The Touch Of The Angel - The Touch Of The Angel นิยาย The Touch Of The Angel : Dek-D.com - Writer

    The Touch Of The Angel

    เคยไหม... ที่จะได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง... คนที่เป็นคนพิเศษ... เสมือนแสงเทียน...

    ผู้เข้าชมรวม

    395

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    395

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 ก.ย. 46 / 18:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ชีวิตที่เงียบเหงา...

      สำหรับผม... ผมคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี...

      ร่างกายของผมอ่อนแอมาตั้งแต่ผมยังเด็กๆ พ่อแม่จึงไม่ค่อยอยากให้ผมออกไปยังโลกภายนอกเท่าไหร่เพียงแต่ให้พักฟื้นที่บ้าน... นานนับชั่วกัปกัลป์... ราวกับว่าผมคงจะไม่ได้เจอกับโลกภายนอกเหมือนคนอื่นๆ...

      ชีวิตที่เคลื่อนที่ไป... ตามเข็มวินาทีในหน้าปัดนาฬิกาอันเคลื่อนตัวไปอย่างเชื่องช้า...

      ผมไม่เคยเบื่อกับมัน... แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกสนุกกับมัน... ตลอดระยะเวลา 14 ปีของผม ผมเองก็เคยสงสัยเหมือนกันว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร... อาจารย์ที่มาสอนพิเศษผมบอกว่าผมเรียนรู้เร็วกว่าคนอื่น ท่านสอนให้ผมจินตนาการถึงโลกภายนอกที่ที่มีแสงอาทิตย์... มีผู้คน... มีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง... มันคงจะเป็นอะไรที่มากกว่าเทพนิยายที่แม่เคยเล่าให้ผมฟังสมัยผมยังอายุไม่ถึง 10 ขวบ...

      ไดอารี่เล่มนี้...

      อาจเป็นไดอารี่เล่มสุดท้ายของผมแล้วก็ได้...

      จริงสิ... ผมคงจะยังไม่ได้บอกคุณ... ผมเป็นคนที่ตาบอด... หรือเพราะว่าถูกทำให้ตาบอด ผมเองก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ หมอประจำตัวของผมจะใช้ผ้าพันแผลสีขาวสะอาดพันรอบศีรษะของผม บดบังนัยน์ตาของผมเสียจากสีสันของโลกที่แท้จริง ผมจมปลักอยู่ในความมืดที่ผมชินชากับมัน... ถ้าเป็นคนอื่น เขาอาจจะร้องไห้แต่ผมไม่... ชีวิตแบบนี้... ผมชินแล้ว...

      ครั้งหนึ่ง ผมน่ะก็เคยนะ... ที่จะประทับใจกับสีสันที่เห็น...

      แต่ต่อมา... ผมก็อยู่แต่ในความมืด.. ตลอด... ความมืด... ที่ไม่ชั่วนิรันดร์

      ท่ามกลางชีวิตที่เงียบเหงา และซ้ำๆ ซากๆ จำเจเสมือนหนึ่งกาลเวลาได้ย้อนกลับคืนสู่อดีตเมื่อวันวาน ในกลางคืนที่มีเพียงเสียงเรไรกรีดร้องยามค่ำคืนราวจะเริงระบำไปกับจังหวะเพลงของมัน \"เธอ\" คนนั้นก็ปรากฎตัวขึ้น...

      ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร แต่เธอเริ่มต้นการทำความรู้จักกับผมด้วยการทักทายสั้นๆ ... ด้วยเสียงที่หวานไพเราะ... ราวกับเป็นเสียงของนางฟ้ามากกว่าจะเป็นคน...

      เธอบอกผมว่าเธอชื่อคริสติน... เธอไม่เคยบอกผมว่าเธอมาจากที่ไหน... และผมเองก็ไม่เคยถามเธอ

      กลางความมืดมิด เธอคงจะเป็นแสงสว่างทอเรืองรอง... เสมือนหนึ่งเปลวเทียนอันสุกสกาวกลางความมืดแห่งรัตติกาล...

      ช่วงแรกๆ ผมไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ที่จะคุยกับ \"คนแปลกหน้า\" อย่างคริสติน แต่เธอก็คอยแวะเวียนหาผม...

      ทุกๆ คืน...

      แสงไฟดวงน้อยๆ จะปรากฎขึ้นกลางความมืด... พร้อมๆ กับเสียงหัวเราะแผ่วเบาของเธอเป็นสัญญาณบอกผมว่าเธอมาแล้ว...

      คริสตินชอบเล่าให้ผมฟังถึงโลกภายนอก... ถึงทะเล... ถึงท้องฟ้าสีคราม... ถึงพระจันทร์ทรงกลด และถึงในตัวเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงใหญ่ และผู้คนมากมายที่มีทั้งรอยยิ้มบนใบหน้า... และมีทั้งน้ำตา... เธอสอนผมอะไรหลายๆ อย่าง อาจจะสอนได้ดีกว่าอาจารย์ของผมเสียอีก...

      คริสตินบอกว่า...

      ....บ้านของผมห่างไกลจากเมืองออกไป... ห่างไกลออกไปมากๆ อยู่ในสถานที่ที่ร้างผู้คน ตั้งตัวอย่างโดดเดี่ยวบนภูผาไม่ใกล้ไม่ไกลจากทะเล...

      บ้านของผม... ถึงจะเป็นเสมือนกรงที่กักขังนกตัวเล็กๆ ก็คือผม... แต่ก็เป็นสถานที่ที่สงบ และปลอดเสียงหนวกหูวุ่นวายเหมือนกับในเมือง ในเมืองนั้นจะเต็มไปด้วยตึกสูง... บ้านเรือนหลายหลังปลูกเบียดชิดกันแน่นที่ ณ ริมฝั่งขอบถนน... ผู้คนมีหลายรูปแบบมากภายในเมือง ทั้งผู้คนที่เงียบขรึมตลอดเวลาเหมือนผม ผู้คนที่ร่าเริงสดใส ผู้คนที่กำลังหม่นทุกข์ หรือผู้คนที่เต็มไปด้วยน้ำตา...

      พวกเขามีสองแบบ หนึ่งคือผู้ที่มีความสุขกับธรรมชาติ และสองก็คือผู้ที่มีความสุขกับวัตถุ บางคนอาจหมกมุ่นอยู่กับวัตถุต่างๆ ตลอดเวลาโดยไม่ได้ใส่ใจถึงโลกภายนอกเลย ทั้งๆ ที่พวกเขามีโอกาสมากมายที่จะได้เงยหน้าขึ้นมองพระอาทิตย์ยามตกดิน.. อันสาดแสงสีแดงดุจโลหิตแต่งแต้มให้ผืนนภาดูเป็นสีกุหลาบเคว้งคว้าง... หรือพระจันทร์อันเปล่งแสงสีเงินยวงสุกสกาวโดยมีบริวารเป็นเหล่าดวงดาราเกลื่อนกลาดทั่วผืนผ้ารัตติกาลสีดำสนิท...

      เวลาเธอพูด น่าแปลกที่ผมจะรู้สึกได้ถึงเสียงแห่งความสุข และผมเองก็เกือบจะคิดด้วยซ้ำว่าเธอยิ้มเริงร่าตลอดเวลา...

      ในความมืด.......

      ......ที่ไม่ชั่วนิรันดร์....

      และเช่นเดียวกัน.... แสงเทียนดวงน้อย.... ที่ก็ไม่ชั่วนิรันดร์.....

      คืนหนึ่ง คริสตินเข้ามาหาผม และถามผมด้วยคำถามแรกที่เธอคิดจะถามผม...

      \"เฟรย์... อยากออกไปดูทะเลมั้ย ? ข้างๆ บ้านเธอก็มีทะเลนะ... ฉันจะพาไปดู.... ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย...\"

      คำพูดของเธอคืนนี้ไม่ได้ใสกังวาน แต่กลับสั่นเครือผิดปกติ... อาจเป็นเพราะว่าเธอคงจะมีอะไรบางอย่างขับข้องใจ... ผมออกไปข้างนอกไม่ได้ก็จริง แต่ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ผมอยากจะฝืนพ่อแม่... ฝืนกฎ... ฝืนร่างกายตัวเอง...

      อยากเห็นเหมือนกันนะ...

      อยากออกไปเหมือนกัน...

      สยายปีกหลุดพ้นออกจากกรงทองที่พ่อแม่สร้างไว้ให้...

      คริสตินพาผมออกจากบ้านโดยอาศัยระเบียงของห้องของผม...

      บรรยากาศภายนอกเย็นยะเยือกกว่าที่ผมคิด... อาจเพราะมันเป็นตอนกลางดึก... ผมได้ยินเสียงเธอหัวเราะอย่างเริงร่าอีกครั้งหนึ่ง... เสียงที่เป็นตัวของเธอเอง ขณะที่เธอกึ่งฉุดกึ่งลากผมไปตามทางแข็งที่ปูด้วยหิน

      เสียงนั้น... เสียงคลื่นที่ซัดสาดกระทบชายฝั่ง... ชั่วขณะหนึ่ง... มันฟังเป็นเสมือนเสียงแว่วๆ ... เสมือนเสียงลวง... ครั้นแล้ว... ผมก็ได้ยินอย่างชัดเจนขึ้น... ชัดเจนขึ้น... พื้นที่ผมเหยียบย่ำลงไปกลายเป็นผืนดินทรายเฉอะแฉะที่ดูจะยวบยาบลงไปในทุกๆ แห่งที่ผมก้าวลงไป...

      คริสตินบอกผมว่า...เสียงที่ผมได้ยินคือคลื่น...เธอพาผมลงต่ำเรื่อยๆ ไปจนถึงชายทะเล... ผมรู้สึกได้ถึงฟองคลื่นละเอียดอ่อนราวฟองสบู่ที่ซัดสาดใส่ขาของผม ผมนั่งลง เช่นเดียวกับเธอที่ผมรู้สึกได้ว่าเธอเองก็นั่งลงเช่นกัน... ข้างๆ ผม...

      อาจเพราะว่าผมไม่เคยรู้เลยว่าสิ่งมหัศจรรย์แบบนี้อยู่ข้างๆ บ้านผมนี่เอง... ผมถึงได้รู้สึกประทับใจอย่างที่สุด...

      อยากมองเห็น... อยากมองเห็นจริงๆ

      \"เฟรย์ ลองแกะผ้าพันออกดูมั้ย ?\" จู่ๆ คริสตินก็ถามผม \"ฉันว่าเธอไม่เป็นไรมากหรอก\"

      ผมปล่อยให้มือเรียวเล็กของเธอค่อยๆ บรรจงแกะผ้าที่พันรอบนัยน์ตาของผมไว้ออก... ความรู้สึกเสมือนมีอะไรกดทับที่รอบศีรษะค่อยๆ อ่อนลงๆ ราวพันธนาการที่ถูกปลดออกทีละชิ้น... ทีละชิ้น... แล้วผมก็รู้สึกถึงความเย็นที่กระทบเข้ากับบริเวณรอบนัยน์ตาของผม...

      ....

      ชั่วกษณะหนึ่ง...

      เสมือนเป็นเพียงความมืด... แล้ว... ทุกๆ อย่างก็ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น... เค้าโครงเริ่มปรากฎ... สีสันรัวรางเริ่มแล่นเข้าสู่สายตาของผมราวม่านมายาที่ถูกแหวกออกเผยให้เห็นภาพพร่ามัวเบื้องหลังม่านเงินยวง...

      \"สวยใช่มั้ย...\"

      เสียงหวานของคริสตินที่ผมคุ้นดีดังขึ้นอีกครั้ง

      ใช่... สวย...

      ผืนรัตติกาลแผ่ครอบคลุมทั่วท้องนภา... ผืนราตรีนั้นดูเป็นสีดำสนิทอันประดับประดาด้วยดวงดารานับล้านอันเปล่งแสงสุกสกาวแข่งคู่กับดวงจันทราครึ่งเสี้ยวสีเงินยวง.. แสงแห่งจันทรา และแสงแห่งดวงดาราสร้างให้ทิวทัศน์บริเวณนี้ดูราวกับอาบด้วยเงิน... ท้องทะเลดูเป็นสีครึ้มสะท้อนแสงจันทร์และแสงดาวเป็นประกายระยิบระยับ ระลอกคลื่นเล็กละเอียดแปรสภาพเป็นฟองคลื่นซัดสาดใส่ขาของผม.. แล้วผมถึงสังเกตว่าผมใส่ชุดขาวทั้งชุด...

      คริสตินเอง...

      ก็ใส่ชุดขาวเหมือนกัน... ชุดกระโปรงขาวยาวกรอมเท้า... ราวกับชุดของเทพธิดา...

      เส้นผมของเธอเป็นเส้นผมหยักศกสีดำสนิทยาวเลื้อยคลุมบ่า อีกทั้งยังเปียกโชกด้วยน้ำ หยดน้ำเกาะแพรวพราวทั่วดวงหน้ารูปไข่ขาวสวยราวดวงหน้าของพระแม่มารีอาผู้สูงส่ง...

      ถ้าเป็นคนอื่นที่ได้เห็นภาพอันงดงาม... เทพธิดาชุดขาวกลางทัศนียภาพที่แสนสวยงามเป็นที่สุด... เขาคงจะใจเต้นระรัวไปแล้ว...

      แต่สำหรับผม... ผมกลับสงบนิ่งได้อย่างน่าประหลาด... ชนิดที่ผมเองก็ยังแปลกใจ

      แล้วผมก็พูดคำคำแรก... คำคำแรกจริงๆ... คำแรก... ประโยคแรก... ที่ผมพูดกับเธอ หลังจากที่ผมเงียบมาแสนนาน... แสนนานที่ผมไม่เคยปริปากเอื้อนเอ่ยคำพูดของผมกับใครเลย... จนหลายๆ คนคิดว่าผมเป็นใบ้

      \"ผม... มองเห็นแล้วนี่...\"

      คริสตินยิ้ม... แล้วผมจึงสังเกตว่าเธอยิ้ม... ทั้งน้ำตา

      \"เธอมองเห็นมาตลอดเฟรย์\" เธอเอ่ยเสียงแผ่ว \"นกที่ถูกกักขัง... ใช่ว่าจะบินไม่ได้เลย.. ใช่ว่าจะร้องเพลงไม่ได้เลย...\"

      ผมยิ้มให้กับเธอ... รู้สึกราวเป็นรอยยิ้มสุดท้ายที่ผมจะยิ้มให้กับเธอแล้ว...

      \"จะผิดมั้ยถ้าผมคิดว่า... เธอน่ะ... เป็นนางฟ้าสำหรับผม...\"

      คริสตินหัวเราะ... เสียงหัวเราะของเธอสั่นเครือด้วยตอนนี้ เธอกำลังร้องไห้ไม่หยุด เธอเอื้อมมือเรียวเล็กเข้าแตะใบหน้าของผม... ผมรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่แสนจะอ่อนโยน นุ่มนวล เสมือนหนึ่งนิ้วของเธอบอบบาง และสร้างขึ้นจากปุยสำลีอ่อนนุ่ม อีกทั้งยังเนียนละเอียดราวกับกลีบกุหลาบ

      \"ไม่ผิดหรอกเฟรย์... นี่จะเป็นคืนสุดท้ายที่ฉันจะได้มาแล้วนะ... ฉันต้องไปแล้ว.... ถ้า... ถ้าหากว่า... เห็นฉันในร่างใหม่... อย่าลืมทักทายด้วยนะ\"

      คำพูดที่เธอฝากไว้กับผม...

      ....ลาก่อน....

      คำพูดเดียวสั้นๆ ที่ทำให้ผมรู้สึกเจ็บลึกๆ ในใจได้เป็นอย่างดี ถึงกระนั้นก็ตาม... ผมก็เข้มแข็งขึ้น... เพราะเธอ

      กาลเวลาล่วงเลยมาได้นานมากแล้ว แต่ผมก็ยังจำได้ดี

      เสียงหัวเราะแสนสุข

      เสียงพูดคุย...

      เทพธิดาของผม... สัมผัสนั้นที่เธอมอบไว้ให้กับผม... ผมจะไม่ลืมเลย...

      เด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่ครั้งหนึ่ง เคยเป็นเพียงวิญญาณที่หยอกล้อกับเหล่าหมู่แมกไม้ที่สวนในบ้านของผม...

      เธอเห็นผมผ่านทางหน้าต่าง... เธอเห็นแสงไฟจากห้องของผม... นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอสนใจในตัวของผม...

      ทุกๆ คืน... ทุกๆ วัน... เธอคอยเฝ้ามอง... ยิ้มไปกับผม... ร้องไห้ไปกับผม... ถึงผมจะไม่เคยยิ้มไม่เคยร้องไห้ แต่ก็ยังคอยมีคนมายิ้มและร้องไห้แทนผมตลอดเวลา...

      แล้วก็ได้เวลา... ที่เธอต้องไป...

      สู่ชีวิตใหม่...

      สู่โลกใหม่...

      ต่อให้เวลานี้ คริสตินอาจจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคน... ที่จำผมไม่ได้... แต่ผมยังจำเธอได้ดี

      เธอไม่ใช่ผี

      เธอไม่ใช่วิญญาณ

      .......

      .............แต่เธอคือนางฟ้าของผม...........

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×