ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTOB Fiction] Memory of Heart จะรักกันได้ไหม?ถ้าหัวใจยังไม่ลืม...

    ลำดับตอนที่ #5 : MEMO 4 : คุณหนูผู้เอาแต่ใจ ( SikHoon )

    • อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 56




     

    MEMO 4 : คุณหนูผู้เอาแต่ใจ

    “ คุณหนูคะ เย็นนี้จะทานข้าวกับคุณพ่อมั๊ยคะ” เสียงสาวใช้มีอายุถามเจ้านายตัวเล็กของเธอ ซึ่งขณะนี้แต่งตัวเตรียมออกเที่ยวกลางคืนแล้วเรียบร้อย

    “ บอกคุณป๋าไปว่า คืนนี้ผมจะไปงานวันเกิดเพื่อน ให้คุณป๋าทานข้าวกับเธอคนนั้นไปเลย” เสียงเล็กตะโกนตอบกลับมาอย่างเบื่อหน่าย ใครจะอยากไปนั่งกินข้าวกับผู้หญิงที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้ากัน ไม่รู้ว่าเธอคนนี้เป็นคนที่เท่าไรของพ่อของเขา ถึงพ่อจะอายุมากแล้วแต่รูปร่างหน้าตารวมทั้งหุ่นนั้นยังเฟิร์มไม่ต่างจากหนุ่มวัยสามสิบกว่าๆแถมพ่วงด้วยทรัพย์ศฤงคาร เป็นใครจะไม่สนใจกันล่ะ จริงมั๊ย? แต่พวกหล่อนก็คงเป็นได้แค่ของเล่นของพ่อเท่านั้นแหละ ตั้งแต่คุณแม่เสียไปพ่อเขาก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอย่างจริงจังอีกเลย

    “ พี่ครับ คืนนี้จองโต๊ะเดิมให้ผมด้วยนะ” เสียงเล็กกล่าวกับคนปลายสายอย่างเอาแต่ใจ คลับนี้เป็นคลับเดียวที่ผมสามารถเข้าไปได้อย่างสบายใจทั้งๆที่อายุไม่ถึง เพราะมันเป็นคลับของลูกพี่ลูกน้องของผมเอง จริงๆแล้วผมเป็นคนที่ดื่มไม่เก่งเสียเลย แต่จุดประสงค์ของผมไม่ได้อยู่ที่เครื่องดื่มมึนเมาเสียหน่อยนี่นา ที่นั่นยังมีอะไรน่าสนใจกว่านั้นเยอะ

    “ จะไปไหนน่ะตัวเล็ก ไม่อยู่ทานข้าวกับคุณป๋าหน่อยเหรอ” เสียงผู้เป็นบิดาทักลูกชายสุดที่รักพลางยืนพิงกรอบประตูห้องนอน คนถูกทักทำเพียงปรายตาไปมองผ่านกระจกบานใหญ่ ผมสีอ่อนถูกจัดทรงตามแฟชั่น เขามองใบหน้าบิดานิ่งก่อนจะยิ้มแบบอ้อนๆออกมา พลางเดินมากอดเอวที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อไม่ใช่ชั้นไขมันอย่างที่คนมีอายุควรจะมี

    “ เชิญคุณป๋าตามสบายเถอะครับ วันนี้ผมมีนัดแล้วจริงๆ ไว้คราวหน้าเรามาทานข้าวกันสองคนนะ ไม่มีคนอื่น โอเค๊?” เสียงเล็กอ้อนอย่างคนถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาจึงทำได้แต่พยักหน้าพลางลูบผมสีบอร์นเบาๆ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าลูกชายตัวเองชอบอะไรไม่ชอบอะไร เขาไม่เคยเปิดใจให้กับผู้หญิงคนไหนของบิดาเลยไม่ว่าคนๆนั้นจะสวยและมีชาติตระกูลขนาดไหนก็ตาม เพราะในสายตาของอิลฮุลจะมีเพียงแม่ของเขาคนเดียวเท่านั้น ซึ่งในจุดๆนี้พ่อของเขาเข้าใจดีจึงไม่เคยบังคับให้ลูกชายต้องทำตามใจตน

    “ งั้นก็แล้วแต่ลูกแล้วกันนะ จะให้เด็กๆตามไปด้วยมั๊ย” ชายวัยกลางคนถามขึ้น เด็กๆที่ว่านี่ก็คงไม่พ้นบอร์ดี้การ์ดมือดีของพ่อน่ะแหละ

    “ ไม่ดีกว่าครับ วันนี้ผมไปคลับพี่มินฮยอก ที่นั่นก็มีเยอะพอสมควรแล้ว ให้พวกเขาอยู่ดูแลคุณป๋าที่นี่เถอะ” ผมรีบปฏิเสธทันที ผมจะใช้พวกเขาในยามจำเป็นเท่านั้น ผมไม่อยากให้คนอื่นแตกตื่นไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะเขาคนนั้น หึหึ คืนนี้ล่ะผมจะจู่โจ่มเขาล่ะ  ร่างเล็กเขย่งปลายเท้ายืดตัวขึ้นหอมแก้มผู้เป็นบิดาอย่างออดอ้อน

    “ ผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวเพื่อนๆจะรอ” ผู้เป็นพ่อจึงทำได้แค่ลูบหัวลูกชายสุดที่รัก ซึ่งตอนนี้เขาชักจะไม่มั่นใจซะแล้วว่าเป็นลูกชายหรือลูกสาว เพราะนับวันยิ่งโตขึ้นเค้าโครงหน้าก็จะออกสวยไปทางผู้ให้กำเนิดอีกคนมากกว่า เมื่อร่างเล็กก้าวพ้นประตูห้องไป มือใหญ่ก็ล้วงเอาเครื่องมือสื่อสารออกมา

    “ มินฮยอกเหรอ ลุงฝากน้องด้วยนะ อย่าให้เขาดื่มมากล่ะ ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล จัดการได้ทันที” น้ำเสียงทรงพลังผิดกับเมื่อสักครู่ราวกับเป็นคนละคนก็ไม่ปาน กรอกคำสั่งลงไปกับหลานชาย ถึงเขาจะดูเป็นคุณพ่อที่ใจดีแต่ก็จะใจดีเฉพาะกับลูกชายเท่านั้นล่ะ ส่วนกับคนนั้นอย่าหวังว่าจะได้รับสิ่งนี้ไปเลย

     

    @CLUB

    เนื่องจากยังไม่ดึกมากนักผู้คนจึงไม่แน่นขนัดเท่าไร ร่างเล็กก้าวพ้นธรณีประตูเข้ามา เรียกสายตาของใครหลายๆคนให้หันไปมอง แต่ผู้คนเหล่านั้นหาได้อยู่ในคลองสายตาของอิลฮุลไม่ อิลฮุลมองตรงไปยังมุมเครื่องเสียงเพื่อหาใครบางคน คนที่ทำให้เขาไม่สามารถละสายตาไปได้เพียงแค่เจอแวบแรก

    “ ไง มาแล้วเหรอ เขาก็มาแล้วเหมือนกัน อีกสักครู่เขาคงเดินไปตรงนั้นเองล่ะ” ลูกพี่ลูกน้องของผมนี่รู้ใจกันดีจริงๆ รู้ด้วยว่าผมรอใครอยู่ บอกแล้วว่าผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อดื่มแต่มาเพื่ออย่างอื่นมากกว่า (ดูแร๊ด แรด เนอะ ป๊าบบบ...ไรต์โดนถีบ!!! ) ผมหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่ม เพื่อนของผมยังไม่มีใครมาสักคนแต่ผมไม่แคร์หรอก เพราะคนที่ผมสนใจเขากำลังเดินมาโน่นแล้ว รอยยิ้มที่ยิ้มทั้งดวงตาและริมฝีปากนั้นทำให้ผมหลงรักตั้งแต่แรกเห็น รูปร่างที่มีมัดกล้ามนั้นน่าสัมผัสยิ่งนัก เขากำลังเดินใกล้เข้ามาแล้ว ร่างเล็กลืมตัวจนเผลอลุกขึ้นยืนทำเอาร่างสูงที่เดินมาหยุดชะงักก่อนจะส่งยิ้มมาให้

    “ ยินดีต้อนรับครับ คืนนี้ผมจะบริการเต็มที่เลย อย่าลืมมาขอเพลงนะครับ” เขาพูดเชิงหยอกล้อที่มักจะพูดกับลูกค้าบ่อยๆ แต่หารู้ไม่ว่ามันมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจของผู้ฟังอย่างยิ่ง ผมนั่งมองหน้าดีเจคนนี้จนเพลินจึงเผลอดื่มไปหลายแก้ว

    กึก...

    มือเล็กวางแก้วลง ใบหน้าหวานแดงก่ำท่าทางกึ่มๆได้ที่ เพื่อนๆมองเขาอย่างประหลาดใจเพราะปกติหนุ่มน้อยคนนี้แทบจะไม่ดื่มเลยด้วยซ้ำ

    “ จะไปไหนน่ะอิลฮุล” มือเล็กถูกคว้าไว้โดยเพื่อนสาวคนนึง เมื่อเขาพยายามจะลุกออกจากที่นั่ง

    “ ฉันจะไปเต้นสักหน่อย เธอจะไปมั๊ย” เสียงหวานเริ่มยานคาง นัยน์ตานั้นหวานเยิ้ม

    “ แต่นายเมามากแล้วนะ ไปไหวเหรอ” เสียงชายหนุ่มอีกคนกล่าวอย่างเป็นห่วง

    “ อย่าห่วงเลยน่า...ที่นี่คลับพี่มินฮยอกกับพี่อึนกวังนะ คนของคุณป๋าก็เยอะ ไม่มีใครทำอะไรฉันได้หรอก” ร่างเล็กสะบัดมือออกพลางเดินไปยังฟลอเต้นรำประจวบเหมาะกับเพลงแดนซ์ขึ้นพอดี ผมเริ่มยักย้ายส่ายสะโพกไปตามเพลง ชายหนุ่มรอบๆเมื่อเห็นดาวเด่นประจำคลับเริ่มขยับตัว ตัวเองก็อยากที่จะมาสัมผัสและใกล้ชิดร่างบางนี้บ้าง ทุกคนจึงค่อยๆทยอยมาเต้นที่ฟลอกับคนสวย เมื่อเหล้าเข้าปากความกล้าก็มาเป็นกระบุง ผมเต้นด้วยความสนุกโดยลืมไปแล้วว่าผมมาที่นี่ทำไม ดีเจหนุ่มเห็นท่าทางของร่างเล็กก็นึกเป็นห่วงแต่เขาก็ไม่สามารถผละออกไปจากหน้าที่ตรงนี้ได้ พลันก็มีเสียงผ่านหูฟังเล็กๆเข้ามา

    “ ฮยอนชิค นายช่วยไปเอาตัวอิลฮุลออกมาหน่อย ฉันว่าเขาเมามากแล้ว” เสียงตามสายนั้นคือเจ้านายของเขาเอง ฮยอนชิคเปิดเป็นโหมดอัตโนมัติก่อนที่จะพาตัวเองเดินลงมายังฟลอ

    เอ๊ะ...เขาจะลงมาเต้นกับผมเหรอ สงสัยความเซ็กซี่ของผมใช้ได้ผลแฮะ ผมเดินเข้าไปกอดคอเขาพลางยักย้ายส่ายสะโพกไปมา แต่สีหน้าที่มักจะยิ้มนั้นกลับนิ่งสนิท เขาไม่พอใจอะไรกันนะ ผมยังคงเต้นต่อไป ทันใดนั้น มือหนาจับมาที่ข้อมือผมพลางลากออกมาจากฟลอทำเอาหลายๆคนไม่พอใจ

     

    “ พี่จะพาผมไปไหนเนี่ย” ร่างเล็กเริ่มบ่นเมื่อโดนกึ่งจูงกึ่งลากออกมาจากห้องที่เป็นสถานบันเทิงมายังห้องรับรอง ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยโดนใครบังคับแบบนี้มาก่อน

    “ นายเมาแล้ว พี่มินฮยอกเลยสั่งให้ฉันเอาตัวนายออกมา” เสียงทุ้มกล่าวหลังปิดประตูห้องพลางลากร่างเล็กมายังโซฟา เขาก็แค่ทำตามหน้าที่สินะ ชริส์...

    เมื่อเดินมาถึงโซฟา พี่ฮยอนชิคปล่อยมือผมทันที แต่คนอย่างอิลฮุลซะอย่างไม่ยอมให้มันจบแค่นี้แน่ ผมผลักให้พี่ฮยอนชิคนั่งลงบนโซฟาก่อนจะส่งตัวเองลงไปนั่งบนตักเขา เขามีสีหน้าตกใจอย่างยิ่งเพราะคาดไม่ถึงว่าจะโดนร่างเล็กเล่นงานแบบนี้

    “ พี่แค่ทำตามหน้าที่เองเหรอครับ ไม่แฟร์เลยน๊า... ผมมาที่นี่บ่อยๆเพราะอยากจะเจอพี่ แต่พี่กลับไม่สนใจผมซะงั้น” เสียงหวานออดอ้อนพลางใช้นิ้วชี้เกลี่ยกล้ามหน้าอกไปมา เขามั่นใจว่ามุกนี้จะได้ผลเสมอ ขนาดคนใจแข็งอย่างคุณป๋าของเขายังต้องยอมสยบ ตาเรียวเล็กหรี่มองท่าทางยั่วยวนอันไร้เดียงสา ดูก็รู้ว่าถ้าไม่ใช่เพราะแอลกอฮอล์ ร่างเล็กไม่กล้ายั่วเขาอย่างนี้แน่ เพราะขนาดเจอกันเมื่อตอนเย็นร่างเล็กแทบจะกลั้นหายใจเพียงแค่เขาเดินผ่าน จะให้มายั่วแบบนี้น่ะ ยากซะล่ะ...

    “ โทษทีนะที่ทำให้นายผิดหวัง แต่ฉันมีงานที่ต้องทำ เวลาของฉันเป็นเงินเป็นทอง   ไม่มีเวลามาเล่นกับนายหรอก ลงไปได้แล้ว” เสียงทุ้มกล่าวอย่างเย็นชาทำเอาร่างเล็กยู่ปากอย่างขัดใจ

    “ ผมต้องจ่ายเท่าไร ถึงจะซื้อเวลาของพี่ได้” คำพูดที่คาดไม่ถึงหลุดออกมาจากปากผม นิสัยเสียของผมก็คือ การใช้เงินซื้อทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมต้องการ

    “ อยากรู้จริงๆน่ะเหรอ” อยู่ดีๆเสียงทุ้มนั้นก็นุ่มผิดปกติ ฮยอนชิคค่อยๆโน้มตัวเข้ามาใกล้ร่างบางพลางกดร่างนั้นลงบนโซฟา โดยมีตัวเองคร่อมอยู่ด้านบน อิลฮุลใจเต้นรัวไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะง่ายขนาดนี้ เห็นมั๊ยว่าเงินบันดาลทุกอย่างจริงๆ ใบหน้าคมค่อยๆโน้มเข้าไปใกล้ รอยยิ้มทรงเสน่ห์ทำเอาอีกคนแทบละลาย ผมหลับตานิ่งอย่างตื่นเต้น ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยใกล้ชิดกับคนอื่นมากขนาดนี้มาก่อนนอกจากพ่อบังเกิดเกล้าของผมเอง ลมร้อนเป่าเข้าข้างหูเรียกขนบนกายให้ลุกเกรียว ใบหน้าหวานแดงก่ำทำเอาร่างสูงชะงักไปนิดแต่ก็ยังคงเข้าไปใกล้เรื่อยๆ

     

    “ สำหรับฉันน่ะ เงินของนายซื้อฉันไม่ได้หรอกนะ เด็กแก่แดด” เมื่อกรอกเสียงทุ้มกระซิบข้างหู ร่างสูงก็เด้งตัวขึ้นทันทีพลางเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันหลังกลับมามอง ผมยังคงอึ้งอยู่ หนอย....มาว่าผมแก่แดดงั้นเหรอ ทีตัวเองก็ยั่วเขาเหมือนกันนั่นแหละ ตาลุงโรคจิต มือเล็กทุบลงบนโซฟาอย่างขัดใจ ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยโดนหักหน้ามาก่อน หมอนี่ทำกับผมได้นะ ริมฝีปากล่างถูกขบกัดอย่างเจ็บใจ พลันร่างบางคุ้นตาเปิดประตูเข้ามา

    “ ไง เมาล่ะสิเราน่ะ แล้วอย่างนี้พี่จะบอกกับคุณลุงยังไงล่ะเนี่ย” มินฮยอกยืนเท้าเอวพลางเสยผมมองผู้เป็นน้องที่นั่งหน้าบึ้งอย่างไม่สบอารมณ์

    “ พี่มินฮยนอกจ่ายเงินเดือนพี่ฮยอนชิคเท่าไร” ผมถามกลับนิ่งๆทำเอาร่างบางเลิกคิ้ว

    “ ทำไม...เขาไม่เล่นด้วยรึไงถึงกับต้องใช้เงินน่ะฮึ?” คนสวยกล่าวแซวเมื่อรู้ถึงนิสัยของน้องชายดี

    “ ไม่ว่าจะต้องเสียเงินเท่าไร ผมก็พร้อมจะจ่าย ถ้ามันแลกได้ตัวพี่ฮยอนชิคมา” ริมฝีปากบางกล่าวขึ้น นัยน์ตาแน่วแน่

    “ งั้นก็ค่อนข้างยากหน่อยนะ เพราะดูเหมือนคนอย่างฮยอนชิคน่ะ ไม่เห็นแก่เงินสักเท่าไร อิลฮุลคงต้องพยายามมากหน่อยแล้วล่ะ ” มินฮยอกลูบศรีษะน้องชายอย่างเอ็นดู ใจก็นึกขำที่คนอย่างอิลฮุลจะซื้อลูกน้องกิตติมศักดิ์ของเขา มันคงยากสักหน่อยล่ะ ถ้าเศรษฐีจะใช้เงินซื้อเศรษฐีด้วยกันน่ะ เขามองน้องชายทิ้งตัวลงนอนเพื่อให้สร่างเมาอย่างขำๆก่อนจะออกจากห้องไป

     


    ขอแถมหน่อยค่ะ ถึงโครงเรื่องจะเหมือนอันที่แล้ว แต่ไรต์ชอบตอนนี้มากๆเลยค่ะ เลยไม่อยากเปลี่ยนอะไรมากมาย ยังไงก็ฝากติดตามผลงานต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×