จากวันนั้นเป็นต้นมา 14 กุมภาพันธ์ 2546  วาเลนไทน์  วันที่เปี่ยมด้วยความรัก ความสุข ความสนุก  ฉันก็เป็นเช่นนั้น  ในตอนแรกๆ
    14 กุมภาพันธ์ 2544  ฉันได้บอกรักคนๆนึง ซึ่งเกิดความประทับใจจากการทำกิจกรรมร่วมกัน  เค้าเป็นรุ่นพี่ฉัน 2 ปี แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเค้าเป็น  “เกย์”  ฉันยอมรับเค้าได้ในตอนนั้น (หรือแม้แต่ตอนนี้) เพราะฉันต้องการเพียงแค่ต้องการที่จะคบกับเค้า ในฐานะที่ไม่ใช่แฟนแน่นอน  แต่แล้ว เมื่อคบกันไป  ได้พูด ได้คุย มีความผูกพันธ์กันมากขึ้น ฉันจึงเรียกร้องในสิ่งที่มันคงจะมากเกินไปสำหรับเรา 2 คน
ฉันบอกรักเขา
ฉันซึ่งเป็น “ผู้หญิง” บอกรัก “เกย์” คนนั้น  ผู้ซึ่งเป็นบุคคลที่ฉันหลงรักอย่าง หัวปักหัวปำ หลายๆคนที่รู้เรื่องนี้  เค้าหาว่าฉันเป็นบ้า หรือเกิดอาการโรคจิตอ่อนๆ ซึ่งในบางทีที่ฉันลองมานั่งคิดเล่นๆ ฉันก็คิดว่าฉันอาจจะเป็นอย่างนั้นจริงๆก็ได้  ฉันหาเหตุผลไม่ได้ และ ไม่มีวี่แววว่าจะหาได้ด้วย สำหรับเหตุผลที่ว่า ทำไม? ฉันจึงรักเขาได้ขนาดนั้น
ทั้งๆที่เกือบ 3 ปีที่ผ่านมาที่เราได้รู้จักกัน อยู่ในโรงเรียนด้วยกันทั้งวันทั้งคืน เพราะเป็นเด็กหอ เขียนจดหมาย
ติดต่อกันก็หลายฉบับ โทรศัพท์หาเค้าก็บ่อยๆ แต่เชื่อมั้ย ว่าเราไม่เคย คุยกันแบบตัวต่อตัวสักที
เดินผ่านกันก็แทบไม่เคยมองหน้า
และสิ่งที่ฉันควรจะกระทำให้กับคนที่ฉันรักอย่างเรื่อง่ายๆ เช่นการยิ้มให้ ฉันและเขาก็ไม่เคยกระทำต่อกัน แม้แต่นิดเดียว!?!  ฉันอาย  นั่นแหละคือเหตุผล  และอีกอย่างซึ่งเป็นเหตุผลที่สำคัญก็คือ เค้าไม่มีความสนใจในตัวฉันเลย ฉันจึงไม่กล้าพอที่จะทำเรื่องอย่างนั้นลงไป ฉันกลัว ว่าฉันอาจจะกลายเป็นตัวตลก ไปเลยก็ได้
    หลายๆครั้ง ที่ฉันถูกปฏิเสธจากเค้าอย่างจริงจัง และฉันก็รู้ว่ามันจริงใจด้วย ฉันก็มีความคิดว่าจะหยุด จะพอ แต่แล้วก็ทำไม่ได้ อาจจะเพราะ ใจไม่แข็งพอล่ะมั้ง  ความรักของฉันที่เกิดขึ้นนี้ มันมีหลายรูปแบบจริงๆ ทั้ง  สุข  เศร้า  ซึ้ง
”สุข” ก็จะมีความสุข ปลื้มเปรม ภูมิใจ จนบางทีคิดว่า ถ้าเค้ารักฉัน  ชีวิตนี้คงไม่ต้องการสิ่งใดอีกแล้ว
”ซึ้ง” จนน้ำตาคลอ หัวใจชุ่มฉ่ำ นอนหลับฝันดี กินข้าวอร่อย
แต่ถ้า “เศร้า” เล่า? ก็จะเป็นเหมือนคนหมดหวัง หมดกำลังใจ เหมือนไม่เหลือใคร ร้องไห้ เสียใจ เบื่อหน่าย ซึมเศร้า
!?!
   
                            จากวันนั้นเป็นต้นมา 14 กุมภาพันธ์ 2546 วาเลนไทน์วันที่เปี่ยมด้วยความรัก ความสุข ความสนุก  ฉันก็เป็นเช่นนั้นในตอนแรกๆ  แต่หลังจากนั้นไม่นานที่ฉันได้รับจดหมายตอบจากเขา เป็นคำตอบที่เมื่อได้อ่านแล้ว ฉันสามารถบอกกับตัวเองได้ว่า คงจะต้องหยุดเรื่องต่างๆไว้เพียงแค่นี้ ฉันต้องเลิกรักเขาให้ได้ ต้องตัดใจให้ขาด เพราะถ้าขืนยังพยายามต่อไป ก็รังแต่จะเหนื่อยเปล่า และผลที่ได้คงไม่เกิน 0  ด้วยความเครียด ความเศร้าที่ถาโถม ฉันตัดสินใจทำเรื่องงี่เง่า
ฉันเขวี้ยงสร้อยคอที่เขาให้ฉัน สร้อยเส้นนั้นซึ่งเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของเขา  เพื่อนฉันบอกว่า เค้ารู้ว่าฉันทิ้งสร้อยที่เค้าให้ไปแล้ว
เค้าเสียใจ
ฉันก็เสียใจ
ที่ทำอย่างนั้นลงไป บางทีอยากขอโทษ แต่บางทีก็สะใจ และคิดว่าตนคิดถูกแล้ว ที่ทำอย่างนั้นลงไป
    ปัจจุบัน ฉันมีแต่ความเศร้าโศกเสียใจ รู้สึกตื้อเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ใครหลายคนคิดว่าฉันลืมได้ ตัดใจได้ แต่แท้ที่จริงแล้ว ไม่เลย!  เพียงแต่ฉันต้องเก็บความรู้สึก เพราะถึงแสดงออกไป ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เค้าที่เคยเย็นชาอย่างไรในเมื่อก่อน ในปัจจุบันก็ยิ่งเย็นชาหนักขึ้นไปกว่าเก่า ฉันเดาว่า เค้าคงไม่ค่อยพอใจฉันในเรื่องสร้อยนั้นเท่าไหร่  มีคนบอกฉันว่า เขาชอบผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับฉัน ชอบอย่างออกหน้าออกตา ฉันรู้ในตอนแรกๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอมีครั้งที่ 2  ครั้งที่ 3 ฉันเริ่มแน่ใจว่า  เค้าคงเจอคนที่ถูกใจเค้าเข้าแล้ว
ก็ยินดีด้วยนะ
มีใครหลายคนบอกว่า  “การที่เราเห็นคนที่เรารักมีความสุข กับคนที่เค้ารัก  ถึงแม้จะไม่ใช่เรา เราก็ควรมีความสุขไปกับเค้าด้วย”  มันเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ฉันก็พยายามทำใจฉันให้คิดได้อย่างนั้น
ฉันพยายามทำตัวฉันเองให้มีความสุข แต่แทนที่จะเป็นสุข มันกลับ “เศร้า” เกินหาคำบรรยาย ผิดหวัง เสียใจ อย่างรุนแรง 
อีกไม่นานเค้าก็คงจะต้องจบการศึกษา จากโรงเรียนนี้ไป ฉันก็ได้แต่หวังว่า ฉันคงจะตัดใจและทำใจ กับเรื่องนี้ได้สักที   
                                                                                “ฉันอยากสมหวังสักทีหนึ่ง
นะ”
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น