คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : - Adrenaline - 10 Chanbaek...THE END
Adrenaline
10
ทางชานยอลเองนอกจากที่เขาจะต้องไปเช็คร่างกายที่หน่วยแพทย์เพื่อตรวจทุกอย่างตามที่องค์กรสั่งให้ทำแล้ว นอกจากนั้นยังต้องบันทึกปากคำเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยว่าเริ่มจากอะไรและมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
และอย่างที่มินโฮว่าคนอย่างชานยอลเป็นคนที่ควบคุมได้ยากมากคนหนึ่งเรื่องการจะถามตอบดีๆน่ะแทบจะไม่อยู่ในสารระบบเลยซักนิดเดียว
ชายหนุ่มเล่าวกไปวนมาตามแบบของเขา แถมด้วยการยิ้มกวนให้แผนกบันทึกคำให้การจนอีกคนเคาะแป้นคอมพิวเตอร์แรงๆด้วยความโมโหหากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากจำใจทำตามเพราะไม่อยากมีปัญหากับคนคนนี้เท่าไหร่นัก
“คุณชานยอลครับถ้าจะช่วยให้ความร่วมมือกับเรามากกว่านี้”เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยกล่าวด้วยความสุภาพแต่ถ้าสังเกตให้ดี นิ้วแทบจะจิกคอมพิวเตอร์ตรงหน้าแทนการสอบแล้ว
“ก็ทำอยู่เลิกถามแล้วไปตรวจสอบเอาเองได้แล้วฉันจะกลับบ้านผลเลือดก็บอกแล้วไม่ได้เมา แถมร่างกายก็สมบูรณ์ดีน่ารำคาญนา..”ชานยอลทำเพียงแค่แคะนิ้วตัวเองราวกับว่าไม่แยแสจนสุดท้ายจึงต้องต่อสายหาเจ้านายเพื่อทำเรื่องปล่อยตัว
ก็ในเมื่อพ่อคุณตั้งท่าจะไปท่าเดียวรั้งไว้มีหวังเสียการเสียงานไปกันใหญ่แน่ๆ
“เอ่อ..คุณมินโฮต้องการเรียนสายด้วยครับ”พนักงานสอบความยื่นโทรศัพท์ให้โดยที่ชานยอลก็รับมาด้วยหน้าเหม็นเบื่อ
ปลายสายบ่นเรื่องราวมาเป็นฉากเป็นตอนด้วยที่เขาทำได้แต่ทำปากพะงาบๆตามไปด้วยเท่านั้น หากประโยคที่กระแทกเข้าแสกหน้าคือ
[ผมให้คนไปส่งคุณแบคฮยอนกลับห้องแล้วนะครับแถมคนคุ้มกันอีกสอง]มินโฮอยากขยิบตาใส่โทรศัพท์แต่เชื่อเถอะว่าชานยอลสามารถจินตนาการได้ด้วยตัวเอง
“แกอยากตายตอนนี้หรือยังไง..เรื่องอะไรแกส่งเขากับไปที่ห้องอย่างนั้น”
[แต่ทีมเก็บกวาดทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วนะครับผมเช็คเรียบร้อยแล้วอีกอย่างคุณแบคฮยอนยืนยันเองว่าจะกลับให้ได้โดยไม่รอคุณยังไง…เอ่อ…คุณชานยอล…คุณชานยอลครับ!!]
……………….
…………
….
ชายหนุ่มไม่ได้อยู่ฟังเรื่องอะไรทั้งสิ้นแล้วตอนนี้เขารีบวิ่งทะยานตัวออกจากสำนักงานไม่ได้สนว่าตัวเองจะอยู่ในสภาพไหนได้แต่วิ่งออกไปเรียกรถรู้เพียงว่าจะต้องกลับไปให้ถึงบ้าน
ใจเขาร้อนราวกับไฟกาลป์กำลังแผดเผาความกลัวอีกครั้งที่กำลังคาดค้ันเขามาชั่วชีวิตมีไม่มีครั้งที่เขากลัวแบบนี้
กลัวการสูญเสีย
เขาไม่รู้เหตุผลที่แบคฮยอนขอกลับไปที่บ้านก่อนไม่รู้เลย..แบคฮยอนอาจทนเขาไม่ได้แล้วอาจรับชีวิตที่เป็นอยู่ทั้งๆที่เลือกแล้วว่าจะไม่ทำงานนี้แล้วไม่ทำอีกแล้วเขาขอบอกลาชีวิตที่ไม่แน่นอนชีวิตที่มีแต่ความเสี่ยงแม้งานที่ทำจะนำพาตัวแบคฮยอนมาเจอกับเขาแต่เพื่ออนาคตของเรา
แต่มัน..ไม่ทันใช่ไหม…มันไม่ทันหรือยังไง
หรือมันไม่ทันที่จะทำให้แบคฮยอนมองเขาว่าเป็นคนดีแล้วท่าทางที่แสดงว่ารักนั้นล่ะแล้วสายตาที่มองเขาบอกว่าเขาเป็นคนสำคัญล่ะหรือเรื่องเมื่อหัวค่ำจะทำให้แบคฮยอนกลัว กลัวที่จะต้องอยู่กับคนอย่างเขา คนที่ไม่มีที่มา..คนที่ไม่สามารถบอกแม้กระทั้งเรื่องของตัวเอง
แต่เขาคิดเอาไว้ว่าจบเรื่องนี้..เขาจะบอกทุกอย่างที่อีกคนอย่างรู้จะตอบคำถามทุกอย่างที่อีกฝ่ายอยากถามเขายินดีจะเล่าทุกๆเรื่องราวขอแค่ให้เวลาที่มีเหลือมากพอ
แต่…ถึงอย่างนั้นมันจะทันไหมเวลาที่มีมันมากพอหรือเปล่านะ
ชานยอลเอามือจับที่อกของเขาตรงที่ด้านใต้มันมีสิ่งมีชีวิตกำลังเต้นอยู่เขาแทบไม่รู้สึกถึงมันสิ่งนั้นมันเต้นแผ่วลงเรื่อยๆจนน่าใจหายมันเต้นช้าลงจนปลายนิ้วมือเข้าแทบสัมผัสได้แต่ความว่างเปล่า
ระยะทางอีกไม่ไกลจากตรงที่เขาอยู่แต่มันเหมือนกลับว่าช่างยาวนานเหลือเกิน ทุกวินาทีที่ก้าวเดินมันเชื่องช้า
เวลาของเขาเหมือนกำลังหยุดหมุนเขาดูเหมือนคนอ่อนแอแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ..หรือตั้งแต่มีพยอนแบคฮยอนเข้ามาอยู่กับเขา
บางครั้งแค่รักมันอาจไม่พอ..อาจมีอะไรที่สำคัญกว่ารัก
มันจะมีอะไรที่สำคัญกว่านั้นอีกหรือ..หรือความเสียสละนะที่มันมีค่ามากกว่ารักที่มันเกินกว่ารักแล้วถ้าย้อนกลับไปถามตัวเองอีกครั้งจะได้ไหมว่าถ้าเขาเสียสละทุกอย่างกลับมาเป็นคนปกติที่ดีพอเสียสละความสุขของเขา
เพื่อให้พอดีกับอีกคนมันจะยังทันหรือเปล่า..
ชานยอลหยุดมองบานประตูที่ปิดสนิทรหัสห้องมีเขาเท่านั้นที่รู้เขาไม่อยากกดมันลง..กลัวเข้าไปที่ห้องแล้วจะเจอความว่างเปล่ากลัวเหลือเกินว่าถ้าจะต้องนอน..จะนอนในห้องที่ไม่มีอีกคน
ชายหนุ่มกำมือของตัวเองแน่น…ง้างเพื่อเคาะบานไม้ตรงหน้าหากก็ตัดใจวางมันลงข้างตัวทำซ้ำๆอย่างนั้นอยู่หลายต่อหลายครั้งเล่นเอาจนใจยกมือข้างนั้นขึ้นมาดู
มือเขากำลังสั่นและน้ำตากำลังเอ่อขึ้นมาคลอรู้ดีเพราะภาพมันพร่ามัวเกินกว่าจะมองให้ชัดเจนเหมือนกำลังใกล้จะเป็นบ้าเข้าไปทุกทีใกล้จะไร้สติเข้าไปทุกที…แค่เพียงรู้ว่าจะไม่มีพยอนแบคฮยอนมันน่ากลัวขนาดนั้นเลย
ก๊อก…ก๊อก…
สุดท้ายก็ลองเสี่ยงดูถ้ามันจะแย่เขาก็แค่เสียสติไปก็เท่านั้นเองแค่นั้นหรอ…แค่นั้นใช่ไหมกลัวจัง…กลัวจริงๆ
แกร๊ก….
“ก..กลับมา..หรอครับ”เสียงใสและเจ้าของใบหน้าเล็กที่สวมผ้ากันเปื้อนยิ้มออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะไม่แน่ใจว่าจะเจออะไรบ้าง
เท่านั้นจริงๆเท่านั้น…แค่นั้นเอง
น้ำตาลูกผู้ชายอย่างปาร์คชานยอลไหลลงจากดวงตาคมที่เคยแน่วแน่และมุ่งมั่นชายชาติทหารและผู้ที่เคยมีความเข้มแข็งเหนือสิ่งอื่นใดกลับร้องไห้เมื่อได้เห็นใบหน้าเล็กๆที่เปิดประตูออกมา
“ชาน..ชานยอล..เป็น..อะไร..ครับ”แบคฮยอนถามเสียงสั่นเอื้อมมือไปจับใบหน้าคมเบาๆเมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้าเขาร้องไห้ซึ่งเขาไม่เคยเห็นมันมาก่อนและทำเอาตกใจเหลือเกิน
ครั้งแรกคิดว่าเขาตาฝาดชานยอลบอกตัวเองอย่างนั้น แต่นิ้วมือเล็กที่อบอุ่นซึ่งกำลังแตะใบหน้าของเขาบอกให้รู้ว่าเขาไม่ได้ละเมอไปเอง ชายหนุ่มหลับตาซึมซับเหล่านั้นเอามือข้างที่ว่างประคองมือเล็กเอาไว้จับแนบลงที่ข้างแก้ม
ความกลัวค่อยๆจางหายไปจากหัวใจ
สัมผัสอบอุ่นแตะลงที่กลางหน้าผากของเขา ทำเอาต้องลืมตาขึ้นมองคนตัวเล็กที่ยืดตัวขึ้นกดริมฝีปากลงมาทำเอาดวงใจที่ใกล้ตายค่อยกลับมาเต้นถี่อีกครั้งราวกลับโดนชุบชีวิตจากจุมพิตที่แสนหวาน
“..อ..เอ่อ..กล..กลับมาแล้ว..หรอครับ”แบคฮยอนถามด้วยรอยยิ้ม มองใบหน้าคมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยยิ้มที่อบอุ่นจนชายหนุ่มยิ้มตามทั้งๆที่อยากร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากร้องไห้..แต่น้ำตาเหมือนจะไหลออกมา
“อืม….กลับมาแล้ว..ฉันกลับมาแล้วล่ะ”
………………
………..
….
“ทำไมถึงกลับมาก่อนละ..”ชานยอลที่ยืนกอดเอวเอาคางเกยไหล่แบคฮยอนไม่ยอมห่างมองอีกคนทำอาหารน่าตาน่าทาน แล้วก็ซุกหน้าลงที่ลาดไหล่เล็กอีกครั้ง
“กลัว..ชานยอล..ห..หิว..”แบคฮยอนเอ่ยเขาเหมือนคนติดอ่าง..คือความจริงก็ออกจะติดอ่างแต่มันจะเป็นหนักเวลากลัวหรือเขิน แต่ถ้าโดยปกติก็พูดได้ไม่ติดอะไรมากหมายถึงประโยคสั้นๆน่ะนะ
ซึ่งชานยอลรู้อยู่แล้วตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันแต่เขาว่ามันน่ารักดีแถมยังจับโกหกได้ง่ายด้วยรวมๆแล้วเขาชอบที่มันเป็นอย่างนั้น
“หรอ..ดีแล้วล่ะ”ชานยอลบอกกับตัวเองว่าเป็นอย่างนี้ดีแล้ว..ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนี้แหละดีแล้วจึงกระชับมือให้แน่นมากขึ้น
“ช..ชานยอล..ไม่..ไม่ถนัด”
“….เฮ้อ”ชายหนุ่มจึงตัดใจกดจูบที่แก้มใสแล้วกลับไปนั่งมอง ความจริงสภาพห้องของเขาก็ไม่ใช่จะแย่คือมันก็สะอาดเอี่ยมดีไม่มีคราบอะไรให้น่ามองแต่ข้าวของที่พังเสียหายก็ถูกยกออกไป มันเลยทำให้ห้องค่อนข้างโล่งอย่างโซฟาเปื้อนเลือดตอนนี้ทั้งบ้านเหลือเแต่โต๊ะทานอาหารเท่านั้น
เลยคิดว่าคืนนี้คงต้องไปหาโรงแรมนอนประทังไปก่อน..หลังจากมื้ออาหารนี้
“แบคฮยอน..”ชายหนุ่มเรียกจนอีกคนเงยหน้า
“..ค…ครับ”คนตัวเล็กเงยหน้ามองเห็นชายหนุ่มยิ้มให้เขาจึงยิ้มตอบ
“ฉันรักเธอ..”ชานยอลบอกรักออกมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเพียงแต่แบคฮยอนเองกลับยิ้มตอบ กลิ่นอาหารกำลังอบอวลและเสียงน้ำเดือดก็ดังคลอเบาๆ
บรรยากาศที่เรียกว่าความสงบสุขซินะ
“ฉันรักเธอมาก”ชานยอลย้ำอีกครั้งมองดวงตาสวยด้วยความรักทั้งหมดที่เขามี ว่าสิ่งที่เขาพูดมันจริงทุกคำ
“…ผม..รัก..คุณ..”แม้จะออกมาช้า แต่แบคฮยอนก็พยายามพูดไม่ให้ติดขัดเลยซักนิดบอกให้รู้ว่าเขาตั้งใจมากแค่ไหน
มันดีจริงๆ..ซินะ..ให้มันเป็นแบบนี้เรื่องของเราสองคนมันดีแล้วอย่างที่แบคฮยอนว่ามันเป็นแค่เรื่องของเราสองคนเท่านั้นก็พอ
ความร้อนจากไฟในตัวของฉันถูกดับด้วยสายน้ำของเธอ
ความพลุ่งพล่านของฉันถูกสะกดด้วยความสงบของเธอ
ความชั่วร้ายของฉันถูกชะล้างด้วยความรักของเธอ
เราเกิดมาเพื่อรักกัน..และอยู่ด้วยกัน
เพราะฉะนั้น..จากวันนี้ไปฉันขาดเธอไม่ได้เลยที่รัก..ฉันรักเธอ
**************************************************************************
THE END
ความคิดเห็น