ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTOB Fiction] The Dormitory หอพักนี้มีแต่คน(น่า)รัก

    ลำดับตอนที่ #42 : Special : Married

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 765
      3
      8 ก.พ. 56


     

    “ ซองเจ กระเป๋าใบนี้ผมเอาขึ้นรถเลยนะ” เสียงพีเนียลตะโกนดังมาจากห้องรับแขก นี่ก็เข้าฤดูร้อนแล้ว กิจการก็เข้าที่เข้าทางดี ผมกับพีเนียลจึงตกลงกันว่าจะไปเที่ยวพักร้อนด้วยกัน พีเนียลอยากไปทะเลเราจึงไปเกาะเชจู

    “ ไม่ลืมอะไรใช่มั๊ยครับ” ผมล็อกประตูห้องของเราใน Cube Place พีเนียลพยักหน้าหงึกๆพลางเดินไปเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับ เขาดูตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ไปเที่ยวพักร้อน ผมเองก็ไม่ต่างกันสักเท่าไร

    “ ว้าว...อากาศดีจัง ผมอยากอาบแดดซะแล้วสิ” พีเนียลพูดไป พลางขับรถไป ตาก็มองท้องฟ้าไปด้วย

     ผมเองก็ไม่ได้ไปทะเลนานแล้วเหมือนกันครับ” ผมป้อนแซนวิชที่ทำมาเข้าปากคนที่กำลังขับรถไปด้วย พีเนียลเคี้ยงหงับๆพลางหันมายิ้มให้ผม

    “ ทำไมเหรอครับ หน้าผมมีอะไรติดเหรอ” ผมคลำๆบริเวณใบหน้าตัวเอง เขาส่ายหน้าไปมา ตาก็มองถนนข้างหน้าแต่ปากนั้นยังไม่ยอมหุบยิ้ม ผมจึงเอามือไปจับแขนเขาอย่างคาดคั้น เขาจึงยอมเอ่ยปากพูด

    “ ทำแบบนี้แล้วเหมือนคู่แต่งงานใหม่ๆที่กำลังจะไปฮันนีมูนเลย” คำพูดของเขาทำเอาผมหน้าแดงทันที ก่อนจะหันหน้าหนีไปทำปากขมุบขมิบ

    “ ก็ไม่ต่างกันเท่าไรนี่นา เพียงแค่เราไม่ได้แต่งงานกันเท่านั้นเอง” คำพูดของอีกคนทำเอาคนขับรถนั่งยิ้ม

    Will you marry me?” คำพูดลอยๆนั้นทำเอาผมแข็งทื่อ เขาจับมือผมพลางเอานิ้วมาสอดประสานกัน

    “ พี่พูดอะไรน่ะ เราเป็นผู้ชายนะ จะแต่งงานกันได้ยังไง” ผมถามออกไปอย่างตกใจแต่พีเนียลกลับหันมามองผมอย่างจริงจัง

    “ แต่งได้ถ้าคนทั้งคู่อยากจะแต่ง ไม่จำเป็นต้องมีพยานมากมาย แค่พระผู้เป็นเจ้ารับรู้ก็เพียงพอแล้ว” เขากระชับมือผมแน่นขึ้น มันไม่ได้อบอุ่นเพียงแค่มือแต่มันอุ่นไปถึงหัวใจเลยทีเดียว

    ซ่าๆ....

    เสียงคลื่นกระทบฝั่งฟังแล้วรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเรามาถึงสนามบินพีเนียลก็เช่ารถมาขับไปยังที่พักทันที เขารอบคอบมากถึงขนาดจองห้องพักไว้แล้วเรียบร้อย ห้องพักของเราเป็นบังกะโลติดชายหาด แฟนผมนี่รู้ใจผมจริงๆ ผมรู้สึกโชคดีชะมัดที่ผมมีผู้ชายเพอร์เฟ็คแบบเขาอยู่เคียงข้าง พีเนียลเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดเตรียมตัวลงทะเลเต็มที่ ผมทำแค่เพียงยืนมองคลื่นกระทบฝั่งอยู่ริมระเบียง

    “ เป็นอะไรไปครับ ไม่พูดไม่จาตั้งแต่มาถึงแล้ว ผมนึกว่าซองเจจะตื่นเต้นโดดลงทะเลก่อนผมซะอีก” พีเนียลสวมกอดผมจากทางด้านหลังพลางถามเสียงนุ่ม

    “ ผมกำลังมองคลื่นอยู่น่ะครับ ความรักของคนเราก็คงเหมือนคลื่นสินะครับ มีทั้งลมสงบและลมมรสุม เอาแน่นอนอะไรไม่ได้” ผมเอาแก้มไปนาบกับแก้มของอีกฝ่ายพลางพูดไปด้วย พีเนียลจึงหอมแก้มผมฟอดนึง

    “ แต่ความรักของเรา เราจะช่วยกันป้องกันมรสุมที่จะผ่านเข้ามาด้วยกันนะครับ อย่าห่วงเลย ป่ะ...เราไปเดินเล่นกันเถอะ” พีเนียลคลายอ้อมกอดพลางจูงมือผมเดินไปด้านล่าง เท้าของของสัมผัสกับทรายแล้วรู้สึกดีจัง พีเนียลวิดน้ำทะเลใส่ผม แกล้งกันใช่มั๊ย นี่แน่ะ!! ผมก็วิดใส่เขาคืนบ้าง เราวิ่งเล่นกันราวกับเด็กๆ เราวิ่งไปเรื่อยๆจนสุดหาดผมจึงย่อตัวนั่งลงพลางหอบแฮกๆ

    “ พักหน่อยเถอะครับ ผมเหนื่อยแล้วอ่ะ” ผมนั่งคุกเข่าพีเนียลจึงหัวเราะพลางนั่งลงตามด้วย

    “ อีกนิดเดียวจะถึงแล้ว ทนหน่อยนะครับ” ผมมองหน้าเขาแบบงงๆ เขายื่นมือมาให้ผมพลางยิ้มอย่างอบอุ่น ผมจึงยื่นมือไปจับมือนั้นก่อนจะดันตัวลุกขึ้น

    “ มาเล่นเกมส์กันครับ ใครเป่ายิงฉุบแพ้ ต้องแบกอีกคนไปยังหอตรงนั้นนะ” ผมเสนอเกมส์ขึ้นมาพลางชี้ไปยังหลังคาอะไรสักอย่างที่เห็นอยู่ไม่ไกล หวังจะให้พีเนียลแบกผมไปเนื่องจากผมเมื่อยขาแล้วจริงๆ

    “ มา...เป่า...ยิง...ฉุบ” เหมือนเวลาหยุดนิ่งไปชั่วครู่

    โถ่......นี่ผมหาเรื่องให้ตัวเองใช่มั๊ยเนี่ย พีเนียลหัวเราะอย่างขำๆกับผลแพ้ชนะในครั้งนี้

    “ ผมยอมนะ ไม่ต้องแบกผมก็ได้” เขาพยายามกลั้นขำ ผมจึงบู้ปากอย่างขัดใจ

    “ ไม่ได้หรอกครับ กฎต้องเป็นกฎ ผมจะแบกพี่เอง มา...” ผมย่อตัวลง พีเนียลเก้ๆกังๆไม่ยอมขึ้นมาสักที ผมจึงดึงมือเขาให้มาขึ้นหลังผมก่อนจะแบกเขาเดินไปจริงๆ

    “ เหนื่อยรึเปล่า วางผมลงก็ได้นะ” พีเนียลกระซิบข้างหูพลางใช้มือปาดเหงื่อออกให้

    “ ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นสักหน่อย ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้นครับ” ผมกล่าวอย่างมั่นใจ

    “ แมนจังเลยนะ เอาเถอะครับ ผมจะยอมให้ครั้งนึงก็ได้ แต่ครั้งหน้าต้องให้ผมแบกนะ” พีเนียลซุกหน้าลงกับซอกคอผม

    “ เอาล่ะๆ ถึงแล้ว” ผมวางพีเนียลลง อาคารเบื้องหน้าคือโบสถ์ มันไม่ใช่ประภาคารอย่างที่ผมคิด ว้าว...สวยจังเลย ผมไม่ยักรู้ว่าจะมีโบสถ์อยู่แถวนี้ด้วย มองครั้งแรกนึกว่าประภาคาร เป็นโบสถ์เล็กๆทรงสูงสีขาวทั้งหลังแลดูสะอาดตา พีเนียลยิ้มให้ผมพลางจูงมือเดินเข้าไป ก่อนจะปล่อยมือผมแล้วตัวเองก็เดินไปยังแท่นพิธี เอ...มันชักจะยังไงๆแล้วแฮะ แลดูคุ้นๆชอบกล

    “ เดินเข้ามาสิครับ” เขาพูดเบาๆผมจึงค่อยๆเดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ ทำไมผมต้องตื่นเต้นด้วยล่ะ เมื่อเราทั้งคู่ยืนอยู่หน้าแท่นพิธี อยู่ดีๆพีเนียลก็กระแอมออกมา

    “ อะแฮ่ม...คุณชินดงกึน คุณจะรับคุณ ยุกซองเจ เป็นภรรยา ไม่ว่าจะในยามทุกข์ ยามสุข บลาๆๆ หรือไม่” ผมมองเขาพูดด้วยหัวใจที่เต้นรัว นี่เขาเอาจริงเหรอเนี่ย

    “ รับครับ” หลังจากที่ร่ายยาวเขาก็ตอบอย่างไม่ลังเลก่อนจะหันมาทางผม แล้วพูดประโยคเดิมซ้ำอีกรอบเพียงแค่เปลี่ยนชื่อเขาเป็นชื่อผมก่อนเท่านั้นเอง เมื่อพูดจบเขาก็หันมามองหน้าผมด้วยสายตาอบอุ่น จริงๆแล้วประโยคนี้ไม่ต้องถามก็รู้คำตอบอยู่แล้ว ผมสูดลมหายใจลึกก่อนจะเอ่ยออกไป

    “ รับครับ” เขายิ้มอย่างดีใจพลางรวบตัวผมไปกอด จากนั้นเขาจึงผละออกมาก่อนจะย่อตัวลงคุกเข่าข้างนึง เขาล้วงอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง มันเป็นกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินขนาดพอดีมือ เขาจับมือข้างซ้ายของผมไว้พลางสวมวัตถุที่ทำจากทองคำขาว ลงบนนิ้วนางของผมก่อนจะค่อยๆจรดจูบลงบนสิ่งนั้น ผมมองการกระทำเบื้องหน้าด้วยใจสั่นๆก่อนที่น้ำตาเม็ดเล็กๆจะร่วงลงมา ผมไม่คิดว่าเขาจะพูดจริงๆเขาได้ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้แล้ว

    “ ผมรักซองเจนะครับ” เขาค่อยๆยืนขึ้นพลางเช็ดน้ำตาให้ผม ผมจึงยื่นมือไปหยิบของในกล่องนั้นแล้วสวมให้กับเขาบ้าง จากนั้นพีเนียลก็ดึงผมไปจูบอย่างนุ่มนวลท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดงที่กำลังจะลับขอบฟ้าซึ่งส่องผ่านกระจกโบสถ์เข้ามา

     

    “ พี่คิดเรื่องนี้มานานเท่าไรแล้วครับ” เราเดินจับมือกันเลาะชายหาดเพื่อกลับที่พักเนื่องจากมันใกล้จะมืดแล้ว

    “ ผมเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เราอยู่ที่นิวยอร์คแล้วล่ะครับ แต่แค่รอเวลาเท่านั้นเอง ผมอยากให้เราเรียนจบและโตเป็นผู้ใหญ่พอที่จะรับเรื่องราวต่างๆได้ด้วยกันทั้งคู่ จึงตัดสินใจนำออกมาใช้” พีเนียลกระชับมือข้างซ้ายที่ตอนนี้นิ้วนางของผมมันไม่ว่างอีกต่อไป ลมทะเลเริ่มแรงแล้วเขาจึงโอบผมเข้าหาตัว

    “ ผมว่าลมแรงแล้ว เราเข้าบ้านกันเถอะ เดี๋ยวจะไม่สบาย” พีเนียลพูดพลางดึงผมไปยังตัวบ้าน แต่เขากับยืนอยู่แค่หน้าประตู ผมเลิกคิ้วเป็นคำถาม ไม่ต้องสงสัยนานพีเนียลช้อนร่างผมขึ้นอุ้มซะงั้น ด้วยความตกใจผมจึงกอดคอเขาแน่น

    “ ทำอะไรน่ะครับ ตกใจหมดเลย” ผมถามอย่างตกใจ อยู่ดีๆมาอุ้มผมทำไม ผมไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนสักหน่อย

    “ มันเป็นธรรมเนียมครับ ที่เจ้าบ่าวจะอุ้มเจ้าสาวเข้าเรือนหอ ถึงตอนนี้จะไม่ใช่หอของเราแต่ในอนาคต ผมจะทำให้มันเป็นของเราแน่นอน” พูดจบเขาก็อุ้มผมข้ามผ่านธรณีประตูไป แฟนผมนี่หัวโบราณชะมัด ด้วยความเขินอายผมจึงไม่อาจพูดอะไรได้นอกจากซุกหน้าลงกับอกแกร่งนั้น เขาอุ้มผมไปทางห้องนอน นั่นยิ่งทำให้ผมใจเต้นรัวมากขึ้น เขาค่อยๆวางผมลงบนเตียงนุ่มก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผม ตอนนี้ผมใจสั่นไปหมดแล้วอ่ะ  ถึงเราจะคบกันมานานแต่เขาก็ทนุถนอมผมเกินกว่าจะทำเรื่องอย่างว่าได้

    “ ผมว่าวันนี้ซองเจเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไปอาบน้ำก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะไปสั่งอาหารมาให้” คำพูดเขาทำผมเอ๋อไปเลย นี่ผมคิดลึกไปเองคนเดียวสินะ พีเนียลหัวเราะออกมาน้อยๆเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังที่พยายามปิดก็ปิดไม่มิดของผม

    “ หัวเราอะไรล่ะครับ” ผมยิ่งแต่หน้าแดงเข้าไปใหญ่ ได้แต่หลบตาไปด้านข้าง เขาค่อยๆช้อนคางผมขึ้นก่อนจะส่งยิ้มอบอุ่นมาให้

    “ ทำไมครับ หวังว่าผมจะทำอะไรงั้นเหรอ เรื่องนั้นผมรอได้ครับ ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าซองเจยังไม่พร้อม ผมไม่บังคับแน่นอน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงล้อๆยิ่งได้ยินหน้าก็ยิ่งร้อนเข้าไปใหญ่ ผมสะบัดหน้าออกทันทีก่อนจะเด้งตัวลุกออกจากเตียง

    “ คนบ้า ผมไม่ได้หวังอะไรสักหน่อย ผมจะไปอาบน้ำแล้ว เชิญพี่ไปสั่งอาหารเถอะครับ” ผมกำลังจะเดินไปทางห้องน้ำแต่กลับถูกอีกคนดึงเอวให้ลงมานั่งบนตักซะก่อน

    “ ซองเจครับ ผมรักซองเจนะ แต่ที่ผมไม่วู่วามเพราะผมรอให้ถึงเวลาสมควร สำหรับผมน่ะ ซองเจเป็นสิ่งที่มีค่ามากๆนะ ผมจึงอยากจะถนอมไว้ให้นานที่สุด อย่าเสียใจไปเลยนะครับ” เขาพูดพลางใช้มือเกลี่ยแก้มผมอย่างปลอบโยน ผมหันไปมองสายตาอบอุ่นนั้น ผมรู้สึกขอบคุณในความรักของเขามากที่เห็นผมเป็นสิ่งที่มีค่าขนาดนั้น ผมก้มลงจูบอย่างเชื่องช้าก่อนจะค่อยๆผละออกมา

    “ ผมก็รักพี่ครับ ขอบคุณนะครับที่ถนอมผมเป็นอย่างดี ผมจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังในตัวผมแน่นอน” พูดจบผมก็ค่อยๆลุกออกจากตักนั้นก่อนจะเข้าห้องน้ำไป โดยหารู้ไม่ว่ารสจูบและสายตายั่วยวนอันไร้เดียงสาของร่างบางนั้นได้สร้างแรงปรารถนาบางอย่างในตัวของอีกคนซะแล้ว

     

     
     

    __________________________________________________________________________________________________
     ในที่สุดคู่เพนเจก็ออกสักที ไรต์นั่งคิดจนหัวหมุนว่าจะเริ่มยังไงดี แต่ได้เท่านี้ก็โอเคแล้วสินะ ส่วนเอ็นซีนี้คงไม่นานเกินรอ ยังไงก็ฝากไว้ด้วยแล้วกันนะคะ เพราะมันยากเหลือเกินที่จะเขียนทีเดียวพร้อมกันสี่คู่เลย ต้องใช้หัวคิดนิดนึง อดใจรอกันหน่อยน๊าาา

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×