ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIN] The Hallucination ◆ (krisyeol)

    ลำดับตอนที่ #13 : ◆ 10 : all 'LIE'

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.26K
      7
      21 มี.ค. 56







    -10-
    Zzaqouoygxw_large





     



     

    all 'LIE'




     



                “ รุ่นพี่..มีอะไรเหรอครับ ” แบคฮยอนซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับอู๋อี้ฟานถามขึ้น เวลานี้คนทั้งคู่อยู่ในห้องทำงานของนายแพทย์หนุ่มร่างสูง อู๋ฟานถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะเริ่มต้นพูด

                “ นายรู้จักโรค depersonalization ใช่ไหม ? ”

                “ บุคลิกวิปลาส..รู้จักครับ ” แบคฮยอนตอบรับรู้สึกสับสนกับท่าทีของอีกฝ่าย ในใจยังคงคิดถึงเสียงที่เล็ดลอดออกมาจากห้องนั้นทำให้ร่างเล็กรู้สึกไม่ไว้ใจในตัวอู๋ฟานในเวลานี้เลยแม้แต่น้อย

                “ ดี..ทีนี้พี่อยากให้นายระวังตัวเอาไว้หน่อย ” ร่างสูงพูดขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง

                “ รุ่นพี่..หมายความว่ายังไงครับ? ”

                “ แบคฮยอนรู้ใช่ไหมว่าอาการของคนสองบุคลิกเป็นยังไง ” 
    อู๋ฟานถาม คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่นในขณะที่นายแพทย์หนุ่มเปิดลิ้นชักแล้วหยิบเชือกผุ ๆ กับสมุดเก่า ๆ เล่มหนึ่งออกมาวางบนโต๊ะ แบคฮยอนค่อย ๆ เลื่อนเก้าอี้ออกห่างอย่างไม่ไว้ใจ 

                “ อ่า รู้ครับ แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่ต้องการจะสื่ออยู่ดี ” ร่างเล็กลอบกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากขณะมองดูใบหน้าเครียดเขม็งของอู๋ฟาน

                “ ฟังนะ หลายเดือนก่อนที่นี่เคยมีคนฆ่าตัวตายอยู่ในห้องประตูสีดำทางปีกซ้าย ห้องนั้นเคยเป็นห้องทำงานของนายแพทย์คนหนึ่ง และ.. ”

     

     

     

     

              “ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก! ”

     

     

     

     

     

                “ ระ..รุ่นพี่เมื่อกี้นี้ ! ” แบคฮยอนผุดลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ ร่างกายสั่นเทิ้มหัวใจกระตุกวูบ เสียงกรีดร้องที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนเมื่อครู่ฟังดูโหยหวนและทุกข์ทรมานจนคนฟังขนลุกซู่ อู๋อี้ฟานรีบเปิดลิ้นชักควานหาอะไรบางอย่างด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน

                “ แบคฮยอนเราต้องหนี ! ” ร่างสูงตะโกนบอกด้วยท่าทีจริงจัง แบคฮยอนรู้สึกสับสน หัวใจเต้นแรงด้วยความหวาดหวั่น

                “ หมายความว่ายังไงครับ ! ”

                “ เอากุญแจรถนี่ไป มีรถพยาบาลจอดอยู่ที่โรงรถให้นายขับไปรอพี่ที่ปากทางออกถนนใหญ่ พาคิมจงแดกับคนไข้ที่เหลือไปด้วย รีบไปเร็ว ! ” นายแพทย์หนุ่มรุ่นพี่ตอบก่อนจะรีบผลุนผลันออกจากห้องทำงานใบหน้าของอู๋ฟานเต็มไปด้วยความเครียด

                “ แล้วรุ่นพี่จะไปไหนครับ ! ” แบคฮยอนตะโกนถามอย่างไม่เข้าใจในท่าทีของคนตัวสูงกว่า อู๋อี้ฟานทำราวกับว่าจะไม่หนีไปด้วยกันในตอนนี้อย่างไรอย่างนั้น

                “ พี่จะไปช่วยปาร์คชานยอล ” ร่างสูงรีบวิ่งออกไปจากห้องทำงานในทันที พยอนแบคฮยอนหัวใจเต้นแรงนายแพทย์หนุ่มร่างเล็กรีบวิ่งไปยังห้องนอนของคิมจงแดในทันที สถานการณ์ตอนนี้มันดูสับสนและน่ากลัวไปหมด แบคฮยอนลืมความสงสัยทั้งหมดที่มี ถ้าหากมันเป็นเรื่องที่อู๋ฟานจริงจังขนาดนั้นการจะหนีไปจากที่นี่ก็คงเป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุดในเวลานี้

                อันที่จริงแบคฮยอนน่าจะคิดได้ตั้งแต่ตอนแรกด้วยซ้ำ โรงพยาบาลเซจองไม่ใช่โรงพยาบาลปกติทั่วไป ในเวลาที่กดดันเช่นนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกราวกับสมองจะระเบิดไปเสียให้ได้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่เป็นเรื่องแปลกและดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรที่แบคฮยอนไว้ใจได้เลยแม้แต่อย่างเดียว

     

     

     

     

               ปัง ๆๆ

     

     

     

     

               ร่างเล็กหอบหายใจอยู่หน้าห้องของบุรุษพยาบาลหนุ่มก่อนจะทุบประตูรัวด้วยความร้อนรน คิมจงแดเปิดประตูออกมาด้วยใบหน้า
    ตื่น ๆ เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อผุดพรายก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อได้เห็นว่าพยอนแบคฮยอนเป็นคนมาเคาะประตู

                “ คะ..คุณหมอ เสียงเมื่อกี้.. ”

                “ จงแด คนไข้ที่เหลืออยู่ไหนพาผมไปเร็ว ”

                “ มะ..หมายความว่ายังไงครับ ? ” บุรุษพยาบาลหนุ่มขมวดคิ้วมองท่าทีรีบร้อนของพยอนแบคฮยอนอย่างไม่เข้าใจ

                “ อย่าเพิ่งถามอะไรมากเลย เราต้องหนีแล้วตอนนี้ ! ”

                คิมจงแดพยักหน้ารับอย่างงง ๆ ก่อนจะรีบวิ่งนำนายแพทย์หนุ่มไปยังห้องพักคนไข้ที่เหลือ แต่ภาพที่เห็นเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปกลับว่างเปล่ามีเพียงกลิ่นคาวของเลือดคละคลุ้ง เลือดสีแดงฉานกระเด็นไปติดทั่วผนัง บางส่วนที่ยังไม่แห้งดีเปื้อนติดรองเท้าของคนทั้งคู่มาด้วย จงแดตกใจจนแทบสิ้นสติทั้งตัวสั่นเทิ้มไปหมด

                “ นะ..นี่มันเรื่องอะไร.. ” มือหนายกขึ้นมาปิดปากตัวเองเมื่อได้เห็นชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์บางส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในห้อง ราวกับเป็นความตั้งใจที่จะทิ้งเศษซากเหล่านั้นเอาไว้ของผู้ลงมือกระทำ จงแดหน้าซีดรู้สึกพะอืดพะอมหัวสมองตื้อไปหมดด้วยความหวาดกลัว

                “ จงแดเราไม่มีเวลาแล้ว หนี ! ” พยอนแบคฮยอนกระชากแขนเสื้อของคิมจงแดให้ตามออกมาด้วยในทันที

                “ ดะ..เดี๋ยวครับ ยังมีคนไข้อีกคน จางอี้ชิงครับ ! ” บุรุษพยาบาลหนุ่มโพล่งขึ้น

                “ ถ้างั้นพาผมไป เร็ว ! ” คิมจงแดพยักหน้ารับพร้อมกับวิ่งนำแบคฮยอนไปอีกทางหนึ่งซึ่งเป็นห้องพักที่ถูกแยกออกไปของจางอี้ชิง เบื้องหลังประตูบานสีขาวเงียบสงัด บุรุษพยาบาลหนุ่มจึงรีบเปิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว

     

     

     

     

                แอ๊ดดดด..

     

     

     

     

     

     

                “ หะ..หายไปครับ จางอี้ชิงหายไป ! ” จงแดพูดขึ้นก่อนจะเปิดประตูออกกว้าง สายตาสอดส่องไปทั่วห้องแต่ก็ไม่มีวี่แววของจางอี้ชิงเลยแม้แต่น้อย

                “ เป็นไปได้ยังไง มีร่องรอยอะไรเหมือนห้องที่ผ่านมาหรือเปล่า ”

                “ ไม่มีครับคุณหมอ ไม่มีเลือด ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ”

                “ เวรเอ๊ย แล้วเราจะทำยังไงต่อไปล่ะเนี่ย ” แบคฮยอนยกมือขึ้นเสยผมอย่างเครียด ๆ ทุกอย่างดูจะกลายเป็นเรื่องยากไปหมด เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกจนตรอกขนาดนี้

                “ ผม..ผมจะโทรแจ้งตำรวจ ”

                “ โทรเลย แล้วไปเจอกันที่โรงรถนะ ระหว่างนี้ผมจะไปตามหาจางอี้ชิงเอง คุณพอจะบอกลักษณะของคนไข้คนนี้ให้ผมได้ไหม ”

                “ จางอี้ชิงผิวขาว ตัวสูงพอ ๆ กับผม รูปร่างสมส่วนครับ ที่ข้อมือข้างขวาจะมีสร้อยเงินเส้นใหญ่ห้อยอยู่ ” คิมจงแดตอบอย่างลุกลี้ลุกลนในขณะที่มือกดโทรศัพท์ไปด้วย นายแพทย์หนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะวิ่งออกจากตัวตึกไปตามหาในทันที

                ทางด้านอู๋อี้ฟานที่วิ่งกระหืดกระหอบกลับมายังห้องใต้หลังคาก็ต้องตกใจจนแทบคลั่งเมื่อเห็นสภาพประตูห้องที่ถูกเปิดทิ้งไว้ บนเตียงกว้างภายในที่ควรจะมีร่างของใครคนหนึ่งอยู่บนนั้นกลับว่างเปล่า

     ปาร์คชานยอลหายไป !

                ร่างสูงกำหมัดแน่นก่อนจะรีบวิ่งกลับลงไปที่ชั้นล่างตรงไปยังห้องประตูสีดำอย่างไม่ลังเล เมื่อผลักประตูเข้าไปภาพที่เห็นก็ทำให้หัวใจของอู๋ฟานกระตุกวูบ ใครอีกคนใช้มีดเล่มหนาไล้ไปตามแก้มของปาร์คชานยอลที่นั่งตัวสั่นเทิ้มอยู่ตรงมุมห้อง ใครคนนั้นที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี..

                “ อี้ฝาน ! ”

                “ อ่า..มาแล้วเหรออู๋ฟาน.. ”

     

     

     

              Wu Yi Fan..

              Wu Yi Fan..

     

     

     

     

              พี่ชายฝาแฝดที่หายตัวไปเมื่อหลายเดือนก่อนของอู๋อี้ฟาน..  อู๋อี้ฝาน

                รอยยิ้มเย็น ๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อไร้ที่ติ ร่างสูงยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะถือมีดในมือครูดไปกับผนังไม้จนเกิดเสียงดังแสบหูขณะที่สาวเท้าเข้ามาใกล้

                “ นายยังไม่ตายจริง ๆ สินะ ยังไม่ตายจริง ๆ ” อู๋ฟานกัดฟันแน่นตัวสั่นเทิ้มด้วยแรงโทสะ

                “ อ๋อใช่..คิดว่าไงล่ะ ? ” อี้ฝานยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจนัก รอยยิ้ม
    ยียวนปรากฏขึ้นที่มุมปาก

                “ อี้ฝานทำแบบนี้ทำไม ! แล้วที่ผ่านมา..ที่ผ่านมานายหายไปไหน..

                กูจะทำแบบนั้นทำไมมันก็สิทธิ์ของกู มึงกล้าถามออกมาได้ยังไงว่าที่ผ่านมากูหายไปไหน ในเมื่อกูก็อยู่ที่นี่ตลอดนั่นแหละ แต่เพราะความโง่ของมึง..กูใช้ความโง่ของมึง..ถ้ากูไม่อยากให้มึงเจอกู มึงก็ไม่มีวันได้เจอหรอก ฮ่า ๆ

                อี้ฝาน ! ”

                เห็นไหมว่าที่มึงวิ่งโร่มาถึงตรงนี้ได้ก็ฝีมือกูทั้งนั้น รับรู้ได้แล้วว่าตัวมึงไม่มีอะไรที่สู้กูได้เลยสักอย่าง ทำไมนะ..ทำไมคนอื่นถึงไม่เคยคิดได้แบบนี้..

                อี้ฝานรู้อะไรไหมว่าการหนีจากโลกความเป็นจริงด้วยวิธีที่นายทำน่ะมันน่าสมเพชแค่ไหน ! ”

                “ มึงต่างหากอู๋ฟานไอ้คนน่าสมเพช มึงจะไปรู้อะไร มึงมันดี..พ่อแม่รักมึงนี่ ส่วนกูมันก็เป็นแค่ไอ้เด็กส่วนเกิน แล้วจะผิดอะไรถ้ากูจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรักน่ะ หึ..ผิดตรงไหน ผิดเหรอ..หึ ผิดเหรอ.. ” รอยยิ้มวิกลจริตผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อคมในขณะที่อู๋อี้ฝานเริ่มพูดจาวกไปวนมา

                อู๋อี้ฟานลอบมองไปทางด้านหลังของพี่ชายฝาแฝดเพื่อส่งสัญญาณให้ชานยอล แต่ร่างโปร่งกลับนั่งกอดเข่าโยกตัวไปมาราวกับคนไม่รู้สึกตัว

                “ อี้ฝาน มันไม่ใช่อย่างที่นายเข้าใจ.. ”

                “ ไอ้เวร..หุบ..ปาก.. ” อู๋อี้ฝานยกมีดขึ้นมาชี้หน้าอู๋ฟาน ดวงตาคมเย็นชาประกอบกับรอยยิ้มเย็น ๆ ยิ่งทำให้ร่างสูงดูราวกับคนเสียสติ

                “ อี้ฝานปล่อยชานยอลไป.. ” อู๋ฟานร้องขอ เวลานี้สิ่งที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดก็คือปาร์คชานยอล เพราะรู้ดีว่าพี่ชายฝาแฝดของเขากำลังมาไกลขนาดไหน อู๋อี้ฝานไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปแล้วในเวลานี้

                “ มึงจะเอาอะไรมาแลกล่ะ ? ถ้าคิดจะให้กูปล่อย จะเอาอะไรมาแลก.. ” อีกฝ่ายกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ในขณะที่ไล้มือไปตามคมมีดเล่มยาว

                “ อะไรก็ได้ทั้งนั้น ” อู๋ฟานพูดออกไปอย่างที่ใจคิด

                “ ชีวิตก็ด้วยเหรอ ? ” อี้ฝานหัวเราะเยาะด้วยความสมเพช อู๋อี้ฟานไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิด อู๋อี้ฟานผู้เป็นที่รักของทุกคน..

                “ อี้ฝานนายไม่กล้าฆ่าใครหรอก ”       

                “ หึ มึงมั่นใจได้ยังไงว่าไม่..มั่นใจได้ยังไง มึงคิดว่ามึงเป็นใคร.. ”

                “ อี้ฝานฉันบอกให้ปล่อยชานยอล ตั้งสติสิอี้ฝาน ! ”

                “ หุบปาก ! มึงไม่ได้ยินหรือไง กูจะอยู่กับคนรักของกู ! ” อู๋ฟานอาศัยจังหวะที่อี้ฝานเผลอพุ่งเข้าไปแย่งมีดในมือของอีกฝ่ายในทันที
    อี้ฝานหัวเราะในลำคอเบา ๆ อย่าพึงพอใจและยอมปล่อยให้อู๋ฟานแย่งมีดออกไปจากมือง่าย ๆ

                “ เอาไปเลยสิ จะแทงกูงั้นเหรอ มึงมีปัญญาเหรอ ! ” รอยยิ้มยั่วยุผุดขึ้นที่มุมปากอิ่ม

                “ ชานยอลมาหาฉันเร็ว เด็กดีมาหาฉันนะ ” อู๋ฟานร้องเรียกร่างโปร่งที่นั่งโยกตัวไปมาอยู่ตรงมุมห้อง แต่ชานยอลก็ยังคงนั่งอยู่เฉย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเสียงเรียกของเขาเลยสักนิด

                “ หึ..กูถึงได้ถามไงว่ามีปัญญาเหรออู๋อี้ฟาน ”

                “ ชานยอลเธอได้ยินที่ฉันพูดไหม ชานยอล ! ” ร่างสูงตะโกนเรียกเสียงดังขึ้น

                “ มึงมันโง่อู๋ฟาน ปาร์คชานยอลไม่มีวันไปกับมึงหรอกรู้ไว้ซะด้วย ” อี้ฝานยิ้มเหยียด สองมือยกขึ้นกอดอกด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อน

                “ หมายความว่ายังไง ? ” อู๋ฟานขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ รู้สึกสับสนไปหมดกับท่าทีของพี่ชายฝาแฝด

                “ หึ..กูบอกมึงแล้วไงว่ากูจะอยู่กับคนรักของกู ปาร์คชานยอลรักกู ปาร์คชานยอลเป็นของกู ปาร์คชานยอลเป็นเด็กดีของกูคนเดียว ไม่ใช่ของมึง ! ”

     

     

     

     .
    .
    .

     

     

     

     

                ราวกับว่าหัวใจของอู๋อี้ฟานแตกสลาย แข้งขาอ่อนแรงจนแทบจะล้มทั้งยืน ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าหวานที่ดูเลื่อนลอยของชานยอลอย่างไม่เข้าใจ หมายความว่ายังไง..อู๋ฟานสับสนไปหมด..

                “ มึงคิดว่ายังไงล่ะ ? แนบเนียนหรือเปล่าอู๋ฟาน.. ”

                “ ไม่จริง..ชานยอล.. ” เสียงของอู๋อี้ฟานแหบพร่า รู้สึกราวกับมีมีดนับร้อยเล่มพุ่งมาแทงที่หัวใจ ดวงตาคมสั่นระริกขณะคิดทบทวนทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเขากับชานยอล

                “…”

                “ ที่ผ่านมาเธอไม่เคยรักฉันเลยเหรอ.. ”

                “…”

                “ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น..มันเป็นเรื่องโกหกงั้นเหรอ.. ”

                “…”

                “ แต่ฉันไม่เคยโกหกเธอเลยนะชานยอล.. ” อู๋ฟานเริ่มมองเห็นภาพต่าง ๆ พร่ามัวไปหมดเพราะม่านน้ำตา นายแพทย์หนุ่มรู้สึกปวดหนึบไปหมดทั้งหัวใจ ที่ผ่านมาเรื่องราวระหว่างเขาและชานยอลมันก็เป็นเพียงแค่เรื่องโกหก..

                “ ฮึก..ฉันรักเธอจริง ๆ .. ” ร่างสูงอ่อนแรงคุกเข่าลงกับพื้นน้ำตาไหลทะลักออกมาจากดวงตาคมสีเข้ม ดวงตาที่มีไว้เพื่อชานยอล..

                “ ผมรักคุณ..รักคุณ.. ” ชานยอลพึมพำขณะกอดเข่าโยกตัวไปมา ราวกับว่าร่างสูงไม่ได้มีตัวตนอยู่ในห้องนี้ ดวงตากลมโตคู่นั้นไม่ได้จับจ้องมาที่อู๋อี้ฟานเลยแม้แต่น้อย หากแต่ดวงตาของชานยอลจับจ้องอยู่ที่อู๋อี้ฝานเพียงคนเดียว..

     

     

     

     

              ปาร์คชานยอลเป็นเด็กดีของอู๋อี้ฝานไม่ใช่อู๋อี้ฟาน..









    TBC

      








     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×