ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTOB Fiction] The Dormitory หอพักนี้มีแต่คน(น่า)รัก

    ลำดับตอนที่ #41 : Special : รวมพล ( Ft.MYMANE )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 905
      6
      6 ก.พ. 56




     

    @ ILUNY Studio

    “ ช่างเมคอัพ เรียบร้อยรึยังคะ ทางนี้เรียบร้อยแล้วนะ” เสียงของหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับอิลฮุลตะโกนถามเพื่อนที่เป็นเมคอัพอาร์ตทิส ซึ่งเจ้าหล่อนทำเพียงชูมือโอเคตอบกลับมา

    “ อิลฮุล เสื้อผ้าเรียบร้อยมั๊ย” หลังจากได้คำตอบที่น่าพอใจแล้วจึงหันไปยังอิลฮุลซึ่งจัดเตรียมเสื้อผ้าอยู่

    “ เรียบร้อยแล้ว มาเอาได้เลย” ผมตะโกนตอบกลับไป สายวัดยังพาดอยู่ที่คอ ข้อมือเต็มไปด้วยหมอนปักเข็ม ที่สำคัญเอวก็คาดกระเป๋าอุปกรณ์ตัดเย็บที่พี่ฮยอนชิคซื้อให้ไว้ด้วย วันนี้ก็เป็นวันที่ยุ่งอีกวันหนึ่ง ความจริงที่ร้านเรายุ่งแบบนี้ทุกวันอยู่แล้ว แต่ว่าวันนี้ยุ่งเป็นพิเศษเพราะว่าคอลเลคชั่นใหม่เพิ่งเสร็จ และนางแบบที่ผมต้องการก็ว่างพอดี บวกกับต้องการโปรโมทสาขาที่ปูซานด้วยเราก็เลยทำงานกันแบบหามรุ่งหามค่ำเลยทีเดียว

      เพื่อนๆที่ทำงานร่วมกันในสตูดิโอแห่งนี้ต่างเป็นเพื่อนร่วมสาขาผมทั้งสิ้น ทุกคนชื่นชอบการทำงานแบบนี้พวกเราจึงร่วมหุ้นกันสร้างแบรนด์นี้ขึ้นโดยมีผมเป็นดีไซเนอร์ เสื้อผ้าของเราไม่ได้มีไว้ขายเท่านั้น แต่เรายังเป็นสปอนเซอร์ให้กับนิตยสารต่างๆในการถ่ายแบบด้วย บางครั้งก็จะยกกองมาถ่ายที่ร้าน พวกเราจึงต้องขยายสตูดิโอให้ใหญ่ขึ้นและเพิ่มสาขาเพื่ออำนวยความสะดวกในแต่ละพื้นที่ เพื่อนผมที่เป็นช่างภาพมือหนึ่งของสาขา ก็ถูกดึงเข้าสังกัดใหญ่ๆไปแล้ว ถึงเขาจะได้ถ่ายภาพซุปเปอร์โมเดลชื่อดังมาทั่วโลก แต่เขาก็ไม่เคยลืมร้านเล็กๆของเพื่อนคนนี้เลย แถมยังช่วยโฆษณาให้อีกแน่ะ เพื่อนผมนี่นารักจริงๆ ^^

     

    ครืดๆ

    โทรศัพท์เครื่องหรูกำลังสั่นอย่างบ้าคลั่งรอให้เจ้าของมารับมันอยู่ ปกติเวลาทำงานผมมักจะเปิดระบบสั่นเอาไว้ ทำให้บางครั้งผมเองก็พลาดสายพี่ฮยอนชิคเหมือนกัน แต่ครั้งนี้ผมไม่พลาดแน่ ผมวางกรรไกรลงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่ยังสั่นอยู่อย่างนั้นขึ้นดูเบอร์

    “ สวัสดีครับ ผม จองอิลฮุลพูดครับ” ผมรับสายอย่างสุภาพเมื่อพบว่าเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย

    [ สวัสดีครับ พี่อิลฮุล ผมเองนะ รุ่นน้องในชั้นปีไง ] เสียงปลายสายตอบกลับมาอย่างร่าเริง เมื่อรู้สึกว่าไม่ได้คุยกับรุ่นพี่คนเก่งคนนี้นานแล้ว

    “ อ้อ...นายน่ะเอง แชจินซอก เป็นไงบ้าง สบายดีมั๊ย” ใช่แล้วล่ะ ช่างภาพของผมก็คือแชจินนั่นเอง เพื่อนร่วมชั้นปีที่เป็นรุ่นน้อง แถมยังเป็นช่างภาพที่อายุน้อยที่สุดด้วย

    [ ผมสบายดีครับ ตอนนี้ผมอยู่ปารีสกำลังถ่ายแบบให้กับนิตยสาร Cool อยู่ แต่อาทิตย์หน้าผมจะกลับเกาหลีแล้ว ] เสียงแชจินแลดูตื่นเต้นเมื่อจะได้กลับบ้าน

    “ อ้อ ...ยินดีด้วยนะที่ได้ร่วมงานกับนิตยสารชื่อดังขนาดนั้น ว่าแต่โทรมามีอะไรให้ฉันช่วยรึเปล่า บอกมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ” ผมกรอกเสียงอย่างยินดีกับเขา

    [ คือว่ารุ่นพี่ผมที่เขาเคยถ่ายคอลเลคชั่นยุค 90 ของพี่ เขานำงานชิ้นนี้ไปเสนอแล้วเจ้านายผมเขาชอบ ก็เลยอยากได้นายแบบชุดนั้น ไม่ทราบว่าพอจะติดต่อเขาได้มั๊ยครับ ]

    “ อ่อ เขาเป็นรุ่นพี่ในหอพักที่ฉันเคยอาศัยอยู่ด้วยตอนสมัยเรียนเองล่ะ แต่ตอนนี้ที่นั่นเปิดเป็นโรงเรียนไปแล้ว เดี๋ยวฉันจะลองคุยให้นะ แล้วจะติดต่อกลับไปนะ” อิลฮุลตอบกลับไปพลางนึกไปถึงทุกๆคนใน Cube Place ซึ่งเขาไม่ได้กลับไปนานแล้ว

    [ ขอบคุณมากครับพี่อิลฮุล รับรองผมจะถ่ายเสื้อผ้าของพี่ออกมาให้ดูดีที่สุดเลย ] ปลายสายตอบกลับอย่างดีใจก่อนจะวางสายไป สงสัยเย็นนี้ผมคงต้องไปที่ Cube Ent. แล้วล่ะมั้ง

     

    @ Cube Ent.

    “ อึนกวัง นักเรียนกลับไปหมดแล้ว ฉันปิดบ้านเลยนะ”  เสียงมินฮยอกตะโกนบอกคนรักที่อยู่ในครัวพลางเดินไปยังประตูรั้ว รถยนต์คันเล็กๆแลดูคุ้นตาแล่นเข้ามาจอดใกล้ประตูรั้วบ้าน มินฮยอกจึงหยีตาเพื่อสู้แสงไฟ ก่อนคนขับจะเดินลงมา

    “ หวัดดีครับ พี่มินฮยอก จะปิดบ้านแล้วเหรอ” เสียงอิลฮุลถามอย่างน่ารัก นานแล้วที่เขาไม่ได้เห็นพี่ชายคนนี้ ดูสวยขึ้นผิดหูผิดตาเลยทีเดียว

    “ อ๊ะ...อิลฮุลลี่ มาได้ไงเนี่ย พี่คิดถึงนายจัง” มินฮยอกเดินไปกอดร่างเล็กอย่างดีใจ

    “ มารับฮยอนชิคเหรอ เขายังอยู่ในห้องอัดอยู่เลย เคลียงานนิดหน่อยน่ะ” มินฮยอกจูงมือน้องชายเข้าบ้านพลางชวนคุยไปด้วย

    “ อึนกวัง ดูสิใครมา” มินฮยอกพาอิลฮุลไปทักพ่อครัวประจำบ้าน เมื่อหันมาเจอก็กระโดดเข้ากอดทันที

    “ ฉันคิดถึงนายจัง งานยุ่งมากสินะ ไม่ค่อยโผล่หน้ามาเลย ทุกวันนี้เจอแต่ฮยอนชิค เบื่อจะแย่อยู่แล้ว” อึนกวังพาดพิงไปถึงอีกคน

    “ พี่นินทาอะไรผมน่ะครับ” ฮยอนชิคยิ้มตาหยียืนพิงกรอบประตูห้องครัว อึนกวังจึงหันไปยักไหล่ให้ก่อนจะหันกลับไปคนซุปหน้าเตาต่อ ผมจึงเดินไปหาคนรักบ้าง

    “ งานเรียบร้อยดีมั๊ยครับ เหนื่อยรึเปล่า” ผมถามอย่างเป็นห่วง พี่ฮยอนชิคได้แต่ส่ายหน้าไปมา

    “ เดี๋ยวเราทานมื้อเย็นที่นี่นะ ชางซอบกับซองเจกำลังมา” พี่ฮยอนชิคโอบเอวผมพาเดินออกจากห้องครัว วันนี้เป็นวันอะไรเนี่ย พอผมนึกอยากจะคุยกับทุกคน ทุกคนก็จะมารวมตัวกันซะงั้น โชคดีจริงๆเลยเรา

    “ กลับมาแล้วครับ” เสียงง่วงๆอันเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้น ทุกคนจึงไปต้อนรับยังหน้าประตู พี่ชางซอบเดินนำเข้ามาตามหลังมาด้วยพี่โนจีฮุน

    “ กลับมาแล้วครับ” เสียงของร่างสูงอีกคนพูดไล่หลังมา โห...เขาดูโตกว่าเดิมอีกแฮะ ทำเอาพีเนียลตัวเล็กไปเลย แต่ผมรู้สึกว่าคนที่ดูจะมีความสุขที่สุดเห็นจะเป็นพี่ใหญ่ของบ้านนี่แหละ เขายิ้มไม่หุบเลยทีเดียว นึกถึงวันที่เราได้อยู่ร่วมกันอีกครั้งมันช่างอบอุ่นจริงๆ  ฝีมือในการทำอาหารของพี่อึนกวังไม่มีตก หลังจากมื้อเย็นผ่านไปเราจึงมานั่งดื่มร่วมกันที่ห้องนั่งเล่น ดูเหมือนพี่ชางซอบก็ยังชื่นชอบการดื่มไม่เปลี่ยน ส่วนซองเจก็ยังระมัดระวังตัวจากเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เสมอ

    “ ดีจังที่ทุกคนมารวมตัวกัน ผมมีเรื่องจะรบกวนน่ะครับ” ผมวางแก้วไวน์ลงพลางเริ่มกล่าวอย่างเป็นการเป็นงาน

    “ ว่ามาสิ มีอะไรให้พวกเราช่วยงั้นเหรอ” พี่อึนกวังถามขึ้นบ้าง

    “ ทุกคนคงจะจำแชจินได้นะครับ ช่างภาพประจำสาขาผม คือเขาจะกลับเกาหลีอาทิตย์หน้า แล้วทีมงานนิตยสาร Cool เขาเจอรูปที่พวกเราเคยถ่ายไว้ตอนทำโปรเจ็ค เขาอยากให้พวกเราไปเป็นนายแบบน่ะครับ” ผมอธิบายรัวเร็ว

    “ นิตยสาร Cool ดังมากเลยนะ” คำพูดการันตีจากนายแบบมืออาชีพทำเอาผมมั่นใจมากยิ่งขึ้น

    “ ครับ แล้วก็เป็นโอกาสดีด้วย ที่จะได้โปรโมทแบรนด์ของผม”

    “ ห๊ะ!!! ฉันจะได้ใส่เสื้อผ้านายด้วยเหรอ ดีจังๆ” พี่อึนกวังยิ่งแต่กระตือรือร้นขึ้นไปอีก

    “ ครับ ทางเราเป็นสปอร์นเซอร์ให้น่ะครับ”

    “ งั้น เดี๋ยวผมเคลียตารางงานให้นะครับ” จีฮุนเสนอเป็นคนแรก เพราะส่วนตัวเขาเองก็ชอบงานดีไซน์ของอิลฮุลอยู่แล้ว

    “ ผมกับพีเนียลก็ว่างครับ จะถ่ายเมื่อไรบอกได้เลยนะ” ร่างสูงยิ้มแฉ่ง ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไรรอยยิ้มนี้ก็ยังคงน่ารักไม่เปลี่ยน พี่ๆทั้งสองจึงพยักหน้าเอาด้วย เหลือก็แต่พี่ชางซอบแล้วล่ะ ดูท่าจะคุยไม่รู้เรื่องซะแล้ว เมื่อเจ้าตัวคอพับคออ่อนซะขนาดนี้ พี่จีฮุนจึงยิ้มตอบก่อนจะแบกพี่ชางซอบออกไป เราจึงจบการสนทนาเพียงเท่านี้   

     
     

    50%

    เดี๋ยวจะมาอัพต่อนะคะ อดใจรอแปป พอดีไรต์ไม่ค่อยว่างน่ะค่ะ ต้องขอประทานโทษด้วย

    มาต่อแล้วจร้าาาา


    หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป

    @ ILUNY Studio

    “ สวัสดีครับ พี่อิลฮุล วันนี้คงต้องรบกวนพี่หน่อยนะครับ” แชจินโค้งทักทายผมพลางทักเสียงใส วันนี้เขามาพร้อมกับทีมงานมืออาชีพหลายคนทำเอาผมขนลุกเลยทีเดียว

    “ พวกเขากำลังเดินทางมาน่ะ ใกล้ถึงแล้วล่ะ นายไปพักในที่รับรองก่อนนะ” ผมเชิญทีมงานไปนั่งในส่วนที่จัดไว้ให้ อ๊ะ...นั้นไง รถของที่บ้านใหญ่มาจอดแล้ว พี่อึนกวังเดินลงมาจากที่นั่งคนขับตามมาด้วยพี่มินฮยอก พีเนียลกับซองเจก็เปิดประตูหลังตามออกมา

    “ จีฮุนกับชางซอบกำลังมา จีฮุนติดงานอยู่น่ะ อาจจะสายนิดนึง” พี่อึนกวังอธิบายกับผมพลางหันไปทักทายแชจิน

    “ ไง จินนี่ เดี๋ยวนี้เป็นช่างภาพที่ดังใหญ่แล้วนะ เจ๋งจริงๆ” ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีๆแต่นิสัยความเป็นกันเองของเขาไม่เคยเปลี่ยน มินฮยอกจึงได้แต่ส่ายหน้าด้วยความระอา

    “ วันนี้ผมคงต้องรบกวนพี่ๆด้วยนะครับ” แชจินลุกขึ้นพลางโค้งทักทายอย่างสุภาพ

    “ มาแล้วครับ” เสียงที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครดังขึ้น ตามหลังมาด้วยนายแบบสุดหล่อซึ่งถือกล่องโลโก้ร้านตัวเองมาด้วย

    “ ว้าว...พี่จีฮุนก็มาด้วยเหรอครับ ขอโทษด้วยนะครับ คงรบกวนตารางงานพี่แย่” แชจินเมื่อเห็นนายแบบที่เคยร่วมงานด้วยก็ยิ้มอย่างดีใจ จีฮุนจึงได้แต่ส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมงาน

    “ ผมรู้แล้วล่ะ เราจะถ่ายคอนเซ็ปอะไรดี ในเมื่อเรามารวมตัวกันแบบนี้ มันทำให้ผมนึกถึงเทศกาลชูซอกล่ะ” เมื่อแชจินพูดจบ ทีมงานเขาก็เริ่มงานทันที  ชางซอบเปลี่ยนเป็นอีกคนไปโดยปริยาย ผมเองก็ชักจะมีไฟซะแล้วแฮะ เสื้อผ้าที่ผมออกแบบไม่ได้มีแต่เสื้อผ้าร่วมสมัยเท่านั้น แต่รวมถึงชุดประจำชาติของเราด้วย ผมใช้ผ้าสีสดใสมาตัดเย็บอย่างประณีตเมื่อสวมลงบนร่างของแต่ละคน มันทำให้ผมคิดไม่ผิดเลยที่ดีไซน์ชุดพวกนี้ด้วย ทุกคนดูตื่นเต้นมากเมื่อเห็นทีมงานช่างภาพมืออาชีพรวมทั้งผมด้วยทั้งๆที่ทำงานร่วมกับคนพวกนี้บ่อยๆ แต่ผมเองก็ยังอดตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้

    “ เอาล่ะครับ ทุกคนยิ้มหน่อย เอาแบบสนุกสนานไปเลย” เสียงแชจินตะโกนกลับมาซึ่งต่างกับร่างเล็กๆของเขา เขาดูโตขึ้นมาก เขาสามารถดูแลตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องมีพี่เซยงอยู่ด้วยตลอดเวลา ผมล่ะนับถือในตัวรุ่นน้องคนนี้จริงๆ

    “ อาวล่ะ ทั้งเจ็ดคนไปพักก่อนนะครับ ตอนนี้เชิญพี่จีฮุนเข้ามาเลยครับ ขอโทษที่ต้องถ่ายแยกนะครับ” เสียงตากล้องกล่าวกับทุกคนก่อนจะเชิญนายแบบมืออาชีพเข้ามาในฉาก ถึงผมจะชินที่เห็นพี่จีฮุนสวมเสื้อผ้าแบรนด์ผมบ่อยๆแต่ชุดฮันบกนี่ ผมเพิ่งเคยเห็นพี่เขาใส่กับตาก็ตอนนี้ล่ะ ทุกคนดูตื่นเต้นกับการทำงานของคนที่ปกติก็มีเสน่ห์อยู่แล้วยิ่งเวลาอยู่หน้ากล้อง เขาจะเปลี่ยนเป็นอีกคนเลยล่ะ ผิดก็แค่คนรักเขานี่แหละครับ ที่ตอนนี้แอบหลับไปแล้วเรียบร้อย สงสัยคงเห็นพี่จีฮุนถ่ายแบบจนชินแล้วมั้ง น่าอิจฉาจริงๆเลย

    “ ขอบคุณครับ เหนื่อยหน่อยนะครับ” ทีมงานโค้งลาพวกเรา พวกเราจึงโค้งตอบบ้าง

    “ เดี๋ยวผมต้องไปจัดการงานต่อ ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้อยู่ฉลองด้วย นิตยสารจะตีพิมพ์อาทิตย์หน้า แล้วผมจะเอามาให้พี่ดูเป็นคนแรกเลย” แชจินเดินมาคุยกับผมเป็นการส่วนตัว ผมจึงให้เขาน้อยๆเพราะวันนี้พวกเราสนุกมากจริงๆ ผมไม่ได้ทำงานร่วมกับทุกคนมานานแล้ว ความทรงจำต่างๆจึงหลั่งไหลเข้ามา

    “ ฉันก็ต้องขอบคุณนายนะ ที่มาทำให้ครอบครัวเรามีโอกาสได้ใช้เวลาร่วมกันอีกครั้ง ฝากหวัดดีพี่เซยงด้วยล่ะ บอกว่าพวกเราคิดถึง” ผมตบไหล่น้องเบาๆ เจ้าตัวก็ยิ้มรับอย่างยินดี

    “ อาวล่ะ...เรามาฉลองกันเถอะ” เมื่อทีมงานออกไปแล้ว คนที่ไม่รู้ว่าตื่นตอนไหนกลับโพล่งออกมา ทำเอาพวกเราหันไปมองเป็นตาเดียวกัน

    “ ฉลองได้นะครับ แต่โควต้าคุณผมให้แค่สองแก้วเท่านั้นนะ พรุ่งนี้คุณมีสอนเด็กๆ เดี๋ยวจะตื่นไปทำงานไม่ไหว” พี่จีฮุนดักคอพี่ชางซอบทันที พี่ชางซอบบู้ปากอย่างขัดใจ ทุกคนจึงหัวเราะในความน่ารักของทั้งคู่

    “ วันนี้อิลฮุลเหนื่อยมากแล้ว อย่าดื่มแอลกอฮอล์เลยนะ” พี่ฮยอนชิคเดินถือธัญญาหารร้อนๆมาให้ผมพร้อมกับยิ้มอบอุ่นมาให้

    “ ขอบคุณครับ พี่เองก็ดื่มด้วยกันสิ” ผมดื่มอึกนึงพลางยื่นให้อีกคนดื่มด้วย

    “ จีฮุน ขนมปังอันนี้อร่อยมากเลยนะ เนื้อนุ๊มนุ่ม” พี่อึนกวังเมื่อกัดขนมปังเข้าไปก็ชมไม่ขาดปาก จีฮุนจึงได้แต่ยิ้มเขินๆ

    “ ก็ต้องอร่อยสิครับ เพราะว่าเขาลงมือทำเองเลยนะ แล้วอีกอย่างผมยังโดนหลอกให้กินฟักทองอีกต่างหาก” ชางซอบฟ้องพี่ใหญ่ทันทีที่มีโอกาส อึนกวังสบตากับจีฮุนก่อนจะหัวเราะออกมา

    “ ดีมากน้องชาย ในที่สุดนายก็ทำในสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ทำไม่ได้สำเร็จ” เขาตบไหล่จีฮุนป้าบๆ

    “ โธ่.... พี่อ่ะ ไม่ช่วยผมเลย พี่มินฮยอก พี่อึนกวังแกล้งผม” เมื่อไม่มีพรรคพวกแล้ว จึงหันไปหาผู้มีอำนาจสำหรับอึนกวังอีกหนึ่งคน

    “ โอ๋....ไม่เป็นไรนะ บางทีพี่ก็โดนอึนกวังหลอกให้กินนั่นกินนี่เหมือนกัน เรามีชะตากรรมเดียวกันเนอะ” คำพูดของพี่มินฮยอกไม่ได้ช่วยอะไรเลยจริงๆ ผมมองภาพเหล่านี้อยู่มุมห้อง ข้างๆผมมีพีเนียลกับซองเจนั่งดื่มกาแฟด้วยกันอยู่ คู่นี้ก็ดูรักกันมากจริงๆ เฮ้อออออ แล้วเมื่อไรพวกเราจะมีโอกาสกลับมาอยู่ด้วยกันอีกนะ เมื่อคิดถึงเวลาที่ต้องจากกันมันก็ชักจะเศร้าซะแล้วสิ พี่ฮยอนชิคโอบไหล่ผมพลางยิ้มปลอบ

    “ วันนี้อิลฮุลเยี่ยมมากเลยนะ เสื้อผ้าก็สวยมากๆเลย พี่ภูมิใจในตัวอิลฮุลนะครับ” เขาลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน

    “ หวังว่าพวกเราจะได้ร่วมงานกับนายอีกนะ ฉันชอบเสื้อผ้าของนายจริงๆ” พี่อึนกวังกับพี่มินฮยอกเข้ามาสวมกอดผมก่อนจะเดินไปยังรถที่จอดอยู่ ซองเจก็เดินเข้ามากอดผมบ้าง

    “ ผมอุดหนุนเสื้อผ้าพี่บ่อยๆอยู่แล้ว ขอให้พี่มีงานดีๆออกมาเยอะๆนะครับ” เขาพูดจบก็ผละออกไป

    “ ถ้าคิดงานไม่ออกก็มานั่งเล่นที่ร้านของฉันนะ ยินดีต้อนรับเสมอ ฉันเลี้ยงนายเอง กินฟรีได้ตลอด” ชางซอบพูดพลางตบอกตัวเองอย่างป๋า จีฮุนจึงได้แต่ยิ้มและส่ายศรีษะไปมา

    “ เดินทางกลับดีๆกันนะครับ แล้วผมจะแวะไปเยี่ยมบ่อยๆ” ผมโบกมือลาพลางกลั้นน้ำตาเอาไว้ พี่ฮยอนชิคดูเหมือนจะรู้ใจจึงมายืนลูบหลังผมเบาๆ




                








    Chaejin MYNAME [Black hair] & Seyong MYNAME [ Red hair ]


    ตอนนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรใช่มั๊ยคะ แต่ถ้าคุณลองนึกย้อนไปถึงสมัยเวลาที่คุณอยู่กับใครนานๆแล้วคุณต้องแยกจากกัน จากนั้นก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง คุณจะมีความรู้สึกยังไงนะ?

    ที่ไรต์เขียนให้ทุกคนมารวมกันเพราะไรต์นึกถึงเวลาที่หนุ่มๆอยู่ด้วยกันน่ะค่ะ มันเป็นโมเม้นที่มีความสุขมากจริงๆ
    ยังไงก็ฝากผลงานชิ้นนี้ด้วยนะคะ ตราบใดที่ยังไม่กดปิดเรื่อง ไรต์ก็จะเขียนต่อไปค่ะ









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×