ศิลปะ@อิยิปต์

เนื้อเรื่อง

ประวัติศิลปะอิยิปต์(Egypt Art)

           ลักษณะทั่วไป

              อียิปต์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา ทิศเหนือจดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทิศตะวันออกจดทะเลแดงทิศใต้จดซูดานและเอธิโอเปีย ทิศตะวันตกจดทะเลทรายซาฮาร่าและทะเลทรายลิเบียมีเนื้อที่ทั้งหมด10000ตารางไมล์มีแม่น้ำไนล์ยาว5000ไมลล์ไหลผ่านกลางประเทศ สภาพอากาศค่อนข้างร้อนและแห้งแล้งแต่อาศัยควาชุ่มชื่นจากแม่น้ำไนล์มาแทน

            มีกษัตริย์ปกครองเรียกว่าฟาโรห์ (PHARAOH) ปกครองพลเมืองทั้งหมดมี4ชั้นคือ

1.ชั้นสูง ได้แก่พวกนักบวชและขุนนาง

 2.ชั้นกลางได้แก่ พวกอาลักษณ์ พวกช่าง พวกพ่อค้าต่างๆ

3.ช้นต่ำได้แก่พวกชาวนา

4.ชั้นต่ำสุดได้แก่พวกทาส

            ในการศึกษาศิลปะอียิปต์ได้เริ่มต้นเมื่อราวปลายคริสต์ศตวรรษที่18 โดยราวปีค.ศ.1799 บูซาด์ นายทหารแห่งกองทัพนโปเลียนได้ยกทัพเข้ารุกรานอียิปต์ในการนี้ได้พบกรุสมบัติโดยบังเอิญบริเวณปากแม่น้ำไนล์พร้อพบศิลาจารึกชื่อหินโรเซตต้า ต่อมาในปีค.ศ.1822นักอักษรศาตร์และนักโบราณคดีได้ทำการแปลควาในศิลาจารึกสำเร็จทำให้ประวัติศิลปะของอียิปต์ได้เปิดกระจ่างขึ้นอักษรในศิลจารึกเป็นอักษรภาพไฮโดรกราฟฟิกและเดโมติกและอักษรกรีกโบราณนอกจากศิลาจารึกแล้วยังพบบันทึกในกระดาษปาปิรัสได้มีการลำดับเหตุการณ์เรื่องราวประวัติศาสตร์ของียิปต์ไว้อย่างชัดเจนนับว่าเป็นหลักฐานที่ความสมบูรณ์ที่สุด

        ศิลปกรรมอียิปต์

 งานศิลปะกรรมของียิปต์แบ่งเป็น5สมัยคือ

1.สมัยเริ่มราชวงศ์             Early Dynastic Period   3200-2780 B.C.

2.สมัยอาณาจักรเก่า         The Old Kingdom          3780-2250B.C.

3.สมัยอาณาจักรกลาง      The Middle Kingdom     2040-1786B.C.

4.สมัยอาณาจักรใหม่        The New Kingdom        1570-1085 B.C.

5.สมัยแห่งอาณาจักร        The Late Kingdom        715-332     B.C.

               ในแต่ละสมัยยังแบ่งออกเป็นราชวงศ์ต่างๆอีกมากกว่า25 ราชวงศ์ชาวอียิปต์มีความเชือว่ามนุษย์ประกอบด้วยร่างและวิญญาณเมื่อตายไปแล้ววิญญาณจะไม่ดับสูญจึงมีประเพณีการเก็บศพไว้ไให้เน่าเปลื่อยเพื่อรอวิญญาณกลับเข้ามาสู่ร่างศพนี้เรียกว่ามัมมี่ Mummy ในสัยแรกๆมัมมี่ทำเฉพาะกับองค์ฟาโรห์ต่อมาความเชื่อนี้ได้กลายเป็นความหวังของชาวอียิปต์ทุกคนจึงนิยมทำมัมมี่กันทั่วไป

            ลักษณะเด่นของศิลปกรรมอียิปต์

1.งานศิลปะกรรมมีลักษณะมั่นคงทืบตันคงทนถาวรเพื่อที่จะอยู่ได้นับพันปีเพื่อรอจนกรทั่งวันสิ้นโลกให้วิญญาณและร่างกายกลับมาเกิดใหม่

2.งานศิลปะมีลักษณะรูปทรงง่ายๆแต่หนักแน่นศิลปะกรรมประเภทที่ประดับประดาตกแต่งก็มีมากตามความต้องการของฟาโรห์

           สถาปัตยกรรม

              อิยิปต์มีความชำนาญในการก่อสร้างเหนือกว่าชนชาติใดๆในยุคเดียวกันโดยสิ่งที่สร้างมีจุดมุ่งหมายแบ่งออกได้เป็น2ลักษณะคือ

1.สร้างที่เก็บศพ (Tomb) วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างจะเป็นหินเกือบทั้งหมดที่เก็บศพแบ่งออกเป็น2แบบคือ

              --มาสตาบา (Mastaba)

เป็นที่เก็บศพแบบปิดตายใช้สำหรับขุนนาง หรือผู้ที่ร่ำรวย มีรูปร่างคล้ายกล่องสี่เหลี่ยม มองดูคล้ายม้าหิน สำหรับนั่ง

              --พีรามิด(pyramid)

มีลักษณะฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมยอดแหลมขึ้นไปบรรจบกัน เมื่อมองด้านข้างจะเป็นรูปสามเหลี่ยม พีรามิด วิวัฒนาการมาจากมาสตาบา พีรามิดใช้ฝังศพฟาโรห์

              --สุสานสกัดหินผา(Rock Cut Tumb)

เป็นลักษณะที่ฝังศพแบบเจาะหินหรือดินเป็นอุโมงค์มีความลึกเข้าไป ใช้ฝังศพฟาโรห์มักเรียกบริเวณนี้ว่าหุบเขากษัตริย์ (Valey of Kings)ในการร้างแบบนี้จะใช้แรงงานและทุนทรัพย์น้อยกว่าสร้างพีรามิดมากแต่มีลักษณะคล้ายพีามิดจึงนืยมสร้างกัน