ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนังสือผี

    ลำดับตอนที่ #6 : อิสระ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11
      0
      3 ม.ค. 49

        อีสพยายามรวบรวมจิตให้นิ่งครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เหมือนยิ่งเพ่งสมาธิผนังรอบด้านจะยิ่งเป็นสีที่เด่นชัด

        \"โธ่เว๊ย!!! เกมส์บ้าบออะไรเนี่ย!!!\" อีสสบถอย่างฉุนเฉียว ผนังรอบด้านเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ำ

        ถ้าเกิดเขาช่วยตัวเอง ช่วยไผ่ไม่ได้ เขากับไผ่ต้องติดแห็งอยู่ในนี้น่ะสิ แล้วอีกอย่างคนที่ลำบากที่สุดก็เป็นเขาด้วย เพราะต้องทนทรมานอยู่ในที่แบบนี้ ในขณะที่ไผ่....

        ไม่มีทางต้องแก้เกมส์ อ่านเกมส์ให้ออก แล้วออกไปจากที่นี่...

        \"ถ้าเกิดทำให้เป็นสีขาวทั้งหมดได้งั้นเหรอ\" อีสพึมพำ แล้วพยายามคิดตริตรองอีกครั้ง

        งั้นก็หมายความว่าเมื่อไหร่ที่เป็นสีขาวทั้งหมดจะเป็นอิสระ งั้นถึงเป็นสีขาวทั้งหมดแค่วิเดียวก็อาจจะต่อรองจนออกไปได้ก็ได้

        แต่ถ้าไม่ได้ เงื่อนไขในการเล่นเกมส์นี้ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมาอีก....

        \"กรรม\" อีสกุมขมับอย่างอับจนหนทาง

        แต่แล้วแสงสว่างบางอย่างก็พุ่งวาบเข้าจับจิต

        นึกออกแล้ว

        วิธีที่แน่นอนที่สุดสำหรับการเป็นอิสระจากที่นี่

        อีสหยิบใบมีดอันแหลมคมในกระเป๋าขึ้นมา แสงสว่างจากผนังสีฟ้าสะท้อนแวววับในดวงตาสีน้ำเงิน

        ถึงจะบ้าบิ่นไปหน่อย......แต่ก็ทำให้เราทั้งสองคนรอดออกไปได้



        \"? หืมม์\" ไนท์ที่กำลังจะเคลิ้มหลับหลังจากเฝ้ามองทั้งสองคนที่ติดแหง็กอยู่ข้างในได้ร่วมสิบแปดชั่วโมงร้องครางออกมาจากลำคอ

        \"เอาล่ะสิ ความหวังที่แสนหริบหรี่ ไม่นึกว่าจะมีคนทำได้\" ไนท์หลับตาแล้วส่งเสียงด้วยความตกตะลึง อีสสามารถฝ่านเกมส์นี้ได้แล้ว แต่ไม่ได้เห็นว่าทำยังไง แต่รู้สึกถึงความว่างเปล่าของจิตใจอีส

        \"ไปดูหน่อยน่าจะดี\" ไนท์ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องที่เคยเป็นสีฟ้าแต่บันี้กลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์

        ไนท์ถลึงตาอย่างตกใจเมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

        ร่างกายที่จมกองเลือดของอีส สั่นกระตุกด้วยความหนาวเหน็บ ปากสีซีดเซียว และแผลที่เปลี่ยนเป็นสีคล้ำปล่อยเลือดออกมาไม่หยุด ผมสีน้ำตาลนั่นเปียกชุ่ม

        นี่เองที่ทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นว่างได้ ความตายหยุดความคิดทั้งหมด...


        บ้าบิ่นสิ้นคิด

        ไนท์วิ่งเข้าไปดูร่างของอีสพลางสบภก่อนด่าในใจ ก่อนจะพินิจร่างที่แน่นิ่งอยู่บนพื้นเพสีขาว

        \"อย่างน้อยก็ต้องทำตามสัญญา เอาร่างของเจ้านี่ออกไปจากห้องโดยด่วน หลังจากนั้น ให้เจ้านั่นตัดสินเอาเองละกัน ...... ไม่ใช่เรื่องของเรา(ปัดความรับผิดชอบมากมาย=_=)\"



        \"อ๊ะ\" ไผ่ลุกขึ้นมาหลังจากหลับได้ไม่กี่นาที เพราะเบลท์ปรากฎตัวขึ้นมาต่อหน้าเค้า ร่างที่ตามหามานานจุดประกายแห่งความหวังขึ้นมาทันใด

        ไผ่รีบวิ่งไที่ร่างนั้นแล้วแใช้ไหล่(ที่ไร้แขนมาเกะกะ)กระทบไหล่อีกฝ่ายทันที

        \"จับได้แล้ว\"

        เบลท์นิ่งไปนิดนึง ไม่นึกว่าจะจริงจังขนาดนี้ เพราะเค้าก็ตั้งใจจะมาปล่อยตัวออกไปตามสัญญาอยู่แล้ว แต่ก็ไม่นึกว่าไผ่จะลุกขึ้นมาได้ ไม่ได้รับอาหารมาตั้งแต่เย็นเมื่อวานนึกว่าจะลุกไม่ขึ้นซะแล้ว

        \"อ...อืม ย..ยินดีด้วยนะ คือว่า ฉันตั้งใจจะมาปล่อ..... เฮ้ย!!!!!\" เบลท์พูดก่อนจะอุทานออกมาเสียงดังเราพะร่างของไผ่หล่นลงไปกองบนพื้นจนรับแทบไม่ทัน

        \"เฮ้ย อุตส่าห์ไม่ตายแล้ว อุตส่าหก์รอด จะมาสิ้นใจตรงนี้รึไง\" เบลท์เขย่าตัวคนที่ได้รับการปล่อยด้วยสีหน้าไม่ค่อยเข้าใจ ทันใดนั้นปากที่แห้งผากและซีดเซียวของไผ่ก็ขยับขึ้นลง

        \"หิว~\"

        เงอะ

        เบลท์ทำหน้าเหยเกขึ้นมาทันที

        \"หนาว~\"

        เบลท์.....เอ่อ อย่างเนี๊ย>> =.,= ตาห้อย จมูกบาน น้ำมูกย้อย

        งี๊ดดดดดดดดดดดดดดด >_< คนอุตส่าห์หายใจ เอ้อ ใจหาย มาล้อเล่นกานอย่างนี้ด้ายงายยยยยยยยยยย~~~~ งื้ออออออ บู่ ๆ ๆ  =3=

        แต่ยังไง ๆ ก็ต้องพาออกไป ณ บัด now เดี๋ยวจะหนาว ๆ หิว ๆ จนตายเจง ๆ ซะก่อน =_=

        \"อ...อ้าว ทางนั้นก็เหมือนกันหรอ\" ไนท์ปรากฎตัวขึ้นมาพร้อมกับแบกร่างสูงของอีสพาดไหล่มาหาเบลท์ด้วย

        \"อืม อ้าว แล้วทางนั้นมันยังไงล่ะน่ะ\" เบลท์แบกไผ่ขึ้นไหล่แล้วทำหน้างง

        \"ช่างเถอะ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง ตอนนี้รีบออกจากห้องเถอะ\" ไนท์บอกปัดแล้วทั้งสองก็พาร่างที่หมดสติออกจากห้องที่แดงที่ว่างเปล่านั้นไป



            --------------------------------++++++++++--------------------



        \"พวกนั้นออกมาแล้วล่ะ\" ต้นบอกฝนทั้ง ๆ ที่เขารู้ข่าวทีหลังเสมอแต่คราวนี้รู้สึกว่าฝนจะยังไม่รู้เรื่องเธอถึงได้ลุกพรึ่บพร้อมกับทำหน้าที่บูดเบี้ยวอยู่แล้วให้เบี้ยวหนักขึ้นเพราะความงง

        \"ไอ้หมอนั่นมันกล้าทำอย่างนั้นเลยหรอ\" ฝนถาม เพราะเธอรู้ว่าวิธีเดียวที่จะรอดจากเงื้อมือของสองสหายเบลท์ไนท์มีแต่ความตายเท่านั้น เรื่องนี้เธอเพิ่งได้รับข่าวมาจากสาย(ผี)ซึ่งกระจายกันติดตามไผ่กับอีส

        \"ใจเด็ดเนอะ ตายดีกว่าเสียอิสระเลยพวกนั้นน่ะ\"

        \"นั่นสิ ๆ งั้น............................ ต่อไปเราเริ่มเล่นกับพวกนั้นเลยดีกว่า หึ ๆ ๆ พวกใจเด็ดอย่างนี้ฉันชอบ\" ฝนพูดพลางแสยะมุมปากจนฉีกถึงใบหู น้ำหนองที่พยายามกลั้นเอาไว้ไหลเยื้อมเปรอะเปื้อนทั่วปากจนได้กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง ต้นรีบหันไปทางอื่นเพราะรับไม่ได้(กรรม =.,=)

        \"แว้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!! >_< เมื่อไหร่เธอจะหัดเก็บอาการได้บ้างล่ะ!!!!!! ฉันเสียวไส้ ยี้!~~ หยะแหยง\"

        โป๊ก มะเหงกลงหัวของต้นหนึ่งที

        \"โอ๊ย ยังกับว่านายจะดีกว่าฉันนักหนา ไอ้เฉื่อย แค่นี้ทำเป็นสะดีดสะดิ้น \'ยี้~~ หยะแหยง~~\' ไอ้คำพูดเนี๊ย รอดูร่างจริงตัวเองซะก่อนเถ๊อะ~ แล้วนายจะเปลี่ยนคำพูดแทบไม่ทัน กลายเป็นกลืนน้ำลายตัวเองแล้วสำลัก\"

        \"ก็ยังดีกว่า กลืนน้ำลายคนอื่นแหละ รึว่าเธอชอบหึ อีนังหน้าหยะแหยง ยี้~~~~ แหยะ แหวะ เหม็นโว้ยยยยยยยยยย!!!! อีนังโสโครก ไม่อาบน้ำมากี่ปีแล้วล่ะหึ\"

        \"อย่างน้อยฉันก็อาบน้ำบ่อยกว่านายแหละ ไอ้โส เฉื่อย ทำอะไรก็ต้องทำตามคนอื่น\"

        \"โอ๊ย!!!! แต่คราวนี้ฉันคาบข่าวได้ก่อนเธอล่ะ\"

        \"แค่ครั้งเดียวทำเป็นได้ใจ แว้ดด ๆ kgrehsnby90b40hu3-=hhlwhbp03toh ๛๛๛๛\"

        แล้วการปะทะของเสียงสองเสียง ที่เริ่มมีเสียงเชียร์จากสัมปเวสีทั้งหลายก็เริ่มขึ้นอย่างเมาส์มันส์



            ----------------------------------++++++++++++++++----------------

        \"งืม งิบ\" ไผ่ตื่นขึ้นอย่างสะลึมละลือพลางมองดูข้างตัวที่ยังคงสภาพโรงยิมแสนคุ้นเคย

        เขาออกมาแล้ว

        อีสล่ะ

        ไผ่รีบหันมองรอบตัวอีกครั้ง สะดุดเข้ากับร่างผีสองตัว หนึ่งคือเบลท์ อีกหนึ่งคนคือคนที่เขาไม่รู้จัก

        \"เบลท์ นายยยยยย!!!!!!!!\" ไผ่รีบลุกขึ้นทันที แต่ก็หน้ามืดล้มลงไปอีกครั้งจนก้นเจ็บระบมไปหมด

        \"เอ้า ๆ คนเขารักษาให้นอกจากไม่สำนึกแล้วยังไม่เจียมอีก แขนที่งอกออกมาได้น่ะเพราะใคตรหัดรู้ไว้ซะบ้าง\" ไนท์(ซึ่งไผ่ยังไม่รู้จัก) ต่อว่า ไผ่รีบยกมือตัวเองขึ้นมาดูทันที

        แขนที่ขาดหายไปกลับมาอยู่ในสภาพเดิม ถึงแม้สีมันจะยังดูซีด ๆ แต่ก็มั่นใจว่าคงใช่แขนที่งอกออกมาจากหัวไหล่แน่นอน

        \"......\" ไผ่นิ่งเงียบพลางหันกลับไปมองผีตนที่เขาไม่รู้จักแต่มีบุญคุณล้นพ้น \"ข....ขอบใจ\"

        \"แหนะ พูดกับผู้อาวุโสยังจะใช้ขอบใจ อย่างนี้มันน่าตัดลิ้น\" เบลท์เอ่ยอย่างกระหาย แล้วเดินเข้าไปหาไผ่

        \"จร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!! >_< ขอโทษคร้าบบบบบบบบ ขอบคุณคร้าบบบบบ >/l\\<\" ไผ่รีบยกมือไหว้งาม ๆ ก่อนจะนึกเรื่องที่สำคัญกว่าขึ้นมาได้ \"ล...แล้วอีสล่ะ\"

        \"ไม่มีหางเสียงซะเลย มันน่า...\"

        \"จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ขอโทษคร้าบบบบบบบบ อีสล่ะคร๊าบบบบบบบบบบ T^T\"

        \"อีส...หมอนั่น

        ตายแล้วล่ะ\"

        ไนท์บอกพลางหลับตานิ่ง เบลท์ก็หลับตาด้วยเหมือนจะสวดส่งรึถาวนาอะไรสักอย่าง ในขณะที่ไผ่ได้แต่นิ่งเงียบด้วยความตกตะลึง หัวใจที่เพิ่งผ่านการสมานแตกร้าวเหมือนแผ่นดินที่แห้งแตก

        อีส.....

        ตายแล้ว  



    ----------------



        \"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!\" อีสแผดเสียงลั่นสุดเสียงเมื่อรับรู้จากความเจ็บปวดที่ข้อมือ การปาดข้อมือตัวเองเพื่อช่วยไผ่ออกมานี่มัน... เดี๋ยวค่อยริบทีหลังก็ได้ เอาดอกเบี้ยเยอะ ๆ =.,=



        แต่ว่า



        ตอนนี้เขาตายรึยังเนี่ย มันรู้สึกเย็น ๆ ยังไงไม่รู้ =[]=



        ครึก---ครึก---



        \"หือม์\" อีสครางในลำคอเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ค่อย ๆ เลื่อนตัวอยู่ข้างหลัง เสียงที่แว่วมาคล้ายคลึกกับเสียงไม้กระทบหินเป็นจังหวะไม่ถี่เท่าไหร่



        อีสหันกลับไปดูอย่างรวดเร็ว



        \"อ๊ะ\" ดวงตาสีเขียวเบิกตาโพลงขึ้นทันทีเมื่อได้เห็นร่างที่ติดตรึงอยู่ในความทรงจำ



        \"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! อย่าเข้ามานะเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!\" อีสกรีดเสียงอย่างโหยหวน(ซึ่งอาจหลอนท่านยิ่งกว่าเสียงผีนรกแตก กรุณาอุดหูด้วยกำแพงทั้งสองข้าง<<ใครทำตามจะกราบงาม ๆ สองที)



        \"ไอ้เกนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!\" อีสเปล่งเสียงเรียกชื่อของร่างตรงหน้าเมื่อฝ่าเท้าทั้งสองของเกนนั้นยังคงก้าวเข้ามาเรื่อย ๆ ในขณะที่มือข้างซ้ายของเกนกำปลายโซ่สีฟ้าไว้อย่างไม่สบอารมณ์



        \"หนวกหู\" เกนบ่นเสียงเรียบ ทั้ง ๆ ที่ในใจกำลังอยากสมน้ำหน้าไอ้วิญญาณตรงหน้าเต็มทน



        \"แกตายแล้ว รีบตามฉันมาด้วยฉันไม่มีเวลาว่างมาเล่นเปล่งเสียงกรี๊ด ๆ กับแกหรอกนะ\" ยังไม่ทันได้พยักหน้าหรือปฏิเสธ โซ่สีน้ำเงินประกายอ่อน ๆ ก้อเข้ารวบมือของอีสอย่างรวดเร็ว



        \"เฮ้ย แกต้องล้อเล่นแน่ ๆ แค่ปาดข้อมือตัเองฉันคงไม่ตายง่าย ๆ หรอก ตอนเด็ก ๆ โดนสิบล้อชน ฉันยังแค่แขนหักเอง\" อีสพูดด้วยสีหน้าแหย ๆ คิ้วที่ประดับอยู่เหนือตาเลิกขึ้นน้อย ๆ ชิดกันเล็ก ๆ



        \"ก็มันยังไม่ถึงคราว ตอนนี้ถึงคราว ก็ต้องเป็นไปตามนั้น\" เกนตอบ (ท่านจะสังเกตเห็นคอของอีสค่อย ๆ ตกอย่างช้า ๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อนและสับสน<< ใครที่ชอบอีส(ซึ่งน้อยคน)คงสงสารจับใจ)



        \"นี่ ๆ แล้วนายจะพาฉันไปไหน\" อีสถามเพื่อความมั่นใจ เหงื่อเริ่มซึมบนหน้าผากของเขาช้า ๆ



        \"โลกหลังความตายไง แกนี่มันโง่งมทุเร.ศจริง ๆ แค่เรื่องพวกนี้ยังไม่รู้ แล้วรู้อะไรไหม๊ไม่เคยมีใครถามฉันอย่างนี้เลยเวลาฉันมารับ\" เกนบ่นแกมรำคาญแล้วใช้มือที่ไใม่ได้ถือปลายโซ่ไว้เสยผมที่ยาวตรงนั้นขึ้นจนมันยุ่งเหยิง



        อีสแอบแปลกใจนิดหน่อย ทั้ง ๆ ที่ตัวเขารู้ดีว่าจะเป็นยังไงแต่กลับไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย ความแปลกประหลาดของความรู้สึกมันทำให้เขายิ้มได้ทั้ง ๆ ที่รู้ตัวว่าตายแล้ว



        เกนเหลือบมองรอยยิ้มที่เคลือบแคลงนั่นอย่างระวัง ร่างวิญญาณที่อยู่ข้างหลังเขานี้ไม่ใช่วิญญารธรรมดาแต่เป็นถึงวิญญาณที่เป็นเจ้าของที่แท้จริงที่หนังสือล่มนั้นเลือกไว้อย่างแน่นอน



        ถ้าพูดถึงระดับวิญญาณแล้ว



        คงเทียบเท่ากับหัวหน้าสูงสุด



        \"นี่ถามหน่อย วิญญาณนี่มันมีกี่ระดับกันแน่\" อีสถามอย่างไม่แยแสสีสันรอบกายที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ เกนแอบนึกสงสัยแต่ก็ยอมตอบโดยดีเพราะตอนนี้อีสก็เป็นวิญญาณเหมือนกันจึงไม่ถือว่าแหกกฎ



        \"มีเจ็ดระดับ ระดับเจ็ดคือระดับวิญาณธรรดา ระดับหกถึงสามเป็นพวกวิญญาณพิเศษหรือวิญญาณร้าย ระดับสองระดับองครักหรือไม่ก็พวกรองหัวหน้า ระดับหนึ่งเป็นพวกหัวหน้า แล้วก็มีพวกที่ไม่ได้นับอยู่ในระดับซึ่งเป็นผู้กุมอำนาจและหัวหน้าสูงสุด มีอำนาจเหนือพวกเจ็ดระดับนี้ มีไรถามอีกไหม๊\"



        \"....\" คนถูกถามหลบตาลงก้มหน้าก้มตา ไม่ใช่เพราะกลัวคนตรงหน้า แต่เพราะโซ่ที่คล้องอยู่มันจะพันกับขาอยู่แล้ว



        เกนลากอีสไปตามทางสีดำที่มืดมิดที่ยืดยาวราวกับนภายามรัตติกาลไร้แสงไม่มีที่สิ้นสุด...



            ---------------++++++++++++++-----------------



        \"ฮือ T_T\" ไผ่ร้องไห้ครวญครางพลางสวมกอดร่างไร้วิญญาณเหมือนเด็กสาวที่กอดตุ๊กตาชำรุด ช่างน่าสมเพศเหลือเกินในสายตาของผีหนุ่มสองตนที่นั่งอยู่ไม่ห่าง ยิ่งฟังยิ่งน่ารำคาญ ไนท์ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วด้วยความอดทนที่ระเบิดบึ้ม



        \"โอ๊ยยยยยยยยยย!!! ร้องไห้เอาโล่รึไง มันจะอะไรนักหนากะอีแค่เพื่อนตายไปคนหนึ่ง เดี๋ยวมันก็มาเป็นผีเหมือนฉันเองแหละน่า ถ้าเสียใจมากนักล่ะก็ ตาย ๆ ไปด้วยเลยซะดีไหม๊!!!!\"



        \"เฮ้ย ไม่เอาน่า นั่ง ๆ ๆ \" เบลท์กระตุกชายเสื้อให้ไนท์นั่งลงที่เดิมนัยน์ตาสีเหลืองอัมพันตวัดมองเพียงนิดก่อนจะเบือนไปทางไอ้เด็กที่ร้องไห้นรกแตก แล้วนั่งลงโดยดีด้วยใจอาฆาต



        \"ถ้านายทำเสียงสรกแตกนั่นอีกล่ะก็ ฉันจะฆ่านาย\" ไนท์พูดด้วยเสยงแหบพร่า



        เขาไม่เคยดีใจกับการตายของใคร แต่เขากลับแค้นแทน ไม่ว่าจะเป็นคนที่รู้จักรึไม่ เขาแค้นแทน



        ทั้งที่เกิดมาเป็นมนุษย์เหมือนกัน มีสิทธิ์ มีความหมาย กลับมีอายุไม่เท่ากัน



        \"เฮ้ย ไม่เอาน่า ทำหน้ายังกะไม่ได้ข ี้มาแปดวัน ไอ้คิ้วเนี่ย ชนกันเดี๋ยวมันระเบิดขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ\" เบลท์ที่เลื่อนตัวมาอยู่ตรงข้ามกับไนท์ใช้นิ้วจิ้มไปที่ระหว่างคิ้วของอีกฝ่ายแล้วพูด ไนท์จับมือเบลท์ออกแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น \"อารายอ่ะ อย่าทำแบบนี้ดิ\"



        \"นายก็เงียบ ๆ เถอะน่า\"



        \"ฮึก...ฮืออออออออออออ!!!!!!!!!!!T_T\" ไผ่หลังจากเงียบไปได้สักพักก็ร้องไห้เสียงดังน้ำตานองออกมาอีก จนผีสองตัวสะดุ้งเหมือนเจอผี(เฮ้ย ๆ)



        \"เช ี่ยว!!\" ไนท์สบถส่วนเบลท์ได้แต่หัวเราะคำสบถของเพื่อน



        \" ฮะ ๆ นี่ ๆ ว่าจะถามมาตั้งนาน เช ี่ยวมันแปลว่าไรอ่ะ ^ ^\" เบลท์เปลี่ยนหัวข้อสนทนา



        \"ไม่รู้เว้ย เห็นเพื่อนใช้ ก็ใช้ตาม\" ไนท์ตอบ แล้วยกมืออุดหูไม่รับฟังเสียงใด ๆ ทั้งสิ้น



        ดวงตาสีอัมพันเหลือบมองไผ่ที่นั่งกอดศพอยู่ชั่วครู่



        ถ้าตอนที่เขาตาย มีคนรับรู้เหมือนกัน จะมีคนร้องไห้เพื่อเขาอย่างนี้รึเปล่า







        พศ.2499



        ประเทศ สิงคโปร์



        \"เฮ้ย พี่ไนท์มาแล้วอ่ะ\" เด็กชายร่างเล็กอายุประมาณสี่ขวบร้องบอกเพื่อน ๆ พร้อมการปรากฎตัวของไนท์



        ทุ่งหญ้าที่แสนอบอุ่นยามต้องแสงตะวัน  เป็นภาพที่เขาไม่มีวันลืมออกไปจากใจ



        \"พี่ ๆ เปลี่ยนหน้าให้ผมดูหน่อยสิ\" เด็กชายคนหนึ่งเรียกร้อง ไนท์ยิ้มตอบอย่างร่าเริงแล้วทำตามทันที



        \"โห พี่ทำได้ยังไงล่ะ สอนพวกผมบ้างจิ\"



        เด็ก ๆ ในหมู่บ้านเรียกร้องให้เขาสอน แต่เขาสอนไม่ได้ มันเป็นพลังที่เขามีอย่างไม่ได้ตั้งใจตอนเกิดมา



        \"เอ่อ คุณไนท์ใช่ไหม๊ครับ\" ชายสวมเสื้อสีดำคนหนึ่งเดินเข้ามาถาม ใบหน้านั้นเลือนลางในความทรงจำ



        \"ครับ\" ไนท์ตอบ



        ชายเสื้อดำดึงตัวไนท์ออกมาจากกลุ่มเด็กสี่ขวบ แล้วหาที่สงบคุย



        \"คุณไนท์....ผมอยากให้คุณเข้ากลุ่มกับพวกเรา\" ชายคนนั้นพูด ดวงตาสีเหลืองดุจอสรพิษของไนท์ฉายรอยสงสัยแต่ก็ตอบปฏิเสธ



        \"ไม่เหรอครับ แน่ใจรึครับ\"



        \"ครับ\"



        ........



        ปัง



        เพียงนัดเดียว ร่างของไนท์หล่นกระทบพื้นและสิ้นใจลงอย่างรวดเร็ว



        ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นในความทรงจำนั้น เป็นภาพของกลุ่มเด็กสี่ขวบที่กำลังหัวเราะสนุกสนาน อาจเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา แต่ในที่สุด มันก็เป็นภาพที่เด่นชัดในความทรงจำตลอดมา



        ร่างของเขาถูกเผาอยู่ในทุ่งหญ้านั่นเอง ไม่มีใครรับรู้ ไม่มีใครเสียใจ ไม่มีใครถามว่าเขาหายไปไหน



        เหมือนกับเขาไม่มีตัวตนอยู่แล้ว







            ----------++++++++-------------------



        \"นี่มัวแต่คิดเรื่องเก่า ๆ น่าเบื่ออยู่นั่นแหละ\" เบลท์ร้องบอกเมื่อเห็นคนตรงหน้าเงียบไป ถึงเขาไม่มีพลังในการอ่านความคิดไป แต่เขาก็มองสีหน้าเจ็บปวดของไนท์ออกเสมอเหมือนหยั่งรู้ ไนท์เบือนหน้าที่เรียบเฉยนั่นกลับไปมอง



        \"ฉํนี่ ปิดนายไม่มิดซะทุกที\"



        \"เรื่องนี้น่ะช่างมันเถอะ แต่นายว่า อีสจะฟื้นกลับมาได้ไหม๊\"



        ไนท์นิ่งไปสักพักก่อนจะเบิกตาโพล่ง เมื่อตะกี้เขาไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่แต่เมื่อรับรู้ถึงคำถามนั่นก็ต้องตกใจ



        \"นี่นาย!!! นี่ไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาล้อเล่นนะ ไอ้ที่ฟื้นได้น่ะมันไม่มีแน่ พูดพร่ำเพรื่อเดี๋ยวก็โดนตัดลิ้นหรอก\"



        ดวงตาสีน้ำตาลแดงของเบลท์หันกลับมามองคนพูด ก่อนจะเพยอปากเปล่งเสียงเบา ๆ เพื่อไม่ให้คนที่ร้องไห้ห่างออกไปได้ยิน



        \"แต่ฉันเคยเห็นนะ กับตาคู่นี้นี่แหละ\"



        \"นาย......\" ไนท์อึ้งไปสักพัก แล้วยกมือขึ้นกุมขมับตัวเอง



        ...ไม่ยุติธรรมเลย ทำไม ทั้ง ๆ ที่เขาพยายามสักเท่าไหร่เพื่อได้กลับมาในโลกที่แสนอบอุ่นในใบนี้ฐานะของคนที่มีชีวิต แต่ก็ทำไม่ได้    



        \"แล้วหมอนั่นทำยังไง...\"



        \"ไม่ได้ทำไรเลย อยู่ดี ๆ ก็โดนท่านพญายมเรียกตัวแล้วคืนชีวิตให้\"



        ปั่ก!!!



        กำปั้นที่ขึ้นเส้นเลือดปูดโปนลงกระแทกพื้นอย่างแรงจนพื้นแตกเป็นวงเล็ก ๆ สายเลือดสีแดงฉานซึมไปตามพื้นของโรงยิมจากรอยแผลบนข้อนิ้งเรียว



        ไม่ทำอะไรเลย !!! กับเขาที่พยายามมากมาย ทำไมมันได้ฟื้นกลับมา ในขณะที่เขาจมปรักอยู่กับร่างวิญญาณที่ไม่มีแม้เศษเสี้ยวของลมหายใจ



        \"เฮ้ย ๆ ใจเย็นดิ หมอนั่นอาจจะยังไม่ถึงคาดเลยได้ฟื้นคืนชีพ แต่เราน่ะถึงคาดแล้วก็ได้\" เบลท์พยายามพูดปลอบ เขาเข้าใจดีว่าเพื่อนวิญญาณตนนี้รู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เขาเห็นการกระทำที่แสนลำบากกยาเข็นแค่ไหน การดิ้นรนที่จะได้ชีวิตคืนมาของไนท์ทำให้เขาต้องมองอย่างสังเวทหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่ไนท์ได้ฟื้นคืนกลับไป



        \"ชิ!!! ไอ้หมอนั่นฉันอยากตะบันหน้ามันในความ.....บัดซ บ!!!! โอย โธ่เว๊ย!!!!\"



        \"ฮะ ๆ ๆ\" เบลท์หัวเราะเจื้อแจ้วเมื่อเห็นเพื่อนหงุดหงิด (แกจะหัวเราะทำม้ายยยยยยย)



        \"หัวเราะ ยังจะมาหัวเราะอีก\"



        \"ก็แหม คนมันอารมณ์ดี ฮ่า ๆ ๆ เอิ้ก\"



        บ้า....<< ความเห็นจากไนท์และคนเขียน เอิ้ก



    -----------------



         อย่าคิดนะว่าพระเอกจะตายง่าย ๆ ไม่มีทาง!!!>.,<

        ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

    อยากบอกว่าตอนนี้อารมณ์แต่งนิยายตกต่ำมากมาย แต่ถ้าได้กะลังใจคงจะดีขึ้น งุงิ อารมณืการแต่งที่รอการสมานจากผู้อ่าน งี๊ด ๆ หงิง ๆ

        รักผู้อ่าน มากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมาย

                           รักหนิงมากมายด้วย ///>_ playSound(); showPoll();
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×