เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป - เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป นิยาย เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป : Dek-D.com - Writer

    เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป

    เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึนกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่คิดว่าเรื่องนี้มันจะเกิดขึ้นกับเขา แต่มันก็เป็นความทรงจำที่ดีของเขาเหมือนกัน...

    ผู้เข้าชมรวม

    1,037

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    12

    ผู้เข้าชมรวม


    1.03K

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ก.ค. 46 / 19:23 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      >>มันเป็นเรื่องจริงของผู้ชายคนหนึ่ง
          เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
         ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้  แต่มันก็เป็นความประทับใจอย่างหนึ่งเหมือนกัน
          มันเป็นเรื่องเศร้าที่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น
      >>ขอย้อนเวลาไม่เมื่อตอนอยู่ ป.6
      เมื่อวันที่จบภาคเรียนของ ป.6 เป็นวันสุดท้ายที่ได้มาโรงเรียน
      มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาร้องไห้ต่อหน้าผม  และสัญญากับผมว่า........
      เมื่อเข้ามัธยมเมื่อไหร่  เธอจะมาเป็นแฟนกับผม
      ( ตอนนั้นเธออยู่ ป.1 )
      เนื่องจากผมไปทำอะไรให้เธอประทับใจก็ไม่รู้  แต่เด็กคนนั้นก็มาชอบผมเข้าแล้ว
      และบ้านผมก็อยู่ใกล้ ๆ โรงเรียนด้วย  ผมเลยมาหาเธอทุก ๆ เย็นหลังเลิกเรียน
      แต่เมื่อเวลาผ่านไป  ผมไม่ได้ไปหาเธอ ( อาจเนื่องจากชีวิตมัธยมมันสนุกมั้ง )
      มันก็เลยทำให้ผมลืมเธอ..............
      และแล้วเวลาก็ผ่านไป 6 ปี
      มีอยู่วันหนึ่งผมกับเพื่อน ๆ ก็ไปงานเลี้ยงรุ่นที่โรงเรียนมัธยม
      ตอนนั้นผมเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว
      และแล้วก็เหมือนฟ้าบันดาลให้เราได้เจอกันอีกครั้งในงานเลี้ยงนั้นเอง
      เธอเข้ามาเรียนที่เดียวกับผมหรือนี่  ผมจำเธอไม่ได้หรอ
      แต่เธอเป็นคนเข้ามาทักผมก่อน “พี่ ๆ พี่ปอยใช่มั้ย”
      เธอเข้ามาสะกิดหลังผม  ผมเลยหันหลังไปมอง
      สิ่งที่ผมได้เห็นก็คือ  ผู้หญิงน่ารัก  ตัวขาว ๆ หน้าขาว ๆ หมวยนิด ๆ
      ผมอึ้งไปซักพักหนึ่ง
      แล้วผมก็ตอบกลับไป “ใช่ครับ..แล้วน้องเอ่อ.?..”
      “ฟางไง..พี่ปอยจำฟางไม่ได้เหรอ”
      ผมก็นึกอยู่นาน  แต่ตอนนั้นสมองมันเป็นอะไรไม่รู้ทึบไปหมด  คิดอะไรไม่ออก
      คงเนื่องจากเหล้าที่ผมดื่มไปล่ะมั้ง
      แต่ผมก็ตอบไป “อ๋อ..ฟางเองเหรอ  ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
      นี่เป็นคำตอบ  ไม่รู้คิดอะไรออกไป
      แล้วเธอก็พูดขึ้นมาอีก “แล้วจำสัญญาที่ฟางเคยให้ไว้มั้ย”
      ตอนนั้นผมคิดได้เพียงหล่นเป็นใครผมยังจำไม่ได้  แล้วจะจำสัญญาอะไรได้วะ !!
      แต่ก็ตอบ “จำได้สิ”
      เป็นคำตอบที่ซี้ซั้วจริง ๆ (-_-!)  แต่ไม่รู้จะตอบยังไงนี่นา
      พอผมตอบไป  หน้าเธอแสดงอาการที่ดีใจมาก  
      หน้าขาว ๆ อมชมพูพร้อมรอยยิ้มของเธอ
      ทำให้ผมยิ่งคิดว่าผมไปสัญญาอะไรกับเธอไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
      รีบคิดสิ !!
      “แล้วฟางเคยเคยสัญญาอะไรกับพี่ปอย  บอกหน่อยได้มั้ย..?..”
      เอาแล้วไง  ซวยแล้วสิ
      แล้วเราจะตอบยังไงล่ะเนี่ย  ตอบว่าจำไม่ได้ตั้งแต่แรกก็ดีแล้ว
      ผมยืนนึกอยู่ซักพัก
      เธอเริ่มทำหน้างอนใส่ผม
      ผมก็เลยตัดสินใจบอกไป “ขอโทษนะ..พี่จำไม่ได้”
      ผมได้แต่คิดว่า  ซวยแล้วสิกู  จะทำยังไงดีล่ะ  แต่แล้ว.........
      เมื่อผมตัดสินใจมองหน้าเธอ
      เธอกลับยิ้มและบอกผมว่า
      “ไม่เป็นไรหรอก  ฟางรู้ว่ามันนานแล้ว  แต่ฟางไม่เคยลืมนะ”
      คำพูดของเธอยิ่งทำให้ผมสงสัยเข้าไปอีก
      ผมเป็นคนขี้อายนะ  แต่เมื่อแอลกอฮอลล์ออกฤทธิ์
      มันก็ทำให้คนเรากล้าและบ้าบิ่นยิ่งกว่าเดิม
      ( พวกผู้ชายทั้งหลายน่าจะรู้กันดี )
      ผมก็เลยบอกกับเธอว่า
      “งั้นพี่ขอคุยอะไรหน่อยได้มั้ย  กลับบ้านดึกได้รึเปล่า”
      เธอยิ้มและบอกผมว่า “ไม่ได้หรอก”
      แป่ว..!!..คำนี่อยู่ในสมองผม  คนน่ารักอย่างนี้จะไปกับผมทำไมเนอะ
      แล้วเธอก็พูดว่า “ล้อเล่นน่ะ  วันนี้ฟางบอกพ่อว่าค้างบ้านเพื่อน”
      เอาแล้ว  สวรรค์เปิดทางให้คนอย่างเรา
      ผมเลยบอกเธอว่า  “งั้นไปกินข้าวข้างนอกดีกว่านะ”
      เธอไม่ตอบอะไร
      แต่ผมลุกไปแล้ว  ผมคิดว่าเธอคงตามมา
      แต่เธอกำลังกระซิบอะไรกับเพื่อนก็ไม่รู้
      แล้วเธอก็ตามผมมา
      ผมสงสัยก็เลยถามเธอไปว่าคุยอะไรกับเพื่อนหรอ  (แล้วมันเรื่องอะไรของแกวะ)
      เอบอกว่า “ฟางบอกเพื่อนว่าวันนี้จะไม่กลับนะ  ถ้าพ่อโทรมาบอกว่าฟางหลับแล้ว”
      เฮ้ย ! วันนี้ไม่กลับก็แสดงว่าจะอยู่กับเราทั้งคืนน่ะสิ  คิดแบบเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน
      แล้วผมก็พาเธอนั่งแท็กซี่ไปกินข้าวที่ร้านประจำใกล้มหาลัย
      ขาไปนั่งกันเงียบไม่ค่อยพูดอะไร  เพราะกลัวพูดไปก็เข้าข้างตัวเองอีกนั่นแหละ
      พอไปถึงสั่งอาหารมา  
      ผมก็บอกเธอว่า  “ขอโทษนะที่พี่จำไม่ได้”
      เธอยิ้มแล้วก็ไม่พูดอะไร  ผมก็เลยถามไปอีก
      “แล้วฟางเคยสัญญาอะไรกับพี่ไว้หรอ..?..”
      เธอมองหน้าผม  แต่ผมกลับก้มหน้าไม่กล้าสบตาเธอ
      “ฟางล้อเล่นน่ะ..ฟางไม่ได้สัญญาอะไรกับพี่หรอก”
      อ้าว....แล้วเราพามาทำไมเนี่ย  แทนที่จะสนุกกับเพื่อนเก่า
      แต่ก็นึกได้ว่า  มากินข้าวกับเด็กน่ารัก ๆ อย่างนี้ก็คุ้มแล้ว  นั่งกินไปคุยไป
      พอข้าวหมด  ผมก็สั่งเบียร์มา  เธอไม่กินเหล้านะ  แต่กิน SPY
      กินไปซักพักผมสังเกตว่าดึกมากแล้ว  แล้วเธอก็เริ่มเมา
      เพราะเธอพูดอะไรไม่รู้เรื่อง  แล้วน่าเธอก็แดงด้วย
      คนขาว ๆ อย่างเธอหน้าแดง ๆ ออกชมพูดูง่าย
      “เมารึยัง  เดี๋ยวพี่จะไปส่ง”  เธอกลับพูดว่า
      “พี่คงลืมสัญญาที่ฟางจะเป็นแฟนพี่แล้วใช่มั้ย”
      ผมพอนึกออกแล้ว เฮ้ย !  เฮ้ย !  เฮ้ย !  เฮ้ย ! ตายแห่แล้ว...
      ใช่เธอหรอเนี่ย  ตอนเด็ก ๆ ไม่เห็นน่ารักอย่างงี้นี่หว่า
      โตขึ้นโครตน่ารักเลย  นี่แหละสเป็กผม  ทำไมผมถึงจำเธอไม่ได้
      ไม่ได้นะ แฟน  แฟน  แฟน  ผมนึกถึงแต่คำนี้
      ถ้าขอเป็นแฟนกับเธอ...เธอจะว่าไงหว่า.........ตามน้ำเลยแล้วกัน
      แล้วเธอก็ถามผมว่า  “แล้วพี่มีแฟนรึยังจ๊ะ”
      ผู้ชายอ่ะนะ  เหมือนกันหมด  ถึงมีเจอคนน่ารักอย่างนี้  ไม่มีอยู่แล้ว
      แต่ตอนนั้นอังเอิญผมมีแฟนแล้ว  อยู่มหาลัยเดียวกัน
      แต่ผมก็ตอบไปโดยไม่คิดว่า   “ไม่มี”
      เธอยิ้ม  เวลาที่เธอยิ้มเหมือนโลกมีอยู่แค่นี้แหละ
      แต่ผมเองก็ไม่ตาโตไปกว่าเธอหรอก
      “งั้นเรามาทำสัญญากันนะ”  โอ้ว !! เป็นแฟนกับเธอ  น่ารักอย่างนี้ใครจะไปปฏิเสธลง
      ผมคิดได้แค่นี่  โยไม่คิดถึงความรู้สึกของฟางและแฟนผม
      “จริงเหรอ”  ผมตอบไปอย่างนั้น  ทั้ง ๆ ที่ใจคิดโชคดีชิบเลยเรา
      แล้ววันนี้ผมพาเธอไปส่งที่บ้านเพื่อน  ขากลับเรานั่งคุยกัน  จับมือกันด้วย
      เมื่อถึงหน้าบ้านเธอ  ผมเดินเข้าไปส่งในบ้าน  บอกให้พี่แท็กซี่รอแป็บนึง
      เธอถามผมว่า  
      “พี่ปอยกลับไหวมั้ย  ถ้าไม่ไหวนอนค้างที่นี่ก็ได้  มีแค่ฟางกับเพื่อนอีก 2 คนเท่านั้นเอง”  
      “ไม่เป็นไร  พี่กลับเองได้”
      เธอก็ตอบว่า  “ตามใจ  กลับดีดีนะ”
      แล้วเธอก็หอมแก้มผม  ผมแทบเดินตัวลอยออกจากบ้าน
      ได้เป็นแฟนกับผู้หญิงที่ตรงสเป็ก
      แถมยังหอมแก้มเราอีก  โอ้ย..อะไรจะดีขนาดนี้
      แล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว  ผมคบเธอมา 1 ปีแล้ว  แล้วผมก็เลิกกับแฟนผมไปแล้ว
      ตอนนี้ฟางอยู่ ม.3 แล้ว แล้วผมก็ขึ้น ปี 3 เธอก็อายุครบ 15 ปีพอดี
      เธอเกิดเดือนเดียวกับผม  ซึ่งเราจะจัดวันเกิดวันเดียวกัน
      และแล้ววันนั้นก็มาถึง  วันฉลองวันเกิดของเรา 2 คน
      เนื่องจากเป็นเทศกาลวันหยุดหลายวัน  ครอบครัวของเธอพากันไปเที่ยวต่างจังหวัด
      แต่เธอไม่ไป  เธอบอกว่าจะฉลวงวันเกิดกับเพื่อน ๆ
      ตอนแรกผมก็คิดว่าจะมีเพื่อน ๆ ของเธอมาฉลองด้วย  แต่ที่ไหนได้  พอผมไปถึงบ้านเธอ
      กลับมีแต่แค่เธอคนเดียว  ผมคิดว่าคงมีแต่เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นนะ
      ผมบอกเธอว่าผมจะซื้อเค้กไปเอง  จะได้ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก
      เธอซื้อกับข้าวเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเตรียมไว้
      เราฉลองด้วยกัน  คุยกัน  ดูหนังด้วยกัน  เป็นหนังที่เราสองคนชอบ
      เวลา 1 ปีมันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน  เราชอบไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ
      ผมพูดได้เลยว่าชีวิตนี้ผมใช้เวลาเรียน  เล่นกับเพื่อน  และอยู่กับฟางประมาณ 80%
      ตอนนี้เราสองคนรักกันมาก  ประมาณว่าขาดกันไม่ได้แล้ว
      แล้วเวลาก็ล่วงเลยมาจนดึก
      ผมบอกเธอว่าผมจะนอนที่โซฟาห้องรับแขก
      แต่เธอบอกว่าให้ผมไปนอนห้องเธอ  ส่วนเธอจะไปนอนที่ห้องน้อง
      เมื่อผมอาบน้ำเสร็จ  และเตรียมตัวจะเข้านอน
      มีเสียงเคาะประตู  ผมล็อคประตูห้องไว้
      เธอถามว่า  ขอเข้าไปหน่อยได้มั้ย
      “ไม่ได้พี่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า”  ( ผมลองใจดูน่ะ )
      “ฟางเอาของขวัญมาให้”
      ผมเอาผ้าห่มคลุมตัวแล้วเดินไปเปิดประตู
      ชีวิตผมอาจจะเหมือนในหนังบ้าง  เป็นอะไรก็ไม่รู้  ภาพที่ผมเห็นตอนนั้น
      ผมยังจำได้ตลอดเวลา  เป็นเด็กผู้หญิงที่ใส่แค่ชุดชั้นในสีขาว  ผูกโบว์สีขาวที่หัว
      เข้ามากอดผม  แล้วบอกว่า  “ตอนนั้นที่พี่ปอยช่วยฟางไว้  พี่ปอยเท่ห์มากเลยนะ”
      แล้วตอนนั้นผมก็นึกเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเธอได้หมด
      ผมบอกไปว่า  “ก็ช่วยเพราะอยากช่วยเท่านั่นแหละ”
      ตอนนั้นฟางเป็นแค่เด็กตัวเล็ก  ผอมบาง  ติดขี้เหร่นิด ๆ
      แต่ทำไมตอนนี้ถึงน่ารักอย่างนี้ก็ไม่รู้  
      เธอกำลังถูกเด็ก ป.5 กำลังรังแกเธออยู่  ผมเข้าไปช่วยเธอไว้
      ฟางคงเลยเห็นผมเป็นฮีโร่มาจนถึงทุกวันนี้
      “ไหนล่ะของขวัญที่ฟางจะให้พี่”  คำถามอาจดูโง่ไปนิดนึง
      “ตัวฟางไง  ฟางเป็นของขวัญให้พี่ปอย”  ผมไม่รู้จะทำอะไรต่อ
      ผมเดินไปนั่งที่เตียง  เธอเดินตามผมมา
      วันนี้เธอดูน่ารักมาก  ขาวไปทั้งตัว  น่าแซะเจี๊ยะซะจริง ๆ
      แทนที่ผมจะเป็นคนเริ่ม  แต่เธอเข้ามากอดผมทางด้านหลัง  แล้วบอกผมว่า
      “อยากอยู่กับพี่ปอยอย่างนี้ตลอดไปจัง”  ตัวเธอนิ่มเหลือเกิน
      จนผมก็ทนไม่ไหว  สัญชาตญาณของผู้ชายก็ออกมา
      ผมจับมือเธอออก  แล้วผมก็จูบเธอ  เธอบอกกับผมว่า
      “ฟางรักพี่ปอยนะ  ฟางจะเป็นคนเดียวของพี่”
      ในใจผมคิดว่า  ไม่อยากมีอะไรกับเธอตอนนี้เลย  เพราะเธอยังเด็กอยู่มาก
      แต่มือผมมันไม่ทำตามอย่างที่ใจคิด  มันไปแล้ว
      มันไปปลดเสื้อชั้นในของเธอออก  หน้าอกเธอขาวเนียน  ซึ้งไม่น่าจะเป็นของเด็ก ม.3
      ประมาณว่า  หน้ามัธยม  นมมหาลัย
      ผมคิดขึ้นมาว่า  ผมกำลังทำอะไรอยู่  เราทำอย่างนี้ไม่ได้นะ
      ผมเลยบอกเธอไปว่า  “พี่ทำไม่ได้หรอกนะ  ฟางยังเด็กอยู่”
      ผมเอาผ้าห่มมาคลุมตัวเธอแล้วก็ลุกไปนั่งที่โซฟาห้องรับแขก  เปิดเพลงฟัง
      ซักพักเธอมานั่งข้าง ๆ ผม  เธอใส่เสื้อยืดตัวใหญ่ ๆ ตัวเดียว  ดูมันก็น่ารักดี
      เธอนั่งซบไหล่ผมแล้วยิ้มให้  ผมอยากหยุดเวลาตรงนั้นให้นานที่สุด
      เธอมีกลิ่นหอม  คงจะมาจากแชมพูที่เธอใช้  มันทำให้ผมเคลิ้มจนหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้
      พอรู้สึกอีกทีก็เช้าแล้ว
      “อ้าว !! พี่มานอนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่………นี่พี่นอนตักฟางทั้งคืนเลยหรอ”
      เธอบอกว่าเธอยังไม่ได้นอน  เธอมองแต่หน้าผมทั้งคือเลย
      ผมอึ้งไปเล็กน้อย  แต่ก็แหย่เธอเล่น  ผมถามเธอว่า  “โม้...เปล่า”
      เธอทำหน้าแล้วลุกไปเลย  ส่วนผมก็ลุกไปอาบน้ำเพราะคิดว่าอีกซักพักเธอคงหายโกรธ
      เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยสบาย  ผมคิดว่าผมจะเป็นคนดูแลเธอไปตลอดชีวิต

      >>เวลาผ่านไปเร็วจัง  เธอเรียนจบ ม.3 แต่เธอก็ต่อ ม.4 ที่เดิม  ส่วนผมก็ขั้น ปี 3
      แล้วในที่ผมไม่อยากให้เกิดก็มาถึง
      วันนั้นเรานัดไปดูหนังด้วยกัน  ผมไปซื้อตั๋วหนังและของกิน
      ส่วนเธอบอกว่าจะไปดูเสื้อผ้า  วันนั้นผมไปกับเพื่อนแล้วก็แฟนเพื่อนด้วย
      เธอกลับมาเธอซื้อเสื้อมา 2 ตัว ซื้อมาฝากผมด้วย  แต่เมื่อผมเดินมา
      สิ่งที่ผมเห็นก็คือ  เธอกำลังคุยกับผู้ชายอยู่  แล้วดูเหมือนกำลังจะเช็ดหน้าให้
      เท่านั้นแหละ  ผมเดินเข้าไปผลักผู้ชายคนนั้น  แล้วชกหน้าเต็มแรงที่พอจะใส่ได้
      โดยที่ไม่ฟังเสียงเธอและเพื่อน ๆ  พวกมันเข้ามาล็อคตัวผม
      ผมพยายามจะสะบัด  แต่มีถึง 3 คน  ดิ้นไม่หลุดแล้ว
      เธอถามผมว่าทำไมถึงทำอย่างนี้  ทำไมไม่ถามเธอก่อน  ผมไม่ตอบ
      ผมได้แต่มองหน้าเธอแล้วพูดว่า  “นี่เธอร้ายไม่ใช่เล่นนะ”
      น้ำตาเธอไหล  แล้วเธอก็ตบหน้าผม  
      ผมรู้ตัวว่าพูดแรงเกินไป  ผมเลยขอตัวกลับบ้านก่อน
      พอผมกลับมาถึงบ้าน  ผมคิดว่าพรุ่งนี้ผมจะไปขอโทษเธอ
      ผมทำอะไรลงไปเนี่ย  งี่เง่าจริง ๆ  แต่หารู้ไม่ว่า........นั่นเป็นวันสุดท้ายที่ผมได้พูดกับเธอ
      มีโทรศัพท์จากพ่อของเธอให้ผมรีบไปที่โรงพยาบาล
      เพราะเธอบอกว่าอยากเจอหน้าผม  พอผมไปถึงโรงพยาบาล
      ผมถามพ่อของเธอว่าเกิดอะไรขึ้น  พ่อเธอไม่ตอบ
      แต่ผมนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่สบาย  เธอเป็นไมเกรน  ผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอไม่สบายใจ
      ทำให้เธอคิดมาก  เลยขอพ่อของเธอเข้าไปเยี่ยม
      ผมเข้าไปเห็นเธอหลับอยู่  เธอหลับเหมือนกับว่าไม่มีอะไร
      เหมือนตอนที่เรานอนเล่นด้วยกันแล้วเธอก็หลับไปไม่มีผิด
      ผมชอบมองหน้าเธอ  เธอดูน่ารักดี  ผมจับมือเธอ
      มือเธอเย็นพอสมควร  ผมคิดว่าเป็นเพราะแอร์ที่เปิดค่อนข้างหนาว
      แต่ผมสังเกตว่าหน้าเธอขาวผิดปกติ  ผมมองไดอารี่ของเธอที่วางอยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ เตียง
      เป็นไดอารี่ที่เธอใช่เขียนเป็นประจำ  ผมหยิบขึ้นมาอ่าน  เธอเขียนว่า
      “วันนี้ฟางทำให้พี่ปอยโกรธ  แต่ทำไมพี่ปอยไม่ยอมฟังฟางบ้าง  ฟางไม่ได้ตั้งใจจะทำให้มันเป็นอย่างนี้  ฟางขอโทษนะพี่ปอย  มันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่ปอยคิด  ฟางแค่จะเช็ดเสื้อเค้า  ฟางเดินชนเค้าแล้วทำน้ำหกใส่เสื้อของเค้า  ฟางรู้ว่าฟางผิด  พี่ปอยอย่าโกรธฟางนะ  ฟางไม่ได้ตั้งใจจะตบหน้าพี่ปอยด้วย  ฟางขอโทษ  และฟางก็ไม่ได้โกรธพี่ปอยด้วย  ฟางรักพี่ปอยและจะรักพี่ปอยตลอดไปด้วย”
      ผมอ่านจบ  น้ำตามันก็ไหลออกมา  
      มันมีความรู้สึกว่าผมกำลังจะเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผมไป
      ผมเอามือแตะที่จมูกของเธอ  ทำให้ผมรู้ว่าเธอไม่หายใจแล้ว
      ผมซบลงที่ตัวเธอ  เธอจากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ
      ผมรู้สึกผิดที่ทำให้เธอตาย  ถ้าไม่เกิดเพราะผม
      ตอนนี้เราคงนอนคุยโทรศัพท์แล้วหลับคาโทรศัพท์ด้วยกัน
      ผมแค้นตัวเองที่แม้ไม่ได้เป็นฝ่ายขอโทษเธอด้วยซ้ำ
      เธอกลับเป็นฝ่ายขอโทษผม  ตอนนี้ผมได้แต่มองหน้าเธอ
      ผู้หญิงคนที่รักผมมาตั้งแต่ ป.1 แต่ผมกลับลืมเธอไปตั้ง 6 ปี
      เมื่อเรากลับมาได้พบกัน  เมื่อเรา 2 คนรักกัน  แต่ตัวผมกลับทำให้เธอต้องตาย
      นึกถึงเรื่องที่เกิดตั้งแต่ผมอยู่ ป.6  นึกถึงวันที่ได้เจอกันครั้งแรก
      นึกถึงตอนที่เราเป็นแฟนกัน  วันเกิดของผมและเธอ
      เวลามันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน  เราเคยสัญญาว่ารักจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
      ผมไม่คิดว่าผมจะเลิกกับเธอด้วยซ้ำ  ถึงแม้จะมีทะเลาะกันบ้าง  งอนกันบ้าง
      แต่ต่อไปนี้จะไม่มีคนชื่อฟางที่คอยเป็นห่วงผม  ทะเลาะกับผม  หลับคาโทรศัพท์ด้วยกัน
      ทุกครั้งที่ผมคิดถึงเธอผมจะหยิบไดอารี่ของเธอขึ้นมาอ่าน
      เธอเริ่มเขียนตั้งแต่วันแรกที่เราเป็นแฟนกัน  ทุก ๆ ครั้งที่เราทะเลาะกัน  ไม่พูดกัน
      ผมจะเป็นคนที่โทรไปหาเธอ  เธอจะหยิบไดอารี่มาอ่านให้ผมฟัง  แล้วก็จะดีกัน
      ผมได้ไปงานศพของเธอ  บ้านของเธอนับถือศาสนาคริสต์เลยใช้วิธีฝัง
      “วันนี้ฟางดูสวยกว่าทุกวันนะ”  ผมพูดขณะเกาะข้างโลง
      เธอไม่เหมือนคนตายเลย  เธอใส่เสื้อที่เธอเพิ่งซื้อมา  และผมก็ใส่เสื้อที่เธอซื้อมาให้
      เธอเคยพูดว่า  “ไดอารี่เล่มนี้เป็นตัวแทนความรู้สึกของฟาง  หากวันไหนฟางไม่ได้อยู่กับพี่ปอยแล้ว  ขอให้พี่ปอยเก็บไดอารี่เล่นนี้ไว้ด้วยนะ  ถ้าพี่ปอยอ่านแล้วพี่ปอยจะรู้เอง  ว่าฟางรู้สึกยังไง”
      วันนี้เธอจากผมไปแล้ว  ไดอารี่เล่นนี้จึงเป็นสิ่งที่คอยปลอบใจผมเวลาเหงา
      ทุกวันนี้ผมยังทำใจไม่ได้  เธอยังอยู่ในใจผมตลอดเวลา
      ถ้าหากผมย้อนเวลากลับไปได้  ผมจะรักเธอให้มากกว่านี้  ผมจะไม่ทำให้เธอเสียใจ
      จะไม่ให้เหตุการณ์เป็นอย่างนี้  เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
      ทุกวันนี้ผมพกไดอารี่ของเธอติดตัวตลอดเวลา  ยังดีนะที่ผมยังมีตัวแทนของเธออยู่
      แล้วเธอยังคิดถึงผมรึเปล่าน่า..........ผมดีใจที่ผมที่ผมเกิดมาได้พบเธอ  ได้เป็นแฟนกับเธอ
      มันเป็นความทรงจำที่ดี ๆ ถึงแม้ต้องร้องไห้ก็เถอะ........

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×