คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #34 : 33rd Floor : Dec. 24th
Jihoon Part
วันนี้เป็นวันคริสต์มาสอีฟ แต่ผมดันทำงานตั้งแต่เมื่อคืนเรื่อยมาจนถึงเช้าวันนี้ ผมจึงต้องรีบออกจากสตูดิโอเพื่อกลับบ้าน ผมเดินทางโดยใช้รถไฟเนื่องจากรถของผมให้ชางซอบขับไปทำงานเมื่อคืน ตอนนี้ผมได้เป็นนายแบบเต็มตัวแล้วเวลาจะไปไหนจึงต้องระวังเป็นพิเศษ ผมสวมหมวกปิดหน้าพร้อมกับพันผ้าพันคอจนถึงปาก ก่อจะพาตัวเองฝ่าลมหนาวไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน ขณะที่ผมเดินผ่านร้านกาแฟหน้าสถานีร้านหนึ่งสายตาเหลือบไปเห็นร่างคุ้นตานั่งอยู่ที่เคาเตอร์บาร์ภายในร้าน สายตาง่วงๆของเขาช่างไม่เข้ากับร้านกาแฟเลยจริงๆ กาแฟมันทำให้คนดื่มกระปรี้กระเปร่าแต่ดูเหมือนจะไร้ผลกับคนนี้ซะแล้ว ผมจึงเดินเข้าไปในร้านกะจะแกล้งเขาสักหน่อย ผมเดินไปนั่งข้างๆโดยที่เขาไม่รู้ตัว เอ๊ะ...เขากำลังทำอะไรอยู่นะ? ผมค่อยๆโน้มตัวเข้าไปใกล้ทีละนิดๆ แต่ดูเหมือนคนข้างๆผมจะหลับในไปแล้ว เขามองเหม่อออกนอกหน้าต่างก่อนจะถอนหายใจออกมา จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู
โอ้....พระเจ้า ผมอยากตะโกนร้องเป็นภาษาต่างดาว รูปหน้าจอโทรศัพท์เขาเป็นรูปผม ผมพยายามอดใจไม่กระโดดกอดเขาซะก่อนพลางคอยเฝ้าดูว่าเขาจะทำยังไงต่อไป แต่เขามองรูปผมแล้วกลับถอนหายใจซะงั้น
“ คนนิสัยไม่ดี คนรักกันที่ไหนปล่อยให้แฟนตัวเองมานั่งเหงาในวันคริสต์มาสอีฟแบบนี้เล่า เราก็งี่เง่าที่สุด มานั่งรออะไรกับคนที่ทำงานไม่เป็นเวล่ำเวลาก็ไม่รู้” ชางซอบบ่นกับตัวเองพลางจิ้มรูปนั้นจึกๆอย่างหมั่นไส้
“ ถ้าไม่กลับก็บอกกันบ้างสิ คอยดูนะ เราจะไปดื่มกับผู้ชายคนอื่นในผับซะเลย” ชางซอบประชดให้คนในรูปโดยหารู้ไม่ว่าเจ้าตัวนั่งฟังอยู่ข้างๆนั่นเอง
“ คุณคะ เค้กได้แล้วค่ะ” พนักงานหญิงเดินนำเค้กมาเสิร์ฟ ชางซอบมองมันอย่างงงๆ
“ แต่ผมไม่ได้สั่งนี่ครับ”
“ อ๋อ ผู้ชายคนนั้นเขาสั่งให้คุณน่ะค่ะ” พนักงานชี้ไปยังชายคนหนึ่งซึ่งกำลังเดินออกจากร้านไป
“ เค้าเป็นใครอ่ะครับ” ชางซอบยังคงมองตามตาลอยๆ
“ เอ่อ เขาไม่ได้บอกชื่อน่ะค่ะ แต่หน้าตาเหมือนคนในรูปนั้นเลยนะคะ” หล่อนชี้ไปยังโทรศัพท์ที่ชางซอบถืออยู่ เท่านั้นล่ะเจ้าตัวรีบกระโดดออกจากโต๊ะทันที มิน่าล่ะ ส่วนสูงแบบนั้นถึงได้คุ้นตานัก ชางซอบวางเงินพลางรีบวิ่งออกจากร้านไปเพื่อไล่ให้ทันชายผู้นั้น เขาวิ่งฝ่าฝูงชนพลางหอบแฮกๆ มองซ้ายมองขวาก็มองไม่เห็นซะแล้ว คลาดกันสินะ อุตส่าตั้งใจมาดักรอรับกลับบ้านแท้ๆแล้วพอเจอก็ดันหายไปอีกซะงั้น ใบหน้าขาวแดงก่ำหายใจเข้าออกเป็นไอสีขาวเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น
“ คนเจ้าเล่ห์ มาแล้วทำไมไม่ทักกันเล่า ก็รู้อยู่ว่าผมซื่อบื้อ ยังจะมาแกล้งกันอีก” ชองซอบบ่นกับตัวเองแต่สายตาก็ไม่ลดละที่จะมองหา ร่างสูงๆแบบนั้นโดดเด่นจะตาย ทำไมเขาถึงหาไม่เจอกันนะ
ผมเฝ้ามองอาการกระวนกระวายใจของอีกฝ่ายผ่านทางตู้โทรศัพท์ที่ผมแอบอยู่ ใบหน้าขาวแดงเรื่ออาการหอบแฮก บ่งบอกว่าวิ่งมาแต่ไกล ทำไมกันนะพอผมได้ยินว่าเขาจะไปดื่มกับผู้ชายที่ไม่รู้จัก ผมกลับโกรธขึ้นมาซะงั้น แต่แทนที่จะปรากฎตัวกลับรู้สึกอยากแกล้งเขาแทน คุณรู้อะไรมั๊ย การแกล้งชางซอบเป็นสิ่งที่ผมชอบมากเลยล่ะ ชอบมองเวลาที่เขาโกรธหรืองอนผม นั่นหมายความว่าเขาสนใจผมจริงๆซึ่งแต่ก่อนนั้น ไม่ว่าใครจะทำอะไรเขาไม่เคยจะสนใจมันเลยด้วยซ้ำ
ฟุบ...อ๊ะ
กระป๋องเครื่องดื่มอุ่นๆถูกทาบลงบนแก้มเนียน เจ้าตัวหันมามองอย่างตกใจ
“ ทำไมมาแล้วไม่ทักผมล่ะ ผมไม่รู้สักหน่อยว่าคุณนั่งอยู่ตรงนั้น” ชางซอบหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงน้อยใจ ผมยักไหล่พลางยิ้มให้
“ ก็คุณกำลังมองผู้ชายคนอื่นนี่นา ผมไม่อยากขัด”
“ ผู้ชายที่ไหนกันเล่า ก็.....” ชางซอบรีบเอามือตะครุบปากตัวเองไม่ให้หลุดออกไปว่ากำลังดูรูปเขาอยู่
“ ใช่สิ ผู้ชายคนนั้นเขาหล่อกว่าคุณด้วย ถ้าคุณไม่มาผมกะว่าจะไปดื่มกับเขาซะแล้ว” คำพูดของชางซอบถ้าหมายถึงคนอื่นผมคงโกรธแล้ว แต่ผมรู้ว่าที่เขาพูดถึงนั้นหมายถึงใคร ผมจึงรวบตัวเขามาไว้ในอ้อมกอดซะเลย
“ จีฮุน คุณทำอย่างนี้ไม่ได้นะ นี่มันที่สาธารณะนะ” ชางซอบดุคนรักพลางตีแขนป้าบๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยชื่อผมออกมาเลยนะเนี่ย
“ ก็คุณอยากนอกใจผมทำไมล่ะ อย่างนี้ต้องทำโทษ นี่แน่ะ” พูดจบก็ขโมยหอมแก้มทั้งสองข้าง ชางซอบได้แต่หน้าแดงก่อนจะ...
ป้าบ...โอ๊ย!!!!
ผมสะดุ้งสุดตัวพลางกระโดดเหย็งๆกุมเท้าตัวเอง จะไม่ให้เจ็บได้ไงล่ะ ส้นเท้าของชางซอบเต็มๆเลยนะ ขนาดเป็นแฟนกันแล้วก็ยังโหดไม่เปลี่ยน
“ ทะลึ่ง เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง ผมจะกลับบ้านแล้ว ถ้าคุณอยากเดินกลับก็ตามใจ” ชางซอบดูเหมือนจะโกรธจริงๆพลางจ้ำพรวดๆไปยังที่จอดรถ ผมจึงต้องเป็นฝ่ายไปง้อแทน โธ่...หาเรื่องจริงๆเลยเรา!!!
ขออภัยด้วยนะคะที่ไรต์หายไปนาน คือไรต์เป็นไข้หวัดน่ะค่ะ แต่ยังไม่วายลงมือเขียนตอนที่ป่วยด้วย แต่แค่อัพไม่ไหวเท่านั้นเอง แต่รับรองจะลงให้หมดเลยทุกตอนที่เขียนตอนหายไป ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามผลงานมาจนถึงโค้งสุดท้ายของเรื่องแล้ว ขอบคุณมากนะคะ
ความคิดเห็น