออ..ใช่วันนี้ช่วงบ่ายคาบแรกฉันว่าง  ไม่รู้ว่าว่างตรงกันกับไอ้รุ่นพี่นั้นหรือเปล่า
      *********************************************
          ฉัน พรีมแล้วก็นาตเดินมารอที่ระเบียงใกล้บันไดตึกที่ไอ้รุ่นพี่มันอยู่(หยาบคายจัง) ฉันเห็นรุ่นพี่คนอื่นมองแล้ว ฉันหน้าจ๋อยเลย(กลัวโดนตบนะซิ)...โอย...เมื่อไหร่จะมาซักทีเนี่ย   ฉันรออยู่เกือบสิบนาทีกว่าไอ้รุ่นพี่เฮงซวยจะมา  เดินมาอย่างเดียวไม่พอยังมาเดินเป็นคู่ฉันกับเพื่อนอีก อ่านดีๆนะ ไอ้พี่ตั้มมันมาเดินข้างฉัน ไอ้พี่พลมันไปเดินข้างพรีม ส่วนไอ้พี่แซนด์มันก็มาเดินข้างนาตแบบไม่ค่อยสบอารมณ์นัก....เป็นไงลงตัวพอดีเลย....ใช่มั้ย..........เห็นสายตาของรุ่นพี่ผู้หญิงแล้ว....หนาววววว  
          “อ้าวน้องๆมาเร็วจังเลย”ไอ้พี่พลว่า
          “ไปกันได้รึยังคะ พี่พล ฉันมีธุระอีกนะคะ”พรีมว่า...กัดฟันพูดด้วยนะ
          “จะรีบทำไม น้องนะมีคาบว่างอีกไม่ใช่เหรอ”ไอ้พี่ตั้มมันรู้ได้ไง..ฮึ่ม.......สงสัยคงจะตรวจมาเรียบร้อยแล้วละซิ..เจ็บใจนักไอ้รุ่นพี่งี่เง่า  เฮงซวย เมื่อไหร่จะไปตายซะทีนะ (อันนี้นึกในใจ)
          “นี่รุ่นนน..เอ๊ย..พี่ตั้มคงจะไปสืบทุกอย่างแล้วใช่มั้ย”ฉันขมวดคิ้วใส่
          “คงจะยังงั้นมั้ง..เนอะปรางค์ พรีม”นาตหันมาพูดพร้อมกับเชิดใส่ไอ้รุ่นพี่เฮงซวย(เอ้า..ด่าเข้าไป อย่าไปพูดให้เขาได้ยินละกันนะ)...แล้วหันมาพยักพเยิดทางฉันกับพรีม  ฉันก็เออออไปด้วย...ก็คนมันเกลียดไปแล้ว  
          “ไปทานข้าวกัน”ไอ้พี่แซนด์ว่า  
          “ค่าาาาาา”เราสามคนกัดฟันรับ
          ก็อย่างว่าเดินมากินข้าวในร้านที่อยู่ในโรงเรียน(ออกไปไม่ได้)ไอ้รุ่นพี่เดินนำเข้าไปในร้านที่หรูที่สุด...คงจะรวยมากล่ะสิ(เพอร์เฟ็กต์ที่สุดเลย)ฉันต้องไปนั่งคู่กับไอ้พี่ตั้ม(เอาเข้าไป..เลิกได้มั้ยคำว่าไอ้น่ะ)แล้วฉันจะสั่งอะไร  เงินในกระเป๋าไม่พอหรอก  ก็เวลาฉันซื้อฉันก็จะกดเงินทีหนึ่ง  นี่ก็ยังไม่ได้กดเงินเลยเพราะไอ้รุ่นพี่มันลากมาพักเดี๋ยว(บ้าที่สุด) พอฉันเข้ามาซักพักฉันก็ว่าจะเดินไปกดเงินนะ  
          “เอ่อ....เดี๋ยวฉัน เอ๊ย..ปรางค์ออกไปกดเงินข้างนอกก่อนนะคะ”ฉันลุกขึ้น
          “ไม่ต้องหรอกวันนี้พี่เลี้ยงข้าวน้องปรางค์เอง”ไอ้พี่ตั้มว่า.....นี่ๆคิดจะเลี้ยงข้าวฉันวันนี้แล้วจะทวงบุญคุณวันหน้าใช่มั้ยล่ะ  ไม่หลงกลหรอกย่ะ  ฉันฉลาดพอ  
          “ขอบคุณมากค่ะ แต่ฉันไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใคร”ฉันพูดประชด  
          “นั่งลงเดี๋ยวนี้ นี่เป็นคำสั่งนะ”เฮ้ยทำไมเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วขนาดนี้...น่ากลัวชะมัดเลย อยู่ยังกะพี่ชายฉันเลย...นึกจะบ้าก็บ้านึกจะดีก็ดี...มึน...
          “เอ๊ะ..นึกจะดีก็ดีนึกจะร้ายก็ร้าย  เหมือนพี่ปันเลยนะ”นาตเอ่ยถึงพี่ชายสุดเฮ้วของฉัน          
          “พี่ปันนี่แฟนปรางค์เหรอ”พี่ตั้มถามอย่างสนอกสนใจ...ฉันนึกสนุกจึงคิดว่าจะแกล้งบอกว่าจริง  
          “อ๋อ....ใช่ค่ะ  หล่อมากด้วยนะคะ”ฉันพูดแต่แอบอมยิ้มนิดนึง  พร้อมกับหันไปพยักพเยิดกับนาตนิดนึง  
          “ใช่ๆ  นาตก็แอบปลื้มอยู่เหมือนกัน  คนอะไรก็ไม่รู้หล่อชะมัด  ถ้ายัยปรางค์ไม่เอาน่ะ นาตนี่แหละเอาเอง  พรีมคงจะไม่เคยเห็น ถ้าเห็นละก็ต้องตกหลุมรักแน่เลย”นาตพูดพร้อมกับเอาศอกกระทุ้งพรีมนิดนึง  
          “จริงเหรอ ชักอยากเห็นซะแล้ว ถ้าเราชิงตัวมาได้ ให้เรานะปรางค์”พรีมว่าพลางกลั้นหัวเราะ  
          “แล้ววันก่อนทำไมปรางค์ไม่บอกพี่ว่ามีแฟนแล้ว  วันที่รับน้องใหม่น่ะ”อ้ะ...จึ๋ย..ฉันลืมสนิทเลย  วันก่อนไอ้รุ่นพี่มันบอกว่าห้ามมีแฟน ลืมง่ะ  
          “ก็ไม่เห็นจะมีใครถามนี่”ฉันตอบแบบกวนๆ  แต่เห็นหน้าพี่ตั้มสลดนิดนึง..น่าสงสารจัง  
          หลังจากที่ทานข้าวเสร็จ  ไอ้รุ่นพี่ก็ชวนไปเดินเล่นแถวมินิมาร์ทในโรงเรียน  แต่แปลกไอ้พี่ตั้มมันกลับขอตัวไปทำธุระ เห็นตอนมาระริกระรี้เชียว  
          “พวกนายไปก่อนเหอะ ฉันมีธุระแถวนี้นิดนึง”พี่ตั้มว่า(ฉันว่าสมควรได้เวลาเลิกใช้คำว่าไอ้แล้วล่ะ สงสาร)
          “อ้าว...เฮ้ย ไหนแกบอกว่าว่างนี่  เอางี้แล้วกันเจอกันพรุ่งนี้นะน้องๆ”พี่แซนด์ว่า  แต่แววตาแสดงถึงความเป็นห่วงเพื่อน....ฉันว่าแปลกดีนะ  ที่พี่ตั้มทำหน้าแห้งๆแปลกๆ  
          “สวัสดีค่ะ รุ่นพี่”พรีมรีบเดินไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่บอกลารุ่นพี่เสร็จ ฉันกับนาตก็รีบเดินตามไปด้วย  
      *********************************************    
          “เฮ้...ปรางค์ฉันรู้อะไรบางอย่างแล้วล่ะ”พรีมเข้ามาเขย่าตัวฉัน....อ๋อย ฉันมึนนะยะ  
          “ฉันก็เหมือนกัน เรื่องดีซะด้วย”นาตว่า  
          “นี่ พวกเธอไปรู้อะไรมาบอกฉันบางซี่”ฉันว่า...แบบว่าตาโตเลย(อยากรู้มาก)  
          “ไม่บอก  อีกไม่นานเธอก็จะรู้เอง”ยัยนาตว่า....อะไรกัน  บอกฉันบ้างซี่    
          “บอกมาเดี๋ยวนี้นะ”ฉันเขย่ามือของนาตกับพรีม  
          “ม่ายยยยบอก”นี่ฉันชักอยากจะรู้มากขึ้นแล้วนะ                        
          “นะ นะ นะ  เดี๋ยวเลี้ยงข้าวให้มื้อใหญ่เลยนะ”ฉันเสนอของกินให้เพื่อน(เห็นเพื่อนเป็นตัวอะไรเนี่ย)
          “จริงนะ  บอกก้อด้ายยยย”พรีมตาโต(เห็นแก่กินที่สุดเลย)  
          “จริงซี่ เอามื้อเช้าพรุ่งนี้เลยเป็นไง  บอกเร็วๆสิ”ฉันว่า  
          “บอกแล้วจ้า บอกแล้ว แบบว่าฉันดูออกนะว่าพี่ตั้มโกรธเธอ...อ้ะอ้ะ...อย่าเพิ่งถามสิว่าทำไม  ก็เพราะเธอไปบอกพี่ตั้มว่ามีแฟนแล้ว  จากนั้นพี่ตั้มก็หึงเธอ เข้าใจมั้ยคุณปรางค์มหาเสน่ห์”นาตร่ายยาว....พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง นี่ฉันงงไปหมดแล้ว  หึงอะไรกัน...โง้งงงงงง  
          “แล้วไง ไม่เข้าใจ”ฉันส่ายหัวเบาๆ  
          “เอ้า  ฉันสรุปให้นะ  สรุปว่า...แต่นแต่นแต้น  พี่ตั้มชอบเธอนะสิ”พรีมสรุปให้....บ้าน่ะสิ ชอบอะไรกันเล่า  ไม่สนุกนะ....เห็นมั้ยว่าฉันหน้าแดงแล้ว  อย่ามาล้อเล่นนะ  
          “อย่าพูดบ้าๆน่า  พี่เค้าก็แค่โกรธเพราะฉันไปโกหกว่ายังไม่มีแฟน(ก็ไม่มีจริงๆ)ก็ได้  ใช่มั้ย”ฉันพูดปัดๆ...อายนะซิ  ใครไม่อายบ้าง  
          “ไม่ต้องเลย เธอเองก็ชอบพี่เค้าใช่ม้า”พรีมว่า...จะแกล้งฉันไปถึงไหนยะ  เห็นมั้ยว่าฉันน่ะหน้าสุกพร้อมรับประทานแล้ว  
          “อ้ะ..ถ้าไม่ชอบแล้วทำไมหน้าต้องแดงด้วย น่ากินจัง”นาตพูดดักคอฉันทันทีที่ฉันจะอ้าปากพูด  
          “บอกว่าไม่ชอบก็ไม่ชอบสิ  แล้วไอ้ละครที่ฉันมีแฟนก็ต้องดำเนินต่อไป เข้าใจ๊”ฉันว่า...อยากแกล้งคนเล่น
      มีความสุขที่ได้แกล้งคน  
          “ไม่ได้ฉันต้องไปบอก เดี๋ยวพี่เค้าก็เข้าใจผิดแล้วเธอก็แห้วพอดีซิ”นาตว่า....ตายแล้วถ้ายัยนาตพูดล่ะก็ คำไหนคำนั้น  ไม่ได้ๆต้องปิดปาก ล่อของกินอีกดีกว่า  
          “ไม่ได้  ฉันเลี้ยงข้าวอีกมื้อเป็นไง”ฉันว่า   แต่ก็ต้องยิ้มให้แบบเจื่อนเมื่อเห็นว่ายัยเพื่อนทั้งสองคนทำหน้ายังกะจะกินฉัน
          “ไม่เป็นไร ฉันไม่อยากให้เธอเลี้ยงแล้วละ มื้อเดียวพอ เนอะพรีม”นาตว่า  
          “ฉันไปนอนก่อนนะ  ไม่อยากเถียงกับคนแถวนี้”ฉันทำท่างอนใส่ก่อนจะเดินขึ้นไปนอน  
          “งอนหรอ ไม่มีเพื่อนไม่รู้ด้วยนา”พรีมว่า....ฉันแอบเห็นทั้งสองคนหัวอะไรก็ไม่รู้อยู่พักใหญ่  แล้วมองมาทางฉัน..ฉันเลยแกล้งทำเป็นหลับ  
      *********************************************  
          วันนี้ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวลงไปก่อน ฉันพยายามทำตัวลีบตอนเดินไปที่ร้านอาหาร..ก็ไม่ค่อยมั่นใจอีกนะซิ
      ฉันกำลังมองหาโต๊ะว่างซักตัว  แต่สายตาเหลือบไปเห็นพวกพี่ตั้มเอา ฉันก็เลยตัดสินใจไม่ทานข้าว  ฉันออกไปนั่งที่ม้านั่งริมตึกที่ฉันเรียนคนเดียว  ฉันนั่งทำหน้าเซ็งๆอยู่ตั้งนานสองนาน ซักพักก็ได้เวลาเข้าเรียน
          “นี่ปรางค์จะงอนไปถึงไหน”พรีมว่า...สะกิดฉันด้วยนิดนึง
          “ไม่รู้”ฉันค้อนใส่    
          “เอาหยั่งงี้นะ  ไม่บอกก็ได้เรื่องที่ปรางค์โกหก ไม่ต้องงอนนะ”นาตว่า
          “จริงๆนะ  ห้ามพูดเด็ดขาด”ฉันจับมือพรีมแล้วเขย่าแรงๆ  
          “เออเออ ไม่ต้องดีใจขนาดนั้นก็ได้”พรีมว่าพลางสะบัดแขนตัวเอง  
          “หายงอนเร็วจังเลยนะ”นาตว่าพลางขยิบตาให้พรีม  
          “พอพอพอ เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ”ฉันว่า  
          นี่ก็ใกล้ถึงเวลาซวยๆของฉันแล้ว ฉันไม่อยากไปทานข้าวกับพี่ตั้มเลย รู้สึกผิดยังไงไม่รู้  หิวก็หิวแล้วฉันไม่ได้กินข้าวเช้ามานี่ ถ้าเลี่ยงได้จะเลี่ยงนะแต่ว่าฉันหิวมากเลย โอย...อยู่ดีๆก็ปวดหัวจี๊ดขึ้นมา ไม่ไหวแล้ว ทำไมเวลาถึงผ่านไปช้านักนะ.......ตึงตึ้งตึ่งตึ้ง ...ไชโยสัญญาณบอกเวลาหมดคาบแล้ว  
          “เป็นไรหรือเปล่าปรางค์  ทำไมหน้าเธอซีดจัง”พรีมว่า  
          “ไม่เป็นไรนี่  ฉันสบายดี”ฉันตอบ..........และลุกขึ้นแบบอิดๆออดๆ    
          “งั้นไปที่ตึกพี่ๆกันเลยดีกว่า”นาตว่า  
          “เดี๋ยวก่อนนะ ขอเข้าห้องน้ำแป๊บนึง”ฉันว่า.........ฉันเข้าห้องน้ำแล้วรีบล้างหน้าตาให้สดชื่น แต่ก็ไม่สดชื่นอยู่ดี  ปวดหัวจังเลย  
          ฉันไปเดินไปตึกที่พีตั้มเรียนอยู่แบบเซๆนาตกับพรีมถามตั้งหลายครั้ง ฉันก็พูดซ้ำๆว่าไม่เป็นไร พอไปถึงฉันก็หลบๆพี่ตั้ม ไม่รู้เหมือนกันว่าหลบทำไม
          “ปรางค์ไปหลบอยู่ตรงนั้นทำไม”พี่ตั้มว่า
          “ไม่ได้หลบซักหน่อย”ฉันว่ากลับห้วนๆ    
          “ไปทานข้าวดีกว่า”พี่พลชวน  
          ฉันว่าแปลกๆ เมื่อวานพี่ตั้มเศร้าอยู่นี่นา  แล้ววันนี้บ้าอะไรขึ้นมาอีก  คอยดูนะตอนกินข้าวฉันจะพยายามพูดถึงแฟนให้มากๆ  อุ้ย ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาอีกแล้ว จะเดินไหวมั้ยเนี่ย...........ต้องไหวซิ อย่าไปล้มต่อหน้าพี่ๆเด็ดขาด      
          ระหว่างที่ฉันเดินไป จะล้มมิล้มแหล่  โอยไม่ไหวแล้ว  ทำไมมองอะไรไม่เห็นเลย อ๋อย....ฉันเดินไม่ไหวแล้ว แล้วฉันก็ล้มลง มาโผล่อีกทีก็ที่ห้องพยาบาล
      ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนรับฉันไม่ให้ล้ม  แต่มือนั้นอบอุ่น......อบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน  ฉันอยากจะไปอยู่ในอ้อมแขนนั้นอีก  
      “เมื่อเช้าทานข้าวหรือเปล่า”นาตว่า  
      “ทาน ทานเรียบร้อยเลย”ฉันว่า...อึดอัดฉิบเป๋งเลย  
      “ไม่ต้องโกหกเลย  ปรางค์โกหกพี่กี่เรื่องแล้ว เมื่อเช้าพี่เห็นปรางค์นะ”พี่ตั้มดุฉัน...เหมือนพี่ปันเดี๊ยะเลย  เมื่อเช้าเห็นฉันด้วยหรอ  แล้วตอนนี้คงรู้แล้วสินะว่าฉันโกหกเรื่องแฟน  
      “เอ้าทานข้าวซะ”พรีมยื่นข้าวมาให้ฉัน  ฉันรับมาแล้วรีบกินทันที  ไม่กล้าสบตาใครเลยอ้ะ
      “แล้วนี่พรีมโทรบอกแฟนปรางค์หรือยัง เดี๋ยวเค้าเป็นห่วงนะ”พี่ตั้มแกล้งถามและตีหน้าซื่อ  
      “คงรู้หมดแล้วสินะ ฉันไม่น่ามาเรียนที่นี่เลย นรกชัดๆ”ฉันแบะปากใส่พี่ตั้มก่อนนิดนึง    
      “ปรางค์รู้หรือเปล่าว่าไอ้ตั้มมันใจแป้วเลยตอนที่ปรางค์บอกว่ามีแฟนแล้ว”พี่พลว่าพลางยิ้มที่มุมปากนิดนึง ...คนอาไร้ยิ้มหล่อชะมัด.....พูดตรงๆนะว่าฉันชักจะรักพี่ตั้มเข้าแล้วล่ะ  แต่ฉันเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง จะบอกว่าไงดี  ฉันไม่กล้าพอหรอกนะ  ที่จะไปบอกรักเขาตรงๆ
      “หายดีแล้วยังปรางค์...ทีหลังต้องกินข้าวให้ครบมื้อนะ”พี่ตั้มเข้ามาถามฉันใกล้ๆ...ทำเอาฉันหน้าร้อนผ่าว
      “ไม่เป็นไรแล้ว ไปเรียนเลยดีกว่า”ฉันว่า...ทำท่าจะลุก  
      “นอนอยู่ตรงนี้แหละ  ห้ามไปไหนเด็ดขาด”พี่ตั้มดึงมือฉัน  แล้วฉันน่ะหรือ..ก็ยอมแต่โดยดี  
      “ว้าาาาาา  เบื่อแย่สิ”ฉันทำหน้าเซ็ง  
      “เหอะน่า ปรางค์ พี่ตั้มบอกให้อยู่ก็อยู่สิ”พรีมว่าพลางยิ้มให้พี่ตั้ม  
      *********************************************  
          “เห็นมั้ย  ฉันเดาถูกเผงเลย พี่ตั้มชอบเธอ”พรีมว่า พลางดีดนิ้วเปาะ  
          “ไม่ต้องเลย  พอเลยเรื่องนี้”ฉันว่า  
          “ม่ายต้องเขินหรอกน่า ไม่ต้องเขิน”นาตส่ายมือ  
          “ไม่ได้เขินนิ”ฉันว่า......ฉันจะต้องทำให้สองคนนี้เขินบ้างล่ะ...ทำยังไงดีน้อ...อ๋อ....พี่แซนด์กับพี่พลไง..ใช่แล้ว ฉันดูออก ว่ายัยสองคนนี้ชอบพี่เค้า  แต่ฉันดูไม่ออกเลยว่าพี่เค้าชอบสองคนนี้หรือเปล่า  
          “ฉันก็รู้แหละน่าว่าพรีมชอบพี่พล  ส่วนนาตก็พี่แซนด์ ใช่ม้า ใช่ม้า”ฉันชี้หน้าเพื่อน  
          “รู้ได้ไงอ่ะ ฉันไม่ได้บอกซะหน่อย”พรีมว่า....ดูมันถาม  จะไม่ให้ฉันรู้ได้ไง  พฤติกรรมมันบอกตั้งหลายอย่าง อาทิเช่น แอบถ่ายรูปพี่เค้าแล้วเอารูปมาไว้ใต้หมอน บางรูปก็ใส่ในกระเป๋าตังค์...ฉันแอบดู  แล้วก็เที่ยวจิ๊กของๆพี่เค้ามาเก็บไว้...ยังกะคนบ้า  แบบว่ายัยพรีมมั่นใจในตัวเองเกินไปหรือเปล่า
          “ฉันก็ไม่ได้บอกว่าชอบพี่เค้าเลยนี่   รู้ได้ไง”นาตว่า...ดูยัยนี่อีกคน  เป็นใครก็ต้องดูออก เวลาอยู่กับเพื่อนมันอยู่เฮฮา สนุกสนาน  ทีอยู่ต่อหน้าพี่แซนด์นี้หงิมๆเชียว  
      “รูปพี่พลใต้หมอนของพรีม ใครเอาไปตั้งไว้  แล้วใครที่ไปเรียบร้อยต่อหน้าพี่แซนด์ “ฉันยิ้ม เพระว่าหน้าทั้งสองคนแดงเถือกแล้ว.......สะใจยัยปรางค์ล่ะคราวนี้          
          “เอ้า  ยอมรับก็ได้ว่าชอบพี่เค้า”พรีมสารภาพ  
          “ฉันก็ด้วย  มันก็ดีนะอย่างน้อยเราจะได้ไม่แย่งกัน”นาตว่า...ดูมันสิคะพูดมาได้ไม่อายปากบ้างเลยหรือเนี่ย  
          “จะบ้าหรือไง  อย่าบอกนะว่าจะจับพี่เค้ามาเป็นแฟน”ฉันว่า  
          “กำลังจะบอกอยู่พอดีเลย”พรีมทำหน้าเจ้าเล่ห์  
          “ฉันกับพรีมสารภาพมาแล้วนะว่าชอบพี่เค้า  แล้วเธอล่ะทำไมไม่พูดซักทีว่าชอบพี่ตั้ม”นาตว่า....ฉันลังเลอยู่พักใหญ่ก่อนจะพูดออกมา  
          “ก็ได้ก็ได้ ฉันเองก็ชอบพี่ตั้ม แต่ว่าเรื่องนี้ห้ามบอกพี่เค้าน่ะ คราวนี้โกรธจริงด้วย”ฉันว่า..ยัยนาตกับยัยพรีมมองหน้ากันแล้วหัวเราะคิกคักอยู่พักใหญ่  
          “ไม่ต้องห่วง คราวนี้เราเอาหัวเป็นประกัน”นาตว่า  
          “งั้นเรามาช่วยกันทำให้พวกเราสมหวังนะ”พรีมพูดน้ำเสียงเจ้าเล่ห์(แบบน่ารักๆนะ)  
          “จะดีหรอ เราเป็นผู้หญิงนะ”ฉันว่า  
          “ไม่ต้องมาคิดแล้ว ผู้หญิงก็เริ่มก่อนได้”นาตว่า  
          “งั้นก็โอเคเลยนะ”ฉันลังเลอยู่ก่อนจะพูด    
      *********************************************  
          “แล้วนี่จะเริ่มแผนแรกยังไงดี อ่ะ  จะต้องเริ่มให้เร็วที่สุดด้วยนะ”พรีมว่า....ฉันว่านะ พวกฉันนี่เริ่มจะเป็นนางร้ายขึ้นทุกทีแล้ว ยิ่งอยู่ยิ่งร้าย เออ...เอาเข้าไป  ร้ายก็ร้ายแหละวะ  
          “เราต้องเริ่มด้วยแผนแปลกๆนะ ต้องแปลกมากๆด้วย ฉันว่ายังงั้นนะ”นาตว่า...เอ..แล้วทำไมต้องแปลกด้วย ฉันนี่คงไม่รู้เรื่องเท่าไร  น่าอายชะมัด ถ้าฉันมีความมั่นใจตั้งแต่แรกละก็คงได้รู้อะไรกะเขาบ้างละ  
          “แล้วทำไมไอ้แผนที่ว่ามันต้องแปลกมากๆด้วย”ฉันว่า  
          “เธอนี่นางเอกจริง ถ้าเราไม่ทำแผนแปลกๆแล้วพี่เค้าจะสนใจมั้ย พี่เค้ามีแต่สาวๆกรี๊ดทั้งนั้น แล้วไอ้สาวๆแฟนคลับของพี่ก็ต้องเคยทำอะไรแปลกๆให้บ้างละ ฉะนั้นเราก็ต้องทำให้แปลกมากกว่า เข้าใจมั้ย”พรีมว่า...อ๋อเข้าใจแล้ว  ฉันนี่ทึ่มจริงๆ...ต่อไปฉันต้องมั่นใจ ต้องรู้เรื่องที่ชาวบ้านเค้าทำด้วย ฉันก็ไม่อยากทำตัวเป็นนางเอกหรอกนะ  
          “โอเค เข้าใจแล้ว”ฉันพยักหน้า...อืม ฉันต้องคิดด้วยสินะ  ต้องคิด…เอาอย่างนี้ดีมั้ย  ส่งของแปลกๆให้พี่เค้า..ของแปลกต้องมีความหมายด้วย  แล้วจะส่งอะไรดี เอาเหอะๆ  
          “ฉันว่าเราต้องหาของแปลกๆส่งให้พี่เค้า”ฉันสะกิดนาต  
          “แน่นอนอยู่แล้ว ต้องส่งของแปลกๆให้พี่เค้า  แต่ฉันกำลังคิดว่าจะส่งอะไรดี”นาตว่า...โธ่รู้แล้วหรอกหรือ  
          “ฉันว่าส่งตุ๊กแกไปดีมั้ย ให้ตกใจเล่น”พรีมว่า....เอ้า เอาเข้าไป ส่งตุ๊กแกน่ะนางร้ายนะยะ  
          “จะบ้าหรอ  ตุ๊กแกมันจะมีความหมายอะไรล่ะ”นาตเอ็ดพรีม....ฉันเห็นด้วยน่ะนาต...อ้อ ฉันคิดออกแล้ว ส่งเม็ดถั่วเขียวไปดีกว่า..อ้ะอ้ะ อย่าเพิ่งงง ก็ส่งไปแล้วบอกให้พี่เค้าปลูกส่วนความหมายน่ะมีแน่นอน  
          “นี่ๆ ฉันคิดออกแล้ว  จะส่งอะไรดี”ฉันจับมือเพื่อนเขย่าแรงๆ...แบบว่าตื่นเต้นเกิน  
          “เออ เออ กำลังรอฟังอยู่นี่ไง ไม่ต้องเขย่า”พรีมว่า
          “ใช่ๆ  อยากรู้จังว่าแม่นางเอกปรางค์จะคิดอะไรหยั่งงี้ออก”นาตมองฉันแล้วยิ้ม  
          “ฟังนะ  ห้ามขัดจังหวะด้วย.......เราต้องส่งเม็ดถั่วเขียวไป (ฉันส่งสายตาปรามเพื่อนเมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังจะอ้าปากพูด) แล้วเขียนในกระดาษว่า ให้พี่เค้าช่วยปลูกถั่วงอก และในขณะเดียวกันในใจพี่ก็ช่วยปลูกความรักให้เราด้วย ให้มันเติบโตไปพร้อมๆกัน ดีมั้ย”ฉันว่า  
          “ยอดเยี่ยมที่สุด”นาตและพรีมพูดขึ้นพร้อมกัน.....เห็นมั้ยย่ะ คนอย่างฉันก็เก่งนะ  
          “โอ้มายก็อด ไม่น่าเชื่อ”พรีมตาโต  
          “พรุ่งนี้ไปซื้อถั่วเขียวกันนะ”นาตว่า  
          “เห็นมั้ยล่ะ ฉันก็คิดได้”ฉันว่า...พร้อมกับยิ้มแล้วยืดอกอย่างภาคภูมิใจ  ยัยเพื่อนทั้งสองมองแล้วยิ้ม ...แล้วเราก็เข้านอน  ฉันอฐิษฐานว่า ขอให้พี่ตั้มเข้าใจถึงเม็ดถั่วงอกที่ส่งไปให้ด้วยเถิด  
      *********************************************
          วันนี้โชคดีหน่อยที่ไม่ต้องไปทานข้าวกับพี่ๆ พอดี๊พอดีพี่เค้าไม่ว่าง ทางสะดวกละ วันนี้ฉันจะเป็นสาวมั่นให้ดู  ขั้นแรกต้องไปซื้อถั่วเขียวก่อน  
          “จะให้พี่เค้ากี่เม็ดดี”พรีมว่า
          “ให้สองเม็ดพอ  เม็ดแรกแทนความรักของพี่ เม็ดที่สองแทนรักของเรา อ้อเราก็ต้องปลูกด้วยนะ คนละสองเม็ดพอ ความหมายก็เหมือนกับของพี่เค้าแหละ”ฉันอธิบาย  
          “เพอเฟ็กต์ที่สุดเลย ปรางค์”นาตเข้ามาเขย่าตัวฉัน
          “จ้า รู้แล้ว”ฉันปัดมือนาตออก  
          “แล้วเราต้องหากระดาษสวยๆเขียนโน้ตไว้  ไม่ได้ๆห้ามเขียนต้องพิมพ์ เดี๋ยวพี่เค้าก็สืบลายมือได้นะ”ฉันว่าต่อ...เป็นไงความคิดฉันโคตรดีเลยใช่ม้า
          “นี่ๆถ้าจะให้แปลกจริง ไม่ต้องใช้กระดาษสวยๆเขียน เอาเศษกระดาษที่เราทดเลขก็พอ”พรีมว่าพลางยักคิ้ว  
          “อื้ม ถูกต้อง”นาตว่า...ดูสิค่ะ แปลกและร้ายจริงๆเชื่อเถอะค่า  
          ซื้อถั่วงอกเสร็จ เราก็ใช้ถุงเป็นภาชนะบรรจุ......ถุงอะไรรู้มั้ยค่ะ.......ถุงขายข้าวแกงทั่วไปนั้นแหละค่า ฉันอุตส่าห์ไปขอจากป้าร้านขายข้าวแกง ผูกด้วยเชือกฟาง..อ้อ อย่าเรียกว่าเชือกฟางเลย เรียกว่าเศษเชือกฟางดีกว่าเยอะเลยค่า  จากนั้นก็เสียบข้อความที่พิมพ์ใส่เศษกระดาษ(อีกแล้ว) ไปตั้งถั่วงอกในล็อกเกอร์เก็บรองเท้าหอพักชาย..ไม่ต้องถามเลยว่าเข้าไปได้ยังไง...มีวิธีแล้วกันค่ะ.........สรุปว่างานขั้นนี้สำเร็จ
          “เฮ้อ กว่าจะเข้าไปตั้งได้เกือบตาย”พรีมว่า....จะบอกให้ก็ได้ว่าเข้าไปยังไง ก็ปลอมตัวเป็นผู้ปกครองเด็กนักเรียนชาย  กว่าจะหาข้ออ้างได้ ก็สมองแตกตายเลย  
      ********************************************
          “พรีม นาต แล้วก็ปรางค์ วันนี้พี่มีเรื่องอยากจะคุยด้วย”พี่พลว่า...จะคุยเรื่องอะไร หรือว่าเห็นฉันตอนที่ไปตั้งถั่วงอก  ซวยแล้วล่ะ ฮือฮือฮือ  
          “มี...มีเรื่องอะไรหรือค่ะ”พรีมกัดฟันพูด  
          “เดี๋ยวไปคุยกันที่ร้านอาหารแล้วกันนะ”พี่แซนด์ว่า  
          “ไปกันเถอะค่า”ฉันว่า  
          พอไปถึงร้านอาหาร...ก็ร้านเดิมๆนั่นแหละ ฉันนึกว่าจะถูกสงสัยอะไร ที่ไหนได้ก็ไม่ใช่
          “นี่ปรางค์รู้อะไรมั้ย”พี่ตั้มว่า...แววตาเหมือนมีอะไรจะขอร้อง.......ฉันหันไปมองพรีมก็เห็นนั่งคุยกับพี่พล  แล้วหันมามองนาตก็นั่งคุยกับพี่แซนด์ ฉันก็นั่งคุยกับพี่ตั้มไง  
          “ถ้าไม่บอกแล้วปรางค์จะตรัสรู้ได้หรือคะ”ฉันว่า  
          “ปรางค์รู้ใช่มั้ย ว่ามีคนอยากเป็นแฟนกับพี่เยอะแยะ”พี่ตั้มว่า...ฉันรู้สึกว่าพี่ตั้มจะต้องมีอะไรมาปรึกษากับฉันแน่ๆ แล้วถามแบบนี้ทำไม...ใจฉันสั่นหมด  แต่ฉันก็ควบคุมตัวเองได้  
          “รู้สิคะ ทำไมหรอค่ะพี่คิดจะจีบใครล่ะ ปรางค์ช่วยค่ะ”ฉันฝืนยิ้ม  
          “ไม่ใช่ ไม่ใช่ คือ...ปรางค์ก็คงรู้สินะว่าพี่จะต้องได้รับของขวัญหรือว่าอะไรที่มันดีๆใช่มั้ย”พี่ตั้มถาม....อ๋อ เข้าใจแล้ว คงจะพูดเรื่องถั่วเขียวสินะ  คิดแล้วขำว่ะ 55555555  
          “รู้แน่นอนค่า หรือว่าพี่ไปติดใจของขวัญชิ้นไหนเข้าล่ะ”ฉันตีหน้าซื่อๆ  ฮิฮิฮิ ฉันจะเป็นนางร้ายให้ดูนะ
          “ไม่รู้สิ  แต่ว่ามันเป็นของที่แปลกมากๆ  พี่รู้สึกว่ามัน...มัน...มันเป็นสิ่งที่พี่ควรจะทำ”พี่ตั้มพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด  เอ๋...นี่ฉันไปทำให้เขาเดือดร้อนหรอเนี่ย  
          “ของที่ว่านี่มันคืออะไรหรอคะ  แล้วพี่ต้องทำอะไร”ฉันขมวดคิ้วเหมือนสงสัย...มารยามากกว่า  
          “นี่ไง ปรางค์ ปรางค์ลองอ่านข้อความในกระดาษนี่สิ  ไอ้พลกับไอ้แซนด์ก็ได้รับเหมือนพี่”พี่ตั้มยื่นถั่วเขียวที่ได้มาให้ฉันดู...ต่อไปจะต้องแสดงละครยังไงอีกนะ  เข้าใจแล้ว ต้องอธิบาย  
      “แล้วพี่คิดว่าไง  ข้อความนี้ความหมายดีนะคะ”ฉันว่า
      “ใช่ ความหมายดี แต่พี่ลังเลว่าพี่ควรทำยังไงกับไอ้เม็ดถั่วเขียวสองเม็ดนี้ จะปลูกหรือไม่ปลูกดี พี่ยังไม่รู้จักเขาเลยอ่ะ”พี่ตั้มพูดจริงจัง
      “อย่าหาว่าปรางค์สอนเลยนะค่ะ ปรางค์ว่า...พี่ตั้มควรจะเอาถั่วเขียวนี้ไปปลูกนะ ถึงพี่จะไม่รู้จักเขา หรือพี่อาจไม่ได้รักเขา แต่พี่ควรจะปลูกไว้ เป็นการให้กำลังใจเขา ถ้าพี่ไม่คิดว่ามันเป็นสัญลักษณ์แทนใจของพี่กับเขา พี่ก็คิดซะว่าเป็นสัญลักษณ์แทนใจพี่กับคนที่พี่รักก็แล้วกัน เอาอย่างนี้เถอะค่ะเดี๋ยวปรางค์จะเป็นตัวแทนเขาเอง ไปปลูกด้วยกันนะเย็นนี้”ฉันว่า...เห็นมั้ยว่าฉันทำได้  ฉันกลั้นหัวเราะได้
      “ในเมื่อปรางค์ว่าหยั่งงี้ พี่ก็จะไป อย่าลืมนะเย็นนี้”พี่ตั้มว่า  
      เอ...นาตกับพรีมจะว่าไงนะ หวังว่าคงไม่ล่มนะงานนี้ เฮ้ย ถ้ายัยสองคนนี่อธิบายไม่ถูกล่ะ  ไม่เป็นไรขออย่างเดียวอย่าให้ความแตกละกัน  
      “ว่าไงปรางค์”พรีมถามฉัน  
      “เรียบร้อยดี”แล้วฉันก็เล่าเรื่องที่พี่ตั้มมาถามให้ฟัง มันชมฉันใหญ่เลย  
      “ยอดเลยอ่ะ ปรางค์ ฉันน่ะหรือ พี่พลเค้าบอกว่าไร้สาระ”พรีมว่า...อ๊าย...อะไรกันมาว่าความคิดของฉันไร้สาระได้ไง  ไม่โรแมนติกเลย  
      “พี่แซนด์บอกว่าจะปลูก แต่ไม่ได้ปลูกแบบพี้ตั้ม พี่เค้าบอกว่าอยากกินถั่วงอกพอดี”นาตว่า..โหพี่พลยิ่งแล้วใหญ่...ถั่วเขียวสองเม็ดจะเอาไปปลูกเป็นถั่วงอก ดูถูกฉันมากไปแล้วนะ จะบ้าตาย...เอาเหอะ ช่างมันเถอะ  เดี๋ยวพี่ตั้มก็คงจะอธิบายเองแหละ  
      *********************************************  
          อีกแป๊บเดียว ก็เลิกเรียนแล้ว....จะได้ไปปลูกถั่วเขียวกับพี่ตั้มแล้วสินะ...มีความสุขจังเลย  อ๊ายยย ตื่นเต้น ตื่นเต้น แล้วซักพักโรงเรียนก็เลิก ฉันก็ตรงดิ่งไปยังตึกที่พี่ตั้มเรียน จากเมื่อก่อนที่ไม่อยากไป วันนี้รีบซะ ไม่น่าเชื่อใช่มั้ย  ฉันชวนยัยเพื่อนตัวแสบไปด้วย เผื่อว่าหวานใจมันอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ แต่ฉันว่าคงไม่เปลี่ยนใจแล้วมั้ง....ใช่จริงด้วยแหละ  
          “แล้วพี่พลกับพี่แซนด์ไม่ปลูกเหรอ”ฉันว่า...แกล้งถามไปยังงั้นแหละ  
          “ไม่ล่ะ พี่ว่ามันไร้สาระ  เอ่อ...พรีม วันนี้ไปกินไอติมกับพี่นะ”พี่พลว่า ....ฮึ่ม เจ็บใจนัก...ฉันล่ะอุตส่าห์คิดแผน...แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยยัยพรีมก็ได้ไปทานข้าวพี่พลมันแล้ว...พรีมไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่พยักหน้าหงึกๆอย่างเดียว...คงจะแห้วละสิท่า
          “ไปกันเถอะปรางค์”พี่ตั้มว่า
          “แหมก็ไม่เห็นจะต้องไปไหนไกลเลยนี่ค่ะ”ฉันว่าพลางค้อนขวับ  
          “อย่างน้อยก็ไปไกลๆจากคนที่เห็นว่ามันไร้สาระละกัน”พี่ตั้มว่า.....ดีมากค่ะพี่ตั้ม ด่าเลยค่ะไอ้คนที่เห็นว่าไร้สาระ  เป็นไงค่ะ หวานใจฉัน  
          “มันก็ไร้สาระจริงนี่หว่า...ใช่มั้ยครับน้องนาต”พี่แซนด์ว่า  
          “เอ้อ..ค่ะ  ไร้สาระก็ไร้สาระ”ยัยนาตว่า...อ๊ายยย  ดูเพื่อนฉันสิคะ  มันหักหลังกันซึ่งๆเลยค่ะ เดี๋ยวจะคิดบัญชีนะ คอยดู  
          “จะปลูกที่ไหนดีค่ะ”ฉันถามพี่ตั้มหลังจากที่เห็นว่ายัยเพื่อนของฉันไปเที่ยวกับหวานใจของมันเรียบร้อยแล้ว....แบบว่ามันใช้เล่ห์เหลี่ยมค่ะ  
          “ไปซื้อกระถางมาปลูกดีกว่า”พี่ตั้มว่า  
          ฉันเดินเคียงข้างพี่ตั้มไปซื้อกระถางอย่างมีความสุข ฉันแอบเห็นผู้หญิงบางคนมองตาเป็นมันเชียว เราเลือกกระถางเล็กๆน่ารักๆ มาสองใบ  พี่ตั้มให้ฉันเป็นคนเลือกด้วยล่ะ ฉันเดินไปที่แปลงเกษตรหลังโรงเรียนกับพี่ตั้ม....อ้ะอ้ะ อย่าคิดนะว่าจะมีแค่เราสองคน...ยังมีเด็กอีกหลายคนที่มาดูแลสวนผักหรือดอกไม้  ที่แปลงเกษตรมีนักเรียนหญิงหลายคน ก็เหมือนเดิม มองพี่ตั้มกันเป็นตาเดียว  
          “อีก10วันฉันก็จะพ้นโทษแล้ว”ฉันว่า...พลางตักดินใส่กระถาง  
          “พ้นโทษอะไรเหรอ ปรางค์พูดยังกับว่าไปโดนคดีอะไรเข้าหยั่งงั้นแหละ”พี่ตั้มถาม...แหมตอนนี้มีเศษดินติดอยู่ที่หน้าพี่ตั้มด้วยล่ะ น่าเอามือไปเขี่ยออกจริงๆ...ทำไงได้ล่ะ ฉันเป็นผู้หญิงนี่
          “เอ่อ...พี่ตั้มค่ะ ดินติดหน้าค่ะ”ฉันว่า...ที่จริงก็แค่อยากจะเปลี่ยนเรื่องพ้นโทษนั่นหรอก  
          “ตรงไหนหรอ ปรางค์ช่วยเขี่ยออกให้พี่หน่อย”ว้าย...พี่ตั้มขา..ตรงใจปรางค์เด๊ะเลยค่า  
          ฉันค่อยๆเอื้อมมือไปเขี่ยเศษดินที่หน้าพี่ตั้ม  ตอนนี้ฉันเห็นหน้าพี่เค้าชัดมากเลย แล้วพี่เค้าก็จ้องตาฉัน หัวใจฉันเริมเต้นผิดจังหวะ หน้าแดงซ่าน ฉันสบตากับพี่ตั้มกันอยู่ชั่วครู่ ฉันก็รีบก้มหน้าก้มตาจัดการกับถั่วเขียวจนเสร็จ   เราไม่ได้พูดอะไรอีกเลย หลังจากที่สบตากัน พี่ตั้มเอาถั่วเขียวที่ปลูกอยู่ในกระถางไปตั้งไว้ที่ระเบียงหอชาย...
      *********************************************  
          ฉันกลับมาที่หอก็รีบเล่าเรื่องที่ประสบพบเจอมา ยัยเพื่อนทั้งสองคนก็มีอะไรดีๆมาเล่าเหมือนกัน ท่าทางจะไปได้สวยแน่ๆเลย ไอ้ความรักระหว่างรุ่นน้องธรรมดาๆกับรุ่นพี่ที่เพอร์เฟ็กต์สุดๆ ฉันเคยเห็นยัยพรีมเปิดกระเป๋าตังค์แล้วนั่งดูรูปพี่พลที่มันใส่ไว้....มันเขียนข้างหลังรูปว่า‘รักพี่พล/พรีม’...ฉันเคยแอบดูกับยัยนาต(นางร้ายชัดๆ) ยัยพรีมจะเอารูปออกมาดูทุกคืน วันนี้มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ เห็นมันไม่ยอมดูรูปแต่ดูข้อความข้างหลังอย่างตะลึง  
          “เฮ้ย ปรางค์ นาต มาดูนี่สิเธอ”พรีมว่า....น้ำเสียงดีใจสุดๆ ยังกับได้รับตำแหน่งนางสาวไทยแน่ะ...ฉันกับนาตไม่รอช้า รีบไปที่เตียงมัน
          “เฮ้ยพวกเธอ พวกเธอมาดูนี่สิ”พรีมว่าต่อ...
      ฉันเห็นข้อความข้างหลังรูปเพิ่มมาอีกหนึ่งข้อความ เขียนไว้ด้วยลายมือที่ไม่คุ้นเลยว่า‘รักเช่นกัน/พี่พล’ อ๊ายยย...เพื่อนฉันมันทำสำเร็จแล้วสินะ  ยัยพรีมจ้องรูปอยู่พักใหญ่ แววตาดีใจอย่างสุดซึ้ง  
          “เรื่องเป็นไงมาไงเนี่ย บอกมาเดี๋ยวนี้นะพรีม”ฉันว่า  
          “ไม่รู้สินะ สงสัยจะเป็นตอนนั้นมั้ง”พรีมว่า...ตอนนั้นน่ะตอนไหนย่ะ อย่าทำให้ฉันอยากรู้มากซี่  
          “ตอนไหนอ่ะ”นาตว่า  
          “ก็เมื่อตอนเย็นพี่พลพาฉันไปเลี้ยงไอติม แล้วฉันก็เข้าห้องน้ำ กระเป๋าตังค์ฉันก็ตั้งไว้ที่โต๊ะ พี่พลคงจะแอบเปิดกระเป๋าฉันมาดูแน่ๆเลย แล้วฉันจะแบกหน้าไปหาพี่เค้ายังไงดีล่ะพรุ่งนี้”พรีมว่า...ดีจังเลยน้า แล้วฉันล่ะยังไม่รู้เลยว่าพี่ตั้มรักฉันหรือเปล่า คิดแล้วท้อ  
          “นาตล่ะ ไปถึงไหนแล้ว”ฉันหันไปถามนาต  
          “ไปถึงไหนกันล่ะ เหมือนเดิม เมื่อตอนเย็นน่ะ กว่าจะชวนไปได้”นาตว่าพลางเบ้ปาก  
          “รีบๆหน่อยนะ อีก10วันก็อดไปทานข้าวกับพี่เค้าแล้วล่ะ”พรีมว่า  
          “ฉันว่านะ พี่แซนด์อยู่แปลกๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย”ฉันว่า
              “แต่ฉันดูออกนะว่าพี่เค้าเหมือนมีอะไรค้างคาอยู่ในใจ ฉันอยากจะถามอยู่เหมือนกันแต่ไม่กล้า”นาตว่า...หน้าเศร้าลงนะ ยัยนาตเนี่ย...ฉันก็ดูออกว่าพี่แซนด์มีเรื่องอยู่ในใจ    
          “ฉันว่านะ เธอน่ะมีความรักที่สดใสที่สุดเลยปรางค์”พรีมว่า        
          “สดใสอะไรกันเล่า ยังไม่รู้เลยว่าพี่ตั้มชอบฉันหรือเปล่า”ฉันว่า  
          “เออเออ ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวอาจารย์ก็มาตรวจหรอก”นาตว่า  
      *********************************************
          วันนี้ฉันจะต้องถามให้ได้ว่าพี่ตั้มรักใครหรือยัง กลัวว่าจะแห้ว พรีมก็เสร็จไปแล้วหนึ่ง ฉันจะต้องเสร็จก่อนยัยนาต แต่ว่าวันนี้ฉันอยากจะรู้เรื่องพรีมจังว่าจะเป็นยังไงต่อ ต้องช่วยยัยนาตด้วย....ฉันเองยังไม่รอดเลย จะไปช่วยเพื่อนได้ไง
          “พรีม เธอจะเอายังไง”ฉันถามพรีม....เห็นว่ามันหงอยๆไงก็ไม่รุ
          “ไม่เอาไง เหมือนเดิม ฉันคือพรีมสาวมั่นแสนสวย”พรีมว่า...ดูมันสิค่ะ แต่ก็ดี มั่นใจในตัวเองดีกว่าฉัน
          “จ้า สาวมั่นแสนสวย”นาตหันมาล้อเลียน  
          “ไปหาพี่ๆหวานใจกัน เดี๋ยวรอแย่เลย”ฉันเตือนหลังจากมองนาฬิกาที่เดินไปเลยเวลานัด2-3นาที    
          ฉันก็เดินไปหาพี่ๆหวานใจที่ว่าเหมือนปกติ แต่พอลงบันไดปุ๊บก็เห็นพี่ๆหวานใจยืนรออยู่แล้ว ยืนตาค้างเลยยัยนาตกับพรีม...พอฉันแอบชายตาไปมองพี่พลกับพรีมอีกที เห็นพี่พลยิ้มเขินๆ พรีมก็ไม่ต่างไปจากพี่พลเลย ฉันเห็นพี่แซนด์ยืนอยู่เฉยๆ ส่วนนาตก็แสดงท่าทางเรียบร้อยซะไม่มี ฉันเลยสะกิดเพื่อนให้เดินไปเร็วๆ...พอเห็นว่ามีเพื่อนผู้หญิงรุ่นเดียวกับฉันกำลังจะมารุมล้อมพี่ๆหวานใจ  
          “วันนี้ฉันขอไปกินข้าวกับน้องพรีมนะโว้ย”พี่พลว่า...รู้ล่ะน่าว่าเนื่องในโอกาสอะไร  
          “งั้นฝากพรีมด้วยนะค่ะ”ฉันยิ้มให้ส่งท้าย ก่อนที่พรีมกับพี่พลจะเดินจากไป  
          “ปรางค์ ก็ไปกับพี่แล้วกันนะ ว่าจะคุยเรื่องถั่วเขียวกัน”พี่ตั้มว่า ฉันเห็นนาตหน้าสลดเมื่อเห็นว่าพี่แซนด์เฉยๆ  ฉันรู้สึกสงสารเพื่อนจับใจ  
          “เอ้อ ค่ะ”ฉันรับ
          “นายก็ตามใจ จะไปกินกับใครก็ได้”พี่ตั้มหันไปบอกเพื่อน.....อ้าวแล้วเพื่อนฉันล่ะ  
          “แล้วนาตล่ะ จะไปกินข้าวกับใคร”ฉันว่า...ใครจะยอม ฉันมันรักเพื่อนอยู่แล้ว
          “ไม่เป็นไร ฉันไม่ค่อยหิวหรอก เดี๋ยวว่าจะโทรคุยกับขวัญเล่นๆ พอดีว่าคิดถึงขวัญน่ะ”นาตว่าเสียงเศร้าๆ  
          “งั้นฉันไปล่ะนะ”ฉันกล่าวลาก่อนจะเดินไปกับพี่ตั้ม  
          “ฉันรอที่ระเบียงตรงนี้นะ”นาตว่า...เฮ้อ ฉันล่ะสงสารนาตจริงๆ คอยดูนะถ้านาตร้องไห้ฉันเอาเรื่องพี่แซนด์แน่ ฉันไม่รู้หรอกว่าพี่แซนด์เคยรักใครหรือเปล่า รู้แต่ว่าพี่แซนด์ปิดใจตัวเองอยู่
          ฉันก็ไปนั่งทานข้าวกับพี่ตั้มที่ร้านแห่งหนึ่ง ร้านนี้ก็หรูเหมือนกัน ฉันถามพี่ตั้มไปเรื่อย พี่ตั้มก็เช่นเดียวกันถามไปเรื่อย ตอนนี้ฉันรู้ด้วยว่าพี่ตั้มยังไม่เคยมีแฟน รู้ว่าพี่ตั้มมีพี่ชายด้วย อยากรู้จังเลยว่าตอนนี้นาตเป็นไงบ้าง พรีมเป็นไงบ้าง ฉันก็เลยตัดสินใจถามเกี่ยวกับพี่แซนด์ เพื่อเพื่อนค่ะ  
          “พี่ตั้มค่ะ พี่แซนด์เคยชอบใครหรือเปล่าค่ะ คือว่าปรางค์...ปรางค์อยากรู้ค่ะ”ฉันว่า...กลัวพี่ตั้มเข้าใจผิดคิดว่าฉันชอบพี่แซนด์ ไม่เป็นไรฉันมันคนอธิบายเก่งอยู่แล้ว  
          “ทำไม ปรางค์ชอบพี่แซนด์หรอ”พี่ตั้มหุบยิ้มแล้วถาม...อะไรกัน หึงฉันหรือเปล่าเนี่ย  
          “ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ เอ้าบอกก็ได้ว่านาตยาเพื่อนปรางค์ชอบพี่แซนด์เพื่อนพี่ตั้ม จุ๊ๆๆอย่าบอกใครนะคะ”ฉันพูดหมดเปลือกเลย ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี หมดทางแล้ว......แต่มันก็ทำให้พี่ตั้มยิ้มได้  
          “พี่ไม่บอกใครหรอก”พี่ตั้มยกมือขึ้นมาสาบาน....ฮิๆๆตลกดีนะเวลาพี่ตั้มทำแบบนี้  
          “ค่า ปรางค์เชื่อค่ะ ทีนี้บอกได้หรือยังว่าพี่แซนด์เคยมีแฟนหรือเปล่า”ฉันยิ้มกว้าง  
          “ปรางค์จะช่วยเพื่อนงั้นหรือ”พี่ตั้มถาม...ถามอะไรบ้าๆ ก็เออน่ะสิ  
          “ค่ะ ถ้าพี่ไม่บอกก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวปรางค์จะถามคนอื่นก็ได้”ฉันทำท่างอนๆใส่
          “ฟังพี่ก่อนนะ ถ้าปรางค์อยากรู้พี่จะบอก แต่ถ้าปรางค์จะไปบอกเพื่อนล่ะก็นะ พี่ว่าอย่าดีกว่า พี่ว่าปรางค์ควรจะให้เพื่อนได้รู้จักกับคนที่ตัวเองรักด้วยตัวเอง ต่อไปเพื่อนปรางค์จะได้รู้ถึงคุณค่าของความรัก”พี่ตั้มร่ายยาว...ฉันก็ลองคิดๆดูแล้วนะ ก็จริงเหมือนกัน  
          “งั้นก็อย่าเล่าให้ปรางค์รู้ดีกว่า ปรางค์มันพวกปากสว่างค่า”ฉันว่า  
          “ปรางค์ พี่ขออะไรอย่างได้มั้ย”พี่ตั้มจ้องตาฉันแต่ฉันก็หลบตาพี่เค้า  
          “ขออะไรค่ะ”ฉันว่าพลางก้มหน้างุดๆ
          “ปรางค์เป็นแบบนี้ตลอดเลยได้มั้ย มากินข้าวเที่ยงกับพี่ทุกวัน เรียกพี่เหมือนเดิม แทนตัวเองว่าปรางค์นะ”พี่ตั้มว่า....ได้อยู่แล้วค่ะ  
          “ได้หรอค่ะ ปรางค์ไม่รู้เหมือนกันว่าได้หรือเปล่า พรุ่งนี้ปรางค์มาให้คำตอบค่า”ฉันพูดจบก็รีบวิ่งออกจากร้านไป ก็ไม่รู้จะทำไง กลัวพี่ตั้มจับได้ว่าฉันชอบพี่เค้า    
      *********************************************  
          ฉันมาทานข้าวเย็นที่ร้านแห่งหนึ่ง ก็มาทานกันสามคนนั่นแหละ มานั่งคุยเรื่องพี่ๆหวานใจพลางๆ แต่วันนี้ฉันรู้สึกว่านาตจะไม่มีพี่หวานใจแล้วแหละ
          “พรีม เธอนี่โชคดีจังเลยนะ ได้เป็นแฟนกับพี่พลแล้ว ปรางค์ก็ยิ่งคืบหน้าขึ้นทุกวัน”นาตว่า...สงสารนาตจังเลย  ไม่รู้ว่าเมื่อวานเป็นไงบ้าง
          “อย่าเพิ่งท้อสินาต ยังเหลือเวลาอีกตั้ง9วัน”พรีมว่า....
          “ฉันว่าฉันจะเลิกแล้วดีกว่า ฉันน่ะคิดไปเอง”นาตว่า....โธ่นาต อย่าเพิ่งท้อแท้สิ ฉันก็อยากจะช่วยนะ แต่ว่ารอให้ฉันลงเอยก่อนได้มั้ย  
          “อย่าเพิ่งเลิกนะ ถ้าเธอลองสู้อีกซักนิด นิดเดียวก็พอเธออาจจะมีความสุขได้นะ”ฉันว่า
          “ไม่เอาแล้ว ฉันไม่อยากเจ็บ ถ้าฉันสู้แล้วมันเจ็บฉันว่าอย่าสู้เลยดีกว่า”นาตพูดเสียงเศร้า...น้ำตาคลออยู่ที่เบ้าตา จากนั้นมันก็ไหลออกมา....ฉันอยากจะไปเอาเรื่องไอ้พี่แซนด์จังเลย พรุ่งนี้ไม่ต้องมาพูดกับพวกฉันนะ
          “ตามใจเธอนะ ฉันก็ไม่อยากเห็นเธอเจ็บ”พรีมว่า  
          “เมื่อตอนเที่ยงเธอทานข้าวหรือเปล่า”ฉันถามนาต อยากรู้นักว่าไอ้พี่แซนด์จะทิ้งให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ อดข้าวหรือเปล่า  
          “ทานสิ พี่แซนด์เค้าซื้อมาให้ฉัน แต่ฉันก็นั่งทานคนเดียวอีกนั่นแหละ”ต๊าย พี่แซนด์มันจะมากเกินไปแล้วนะ....รู้มั้ยทำแบบนี้แล้วมันทำให้นาตรู้สึกเจ็บกว่าการที่พี่ไม่ซื้อข้าวมาให้เสียอีก...      
          “ฉันว่านะ เธอไม่ต้องไปรักแล้วไอ้คนใจร้ายใจดำแบบนั้น”พรีมว่าอย่างหัวเสีย  
          “อืม ตัดใจซะ ยังมีรุ่นพี่อีกตั้งหลายคนที่ชอบเธอ”ฉันว่า...
          “ฉันว่าวันนี้มาฉลองเนื่องในโอกาสที่ฉันตาสว่างดีมั้ย”นาตพูด...แล้วฝืนยิ้ม  
          “พี่ตั้มบอกให้ฉันไปทานข้าวกับพี่เค้าทุกวันเลย เธอว่าไงอ่ะ”ฉันต้องถามความเห็นจากเพื่อนก่อน...เดี๋ยวมันหาว่าทิ้งกัน แล้วฉันมันก็รักเพื่อนค่ะ  
          “วันเว้นวันนะ เดี๋ยวฉันไม่มีเพื่อนทานข้าวด้วย”นาตว่า....
          “โอเค สั่งอะไรมาฉลองดี”ฉันว่า  
          เราฉลองกันอยู่จนฟ้าเกือบจะมืด ก็กลับหอกัน เหนื่อยจริง พรีมมันเล่าเรื่องที่มันไปทานข้าวกับพี่พลด้วย ฉันก็เล่าเรื่องที่คุยกับพี่ตั้ม แต่ไม่ได้บอกว่าฉันรายงานไปหมดแล้วเรื่องนาตชอบพี่แซนด์  
      *********************************************

          “พรีม วันนี้จะกินข้าวเที่ยงกับพี่พลหรือเปล่า”ฉันถามพรีมขณะที่กำลังจะไปหาพี่ๆหวานใจ  
          “ไม่รู้สิ แล้วแต่พี่พล”พรีมว่า  
          “ถ้าเธอไปกับพี่พล วันนี้ฉันก็จะต้องทานข้าวคนเดียวอีกสินะ ไม่ต้องห่วงหรอก เพื่อความรักของเพื่อน ฉันยอมได้”นาตว่า...เห็นมั้ยค่ะว่าเรารักกันขนาดไหน วันนี้ฉันไม่ปล่อยให้นาตกินข้าวคนเดียวหรอก
          “ไม่ได้ ฉันไม่ยอมให้เธอกินข้าวคนเดียวหรอก”ฉันว่า....แบบว่ารักเพื่อนค่ะ  
          “ฉันว่าวันนี้ฉันอยากให้เธอช่วยถามพี่ตั้มเรื่อง...เอ่อ..เรื่อง..เรื่องพี่แซนด์ได้มั้ย”นาตอึกอัก  
          “นาต  เธอบอกว่าเธอไม่ไหวแล้วไง แล้วแบบนี้ก็แสดงว่าเธอยังชอบพี่แซนด์อยู่นะซิ”ฉันว่า...ฉันก็ดูออกนะว่ามันยังชอบพี่แซนด์อยู่
          “เปล่านี่ ฉันก็แค่อยากรู้ว่าทำไมถึงต้องปิดใจตัวเองด้วย”นาตว่า...เห็นมั้ยว่ามันยังรักอยู่ชัดๆ  
          “นี่นาต ฟังฉันน่ะ ถ้าเธอยังรักพี่แซนด์อยู่ละก็ เธอก็ต้องสู้ เธอต้องถามพี่แซนด์เองซิ ถ้าเธอรู้ความจริงเธออาจจะลองอธิบายอะไรๆให้พี่เค้าฟัง พี่เค้าอาจจะเข้าใจก็ได้”พรีมร่ายยาว...ฉันก็เห็นด้วยน้า
          “งั้นเหรอ ฉันไม่ยุ่งดีกว่า”นาตว่า ฉันกับพรีมถอนหายใจอยู่พักใหญ่ก่อนจะเดินไปหาพี่ๆหวานใจกัน  
          รู้สึกว่าวันนี้พี่ๆหวานใจก็จะเดินมาหาพวกเราอีกแล้วนะ...เฮ้อ..วันนี้ฉันรู้สึกเป็นห่วงนาตยังไงก็ไม่รู้...ไม่เป็นไร วันนี้ฉันจะไม่ให้เธอเสียน้ำตาอีก เตรียมตัวเตรียมใจได้เลยค่ะพี่ตั้ม วันนี้ขอไม่ทานข้าวกับพี่ๆนะค่ะ  
          “พี่ตั้มค่ะ เรื่องที่พี่ตั้มขอเมื่อวานปรางค์ตกลงก็ได้ แต่ว่าวันนี้ปรางค์ไม่ไปกับพี่นะค่ะ ปรางค์ขอทานข้าวกับเพื่อนดีกว่า..นะค่ะ”ฉันส่งสายตาวอนขอกับพี่ตั้ม..กลัวพี่ตั้มเข้าใจผิดว่าไม่อยากไป  
          “แล้วพรีมล่ะ วันนี้จะไปกับพี่มั้ย”พี่พลถามพรีมด้วยเสียงหวานๆ แหมสองคนนี้จะไปทานข้าวด้วยกันเมื่อไหร่ก็ได้  พรีมก็ต้องห่วงเพื่อนอยู่แล้ว  
          “ไม่ไปค่ะ พรีมว่าวันนี้ขออยู่กับเพื่อนดีกว่า กับพี่พลน่ะ จะทานด้วยกันเมื่อไหร่อีกก็ได้”พรีมยิ้มหวาน  
          “วันนี้เป็นอะไรกันหมด ไม่อยากไปทานข้าวกับพี่หรอ”พี่ตั้มว่า  
          “ไม่ใช่หรอกค่ะ ปรางค์กลัวว่าเพื่อนจะอดข้าวอีก เดี๋ยวเพื่อนปรางค์ก็หมดสวยกันพอดีซิค่ะ”ฉันว่า...ฉันจะเรียกคะแนนความสงสารให้นาตเยอะๆเลย คอยดู    
          “ไอ้แซนด์นายก็ไปทานข้าวเป็นเพื่อนน้องนาตเค้าก่อนก็ได้ เมื่อวานนายก็ทานข้าวคนเดียวไม่ใช่เหรอ”พี่ตั้มว่า..อ้าว หยั่งงี้ก็แสดงว่านาตยังมีลุ้นนะสิ นึกว่าไปทานข้าวกับสาวอื่นซะอีก      
          “อย่าดีกว่าค่ะ นาตไม่อยากรบกวนเวลาของใคร วันนี้นาตทานคนเดียวได้ค่ะ”นาตว่า...โธ่ น่าสงสารจังเลย แต่ก็ดีเลย มันเป็นการเรียกคะแนนความสงสารได้นี่นา  
          “ไอ้แซนด์ แกก็ไม่มีธุระอะไรนี่”พี่พลร่วมแจม....หรือว่ายัยพรีมจะไปบอกพี่พลว่านาตชอบพี่แซนด์ด้วย
          “อย่าไปเซ้าซี้เพื่อนพี่นักเลยค่ะ ถ้าพี่แซนด์รังเกียจเพื่อนพรีมมากล่ะก็ วันนี้พรีมกับปรางค์จะไปทานข้าวกับนาตเอง”พรีมช่วยเสริมอีกที...ตกลงว่านี่ทุกคนช่วยนาตกันหรือเนี่ย ดีค่ะดี  
          “ไม่ใช่น่ะนาต พี่ไม่ได้รังเกียจนาตหรอก เอ้า วันนี้พี่ไปทานข้าวกับนาตก็ได้”พี่แซนด์ว่า  
          “ถ้าพี่ไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไร ปรางค์ขอยืนยันคำตอบเดิมค่ะ”ฉันช่วยเสริมอีกที  ก็พูดเหมือนไม่เต็มใจจริงๆนี่  
          “นั่นนะซีค่ะ ถึงยังไงนาตก็มีเพื่อนไปทานข้าวอยู่ดี พี่แซนด์ไม่ต้องเสียสละหรอกค่ะ”นาตว่า...ว้าว นี่ยัยนาตสลัดความเรียบร้อยออกหมดแล้วหรือนี่ ดีเลย ตอนนี้พี่แซนด์ตะลึงเลยละ  
          “วันนี้นาตไปทานข้าวกับพี่ ไปเลยเดี๋ยวนี้”พี่แซนด์ดึงข้อมือนาตแล้วรีบเดินไปโดยไม่รอคำโต้เถียงจากปากฉันอีก...เห็นมั้ยว่าแผนฉันสำเร็จ  คราวนี้ฉันจะได้ไปทานข้าวกับพี่ตั้มของฉันซะที
      *********************************************  
          “นาตไปทานข้าวกับพี่แซนด์เป็นไงบ้างจ้ะ”พรีมว่า...ตอนนี้เรากำลังทานข้าวเย็นอยู่  
          “เล่าให้ฟังหน่อยแหละ”ฉันว่าพลางตักข้าวคำแรกใส่ปาก    
          “ไม่รู้สิ พี่เค้าไม่ได้พูดอะไรเลย เอาแต่นั่งตักข้าวใส่ปากอย่างเดียว คงจะรังเกียจฉันมาก ฉันเห็นท่าพี่เค้าไม่ค่อยสบอารมณ์เลยรีบขอตัวออกมาก่อน”นาตว่า...อะไรกันว่ะเนี่ย อุตส่าห์ไปทานข้าวกับคนสวยๆก็น่าจะดีใจ
          “จริงหรอ ฉันว่าเลิกเหอะ พอกันทีกับพี่แซนด์”ฉันว่า  
          “แล้วเธอสองคนล่ะ ไปพูดอะไรให้พี่พลกับพี่ตั้มฟังหรือเปล่า เห็นยัดเยียดพี่แซนด์ให้ไปกับฉัน”นาตพูดขึ้นมาทำเอาฉันสำลักข้าว
          “เปล๊า ไม่ได้บอกอะไรเลย ไม่ได้พูดอะไรซักหน่อย”พรีมว่า
          “ฉันก็เปล่านะ”ฉันว่าบ้าง  
          “เออๆ เปล่าก็เปล่า”นาตว่าพลางจิบน้ำส้มสุดโปรด
          “แล้วปรางค์กับพี่ตั้มไปถึงไหนแล้ว”พรีมว่า  
          “ก็เรื่อยๆอะนะ”ฉันว่า...ก็เรื่อยๆจริง ไม่รู้ว่าจะทำยังไงถึงจะรู้ว่าพี่ตั้มชอบฉันหรือเปล่า  
          “อย่าเรื่อยๆนักนะ เดี๋ยวโดนคนอื่นแย่ง โฉบไปกินซะก่อน”พรีมว่า
          “อ้อแล้วนี่ก็เหลืออีกเวลาอีกไม่กี่วันแล้วที่นาตไม่ต้องไปนั่งทานข้าวขมๆ ทุกอย่างต้องเหมือนเดิม”ฉันว่า  
          “ใช่ๆจริงด้วย อีก3วันจะไม่มีนาตกับพี่แซนด์อีกแล้วละ มีแต่รุ่นพี่กับฉัน”นาตว่า...รู้นะว่าที่จริงมันก็เจ็บเหมือนกันแต่ถ้ามันแสดงแบบกระด้างๆยังงี้ก็ดี  
          “อีก3วันเท่านั้น”พรีมว่า  
      *********************************************
          วันนี้วันสุดท้ายแล้วสินะที่นาตต้องไปทานข้าวขมๆกับพี่แซนด์ ฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าจะบอกรักพี่ตั้มวันนี้ละ แต่ไม่รู้จะบอกยังไงดี  ไม่อยากจะถามไอ้พรีมเลย เดี๋ยวมันแนะนำวิธีแปลกๆ พี่ตั้มบอกว่าถั่วเขียวน่ะ เป็นถั่วงอกแล้ว ความรู้สึกของฉันก็ต้องออกมาเหมือนกัน แล้วถ้าเกิดว่าพี่ตั้มไม่ได้ชอบฉันล่ะ หน้าแตกแย่เลย ไม่ได้สิฉันต้องไม่คิดในแง่นั้น ต้องคิดในแง่บวกไว้ก่อน
          “นาต วันนี้เธอต้องแสดงสีหน้าว่ามีความสุขที่ไม่ต้องโดนทำโทษ เข้าใจมั้ย”พรีมว่า  
          “แน่นอน ฉันมีความสุขอยู่แล้ว”นาตว่า  
          “ต้องหยั่งงั้นซี่ นาต”ฉันว่า  
          “ไปเข้าเรียนเถอะ เดี๋ยวสาย”พรีมพูดไม่ทันจบเสียงสัญญาณก็ดังขึ้น  
          ฉันก็เรียนวิชาคณิตศาสตร์แบบเดิมคือเอานิยายออกมาอ่าน ถ้าเรียนไม่เข้าใจค่อยให้นาตสอน ฉันนั่งคิดด้วยว่าจะบอกรักพี่ตั้มยังไง...อ๋อ...เอาอย่างงี้แล้วกัน คืนนี้ส่งข้อความไปดีมั้ย...ไม่ได้ถ้าคนอื่นเปิดอ่านล่ะก็แย่แน่เลย อืม เอาอย่างนี้ละกัน คอยดูนะตอนเที่ยงนี้
          “พี่ตั้มค่ะ วันนี้ปรางค์ชวนพี่ไปทานข้าวนะ มีเรื่องอยากคุยด้วยค่ะ”ฉันพูดขึ้นทันทีที่เห็นหน้าพี่ตั้ม  
          “แล้วพรุ่งนี้ล่ะ”พี่ตั้มว่า  
          “ไม่แน่ใจว่าว่างหรือเปล่า”ฉันว่า  
          “พรีมวันนี้ไม่มีอะไรขัดข้องใช่มั้ย”พี่พลถาม รักกันจริงคู่นี้  
          “ค่า ก็นาตมีเพื่อนไปทานข้าวก็พอแล้ว แต่ว่าพรุ่งนี้พรีมก็ไม่แน่ใจว่าว่างหรือเปล่า”พรีมพูด  
          “รีบไปทานข้าวดีกว่า พี่หิวจะแย่อยู่แล้ว”พี่พลทำเสียงออดอ้อน  
          “พี่แซนด์ค่ะ รีบไปทานข้าวกัน จะได้ทานด้วยกันเป็นมื้อสุดท้ายแล้ว นาตอยากให้การทำโทษมันจบเร็วๆหลังจากวันนี้พี่ไม่ต้องมาทนกินข้าวกับนาตอีก”นาตพูดเสียงใส แต่แววตามันใสด้วยน้ำที่เริ่มจะทะลักออกมาแต่ว่านาตยังสามารถสะกดกลั้นมันไว้ได้
          “นาต”พี่พลรำพึงเสียงนาตออกมาเบาๆ...รู้สึกใจหายล่ะสิ    
          “ว่าไงค่ะ”นาตว่า  
          “ไม่มีอะไรนี่ ไปทานข้าวกัน”พี่แซนด์ว่า แล้วรีบฉวยข้อมือนาตเดินออกไป  
          “ไปกันค่ะพี่พล”พรีมเดินนำหน้าพี่พลออกไป                    
                    “ปรางค์ วันนี้จะไปร้านไหนดี”พี่ตั้มถามฉัน  
          “ก็ร้านเดิมซิค่ะ”ฉันว่า  
          “เอ่อพี่ตั้มจะเข้าห้องน้ำก่อนก็ได้ค่ะ นาตว่าจะทานอีกนานละค่า”ฉันพูดขึ้นหลังจากที่เห็นว่าพี่ตั้มทานข้าวหมดแล้ว แบบว่าวันนี้ฉันแกล้งทานช้าๆ  แล้วอีกอย่างพี่ตั้มก็ชอบเข้าห้องน้ำทุกครั้งเลยหลังจากทานข้าว จะร้านไหนก็เข้าทั้งนั้นแหละ
          “งั้นพี่เข้าห้องน้ำก่อนนะ”พี่ตั้มว่าแล้วก็เดินหายวับไป
          ฉันรีบหยิบกระเป๋าเอาการ์ดที่เป็นรูปหัวใจเขียนไว้ว่า‘รักพี่ตั้มนะค่ะ รักมานานแล้วด้วย / ปรางค์’ฉันเขียนมันตั้งแต่เรียนวิชาคณิตศาสตร์ แล้วฉันก็สอดมันไว้ที่ใต้จานข้าวของพี่ตั้ม..อ้อ..แล้วก็มีเศษกระดาษที่ฉันเขียนไว้ว่า ‘ฝากจ่ายตังค์ค่าข้าวด้วย’ฉันรีบเดินออกจากร้านให้เร็วที่สุด ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือเปล่า    
      ********************************************
          “เฮ้ วันนี้ฉันมีเรื่องจะบอกด้วยล่ะ”ฉันพูดไม่ทันจบก็มีข้อความเข้ามาในมือถือฉัน  
          “เดี๋ยวนะ ขอไปอ่านก่อน อาจจะเป็นข่าวดีก็ได้”ฉันว่า
      ฉันรีบหยิบมือถือออกมาแล้วเห็นว่าเป็นชื่อพี่ตั้มส่งข้อความมา ใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะเลยตอนนี้ พอฉันเปิดออกมาอ่านก็พบข้อความยาวเหยียดเขียนว่า‘ทำไมถึงไม่บอกกับพี่ตรงๆ พี่ก็ว่าจะบอกปรางค์วันนี้เหมือนกันว่า พี่ก็รักปรางค์ รักมานานแล้วด้วย / พี่ตั้ม’ฉันส่งมือถือให้ยัยเพื่อนสองคนอ่าน พรีมก็แทบจะระเบิดเสียงกรี๊ดออกมาหลังจากที่ฉันฟังฉันเล่าวิธีการบอกรักของฉัน...การบอกรักของคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง  
      “อ๊ายยยย เธอนี่อะไรๆที่เป็นเรื่องความรักเพอร์เฟ็กต์สุดๆเลยนะ”พรีมว่า  
          “เพอร์เฟ็กต์หรอ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะทำยังไงล่ะเนี่ย”ฉันว่า...เลือดมันสูบฉีดขึ้นมาทั่วหน้าฉันเลยละ
      “นาต ฉันรู้นะว่าพี่แซนด์ก็ชอบเธอ”ฉันว่า
      “พูดบ้าๆ ฉันค่อยหาแฟนปีหน้าดีกว่า”นาตว่าเสียงสดใส  
      “ฉันสมหวังแล้ว เธอก็สมหวังแล้วปรางค์ ฉันอยากให้สมหวังไปพร้อมๆกันไม่ได้หรือไง”พรีมว่ายาว
      “แต่ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไง พี่แซนด์เค้าถึงจะเปิดใจซักที”นาตว่าเสียงเศร้า  
      “พี่แซนด์เค้าก็ชอบเธอไม่น้อย เพียงแค่ว่าเค้าไม่อยากจะแสดงออกมามาก”ฉันช่วย  
      “เอาอย่างนี้นะ  เธอก็ทำเป็นทักพี่แซนด์เหมือนๆกับที่ทักรุ่นพี่คนอื่นๆดู พี่เค้าอาจจะสะเทือนใจบ้างก็เป็นได้”พรีมช่วยวางแผน...ยัยพรีมน่ะ จอมวางแผน(ไม่ใช่แผนชั่วๆนะ)  
      “ฉันจะลองเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าไม่ก็คือไม่นะคราวนี้”แววตานาตมุ่งมั่น  
      “อืม”ฉันรับ
      *********************************************  
      “วันนี้ปรางค์จะไปทานข้าวกับพี่มั้ย”พี่ตั้มถามฉัน...คนเค้าอายเหมือนกันนะ  
      “เอ่อ...เอ่อ...คือว่าวันนี้ปรางค์...ปรางค์จะไปกับ...กับ...กับเพื่อนค่ะ”ฉันพูดติดๆขัด หน้าก็แดงซ่าน ทำเอาพี่ตั้มอดขำไม่ได้  
      “เป็นอะไรไปล่ะปรางค์ ทำไมพูดติดๆขัดๆหยั่งงั้น กินยาผิดหรือเปล่า”พี่ตั้มว่า โธ่ ไม่รู้สึกอะไรเลยหรือค่ะพี่ตั้มขา คนบ้าอะไรก็ไม่รู้  
      “ปรางค์ก็เป็นแฟนกับพี่ตั้มแล้วสินะ”พี่แซนด์ว่า  
      “ไม่รู้สิคะ”ฉันทำหน้าเหลอหลา  
      “ไม่ต้องเลยปรางค์ไม่เห็นต้องอายนี่ รักกันก็ต้องเป็นแฟนกันซิ ใช่มั้ยค่ะพี่.....เอ๊ยรุ่นพี่”นาตว่า....ทำเอาพี่แซนด์อึกอักพอนาตเรียกตัวเองว่ารุ่นพี่  
      “เรียกอย่างเดิมก็ได้นะนาต พี่ไม่ว่า”พี่แซนด์ยังไว้ท่าอยู่อีก
      “ไม่ดีกว่าเดี๋ยวแฟนคลับของพี่หายหมด แล้วอีกอย่างไม่ต้องจำชื่อนาต..เอ๊ยฉันก็ได้ค่ะ รกสมองเปล่าๆ”นาตว่า...ฉันเห็นแววตาพี่แซนด์ฉายความกังวลอย่างเห็นได้ชัดเจน...เอาอีกซีนาตเห็นมั้ยว่าตอนนี้มันสะเทือนถึงขั้วหัวใจพี่แซนด์แล้ว  
      “พี่ว่ามันฟังขัดหูยังไงไม่รู้ เรียกอย่างเดิมเถอะนะ”พี่แซนด์ว่า
      “ถ้านาตไม่อยากพูดก็อย่าไปบังคับสิคะ”พรีมเข้ามาช่วย  
      “เอ่อ...เอาอย่างนี้นะ นาตมาคุยกับพี่ให้รู้เรื่องก่อนสิ”พี่แซนด์ว่าพลางดึงมือนาต แต่นาตสะบัดมือออก
      “จะคุยอะไรอีกละค่ะรุ่นพี่ ฉันจะรีบไปเรียน”นาตว่าแล้ววิ่งขึ้นตึกไป ปล่อยให้พี่แซนด์ยืนอึ้งอยู่  
      “นั่นนะซิคะ พี่กับนาตไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย ทำไมต้องคุยกันด้วย เอ่อพี่ตั้มค่ะปรางค์ไปเรียนแล้วนะค่ะ สายแล้วเนี่ย”ฉันว่า
      “ตอนนี้พี่แซนด์ไม่มีใครให้ทำโทษแล้วค่ะ พี่กับนาตเป็นแค่รุ่นพี่กับรุ่นน้อง พรีมไปแล้วนะค่ะพี่พล”พรีมพูดจบก็ฉวยข้อมือฉันวิ่งตามนาตไป...เป็นไงล่าพี่แซนด์หายเซ่อไปเลยใช่มั้ย
      ฉันนั่งเรียนวิชาภาษาไทยสุดโปรดอย่างตั้งใจ แล้วพอถึงคาบคณิตศาสตร์ก็นั่งปรึกษากับพรีมกันว่าจะทำยังไงกับนาตต่อไป ฉันกับพรีมก็เกลียดวิชาคณิตศาสตร์พอๆกันเลยค่ะ นาตน่ะเค้าเป็นเซียนคณิตศาสตร์ว่าได้เลย
      “พรีม เอาอย่างนี้มั้ย วันนี้เราไปทานข้าวด้วยกันพี่ตั้ม พี่พลด้วย แล้วเราก็พ่วงยัยนาตไปด้วย และก็แน่นอนว่าพี่แซนด์ก็ต้องตามพี่ตั้มกับพี่พลมาด้วยจากนั้นเราก็..........................ดีมั้ย”ฉันเสนอวิธีของฉันให้พรีมฟังอยู่นาน  
      “อืม ดีเลย แต่นี่ต้องเป็นครั้งสุดท้าย จะจบยังไงก็จบไปเลยนะ”พรีมว่า
      *********************************************  
      “วันนี้ไปทานข้าวด้วยกันทั้งหมดเลยนะค่ะ”ฉันจัดการชวนทุกคนให้ไปด้วยกันก่อน...นี่คือแผนค่ะแผน  
      “ดีเลย วันนี้ช่วงบ่ายไม่มีเรียนกันเลยนี่ ไปฉลองกันมั้ย”พี่ตั้มช่วยอีกแรง
      “เนื่องในโอกาสอะไรค่ะ”นาตถาม
      “ก็น้องๆพ้นโทษแล้วไง”พี่พลว่า
      “ใช่ๆ วันนี้ไม่มีการทำโทษ มีแต่การไปสังสรค์กันนะค่ะ”พรีมว่า
      “แล้วใครจะเป็นเจ้ามือเลี้ยงล่ะค่ะ”ฉันสะกิดพี่แซนด์ให้รับหน้าที่นี้ไป
      “พี่เองก็ได้”พี่แซนด์อาสา  
      “ก็ได้นี่หมายความว่ายังไงค่ะ เต็มใจหรือเปล่า ถ้าไม่เต็มใจฉันเลี้ยงเองดีกว่า”นาตเชิดใส่พี่แซนด์         “เต็มใจอยู่แล้ว”พี่แซนด์ว่า                      
      “จะจบยังไงนะคู่นี้ ปรางค์ว่าไง”พี่ตั้มกระซิบถามฉัน...ฉันยังเขินไม่หายเลย
      “ก้ออออ....ก็ไม่ว่าไงค่ะ”ฉันตอบแบบเดิมคือติดๆขัดๆเหมือนเดิม
      “ไปเร็วๆ  รีบๆไปแล้วจะได้รีบกลับ”นาตว่า  
      เราเดินไปทานข้าวกันที่ร้านเดิม...ก็ร้านเดียวกับตอนทานข้าวด้วยกันครั้งแรกไง พี่แซนด์เป็นคนเสนอเอง  นาตกับพี่แซนด์ไม่รู้หรอกว่าเราวางแผนอะไรกัน แล้วเดี๋ยวจะได้รู้กัน พอไปถึงที่ร้านแล้วนาตก็แกล้งสั่งของซะเยอะเชียว แล้วนั่งแบบไม่สนใจใคร
      “นาต เธอจะกินหมดหรอ สั่งมาได้ตั้งเยอะ”พรีมเตือนยัยนาต...ก็เห็นมันสั่งเอาๆ  
      “หมดสิ ของแค่นี้ฉันกินได้สบายๆ”นาตว่า  
      “แล้วแต่นะ เห็นทุกวันเธอก็กินแค่นิดเดียว”พรีมว่า  
      “อืม ไม่สั่งแล้ว เดี๋ยวมันจะนานเกิน”นาตวางเมนูอาหารลง  
      ทานได้ไม่นานยัยนาตก็เข้าห้องน้ำ  นี้ก็อีกคน ชอบเข้าห้องน้ำบ่อย ไม่ได้ไปทำอะไรมากหรอก ก็แค่ไปส่องกระจกดูนี่นิดดูนั่นหน่อย  ยัยนาตก็เข้าห้องน้ำคนเดียวตามแผน ฉันกับพรีมจัดการพูดกับพี่แซนด์  
      “พี่แซนด์คะ ปรางค์กับพรีมจะให้โอกาสพี่อีกครั้งเดียว พี่จะอธิบายอะไรให้นาตฟังก็ได้ ถ้าพี่ชอบนาตจริงๆ แต่ว่าปรางค์ขออะไรอย่างได้มั้ยคะ อย่าทำให้นาตร้องไห้นะ”ฉันสั่งพี่แซนด์ก่อนจะออกไป ตอนนี้ที่โต๊ะก็มีแค่พี่แซนด์
      *********************************************
      เราไม่ได้ออกไปไหนหรอก ก็แอบฟังอยู่แถวๆนั้นแหละ แต่ว่ายัยนาตออกมาช้ามากเลย สงสัยชอบเฝ้าห้องน้ำ นั่งรออยู่นานก็ยังไม่ออกมาซะที ดูพี่แซนด์ซิ กระสับกระส่ายเชียว      
      “ปรางค์นี่ไม่ค่อยกล้าเลยนะ”พี่พลว่าระหว่างรอยัยนาตออกมา...ไม่กล้าอะไร
      “อะไรค่ะ”ฉันถามแบบงงๆ
          “ก็ไม่กล้าบอกรักกันตรงๆไง”พี่ตั้มว่า...อะไรกัน ฉันหน้าแดงหมดแล้วนะ  
          “ก็ไม่ต่างอะไรกับพี่พลนี่ แล้วพี่ตั้มไม่ชอบหรอค่ะ”ฉันค้อนขวับให้ทีนึง  
          “พี่ก็ชอบปรางค์ตรงนี้แหละ เข้าใจมั้ย”พี่ตั้มว่า...ว้ายหน้าฉันแดงจนจะเป็นสีอื่นแล้วนะ ฉันว่าขืนคุยเรื่องนี้อีก ความดันฉันสูงขึ้นอีกแน่
          “อ้ะ นาตออกมาแล้ว”ฉันว่าพลางชี้มือไปทางนาต    
          “เงียบเร็ว เดี๋ยวไม่ได้ยินนะ”พรีมว่า
          ฉันเห็นนาตเดินออกมาปุ๊บก็เห็นนาตโวยใหญ่เลย
          “แล้วนี่เพื่อนฉันไปไหนหมดค่ะ รุ่นพี่”นาตว่า  
          “นั่งลงก่อนสิ เดี๋ยวเพื่อนนาตก็มาแหละ”พี่แซนด์ว่าพลางฉุดมือนาตให้นั่งลง แต่นาตก็สะบัดมืออีก คราวนี้พี่แซนด์ไม่ปล่อย
          “ปล่อยค่ะ ฉันจะไปหาเพื่อนฉัน”นาตว่า พลางแกะมือออก แต่ทำยังไงพี่แซนด์ก็ไม่ปล่อย  
          “นั่งลงก่อนพี่มีเรื่องจะคุยด้วย”พี่แซนด์ว่า  
          “ฉันบอกว่าฉันจะไปหาเพื่อนฉัน รุ่นพี่มาจับมือฉันหยั่งงี้เดี๋ยวแฟนคลับจะมาเห็นเข้านะ”นาตว่า  
          “พี่ไม่ปล่อย นาตจะไปไหนก็ได้แต่ขอให้ฟังพี่ก่อน ฟังอย่างเดียว อย่าเอาแต่โวยวายสิ”พี่แซนด์เริ่มดุ  
          “ทำไมค่ะ ทำไมนาตต้องฟังด้วย พี่จะปิดใจตัวเองอีกกี่ชาติก็เชิญเลย เชิญฝังตัวเองไว้กับอดีต นาตรู้นะว่าพี่จะต้องเคยอกหัก”นาตว่า....น้ำตามันพาลจะไหลออกมา
          “ใช่พี่เคยอกหัก พี่ปิดใจตัวเอง...แล้วไง ตอนนี้พี่กำลังจะเปิดใจให้นาตเข้ามา มันผิดมั้ย”พี่แซนด์พูดออกไปอย่างดุเดือด...ฉันกำลังจะออกไปแต่พี่ตั้มห้ามไว้
          “เปิดใจหรอค่ะ การที่พี่เย็นชากับนาตมันแปลว่าพี่เปิดใจให้งั้นเหรอค่ะ นาตไม่รู้มาก่อนเลยนะว่ามีคนแบบนี้ในโลกนี้ด้วย”นาตก็โต้แบบดุเดือดกลับไป
          “นาต พี่ก็แค่ไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้พี่แน่ใจแล้ว”พี่แซนด์ว่า  
          “ไม่แน่ใจ หรือไม่ไว้ใจนาตกันแน่ พี่คิดว่านาตเป็นคนไม่จริงใจกับใคร...ใช่มั้ย”นาตโต้ไม่ยั้ง  
          “ไม่ใช่ พี่บอกว่าพี่ไม่แน่ใจ นาตเชื่อพี่ได้มั้ย ครั้งเดียว”พี่แซนด์ส่งสายตาวอนขอ....นาตเริ่มเสียงอ่อนลง        
          “เชื่อน่ะเชื่อ แล้วไง นาตเชื่อแล้วไง นาตไปได้รึยัง”นาตว่า
          “แล้วนาตจะไม่พูดอะไรเลยหรอ”พี่แซนด์ว่า  
          “นาตไม่มีอะไรจะพูดแล้วนี่ นาตไปนะค่ะ”นาตพูดจบก็รีบหยิบข้าวของกลับหอไป...พี่แซนด์ก็จะตามไปแต่ว่า ฉันก็ออกมาห้าม...แบบว่าออกมาจากที่ซ่อนแล้ว        
          “อย่าตามไปเลยค่ะ ถึงพี่ตามไปก็ไม่ได้เข้าหอหญิงอยู่ดี”ฉันว่า
          “นายไม่ต้องตามไปก็ได้ แต่ว่าฉันมีวิธีนะ ส่งข้อความไปหาสิ”พี่ตั้มว่า..ดูสิค่ะ เอาวิธีของตัวเองที่เคยใช้มา
      “ทำไมดุเดือดนักละค่ะ เพื่อนพรีมร้องไห้เลยเห็นมั้ย”พรีมเอ็ดพี่แซนด์          
      *********************************************
          “ฉันว่าแล้วเห็นมั้ย พี่แซนด์ก็ชอบเธอ”พรีมว่า...หลังจากที่ได้อ่านข้อความของพี่แซนด์แล้ว ‘รักกันนะรักกัน พี่รู้ว่านาตชอบพี่เหมือนกัน^_^ / พี่แซนด์’ ก็ไม่ต่างจากพี่ตั้มหรอก  
          “ยอมรับได้แล้ว เดี๋ยวแห้วไม่รู้ด้วย อุตส่าห์ช่วยแล้วนะ”ฉันว่า  
          “จะให้ฉันขอบคุณหรือด่าดีนะ”นาตว่า  
          “ต้องขอบคุณซีย่ะ ฉันช่วยเธอไม่ได้แกล้ง”พรีมค้อนให้นาต  
          “จะพยายามคิดนะว่าพวกเธอช่วย”นาตหัวเราะจางๆ
          “ตกลง เป็นแฟนพี่แซนด์แล้วนะ”ฉันว่า  
          “ในที่สุดก็ happy ending จนได้ นึกว่าจะต้องมานั่งซับน้ำตาให้เธอซะอีก”พรีมว่า...พูดมาได้ ไม่ใช่ละครซะหน่อย  
          “ยังไม่ได้บอกซะหน่อยว่าจะเป็นแฟน พี่เค้า”นาตว่า
          “ถึงไม่บอก ก็ต้องเป็นอยู่ดีแม่คนปากแข็ง”ฉันว่า...ตอนนี้หน้ายัยนาตแดงเป็นลูกตำลึงสุกแล้ว  
          “ใครปากแข็ง ฉันพูดความจริง” คนปากแข็งว่า  
          “แล้วแต่นะ ต่อไปนี้หัวใจใครก็ดูแลกันเองนะ ไม่มีการช่วยเหลือแล้ว”พรีมเชิดใส่หน่อยๆ  
          “จ้า แล้วเรื่องถั่วเขียวล่ะ”ฉันขุดเรื่องเก่ามาคุย
          “ขอโทษนะ ฉันบอกพี่พลตั้งแต่วันโน่นแล้วละ”พรีมว่า  
          “ว่าไงนะ หยั่งงี้ก็แสดงว่าพี่ตั้มรู้แล้วนะสิ”ฉันว่า...นั่นแหละถึงว่า ทำไมถึงชอบคุยเรื่องถั่วงอก ถั่วเขียวมากนัก  แสบจริงยัยพรีม
          “ยังไงก็เคลียร์กันเองนะ”นาตว่า  
      ******************************************
      จบแล้วค่ะ จะเป็นไงต่อคิดเองนะ ขี้เกียจแล้ว
      ไม่เข้าใจอะไรถามได้นะ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×