\"เพื่อน\" แบบนี้ เคยมีไหม - \"เพื่อน\" แบบนี้ เคยมีไหม นิยาย \"เพื่อน\" แบบนี้ เคยมีไหม : Dek-D.com - Writer

    \"เพื่อน\" แบบนี้ เคยมีไหม

    โดย talent

    ความรู้สึกรักของคนๆหนึ่งที่มีให้เพื่อนและแฟน แต่!!สิ่งที่เขาทำกลับทำให้....

    ผู้เข้าชมรวม

    1,426

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.42K

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 ก.ค. 46 / 18:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ตั้งแต่วันที่ผมเข้าม.ปลายโรงเรียนใหม่ ผมรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก บรรยากาศภายในดูเงียบเหงา อาจจะเป็นเพราะเป็นโรงเรียนชายล้วน รอบๆตัวผมมีแต่ผู้ชาย ผู้ชาย ผู้ชาย และที่สำคัญที่สุดก็คือไม่มี “ไอ้เอ้”อยู่ก็เป็นได้  ตอนม.ต้นผมมีความสุขมากๆ อาจเพราะมีนักเรียนหญิงอยู่ให้ได้เชยชมล่ะมั้ง ผมนั้นมักจะนั่งแซวสาวไปเรื่อยๆ ส่วนเพื่อนผมที่ชื่อ เอ้ นั้นก็จะนั่งทำการบ้านขณะที่ผมนั่งจีบสาว   เอ้หน้าตาดีกว่าผมเยอะ เรียนก็ดีกว่า มีสาวๆติดก็เยอะเหมือนกัน ผมกับเอ้เป็นเพื่อนรักกันมากๆๆๆ สนิทกันกว่าพี่น้องกันอีกก็ว่าได้ และด้วยความที่เอ้มีโรคเลือดเป็นโรคประจำตัว ผมเลยต้องใกล้ชิดมันหน่อย สงสารมัน เพื่อนๆส่วนมากก็เลยมักจะเรียกผมว่าไอ้คู่เกย์ แต่ผมไม่ค่อยสนใจหรอก ก็มันไม่เรื่องจริงนี่แต่บางครั้งผมมักจะซัดมันสักเปรี้ยง2เปรี้ยง ( แบบเบาๆนะไม่งั้นขึ้นศาลปกครองแน่ ) ตอนนี้ผมคงไม่ได้เจอไอ้เอ้ อีกแล้วเรื่องนี้มันเกิดเพราะผมและสาวนางหนึ่งขอสมมติว่าชื่อบัวนะครับ เรื่องก็มีว่า ตอนผมกับเอ้ อยู่ม.3 ผมได้ไปหลงรักสาวม.1คนนึงเข้า น่าตาน่ารักน่าเอ็นดูเชียว ผมคิดว่า สวรรค์ต้องประทานเด็กคนนี้มาให้เราแน่ๆ ตั้งแต่ตอนนั้นผมก็พยายามสืบประวัติของเธอ จนรู้มาว่าชื่อบัว ผมเริ่มเหม่อและไม่สนใจคนรอบข้าง  เอ้ก็ชักเริ่มสงสัยว่าผมเป็นอะไรไป มันถามผมหลายครั้งหลายครา และทุกครั้งที่มันถามผมก็จะตอบมันว่า “ข้าสบายดี” ไม่ก็ \"ข้ากำลังหาประวัติคงดังอยู่เว่ย\"ผมเริ่มห่างเหินกับเอ้มากขึ้นเพราะความหลงน้องบัวแบบจังๆของผม ทำให้การเรียนผมตกต่ำลงไปมากจากที่แย่ๆอยู่แล้ว และด้วยความที่เอ้มันห่วงผมมันก็เตือนผมตลอดให้ตั้งใจเรียน เอ้นั้นยังไม่รู้ว่าผมคบกับบัวได้ 3 อาทิตย์แล้ว ผมเคยคิดเล่นๆอยู่เหมือนกันว่าทำไมบัวถึงเลือกคบกับผม  ทั้งๆที่ผมหน้าตาก็ไม่ได้ดีอะไร ถ้าเดินคู่กับเอ้แล้ว ผมเหมือน หม่ำ จ๊กมก เดินคู่กับ พอล ภัทรพล ประมาณนั้น ถ้าผมเป็นบัวผมก็คงเลือกเอ้เป็นแฟนมากกว่า แต่ผมก็ดีใจมากที่บัวเลือกผม เราเริ่มคบกัน 2 เดือนกว่าๆจะ 3 เดือนแล้ว จนผมคิดว่าผมไม่ควรจะปิดบังเอ้ไว้ ผมคิดจะบอกเรื่องนี้ให้เอ้รู้วันรุ่งขึ้นตอนเช้า
      วันรุ่งขึ้นผมมาโรงเรียน ด้วยความกระตือรือร้นมาก เพราะคิดกะว่าจะอวดเอ้ซะหน่อยว่า “ข้าก็มีแฟนแล้วนะเว่ย”ผมมารอเอ้ ที่หน้าประตูโรงเรียนกะจะดักเอ้ไว้แล้วฉุดมาคุยกัน ผมรอตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง รอ ร๊อ รอ
      รอจน 7 โมงครึ่ง ผมชักสังหรณ์ใจ เอ้มันไม่น่ามาสายขนาดนี้นี่หว่า ผมชักสงสัยเลยโทรไปมือถือเอ้ “สวัสดีครับนี่เอ้ พูดนะครับ ตอนนี้ไม่ว่างครับ แล้วโทรมาใหม่นะครับหรือไม่ก็ฝากข้อความ.....\"โถ่เอ๊ย!!เอ้ปิดมือถือไมฟะ ถ้ามีแล้วปิดเครื่องจะมีทำไมฟะ\" ตอนนั้นผมฉุนมากๆ เลยลองโทรเข้าบ้านดู
      “ฮัลโหล ใครพูด”เสียงสั่นๆของผู้หญิงคนนึงพูดขึ้น ผมคาดว่าคงจะเป็นแม่ของเอ้
      “ผมชาติเพื่อนเอ้ครับ ไม่ทราบว่า..เอ้..อยู่รึเปล่าครับ ขอสายเอ้ด้วยครับ”ผมตอบกลับ
      “................”ไม่มีเสียงใดตอบผมกลับมา นอกจากเสียงสะอื้นเบาๆ ทำเอาใจผมหวั่นๆ
      “น้าครับเอ้..เอ้..เป็นอะไรครับ ช่วยตอบผมด้วยครับ น้าครับ...” ผมเซ้าซี้ถาม 2-3 ครั้ง จนเสียงสะอื้นนั้นเบาลงเปลี่ยนเป็นเสียงสั่นๆตอบผมกลับมา
      “เอ้.....อยู่ที่โรง’บาล...”ทันทีที่ผมรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ผมรีบวิ่งออกจากโรงเรียนทันที ผมไม่สนแล้วว่าอาจารย์คนไหนจะวิ่งตามผมมา เมื่อเจอมอเตอร์ไซด์รับจ้างผมก็รีบโดดขึ้นทันทีก็ว่าได้ สั่งให้ไปโรงพยาบาลที่เอ้อยู่ทันที เมื่อถึงร.พ. ผมถามหมอและพยาบาลมาตลอดทางว่า
      “โทษครับ ด.ช. การันต์.....อยู่.....ที่ไหน...ครับ”ผมรู้สึกล้ามาก แทบจะทุดลงไปนอนกับพื้น แต่ว่าทำไงได้ เพื่อนผมกำลังแย่กว่าผมมาก หมอคนนึงบอกผมว่าเอ้อยู่ I.C.U.และบอกทางให้ผม ที่หน้าห้อง I.C.U.ผมพบ พ่อเอ้ และพี่สาวของเอ้ซึ่งกำลังสะอื้นอยู่ ใจผมกะตุกและคิดว่าเอ้คงจะไม่รอดแน่ ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนผมจึงถามพ่อและพี่สาวของเอ้ ผมได้รับคำตอบจากพ่อเขาว่า
      “วันนี้เป็นวันที่ต้องพาเอ้ไปเปลี่ยน-ถ่ายเลือดตามปกติ แต่รถติดทำให้เอ้เป็นลมไป เมื่อถึงโรงพยาบาล หมอก็รีบนำเข้าห้อง I.C.U.ด่วนเพราะขาดเลือดเป็นเวลานาน... ”ฟังถึงตรงนี้ผมนึกได้ว่าเอ้เป็นโรคเลือด รูคีเมีย ( เม็ดเลือดแดงน้อยกว่าเม็ดเลือดขาว ) จึงทำให้เอ้ต้องเปลี่ยน-ถ่ายเลือดทุกสัปดาห์ ผมทรุดตัวลงกุมขมับ ถึงตอนนี้ผมคงทำได้แค่อธิฐานให้เกิด ปาฏิหาริย์ เอ้ต้องรอด เอ้ต้องไม่เป็นอะไร  ผมนั่งคิดเช่นนี้ตลอดพร้อมกับโทษตัวเองที่ทำไมไม่ดูแลเพื่อนให้ดีกว่านี้ ทำไมต้องไปหลงอะไรที่งี่เง่ามากๆ กับผู้หญิงที่เพิ่งคบกันได้ 3เดือน มันมีค่าเทียบกันเพื่อนที่คบกันมา 3 ปีได้เชียวหรือ ความที่ผมจมอยู่กับเรื่องนี้ทำให้ผมลืมเพื่อนที่ผมรักได้ ทำไมผมถึงช่างเลวอย่างนี้.............................สักพักหมอเดินออกมาพร้อมกับพยาบาล ทั้งผม พ่อเอ้ และพี่สาวเอ้ รีบเดินเข้าไป เหมือนจะถามว่า“เอ้ยังมีชีวิตอยู่ใช่มั๊ย เอ้รอดใช่มั๊ยหมอ”  หมอถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า
      “หมอพยายามสุดความสามารถแล้วครับ” แค่นั้นแหละ หัวใจผมแทบหยุดเต้น ทำไมหมอต้องพูดคำนี้ออกมาด้วย พูดคำอื่นไม่ได้หรอแค่บอกคำที่แสดงว่า ไอ้เอ้มันยังอยู่  หลังจากพอมีสติที่จะกลับบ้านได้ผมก็รีบออกมาจากโรงพยาบาลกลับบ้านทันที บัวโทรหาผมเป็น 100 รอบ แต่ผมไม่ด้รับเลยสักครั้งเดียว มีข้อความจากบัวมา 4 ฉบับ
      ฉบับแรก “พี่ชาติ บัวมีเรื่องจะคุยด้วย รับสิ บัวจะโทรไปอีกนะ”
      ฉบับสอง“พี่ชาติรับสายบัวซะทีสิ บัวโกรธพี่แล้วววว”
      ฉบับสาม“บัวโกดที่ชาติมากๆๆๆๆๆ ถ้าบัวโทรไปแล้วไม่รับอีกนะ บัวจะเลิกกับพี่”
      ฉบับสี่ “ที่บัวบอกว่ามีเรื่องน่ะ คือบัวขอโทษ บัวขอเลิกกับพี่ แต่ตอนนี้เราก็เลิกกันแล้วนี่ เพราะอะไรพี่ชาติคงรู้นะ ถ้าไม่รู้บัวจะบอกให้ฟัง ก็ที่พี่ชาติไม่รับโทรศัพท์บัวเลย ลาก่อนพี่ชาติ”
      สมองผมมันว่างไปหมด ผมช๊อคมาก ถ้ามีมีดอยู่ตรงหน้าผมอาจจะใช้มันและไปหาเอ้แล้วก็ได้  แล้วผมก็รู้อยู่แล้วว่าบัวคงไม่รักผมจริงหรอก ผมรู้แล้วว่าคนที่รักและคอยห่วงผมก็มีไอ้เอ้เนี่ยแหละ แต่ผมโง่เองที่ไปสนบัวงี่เง่านั่น
          2วันต่อมา ผมไปงานศพเอ้ ผมช่วยงานของเอ้ทุกอย่างเท่าที่ผมจะทำได้ เผื่ออาจไถ่โทษได้บ้างสักนิด
      ผมนั่งลงหน้าโลงศพเอ้ ผมนั่งคุยเรื่องระหว่างผมกับเอ้ทุกเรื่องตั้งแต่ที่เรารู้จักกัน ผมหัวเราะและร้องไห้คนเดียวอย่างกับคนบ้า “เอ้ ข้ารู้นะ ว่าแกยังจำได้ ตอนม.2ที่เราไปแกล้งอาจารย์นิสิตด้วยกันน่ะ แกยังบอกข้าเลยว่าสนุก แกกลับมาเถอะนะ แกอย่าไปเลย ข้ารักแกนะเว่ยไอ้เอ้ ” น้ำตาลูกผู้ชายของผมมันไหลออกมาโดยที่ผมไม่รู้สึกตัว
      ผมไปงานของเอ้ทั้ง 3 วัน ผมก็นั่งคุยกับเอ้ทุกวัน ส่วนเรื่องบัวผมไม่สนแล้ว เพราะผมรู้สึกว่าเรื่องผมกับบัวมันทำร้ายเพื่อนผม “เอ้ ข้าขอโทษ ข้าไม่รู้ว่าแกจะอภัยให้ข้ารึเปล่า ถึงแม้แกจะไม่ยกโทษให้ข้าก็ไม่เป็นไร ข้าขอให้แกไปดีนะเว่ย เพราะแกก็เป็นคนมีบุญ ไม่เคยทำบาปหรอก ข้ารู้ เอ้.....มาหาข้าบ้างนะ ข้าคิดถึงนะเว่ย.....ไอ้เอ้..... ”
          ที่ผมย้ายมาอยู่โรงเรียนชายล้วนก็มีสาเหตุมาจากผมไม่อยากจะเจอผู้หญิงแบบบัวอีก ถึงแม้ว่ามันจะหดหู่ไปนิดและที่ย้ายมาโรงเรียนนี้คงเป็นเพราะผมอยากจะเป็นหมอไว้ช่วยคนที่มีอาการแบบเอ้ ผมไม่อยากให้คนอื่นต้องสูญเสียคนที่ตนรักแบบผม ทุกวันนี้ผมก็ยังหยิบรูปเอ้ขึ้นมาดูบ้างยามเหงา เพราะคิดว่าไอ้เอ้ เพื่อนผมคนนี้จะคอยอยู่เป็นเพื่อนผมเสมอ ถ้าผมเจอเอ้ ผมอยากบอกเอ้ว่า “เอ้ ข้า รัก แก ”

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×