ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIN] The Hallucination ◆ (krisyeol)

    ลำดับตอนที่ #2 : ◆ 1 : cannot escape

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 56


     




     

    -1-

     Posted Image


     

     

     

    cannot escape

     

     

     

     

     

              ก๊อกก๊อกก๊อก..

     

                “ คุณหมออู๋ครับ.. ” เสียงเรียกของคิมจงแดดังอยู่หน้าห้อง ร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบเดินไปเปิดประตูเพื่อให้อีกฝ่ายเข้ามาเก็บกวาดเศษแก้วและสิ่งของที่ปาร์คชานยอลเขวี้ยงทิ้งเกลื่อนห้อง ดวงตาคมจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหวาน เขาจำเป็นต้องผิดสัญญากับคนตัวเล็กที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงนั้นอีกแล้ว

                อู๋อี้ฟานเดินไปตามทางเดินที่เงียบสงัดบรรยากาศของโรงพยาบาลมืดครึ้มเยือกเย็นจนแทบไม่น่าเชื่อว่าขณะนี้เวลายังเดินทางมาไม่ถึงสิบโมงเช้าเลยด้วยซ้ำ แสงสว่างจาง ๆ ที่ลอดผ่านหน้าต่างบานเล็กเข้ามาไม่ได้ช่วยให้ทางเดินที่ทอดยาวนี้ดูน่ามองขึ้นเลยสักนิด

                เสียงไม้กระดานลั่นเอี๊ยดอ๊าดดังขึ้นทุกย่างก้าวที่อู๋อี้ฟานทิ้งน้ำหนักลงไปยิ่งชวนให้รู้สึกขนลุกกับบรรยากาศวังเวงภายในอาคารไม้แห่งนี้เข้าไปใหญ่ ถ้าหากเป็นคนอื่นคงไม่กล้าที่จะเดินมาคนเดียวแบบที่ร่างสูงกำลังทำอยู่เป็นแน่ หรือม้แต่การเลือกที่จะเดินผ่านเส้นทางนี้..เพียงแค่คิดก็ยังไม่กล้า..

                นายแพทย์หนุ่มเดินต่อไปเงียบ ๆ ไม่ได้สนใจกรอบรูปที่ติดอยู่ตามผนังไม้สีซีด รูปภาพพวกนั้นไม่ได้น่าสนใจไปกว่าเศษไม้ที่หลุดลอกเลยสักนิดเขาจึงไม่เคยคิดจะแยแสมัน

    ร่างสูงเร่งจังหวะฝีเท้าให้เร็วขึ้นจนมาหยุดอยู่หน้าประตูบานใหญ่ที่ดูจะแตกต่างจากประตูทุกบานในตึกนี้ เพราะทุกบานล้วนเป็นสีขาวสะอาดหากแต่ประตูที่อยู่ตรงหน้าอู๋ฟานกลับเป็นสีดำ

                ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปภายในห้องมืดที่เหม็นอับจนต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูก ภายในห้องมีเพียงแสงรำไรลอดเข้ามาผ่านซี่ผนังไม้ที่ผุแล้ว ไม่มีหน้าต่าง..ไม่มีช่องระบายอากาศ มีเพียงประตูบานเดียวเท่านั้น

    ใบหน้าหล่อคมแหงนมองคานไม้ที่มีเชือกสีน้ำตาลซีดผุ ๆ เส้นหนึ่งห้อยอยู่ ไยแมงมุมที่จับกับเชือกเส้นนั้นเป็นเครื่องบอกเวลาว่าไม่มีผู้ใดแตะต้องมันมานานมากแล้ว

                “ หึ ” ร่างสูงเหยียดยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเดินกลับออกมาจากห้อง มือหนาปิดประตูบานนั้นลงตามหลัง ดวงตาคมไม่ฉายความรู้สึกใด ๆ ..

     

     



     

    10.30 P.M.







     

                ปาร์คชานยอลค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาช้า ๆ แสงไฟในห้องใต้หลังคาสลัวจนแทบมองไม่เห็น หากแต่ร่างโปร่งกลับโผเข้าหาร่างที่คุ้นเคยได้ในทันทีโดยที่ไม่ต้องมองหาเพราะกลิ่นกายหอมกรุ่นนั้นเป็นสิ่งที่ตราตรึงอยู่ในความรู้สึกของชานยอลเสมอ

                “ คุณไม่ได้ไปไหนเลยใช่ไหม.. ” คนหน้าหวานเอ่ยถามขณะซุกหน้าลงกับแผ่นอกกว้างดวงตากลมโตสั่นไหวเมื่อรับรู้ว่าอีกไม่นานก็คงถึงเวลานั้น..

                “ ไม่ได้ไปไหนเลย ฉันเพิ่งเช็ดตัวแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอเสร็จ ” อู๋อี้ฟานพึมพำตอบก่อนจะกระชับอ้อมแขนกอดปาร์คชานยอลแน่น เหตุผลที่แพทย์หนุ่มเจ้าของไข้ต้องรับหน้าที่เช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ชานยอลก็หนีไม่พ้นเรื่องความ 'พิเศษที่ว่านั่น ใบหน้าหล่อคมระบายด้วยรอยยิ้มเมื่อคนตัวเล็กกว่ายันตัวเองขึ้นจ้องหน้าเขาอย่างเช่นทุกวัน

                “ กลัว..กลัว.. ” ชานยอลเอ่ยด้วยแววตาสั่นระริก น้ำเสียงที่เปล่งออกมาสั่นเครืออย่างน่าสงสาร น้ำตาหยดเล็ก ๆ ไหลรินออกมาจากหางตาคู่สวยอีกครั้ง

                “ เด็กดีอย่าร้องไห้นะครับ ฉันจะเล่านิทานให้เธอฟัง เอาไหม? ” อู๋ฟานส่งยิ้มอบอุ่นไปให้ก่อนจะยกมือขึ้นลูบศีรษะของชานยอลเบา ๆ แล้วเลื่อนมือลงมาเช็ดน้ำตาออก นายแพทย์หนุ่มเข้าใจว่าอาการของร่างโปร่งเป็นอาการปกติทั่วไปของคนที่มีอาการทางจิตซึ่งเขาเคยพบเจอมานักต่อนัก

                " ดี.. " ชานยอลตอบแล้วยันตัวลุกขึ้นนั่งโยกไปมา รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากแต่ดวงตาคู่นั้นไม่ได้จับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของร่างสูงอีกต่อไป ดวงตากลมกำลังมองดูเข็มนาฬิกาที่ค่อย ๆ ขยับ..

                “ คุณจะเล่า..เรื่องอะไร.. ” ชานยอลเอ่ยถามเสียงแผ่วขณะยังคงโยกตัวไปมาอยู่อย่างนั้น

                 “ ก็เรื่องที่เธอชอบไง.. ”  ริมฝีปากบางของคนตัวเล็กกว่าคลี่ยิ้มในทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น อู๋อี้ฟานยันตัวลุกขึ้นนั่งตามก่อนจะดึงตัวชานยอลขึ้นมานั่งบนตัก แล้วเริ่มต้นเล่านิทานที่คนไข้ของเขาชอบฟัง..

                “นานมาแล้วมีพระราชาองค์หนึ่งซึ่งเป็นพระราชาที่โง่เขลา พระองค์มีพระประสงค์จะเก็บเวทมนตร์ทั้งหมดที่มีอยู่ในอาณาจักรไว้กับตัวพระองค์เองจึงทรงรับสั่งให้กองทัพออกล่าแม่มด หากแต่การนี้จะสำเร็จก็ต่อเมื่อพระองค์สามารถแก้ปัญหาสองประการให้ได้เสียก่อน..

                ร่างโปร่งจับมือของอู๋อี้ฟานขึ้นมาวางบนตักก่อนจะเริ่มไล้นิ้วไปตามเส้นลายนิ้วมืออย่างเพลิดเพลินขณะนั่งฟังนิทานเงียบ ๆ นายแพทย์หนุ่มยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจและเริ่มเล่าต่อ

                “ประการแรกก็คือ พระองค์จะต้องรวบรวมเหล่าแม่มดทุกตนในอาณาจักรและประการที่สองพระองค์ก็จะต้องทรงเรียนรู้การใช้
    เวทมนตร์ ดังนั้นระหว่างที่พระองค์ทรงรวมกำลังกองพันทหารเพื่อออกตามล่าเหล่าแม่มดนั้นพระองค์ก็ได้รับสั่งหาผู้สอนเวทมนตร์อีกด้วย..

                ปาร์คชานยอลหัวเราะออกมาเบา ๆ พร้อมกับเอนตัวพิงศีรษะลงกับไหล่หนา อู๋อี้ฟานจึงใช้มืออีกข้างที่ชานยอลไม่ได้จับเอาไว้ยกขึ้นโอบรอบเอวบาง ความโหยหาและความต้องการแบบนี้..อารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ในเวลานี้ร่างสูงจำเป็นต้องข่มมันเอาไว้..

                หากแต่สิ่งหนึ่งที่ปาร์คชานยอลไม่อาจเข้าใจก็คงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ นั่นเพราะร่างโปร่งใสซื่อและไร้เดียงสา.. ไม่รู้เลยว่าการกระทำของตนเองจะทำให้ใครต้องคลั่ง ชานยอลพลิกตัวหันมาจ้องหน้าอู๋อี้ฟานนิ้วเรียวยกขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากอิ่มขัดจังหวะการเล่านิทานของร่างสูง อู๋ฟานขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ

                “ คืนนี้คุณต้องอยู่ที่นี่..อยู่ที่นี่.. ” ดวงตากลมโตจ้องเข้าไปในดวงตาคมมือบางตวัดโอบกอดร่างของคนตัวสูงกว่าแน่นเป็นการบังคับกลาย ๆ ..

                “ ไม่ได้หรอกชานยอล.. ” นายแพทย์หนุ่มขัดขึ้นขณะพยายามดึงตัวชานยอลให้ถอยห่าง

                “ ไม่..ไม่..แต่เขาจะมา..มาจริง ๆ.. ” คนตัวเล็กกว่าว่าพลางส่ายหน้าอยู่ภายในอ้อมแขนนั้น

                “ มันไม่มีอะไรหรอกเด็กดี..เชื่อฉันสิ ”

                “ ไม่ ! ก็บอกว่ามีไง ! ” ชานยอลตวาดเสียงดังอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ใบหน้าหวานถมึงทึงแสดงความไม่พอใจ เวลานี้อู๋อี้ฟานรู้ดีว่าเขาได้พลาดไปแล้ว ปาร์คชานยอลอาจอาละวาดหนักต่อจากนี้ก็เป็นได้

                “ นี่..คนดี..มองหน้าฉันสิ ” ชายหนุ่มเกลี้ยกล่อมน้ำเสียงอ่อนโยน มือหนายกขึ้นลูบแก้มของอีกฝ่ายเบา ๆ ชานยอลขมวดคิ้วแน่นแต่ไม่ได้ถอยห่างจากสัมผัสนั้น

                “ เอาอย่างนี้.. ” ร่างสูงถอดสร้อยคอเงินเส้นใหญ่ที่ใส่ติดตัวตลอดเวลาออก ร่างโปร่งมองตามทุกการกระทำด้วยความสงสัย อู๋ฟานลอบมองใบหน้าหวานที่ยู่ลงเล็กน้อยด้วยความเอ็นดูก่อนจะบรรจงสวมสร้อยลงบนลำคอระหงของชานยอล คนตัวเล็กกว่ามีท่าทีตื่น ๆ และสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสร้อยโลหะเย็นชืดสัมผัสกับผิวกาย ดวงตากลมโตฉายแววสับสนและเต็มไปด้วยความสงสัย

                “ นี่สร้อยนำโชคของฉัน ถ้าเธอใส่มันก็จะไม่มีอะไรมาทำอันตรายเธอได้ ” นายแพทย์หนุ่มว่าพลางยกมือขึ้นลูบแก้มของ
    ชานยอลอีกครั้ง รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวย ดูเหมือนว่าตอนนี้ชานยอลจะพอใจแล้ว..

                “ จริงเหรอ? ” ดวงตากลมโตช้อนมองอย่างต้องการคำตอบ

                “ จริงสิ.. ” อู๋ฟานยิ้มให้ ดวงตาของชานยอลเป็นประกาย

                “ ต้อง..ให้อะไรตอบแทนคุณไหม? ” คนตัวเล็กกว่าเอ่ยถาม ร่างสูงแทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ได้ ปาร์คชานยอลใสซื่อบริสุทธิ์และน่ารักมากเหลือเกิน มาก..เสียจนตัวเขาเองยังแปลกใจ ทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ ทุกสัมผัสที่เกิดขึ้นระหว่างอู๋ฟานและชานยอลเป็นสิ่งที่ร่างสูงโปรดปรานอย่างที่สุด

                “ ตอบแทนด้วยการเป็นเด็กดีในคืนนี้ไง ” นายแพทย์หนุ่มส่งยิ้มให้ ชานยอลพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะใช้มือลูบสัมผัสสร้อยคอเงินนั้น ร่างสูงยันตัวขึ้นทาบริมฝีปากอิ่มเข้ากับริมฝีปากบาง คนตัวเล็กไม่ได้ขัดขืนชานยอลจูบตอบอู๋ฟานอย่างเก้ ๆ กัง ๆ จนนายแพทย์หนุ่มนึกขันในท่าทีน่ารักไร้เดียงสานั้น ฟันคมจงใจงับลงบนริมฝีปากล่างของชานยอลเบา ๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว

                “ อื้อ.. ” คนตัวเล็กกว่าส่งเสียงคราง อู๋ฟานจึงถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่งในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียดาย

                “ ฉันต้องไปแล้วนะ ” ร่างสูงว่าพลางดันตัวชานยอลออกจากตัวแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ร่างโปร่งมองตามสายตาละห้อย

                “ สัญญาว่าจะเป็นเด็กดีแล้วนะ ” อู๋ฟานเตือนก่อนจะลูบศีรษะชานยอลเบา ๆ แล้วเดินออกจากห้องใต้หลังคาไปเงียบ ๆ แม้ภายในใจจะคิดตรงกันข้ามกับการกระทำอย่างสิ้นเชิงก็ตาม..





     

    11.59 P.M.





     

                 ปาร์คชานยอลนอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่บนเตียงกว้างสีขาวสะอาดด้วยความอุ่นใจ มือบางกุมล็อคเก็ตที่ติดมากับสร้อยของอู๋ฟานแน่น

                บางที..คืนนี้อาจเป็นคืนแรกที่ชานยอลจะปลอดภัย..

              ติ๊ง..ติ๊ง..ติ๊ง..

              ฟุ่บ!

                ฟูกเตียงนอนค่อย ๆ ยวบลงเป็นจังหวะขยับใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ร่างโปร่งลืมตาขึ้นมองด้วยความหวาดหวั่นก่อนที่จะถูกดึงเข้าไปกอดจากทางด้านหลัง น้ำตาค่อย ๆ ไหลลงมาเป็นสายด้วยความหวาดกลัว

                “ อย่า..อย่าทำ..อย่า.. ” ร่างโปร่งตัวสั่นเทิ้มในขณะที่คนตัวสูงกว่าค่อย ๆ ก้มลงจุมพิตที่หัวไหล่มนแล้วเลื่อนขึ้นมาที่ลำคอขาว ลิ้นร้อนเลียเบา ๆ ที่กกหูของชานยอล คนตัวเล็กกว่าพยายามขืนตัวเอาไว้มือทั้งสองกำสร้อยคอของอู๋ฟานแน่น

                “ กลัวเหรอ.. ” เสียงทุ้มเอ่ยถามก่อนที่ฟันคมขาวจะขบกัดติ่งหูของชานยอลเบา ๆ ยิ่งทำให้ร่างโปร่งกลัวจนตัวสั่นไปหมด

                “ ไม่..ไม่..อย่าทำ.. ” ชานยอลร้องขอขณะที่ร่างสูงพลิกตัวของเขาให้นอนหงายแล้วขยับกายขึ้นคร่อมเอาไว้ ดวงตาคมตวัดมองสร้อยคอเงินที่ลำคอขาวก่อนจะยกยิ้มมุมปาก หากแต่ในความรู้สึกของชานยอลรอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มที่น่ารังเกียจที่สุด..

                “ นั่นอะไร? ” ร่างสูงเอ่ยถามน้ำเสียงเย็นชามือหนายื่นออกไปสัมผัสสร้อยคอนั้น

                “ อย่ามายุ่ง ! แกมันปีศาจ ! ไม่มีสิทธิ์จับมัน ! ” ชานยอลตวาดลั่นทั้งตัวสั่นเทิ้มเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น คนที่อยู่เหนือร่างแสยะยิ้มไม่น่าดูมาให้มือหนากระชากสร้อยออกจากคอของชานยอลอย่างแรงจนขาดติดมือก่อนจะเหวี่ยงทิ้งไปยังมุมหนึ่งของห้อง ปาร์คชานยอลมองการกระทำนั้นด้วยความตกใจก่อนจะหวีดร้องออกมาสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด

                “ แก..แกมันไม่ใช่คน ฮึก ! ไม่ใช่คน ! ” ร่างโปร่งร้องไห้ออกมาอย่างหนักพร้อมกับตะโกนใส่สองมือที่สั่นเทายกขึ้นปิดหน้า กลัวเหลือเกิน..กลัวผู้ชายคนนี้เหลือเกิน..

                “ สำคัญมากนักเหรอสร้อยนั่น.. ”

                ร่างโปร่งไม่ตอบคำถามหากแต่ยังคงร้องไห้จนตัวโยน การกระทำนั้นทำให้เขาหัวเสียจนต้องกระชากตัวคนบนเตียงขึ้นมาหา ร่างสูงไม่ชอบใจที่ชานยอลให้ความสำคัญกับอะไรก็ตามที่ไม่ใช่เขา ยิ่งเห็นว่าคนใต้ร่างนี้กำลังร้องไห้เพราะเขากระชากสร้อยนั้นทิ้งไปก็ยิ่งโมโห

                “ เธอรักฉันไหม..รักฉันไหม.. ” ร่างสูงก้มลงกัดฟันกระซิบถามที่ข้างหู ชานยอลส่ายหน้าปฏิเสธอย่างแรง

                “ ไม่ ! ไม่ ! ออกไปให้พ้น ! ” มือบางยกขึ้นผลักอกหนาออกไป คนตัวสูงกว่าหัวเราะเยาะให้กับการกระทำที่ไร้ผลของชานยอล ความพยายาม..ที่ไม่เคยเป็นผล..

                “ เธอตอบผิดชานยอล..ตอบผิด.. ” ร่างสูงแสยะยิ้มไม่น่าดูออกมาก่อนจะฉีกกระชากเสื้อของชานยอลออก ร่างโปร่งกรีดร้องเสียงดังด้วยความหวาดกลัวเมื่อฝ่ามือทั้งสองข้างถูกรวบไว้เหนือหัว ปีศาจร้ายตนนั้นใช้เศษผ้าจากเสื้อนอนเมื่อครู่มัดข้อมือบางไว้อย่างแน่นหนา

                “ ฉันรักเธอ..รักเธอ..แต่ทำไมเธอไม่รักฉัน.. ” ใบหน้าหล่อคมซุกไซ้ซอกคอขาวด้วยความกระหาย ร่างโปร่งพยายามดิ้นขัดขืนด้วยความทรมานน้ำตาร่วงเผาะลงมาจากดวงตาคู่สวยหยดแล้วหยดเล่า

    ชานยอลกลัว..กลัวผู้ชายคนนี้..

                “ อย่า..ได้โปรด.. ” เสียงสั่นเครือร้องขอแต่ร่างสูงไม่ฟังริมฝีปากอิ่มพรมจูบไปทั่วใบหน้าของชานยอล ยิ่งทำให้คนตัวเล็กกว่ารู้สึกรังเกียจ ชานยอลพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้แม้จะรู้ดีว่าไม่มีทางชนะ

                “ ฉันชอบเธอ ชอบทุกอย่างที่เป็นเธอเลยรู้ไหม.. ” ร่างสูงส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ขณะที่มือหนาลูบไล้ไปทุกสัดส่วน ผิวเนียนขาวน่าหลงใหลของชานยอลทำให้เขาแทบคลั่ง ดวงตากลมฉ่ำน้ำตาช้อนมองร่างของคนตัวเล็กสั่นระริกแต่อีกฝ่ายกลับยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจมือหนาลูบไล้ใบหน้าของคนใต้ร่างช้า ๆ นิ้วเรียวค่อย ๆ ลากไล่ตั้งแต่ปลายจมูกโด่งลงไปจนถึงริมฝีปากและลำคอขาว ดวงตาคมฉายความต้องการออกมาอย่างไม่ปิดบัง

     

              “ อา..ฉันรักเธอเหลือเกิน เป็นเด็กดีของฉันนะชานยอล.. ”










    TBC.



     






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×