หนุ่มอ้อนสอนให้รัก - หนุ่มอ้อนสอนให้รัก นิยาย หนุ่มอ้อนสอนให้รัก : Dek-D.com - Writer

    หนุ่มอ้อนสอนให้รัก

    โดย มิยู

    ความรู้สึกที่ทำไป...ตามหัวใจของเราความสัมพันธ์ของเราที่คนอื่นอาจดูไม่เหมาะสมแต่สำหรับเราสิ่งนี้คือความรัก

    ผู้เข้าชมรวม

    701

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    701

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 เม.ย. 47 / 14:34 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ฉันมีชื่อว่า นาเอะ ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อน วันหนึ่งฉันไปดื่มชาที่ร้านประจำของฉัน มีชายคนหนึ่งเข้าร้านมาตอนแรกฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่พอเขามาขอนั่งโต๊ะเดียวกับฉัน ฉันรู้ทันทีว่าฉันรู้ทันทีว่าคือ โจตะ เพื่อนของน้องชายฉันนั่งไปเพียง5นาทีอยู่ดีๆเขามาบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงในพรหมลิขิตและขอให้ฉันเป็นแฟนด้วยฉันไม่ตกใจหรือลังเลสักนิดที่จะตอบ ปฏิเสธ เขากลับไปเพราะฉันเห็นว่าเขาเป็นรุ่นน้องและพึ่งรู้จักกัน แต่เหนือกว่านั้น โจตะพึ่งถูกสาวหักอกมาเมื่อวานนี้เอง ถึงเขาจะทำใจได้ ฉันก็รับไม่ได้อยู่ดี โจตะบอกว่าเจอฉันก็เกิดกระแสไฟมันแล่น ปิ๊ง!ฉันทันที ให้ตายสิท่าจะประสาทถึงฉันจะหัวอกเดียวกับเขา เพราะเพิ่งถูกแฟนทิ้งมาเมื่อวานเหมือนกัน แต่ไม่ได้ทำใจได้เร็วเหมือนเขาแถมยังทำหน้าจริงจังแถมพูด จาเชื่อไม่ได้อีก และก็ไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นกับเขาอีกด้วยจึงขอตัว เดินออกจากร้าน ทันใดนั้นน้ำตาก็ซึมผ่านดวงตาของโจตะเพื่อเรียกความสงสารจากฉัน”จะให้ฉันปลอบใจผู้ชายอกหักอย่างนายหน่ะเหรอ ฝันไปเถอะ” ฉันพูดเสร็จจึงรีบวิ่งกลับบ้านทันที ระหว่างทางฉันคิดว่าต้องเอาเรื่อง ยูอิ น้องชายของฉันซะแล้วให้ตายเกิดมาเพิ่งเคยถูกผู้ชายเส็งเคร็งตามตอแยเนี่ย พอถึงบ้านฉันไม่พูดร่ำทำเพลง ฉันทำสิ่งที่ฉันต้องการจะทำทันที วิ่งเข้าไปด่ายูอิอย่างไม่รอช้า”ยูอิเธอปล่อยให้โจตัเพื่อนเธอมาตอแยฉันได้ไง”แต่เขาดันตอบว่า”งั้นเจอกับโจตะแล้วสินะเขาน่ารักไหมหล่ะ เพราะเขาพึ่งถูกสาวหักอกมาบ่อยหน่ะ เขาเลยคิดจะเอาพี่เป็นแฟนคนใหม่ของเขาไง แหม! หมอนี่ไวไฟจัง เดี๋ยวต้องโทรไปหาและ” แล้วยูอิก็วิ่งไปที่โทรศัพย์เพื่อโทรหาโจตะทันที โดยให้ฉันยืนหน้าบูดอยู่คนเดียว”ให้ตายสิผู้ชายก็เป็ยหยั่งนี้ทุกคนแหละ” ฉันบ่นระหว่างที่เตรียมเสื้อผ้าไปอาบน้ำนอน วัรรุ่งขึ้นในระหว่างฉันกลับมาจากทำงานพิเศษกำลังจะเข้าบ้านฉันเห็นโจตะนั่งกอดเข่าร้องไห้คนเดียวหน้าประตูบ้านฉัน ฉันจึงชวนเขาเข้าไปดื่มชาเผื่อว่าจะหายดีขึ้น แต่ในใจฉันคิดว่าอยากให้ยูอิกลับมาไวๆด้วยซ้ำ ทันใดนั้นโจตะมองหน้าฉันแถมร้องไห้อีก เหงื่อนั้นซึมผ่านรูขุมขนออกมาทางใบหน้าเหงื่อไม่ทันออกมาหมด เขาวิ่งมากกอดฉันพร้อมกับคำว่า”พี่นาเอะ”ฉันถึงกับกรี๊ดลั่นบ้าน จนตกเย็นโจตะกลับไปยูอิก็กลับมาพอดี ตอนนี้เป็นโอกาศที่ดีที่ฉันอยากจะด่าโจตะแต่ก็ไม่กล้าจึงคิดว่าจะด่ายูอิแทน เผื่อเขาจะเอาไปบอกโจตะแล้วจะได้ไม่มาหาฉันอีก”ให้ตายสิ! คิดว่าจะมาขอโทษเรื่องเมื่อวาน เปล่าเลยยังมาบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงในพรหมลิขิต ฉันอยากจะบ้าตาย ไม่นึกไม่ฝัน แต่ก็ดีใจตามมารยามเท่านั้น เขากลับเข้าใจผิดทำบ้าๆกับฉัน โกหกสาพัดเลยมันจะมากไปแล้วนะ!!คิดว่าฉันเป็นเหมือนผู้หญิงทั่วไปรึไง ไม่ต้องมาทำเป็นเข้มหรอก...ยังไงก็ไม่เชื่อ ไม่เชื้อ.....” ฉันด่าไปและก็ถอนหานใจพร้อมกับโล่งอกปลดปล่อยความทุกข์มาตลอด5นาที แต่ยูอิกลับพูดว่า”พี่นาเอะ บางทีเขาอาจจะยังฝังใจกับการอกหักอยู่เขาเป็นประเภทอ่อนไหวง่าย ถ้าจะให้เข้าใจ คงจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีมั้ง เขาเป็นคนดีนะน่าจะเห็นใจเขาหน่อย” ฉันอึ้งอยุ่ชั่วขณะที่ยูอิเป็นหนุ่มนักกวีตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงจะพูดงั้นก็เถอะช่างประไร ยังไงฉันก็ไม่เกียว”พี่นาเอะคัรบ” เสียงนั่นฉันจำได้มันกลับมาอีกแล้วตอนนี้ก็ใกล้เข้ามาทุกที จะใครซะอีกหล่ะถ้าไม่ใช่ โจตะ โจตะเขามาบอกว่าทำใจไม่ได้ รักไปแล้วรักไปแล้วด้วยและมันก็รักขึ้นเรื่อยและคำพูดที่ทำให้ฉันหวั่นไหวคือ”อย่าพึ่งด่วนสรุปและอย่าปฏิเสธความรู้สึกของผมเลยนะครับ ที่ผมพูดไปไม่ใช่เรื่องล้อเล่นๆ ผมหน่ะ จริงจังและจริงใจทีสุดนะครับ!” พลังรักจากเขาเปล่งประกายเจิดจ้าแจ่มจรัส และเขาบอกว่าถ้าไม่รังเกียจจะชวนไปดูหนัง ฉันจึงตอบโอเคไปท่าทางเขาดีใจเกินขนาด ฉันรสึกแปลกๆกับเด็กคนนี้ แต่ฉันคิดว่าไม่อาจรักใครได้อีกแล้วทั้งๆที่ตอนนี้ไม่อยากรักใคร รุ่งเช้าโจตะจึงมาเรียกฉัน ระหว่างทางเดินไปกับเขาฉันคิดว่าทำไมเขาจึงคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงในพรหมลิขิตจึงตัดสินใจถามเขาไป”โจตะถามอะไรหน่อยสิ ทำไมเธอถึงคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงในพรหมลิขิตของเธอ”เขาตอบกลับมาอย่างีท่ไม่น่าจะเป็น”วันนั้นนาเอะเอามาให้ผม น้ำชานั่นไงหล่ะครับที่เอามาให้ผม ที่กำลังเสียใจ คุณเอาน้ำชาหวานให้ผมดื่ม นั่นหน่ะเป็นคาราเมลที่ ของ AT ช้อป เป็นของโปรดผมเลย เพราะงั้นผมเลยปลื้มใจมาก คิดว่า รึว่าคนๆนี้จะถูกชะตจากับผม จากนั้นมาผมก็รักนาเอะขึ้นเรื่อยๆ” หลังจากเขาพูดจบ ฉันถึงกลับฮากลิ้ง เพราะไม่อยากเชื่อว่านั่นจะถือเป็นพรหมลิขิตได้ด้วย ในระหว่างที่โจตะกำลังดูหนังอยู่นั้นฉันแอบเห็นเขาร้องไห้(อีกแล้ว) จึงยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เขาไปเขาก็น่ารักดีเหมือนกันฉันคิดงั้น ช่างเถอะร้องแล้วสบายใจ ก็จงร้องไป แปลกเห็นน้ำตาของเขาขนาดนี้ ฉันกลับไม่รู้สึกไม่ดีเลย จินตนาการในตัวเขาสำหรับฉันค่อยๆเปลี่ยนไป หลังจากดูหนังมีผู้หญิงคนหนึ่งมาทักโจตะรู้สึกว่าจะชื่อ ริกะ เพราะโจตะเรียกหยั่งนั้น ฉันพอจะเดาออกว่าเป็นแฟนเก่าของโจตะ ทัรใคนั้นโจตะมองมาหน้าฉัน และบอกว่า ”ฉันหน่ะ ไม่ว่าอะไรหรอกถ้าเธอได้เจอคนที่รู้สึกว่าเป็นพรหมลิขิตมากกว่าฉัน เพราะฉันเองก็ได้พบกับคนๆนั้นแล้ว” แล้วริกะก็เดินจากจากไป เพราะชาถ้วยเดียวแท้ๆตอนยแรกยังคิดว่าจะมีผู้ชายที่เป็นพรหมลิขิตของเราด้วยเหรอ แต่ตอนนี้ฉันเริ่มเกิดความรู้สึกบางอย่างกับผู้ชายคนนี้แล้วสิ...

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×