ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ซัมปากีตา...สีหม่น : The Gray Jasmine

    ลำดับตอนที่ #13 : 2 พรากเพื่อเจอ 6/6

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.7K
      1
      1 ก.พ. 65


    อาจารย์ตรีทิพย์ยิ้มละไมแล้วก้าวนำไปยังลิฟต์โดยสารโดยมีนิสิตสองคนเดินตาม คนที่ดีใจที่สุดเห็นจะเป็นพลอยพิมพ์ ส่วนมานิลาตอบตกลงอย่างเสียไม่ได้ ทั้งสามเดินออกจากลิฟต์โดยสารเมื่อถึงชั้นบนสุดซึ่งเป็นห้องอาหารที่รวบรวมอาหารนานาชาติจากเชฟฝีมือดีเอาไว้

    บริกรนำลูกค้ากลุ่มใหม่ขึ้นบันไดไปสู่ชั้นดาดฟ้า แล้วพาไปยังโต๊ะที่วิวดีที่สุด จากตรงนี้สามารถมองเห็นวิวเมืองของกรุงเทพมหานครได้ครบทั้งสามร้อยหกสิบองศา แสงสุดท้ายของวันกำลังจะหมดลง บรรยากาศควรค่าแก่การจดจำยิ่งนัก

    “ไม่ต้องเกรงใจนะ ห้องอาหารรวมทั้งโรงแรมนี้เป็นของครอบครัวคนที่อาจารย์รู้จัก”

    คำบอกไม่ได้ลดความเกรงใจของมานิลาลงได้เลย แม้แต่พลอยพิมพ์ก็เริ่มเกรงใจขึ้นมาบ้างแล้วเช่นกัน และแม้เจ้าของร่างท้วมนึกอยากจะหยิบโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกระเป๋าขึ้นมากดชัตเตอร์บันทึกภาพวิวสวย ๆ มากแค่ไหนก็ไม่สามารถทำได้เพราะพอมองลงไปข้างล่างแล้วเริ่มเกร็งไปหมด

    “เป็นอะไรหรือเปล่าคะพี่พลอย” มานิลากระซิบถามคนที่นั่งชิดระเบียงแก้วอย่างเป็นห่วง

    “พะ...พี่ เอ่อ เสียวไส้น่ะมะลิ”

    “คะ ?”

    พลอยพิมพ์หลับตาพะยักพเยิดไปยังด้านล่าง มานิลาเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นเพราะอะไร...กิตติศัพท์เรื่องกลัวความสูงของหญิงรุ่นพี่ไม่เป็นสองรองใคร

    “กลัวก็อย่าไปมองสิพลอย มานั่งข้างอาจารย์นี่มา”

    ราวกับกลัวท่านจะเปลี่ยนใจ พลอยพิมพ์รีบลุกจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่แล้วเดินขาสั่นมานั่งเก้าอี้ข้าง ๆ คนชวนทันที

    “แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อยค่ะอาจารย์” หญิงสาวเป่าลมออกจากปากดังฟู่

    ไม่นานบริกรก็นำเมนูอาหารมายื่นให้ อาจารย์ตรีทิพย์และพลอยพิมพ์ช่วยกันเลือกอาหาร ส่วนอีกคนทำเพียงรับมาถือไว้ นัยน์ตาเศร้ามองตัวอักษรสีทองบนเล่มเมนูอาหารสีน้ำเงินเข้มราวกับจะท่องชื่อนั้นให้จำจนขึ้นใจ

    ‘Blue Jasmine Restaurant by Akirah Sky Hotel’

    มือบางลูบทุกตัวอักษรด้วยความรู้สึกบางอย่างที่แล่นมาจุกอก มันเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถบอกใครบนโลกได้เลย

    “มะลิล่ะ จะกินอะไรดี” เจ้ามือถามคนที่เอาแต่นั่งเงียบ “มะลิ”

    “คะ...ค่ะ” หญิงสาวหลุดจากภวังค์ทันที

    “จะกินอะไรดี สั่งเลยนะ”

    “หนูกินเหมือนพี่พลอยก็ได้ค่ะอาจารย์”

    พลอยพิมพ์ได้ยินเช่นนั้นก็จัดการสั่งอาหารพร้อมเครื่องดื่มให้รุ่นน้องอย่างเต็มใจ

    “ชอบบรรยากาศที่นี่ไหมมะลิ” ระหว่างรออาหาร อาจารย์ตรีทิพย์ก็ถามมานิลาซึ่งเงียบผิดปกติ “เห็นอยู่แต่ในห้องแล็บ อาจารย์เลยอยากให้ออกมาเปิดหูเปิดตา มองเห็นอะไรในมุมกว้าง ๆ บ้าง”

    “ชอบค่ะ ขอบคุณมากนะคะอาจารย์” หญิงสาวยิ้มให้ แต่ก็เป็นยิ้มที่ดูพยายามปั้นขึ้นเพื่อไม่ให้คนมองผิดสังเกต ถ้าวันนี้ไม่มาสัมมนาวิชาการที่นี่ หากเลือกได้...ชั่วชีวิตเธอก็จะไม่ขอมาโรงแรมแห่งนี้

    “พลอยเคยเห็นแต่รีวิวในเน็ตค่ะ ไม่คิดเลยว่าเกิดมาจะได้มานั่งกินอาหารหรู ๆ บนนี้ด้วย รักอาจารย์ที่สุดเลยค่ะ” พลอยพิมพ์ป้อยอ แล้วมองวิวรอบ ๆ แต่เลือกที่จะมองไปไกล ๆ แทนที่จะมองลงต่ำเหมือนเมื่อครู่ ไม่เช่นนั้นคงได้ขาสั่นตัวสั่นอีกเป็นแน่ “วิวสวยดีนะมะลิ ดูสิ”

    มานิลามองตามนิ้วชี้ของหญิงรุ่นพี่ แม้ไม่เคยขึ้นมาบนนี้มาก่อน แต่เธอก็รู้ดีเชียวละว่าวิวจากตรงนี้สวยขนาดไหน น่าแปลกที่พอได้ขึ้นมาจริง ๆ กลับไม่มีความตื่นเต้นหรือยินดีเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่ ห้องอาหารบลูจัสมิน บนชั้นดาดฟ้าของ โรงแรมอคิราห์สกาย ติดหนึ่งในสิบห้องอาหารที่วิวสวยที่สุดในประเทศไทย

    แน่นอนว่าไม่ใช่อยากกินอาหารหรืออยากชมวิวก็ก้าวเท้าเข้ามาได้เลย แต่ทุกอย่างต้องเกิดจากการจองคิวล่วงหน้านานเป็นอาทิตย์หรืออาจจะเป็นเดือนหากตรงกับช่วงวันหยุดหรือเทศกาลพิเศษ และเธอก็รู้ด้วยว่าการได้มานั่งอยู่ที่นี่ในตอนนี้ อาจารย์ที่ปรึกษาเตรียมการมาอย่างดี ไม่ใช่แค่นึกหิวกะทันหันอย่างที่ท่านบอก

    “สวยดีค่ะพี่พลอย” มานิลาตอบอย่างเสียไม่ได้

    “ด้านล่างเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ลองมองดูสิพลอย” อาจารย์ตรีทิพย์เสนอ

    “พลอยขอบายค่ะอาจารย์ เดี๋ยวโรคกลัวความสูงกำเริบขึ้นมาอีกค่ะ แต่จะว่าไป ที่นี่เหมาะแก่การมาฉลองความสำเร็จให้มะลินะคะอาจารย์ ขนาดห้องอาหารยังชื่อว่าบลูจัสมินเลยค่ะ”

    “จริงด้วย อาจารย์ก็เพิ่งนึกได้”

    พลอยพิมพ์พูดแซวโดยมีเจ้ามือมื้ออาหารเป็นแนวร่วม แต่นั่นกลับทำให้มานิลาหน้าเผือดสี หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองหายใจได้ไม่ทั่วท้อง ก้อนอะไรต่อมิอะไรก็ไม่รู้แล่นขึ้นมาจนแน่นจุกอกไปหมด แม้เตรียมตัวมาดีตั้งแต่รู้ว่าโรงแรมนี้คือโรงแรมที่ต้องมาสัมมนาทางวิชาการ ทว่าพอได้ยินประโยคซึ่งเป็นดังตัวเร่งปฏิกิริยาจากรุ่นพี่แล้ว เธอก็ตระหนักได้ว่าที่เตรียมตัวเตรียมใจมามันช่างน้อยนิดเหลือเกินหากเทียบกับสิ่งที่ได้เจอ

    ขณะที่ทุกคนกำลังมองวิวเพลิน ๆ อาหารที่สั่งไว้ก็ทยอยมาเสิร์ฟ เมนูสุดท้ายถูกวางลงตรงหน้ามานิลา ไม่ใช่ด้วยมือของบริกรอย่างเช่นของอาจารย์ตรีทิพย์กับพลอยพิมพ์ แต่เป็นมือผู้หญิงคนหนึ่ง

    “นี่ของหนูใช่ไหมจ๊ะ”

    มานิลาเงยหน้าขึ้นมองตามเสียง และก็ต้องตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่เป็นใคร

    เปลือกตาบางกะพริบถี่ ๆ หวังไล่น้ำร้อน ๆ ที่มาคลอหน่วยให้ไหลกลับไปข้างใน แต่ดูเหมือนยากเหลือเกินเพราะดันมีก้อนแข็ง ๆ ที่เกิดจากความคิดของรุ่นพี่ก่อนหน้านี้ขวางทางเอาไว้


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×