คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : 31st Floor : เทศกาล
~ คือบีดัลลา นัมดัลลา แทแทแทแท กาดัลลา I like it, I like it ~
“ หวัดดีครับ ยุกซองเจพูดครับ” หนุ่มร่างสูงรับโทรศัพท์เสียงสดใสเมื่อไม่ได้คุยกับคนปลายสายนานแล้ว
[ เป็นไงบ้างลูก สบายดีมั๊ย ] เสียงผู้เป็นมารดาถามอย่างเป็นห่วง
“ สบายดีครับ พี่ๆในบ้านทุกคนก็สบายดี”
[ แม่จองตั๋วเครื่องบินให้ลูกแล้วนะ คริสต์มาสนี้แม่อยากให้ลูกมาที่นี่ พาพีเนียลกลับมาด้วย ครอบครัวของเขาคิดถึง แม่เองก็คิดถึงลูกเหมือนกันนะ ] คนเป็นแม่โทรมาบอกข่าวดีเรื่องการจองตั๋วเครื่องบิน เพราะช่วงคริสต์มาสเป็นอะไรที่จองยากมาก
“ อ่า... แล้วแม่จองกี่ใบครับ” ซองเจถามเพื่อความแน่ใจ
[ สี่ใบจ้า แม่รู้ว่าพี่ชายเราน่ะเขาคงไม่ยอมมาแน่ๆถ้าเขาต้องมาคนเดียว ] คุณแม่พูดเอาใจลูกชาย ซึ่งผู้ที่ฟังได้แต่ยิ้มแฉ่งที่แม่รู้ใจ จริงๆแล้วปีนี้ผมไม่จำเป็นต้องไปชิคาโกก็ได้ แต่ผมไม่อยากให้พีเนียลเดินทางคนเดียวและผมไม่อยากฉลองคริสต์มาสกับปีใหม่คนเดียวด้วย เลยขอตั๋วเครื่องบินเพิ่มอีกใบ ส่วนแม่เองก็คงอยากให้พี่อึนกวังไปด้วยก็เลยจองเพิ่มและจองเผื่อพี่มินฮยอกด้วย แม่ผมนี่ใจดีจริงๆเลย บ้านเราก็เลยต้องฝากคนอื่นดูแลสักพัก
“ ซองเจ ให้ผมเอากระเป๋าขึ้นรถเลยนะครับ” พีเนียลลากกระเป๋าเดินทางลงมาจากชั้นบน เสียงของเขาดูมีความสุขอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเขาจะได้กลับบ้านกระมัง
“ เอาขึ้นเลยครับ ผมไม่ได้ล็อกรถ อ๊ะ พี่มินฮยอกทางนี้ครับ” ซองเจเดินไปช่วยมินฮยอกยกบ้าง อึนกวังเมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วก็จัดการยกของตัวเองไปด้วย
“ ฮยอนชิค ฉันฝากบ้านด้วยนะ ซองเจเขาไม่ได้เจอแม่มานานแล้ว เดี๋ยวจะร้องไห้ขี้มูกโป่งซะก่อน” อึนกวังฝากบ้านไว้กับฮยอนชิคไม่วายแซวน้องชายตัวเองตบท้าย ไม่รู้ว่างานนี้ใครกันแน่ที่จะขี้มูกโป่ง คุณแม่หรือลูกชาย
“ ได้ครับพี่ เดี๋ยวผมกับทุกคนจะดูแลเอง บ้านพี่ก็เหมือนบ้านผมนั่นแหละครับ” ฮยอนชิคกล่าวพลางตบบ่าพี่ชายเบาๆ เนื่องจากวันมะรืนเป็นวันคริสต์มาส อึนกวังจึงต้องเดินทางเร็วหน่อย
“ รีบไปเถอะครับ เดี๋ยวไม่ทันเครื่องบิน” อิลฮุลซึ่งเดินมาจากบนบ้านกล่าวขึ้น เขาเองก็กำลังจะออกไปข้างนอกเหมือนกัน
“ จะไปไหนน่ะอิลฮุล” ฮยอนชิคหันมามองแฟนตัวเองอย่างงงๆ
“ ผมจะไปทำธุระที่คณะแป๊ปนึงน่ะครับ ก็เลยจะขับรถไปส่งพี่อึนกวังที่สนามบิน เดี๋ยวผมมานะ” อิลฮุลกล่าวลาฮยอนชิค ซึ่งอีกคนนึงเดินไปหยิบผ้าพันคอที่วางอยู่บนโซฟามาพันให้
“ อากาศหนาว เอานี่ไปด้วย ขับรถดีๆนะครับ” เขาพันผ้าพันคอพลางยิ้มตาหยีมาให้ ซึ่งคนตัวเล็กก็ได้แต่เขิน
“ เอาเป็นว่า อิลฮุลติดรถพี่ไปแล้วกัน ค่อยขับกลับมานะ” พูดจบอึนกวังก็เดินนำออกจากบ้าน อิลฮุลจึงอาศัยจังหวะที่อึนกวังหันไป รีบหันกลับมาจุ๊บแก้มแฟนตัวเองก่อนจะรีบวิ่งออกไป ฮยอนชิคจึงได้แต่คลำแก้มพลางยิ้มเขินๆ ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นเพื่อนซี้กำลังเดินลงมาจากบันได
“ นายจะไปไหนน่ะ วันนี้มีสอนเหรอ” ชางซอบมองมาด้วยสายตาง่วงๆพลางยักคิ้วให้เพื่อน
“ วันนี้นายเฝ้าบ้านเหรอ ดูแลบ้านดีๆนะ เดี๋ยวให้รางวัล” คำพูดกวนๆถูกส่งออกมาฮยอนชิคอยากกัดลิ้นตัวเองจริงๆที่ดันไปทักเจ้าเพื่อนจอมกวนคนนี้
“ ฉันไม่ใช่หมานะเว้ย พี่อึนกวัง พี่มินฮยอก พีเนียล ซองเจ ไปชิคาโกฉันเลยมาส่ง” ฮยอนชิคอธิบายให้เพื่อนฟัง เมื่อเห็นสายตาที่มองมาอย่างตั้งคำถามว่าเขามายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ ชางซอบยักไหล่
“ เป็นคนรับใช้ที่น่านับถือมาก ปรบมือๆ อย่างนี้สงสัยต้องมีโบนัสซะแล้ว” ชางซอบพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆบวกกับใบหน้ากวนๆพลางปรบมือแปะๆ ทำเอาอีกคนแทบอยากจะไล่เตะก้น
“ นายมานี่เลยนะ มาให้เตะซะดีๆ” ฮยอนชิควิ่งไล่เตะก้นชางซอบอย่างกับเด็กๆ
“ แน่จริงก็ไล่ให้ทันสิ แบร่!!” ชางซอบแลบลิ้นพลางเลื่อสเก็ตบอร์ดหนี
โอ๊ะ!!!!!
ฮยอนชิคหยุดวิ่งไล่ทันทีเมื่อเห็นว่าเพื่อนซี้ไปชนกับอะไรเข้า
“ ผมบอกคุณแล้วนะ ว่าอย่าเล่นสเก็ตบอร์ดในบ้าน มันอันตราย” โนจีฮุนซึ่งเดินลงมาจากชั้นสองถูกชนเข้าอย่างจัง เขาใช้แขนแกร่งกอดอีกคนไว้พลางดุด้วยความเป็นห่วง
“ ถ้าคุณไม่มาขวาง ผมก็ไม่ชนหรอก นี่ปล่อยนะ” คนตัวเล็กกว่าดิ้นขลุกขลักพลางเถียงคำไม่ตกฟาก ฮยอนชิคมองเพื่อนซี้อย่างขำก่อนจะหัวเราะออกมา
“ หัวเราะอะไรของนาย” ชางซอบหันไปถามเพื่อนพลางส่งสายตาค้อนไปให้ ฮยอนชิคยักไหล่อย่างเป็นต่อ
“ นายกับพี่จีฮุนนี่เป็นมวยถูกคู่กันจริงๆ ฝากด้วยนะครับพี่จีฮุน” คำพูดของเพื่อนซี้ทำเอาชางซอบหน้าแดงก่ำ ก่อนจะพยายามตะเกียกตะกายไปไล่เตะเพื่อน ถ้าเขาไม่โดนแขนแกร่งนี้รัดไว้ก่อน คงทำตามความคิดได้สำเร็จ
“ ถ้าไม่ขวางไว้ คุณก็ชนกับบันไดน่ะสิ อากาศยิ่งแต่เย็นๆอยู่ ผมไม่อยากให้คุณบาดเจ็บนะครับ” จีฮุนยังคงกอดร่างเล็กอยู่อย่างนั้น
“ ปล่อยผมเดี๋ยวนี้เลยนะครับ ผมจะไปทำงานแล้ว คุณนี่ชอบแต๊ะอั๋งจัง เห็นมั๊ยเมื่อกี้ฮยอนชิคยังหัวเราะผมเลย” คนในอ้อมกอดพยายามผลักตัวเองออกจากอกอุ่นนั้น ตั้งแต่เขาตอบตกลงทำตามความรู้สึกของตัวเอง ก็รู้สึกว่าทุกอย่างดูอบอุ่นไม่เปล่าเปลี่ยวเหมือนแต่ก่อน ถึงแรกๆจะอายอยู่บ้างแต่เขาก็รู้ว่าที่จีฮุนทำไปทั้งหมดเพราะรักเขาจริงๆ
“ ให้ผมไปส่งนะครับ อากาศหนาวๆอย่างนี้ขืนเล่นสเก็ตบอร์ดไปคงได้เป็นหวัดกันพอดี” จีฮุนพูดพลางใช้หลังมือเกลี่ยแก้มเนียน ซึ่งคนตัวเล็กส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ จีฮุนจึงใช้สองมือกุมไว้พลางมองเข้าไปในแววตาอย่างเว้าวอน ชางซอบจึงได้แต่หลบสายตาไปด้านข้าง
“ นะครับ ให้ผมไปส่งนะ ผมสัญญาว่าจะไม่กวนคุณอีกเลย” เขามองชางซอบด้วยสายตาเว้าวอน ชางซอบจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากพยักหน้า จีฮุนจึงถอดผ้าพันคอออกจากคอตัวเองและพันให้อีกคน
“ คุณต้องใช้เสียง พันมันไว้นะครับ คุณรู้มั๊ย? เสียงคุณน่ะมีค่ามากนะ” ชางซอบมองผ้าพันคอผืนนุ่ม แก้มเนียนค่อยๆขึ้นสีเรื่อ ทำไมนะเวลาที่คนคนนี้ทำอะไรให้ เขามักจะไม่เคยปฏิเสธได้เลย ทั้งคู่จึงเดินไปขึ้นรถโดยที่ชางซอบไม่ลืมจะนำสเก็ตบอร์ดติดตัวไปด้วย ฮยอนชิคซึ่งมองผ่านหน้าต่างได้แต่ส่ายหน้ากับพรหมลิขิตที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ นานแล้วที่เพื่อนของเขาไม่คบกับใคร ไม่ใช่ว่าไม่มีคนมาจีบแต่เจ้าเพื่อนคนนี้มันปิดใจต่างหาก จนกระทั่งมาเจอพี่จีฮุนนี่ล่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคบกันตั้งแต่เมื่อไร แต่จากที่สังเกตตั้งแต่พี่จีฮุนย้ายเข้ามา เพื่อนของเขาก็มีท่าทางแปลกๆไป อาจจะเป็นเพราะลูกตื้อของพี่จีฮุนก็ได้มั้ง แต่จะว่าไปแล้ว พี่จีฮุนดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่เอาเพื่อนเขาอยู่จริงๆ
ขออภัยที่ไรต์หายไปนานนะคะ พอดีแต่งเอาไว้แล้วล่ะ แต่แค่ไม่มีที่อัพเท่านั้นเอง ช่วงหลังๆมานี้เขียนแต่คู่ฮุนซอบ ก็อย่าว่ากันเลยนะคะ เพราะตอนต้นๆพ่อแบ๊วของเราหายเงียบไปเลย ยังไงก็ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ
ความคิดเห็น