[SF - EXO] Nice Guy - HunHan (hint of KrisLay) - [SF - EXO] Nice Guy - HunHan (hint of KrisLay) นิยาย [SF - EXO] Nice Guy - HunHan (hint of KrisLay) : Dek-D.com - Writer

    [SF - EXO] Nice Guy - HunHan (hint of KrisLay)

    ก็ถ้าพี่ลู่หานชอบผู้ชายแบดบอยเหมือนในซีรีย์.. เซฮุนก็จะลองทำดูฮะ - -

    ผู้เข้าชมรวม

    4,687

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    4.68K

    ความคิดเห็น


    34

    คนติดตาม


    48
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 ม.ค. 56 / 20:48 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

     

    NICE GUY

     

    Title        NICE  GUY

    Couple    Sehun x Luhan 

    Author    วคล. WithKrisLay



























    THE★FARRY
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      NICE GUY

       

      Title        NICE  GUY

      Couple    Sehun x Luhan (Hint of KrisLay)

      Author    วคล. WithKrisLay

       

       

       

       

       

       

       

       

       




       

       

                “พี่ทำไมรับโทรศัพท์ช้าล่ะฮะ?”  เซฮุนกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ยกไว้แนบหู พยายามต่อสายแฟนรุ่นพี่อยู่เป็นนานสองนานแล้วกระทั่งปลายสายกดรับ

                  “ขอโทษทีนะฮุนพี่ไม่ได้ยินอ่ะ ดูซี่รีย์อยู่~

                  “อีกแล้วเหรอฮะ” ตอบเสียงเรียบผิดกับอีกฝั่งที่น้ำเสียงร่าเริงเห็นได้ชัด คงเพราะตลอดสี่ห้าเดือนที่คบกันมาเขาไม่ค่อยแสดงอารมณ์อะไรซักเท่าไหร่ ลู่หานถึงฟังไม่ออกว่าเขากำลังเคืองนิดๆแล้ว

                  “ฮุนมีอะไรหรือเปล่า?”

                  “ที่พี่ชวนผมไปซื้อรองเท้าผ้าใบใหม่น่ะฮะ ..”

                  “อ๋า...”

                  “ผมนึกว่าพี่อยากได้รองเท้ามากซะอีก เห็นชวนตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อน”

                  “อืมก็อยากได้....แต่ว่าตอนนี้ซีรีย์กำลังมันส์เลยเซฮุนอ่า พระเอกแบดบอยสุดๆเวลามองนางเอกด้วยสายตาเย็นชานะ หืมมมมแบ้ดมากกก นางเอกกำลังสับสนเลยว่าตัวเองรักพระเอกหรือเปล่า เมื่อคืนดูจนถึงตีสามแน่ะ”

                  “เหรอครับ...”

                  “อืม สนุกมากเลย”

                  “พักสายตาบ้างนะฮะ อย่าดูจนดึกดื่น”

                  “รู้แล้วๆ แค่นี้นะฮุน”

                 

      โอเซฮุนลดโทรศัพท์ลงจากข้างหู มองหน้าจอที่บอกว่าสายถูกตัดไปแล้วจากอีกฝั่งแล้วถอนหายใจ วันนี้วันเสาร์ พวกเขาควรจะได้ใช้เวลาด้วยกันไม่ใช่หรือไง ใช่ว่าเขาเป็นคนติดแฟนอะไรนักหนาแต่นี่ลู่หานติดซีรีย์งอมแงมจนแทบตัดขาดโลกภายนอก ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่โดนเมิน กับเพื่อนๆ พักนี้ลู่หานก็แทบไม่ได้สุงสิงด้วยเลย

      ถ้าทำได้เซฮุนคงไปตั๊นหน้าไอ้คุณอู๋ฟานอะไรในซีรีย์นั่นซักที

       

      .

      .

      .

      .

      ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

       

       

       

      “เฮ้ยลู่ทำไมตาเมิงบวมงั้นอ่ะ เมื่อคืนนอนกี่โมงวะ อ่านหนังสือดึกเหรอเมิง”  เสียงทุ้มของคริสถามขึ้นมาหลังจากเพิ่งสังเกตเห็นหน้าตาง่วงๆของเพื่อน

      “อ่านหนังสือบ้านเมิง มันติดซีรีย์” น้ำเสียงติดรำคาญของเลย์ เพื่อนอีกคนที่นั่งร่วมโต๊ะหินอ่อนหน้าคณะสวนขึ้นทันทีที่คริสถามจบ อย่าให้พูดเลย เพราะลู่หานมันรู้ว่าอย่างคริสให้ชวนยังไงก็ไม่ดูซีรีย์เป็นเพื่อน ยิ่งเซฮุนแฟนเด็กของมันยิ่งแล้วใหญ่ รายนั้นน่ะไม่สนใจอะไรพวกนี้เลยซักนิด แล้วเป็นไง คนโดนชวนยิกๆๆนี่ นั่งอยู่ตรงนี้ วันๆได้ยินแต่เรื่องคุณอู๋ฟานๆ แบดบอย แบดบอยยยยอะไรของมันทั้งวัน มาอยู่เกาหลีก็ยังจะติดซีรีย์จีน เจริญเหอะ

      “กูถามเมิงป่ะ?”

      “คริส..”

      “เฮ้ยพวกเมิงอย่าทะเลาะก๊านนน” 

       

      ลู่หาน เลย์และคริสเป็นนักศึกษาทุนปี3 จากประเทศจีนที่ได้ทุนมาศึกษาในมหาวิทยาลัยภาษาแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลีเป็นเวลา1ปี  เพราะว่าเป็นนักศึกษาชาติเดียวกันทั้งสามคนจึงเกาะกลุ่มกันเองมากเป็นพิเศษ อ่อ .. มีโอเซฮุน เด็กรุ่นน้องอีกคนนั่นแหละที่มาแฮงค์เอาท์ด้วยกันตลอด เลย์กับคริสก็สงสัยอยู่หรอกว่าเด็กนี่ไม่มีเพื่อนหรือไง แต่ก็ช่างเถอะ พวกเขาทุกคนเข้ากันได้ดีก็พอแล้ว

       

      “เลย์ ... เมื่อคืนสนุกมากเลยเมิง กูดูไปสามสี่ตอนแต่มันดึกแล้ววันนี้มีเรียนเช้ากูเลยต้องตัดใจนอนเนี่ย”

      “เมิงใช้คำว่าตัดใจนอนเลยเหรอ.. ซีรีย์เมิงมีกี่ตอนเนี่ย”

      “สามสิบสี่”

      “ตอนนึงยาวเท่าไหร่”

      “ห้าสิบนาที ... เมิงอย่าถามไร้สาระดิเมิงฟังกูก่อน เนี่ยกูดูถึงตอนที่คุณอู๋ฟานขับรถพานางเอกไปทะเลเว่ย คือกูว่าคุณอู๋ฟานแมร่งเริ่มชอบนางเอกละ คือกูชอบมากอ่ะเวลาคุณอู๋ฟานใจดี คือก็ไม่เชิงอ่ะ แค่ไม่ดุนางเอกกูก็ว่าดีแล้วแหละ”

      “เท่าที่เมิงเล่าให้ฟังมาตลอดนี่กูยังไม่เคยเห็นคุณอู๋เมิงจะดียังไงเลยเนี่ย นางเอกโง่ป่าววะ ชอบไปได้ไง”  เลย์บ่นพร้อมขมวดคิ้วยุ่ง ทำไมหมอนี่ถึงเป็นพระเอกได้ก็ไม่รู้ ความดีไม่เห็นจะมี คริสที่นั่งฟังอยู่ก็พยักหน้าเห็นด้วยเบาๆ ขนาดไม่ค่อยใส่ใจฟังยังรู้เรื่องเลย

      “เฮ้ย นางเอกอ่ะแอบชอบคุณอู๋ฟานมาตั้งแต่เด็ก มันเป็นความทรงจำดีๆสมัยเด็กอ่ะ อิคุณอู๋ฟานนี่จำนางเอกไม่ได้หรอก”

      “แล้วทำไมเมิงต้องเรียกคุณอู๋ฟานวะ เมิงเคารพเค้าขนาดนั้นเลย?”

      “อี้ชิงเรียกกูก็เรียกตามอ่ะ นางเรียกคุณอู๋ฟาน คุณอู๋ฟาน”

      “ใครอีกอ่ะ?”

      “นางเอกกกกก นางเอกชื่ออี้ชิงกูเคยบอกเมิงแล้วนี่”

      “กูจำไม่ได้หรอก ... อ้าวเซฮุน”  เลย์ย้ายมานั่งเก้าอี้ยาวตัวเดียวกันกับคริสเพื่อให้เซฮุนมานั่งแทนที่ รุ่นน้องคนสนิทของเพื่อนคงเพิ่งเลิกเรียน ว่ากันตามจริงนอกจากตารางเรียนตัวเองเลย์ก็เกือบจำเวลาว่างของเซฮุนได้แล้วนะเนี่ย

      “แป๊บนะฮุน”  ลู่หานยิ้มให้คนรักแล้วหันมาคุยกับเลย์ต่อ สายตานิ่งเฉยของเด็กหนุ่มรุ่นน้องที่ทอดมองไปที่เพื่อนของเขาทำให้คริสอึดอัดใจอย่างประหลาด เขากับเลย์ยังเคยคุยกันถึงเรื่องนี้ แค่ไม่ถึงสองอาทิตย์ที่ลู่หานติดซี่รีย์แต่พวกเขาก็รู้สึกถึงความห่างได้ไม่ยาก แล้วเซฮุนที่เป็นแฟนกันล่ะ เวลาคุยกัน เวลาเจอกันในแต่ละวันที่น้อยอยู่แล้วน่ะ ต้องโดนไอ้อู๋ฟานนี่แย่งไปอีกเหรอ หล่อขนาดไหนวะเนี่ย

       

      “อะไรวะ ทิ้งข้างทางเลยเหรอ?”

      “เอ้อ ฝนตกด้วย จอดรถแล้วไล่ลงตรงนั้นแล้วเลี้ยวรถกลับเลย เลวปะล่ะ แต่ว่ามีอีกฉากนึงกูชอบมาก คุณอู๋ฟานนะ .....”

                 

      เซฮุนเอาแต่นั่งจ้องคนรักนิ่งๆไม่พูดไม่จา ลู่หานที่สวยงาม ดวงตากลมตาเป็นประกาย ใบหน้าด้านข้างทำให้เห็นแพขนตอนงอนยาว จมูกเล็กๆโด่งรั้นชัดเจน ริมฝีที่เอื้อนเอ่ยยกยิ้มอยู่ตลอดเวลา ...คงมีความสุขมากสินะครับ ... ถึงไม่มีผมพี่ก็คงไม่เป็นไร

       

                  “ฮุน ... เซฮุน”

                  “ฮะ!”  เจ้าของชื่อสะดุ้งนิดๆตอนที่โดนมือใหญ่ตบบ่า

                  “ลู่มันเล่าถึงไหนแล้ว”

                  “ไม่รู้ฮะ ผมไม่ได้ฟัง” คริสหัวเราะ เขาเห็นว่ารุ่นน้องนั่งจ้องลู่หานมาตั้งนานแล้ว ไม่ได้ฟังงั้นก็แปลว่าคงคิดอะไรอยู่แน่ๆ

                  “ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกันใช่มั๊ย”  คนถูกถามพยักหน้าแทนคำตอบ ปกติเซฮุนก็เป็นเด็กนิ่งๆหรอกแต่เห็นแบบนี้ก็ไม่สบายใจเลย

                  “เอางี้...”  คริสกระดิกนิ้วตรงหน้าหนึ่งทีเซฮุนก็เอียงหูเข้าไปใกล้ๆอย่างทีรุ่นพี่ต้องการ

                  “จะดีเหรอฮะ..ผมทำไม่ได้หรอก” กระซิบกลับ

                  “เชื่อเฮีย”

       

       

       

       

       

       

       

        

                  “....นางเอกยืนสะอื้นแบบน่าสงสารมากอ่ะตอนโดนปาเสื้อใส่ แล้วคุณอู๋ฟานก็เดินผ่านไปเลย อย่างหล่ออ่ะเมิง ...”

                  “ลู่ เลย์ !”  

                  “หือ?”

                  “อาทิตย์นี้ไปเที่ยวกัน สี่คนเลย”

                  “อืมไปสิ ไปๆ วันนี้วันอังคาร .... พุธ พฤหัส ... เออจะไปวันไหน?” ลู่หานก้มนับนิ้วมือก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามคริสตอนที่นึกอะไรบางอย่างออก

                  “วันเสาร์”

                  “ไหนเมื่อกี้เมิงบอกอาทิตย์นี้ไปเที่ยว เสาร์หรืออาทิตย์เมิงเอาดีๆ” ถ้าไม่ได้เล่นมุขนี้เลย์คงคันตายเลย

                  “เดี้ยะเมิง”

                  “ทำไม??”

                  “พวกเมิงนี่  เลย์เมิงก็อย่ากวนคริสมัน”

                  “ทีมันกวนกูเมิงไม่เห็นห้าม”

                  “มันกวนเมิงตอนไหน?”

                  “ตอนเมิงไม่อยู่อ่ะ มันกวนกูตลอดเลยเมิงไม่เห็น!

                  “เออ ก็แล้วจะให้ห้ามยังไงก็มันกวนเมิงตอนกูไม่อยู่” ลู่หานเกือบจะขำ ติดก็แต่หน้าตาซีเรียสของเพื่อนที่โวยวายอยู่ ขืนขำออกไปคงได้โดนฟาด “ช่างพวกเมิงเหอะ ถ้าไปวันเสาร์ วันนี้อังคาร พุธ พฤหัส ... ก่อนวันศุกร์กูคงดูจบแล้วล่ะ”

       

       

                  .

                  .

                  ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

       

       

       

       

                  เซฮุนไม่รับสายเลยทั้งที่โทรหาเป็นสิบๆครั้ง .... ลู่หานมองตัวเลขบนหน้าจอโทรศัพท์ที่บอกเวลาเที่ยงคืนกว่า เซฮุนยังไม่นอนหรอก จะว่าเข้าห้องน้ำก็ไม่ใช่เพราะเพียรโทรอยู่เป็นชั่วโมงถ้าอาบน้ำก็ต้องออกมาแล้ว แบตฯหมดก็ไม่ใช่ ลืมโทรศัพท์ไว้ที่ไหน...ก็คงไม่ใช่ เซฮุนน่ะติดโทรศัพท์จะตายไปเพราะต้องคอยติดต่อกับเขา ....

                  ลู่หานถอนหายใจแรงๆหนึ่งครั้ง เขาเช็คดูแล้วไม่มีข้อความ ไม่มีการติดต่อใดๆจากเซฮุนเลยแม้กระทั่งโซเชียลเน็ตเวิร์คทุกทาง จะว่าไปเขาก็เพิ่งรู้สึกว่าพักนี้ไม่ค่อยได้คุยกับรุ่นน้องคนสนิทเท่าไหร่นอกจากเจอกันที่มหาวิทยาลัยวันละไม่กี่สิบนาที

       

                  เท้าเล็กก้าวผ่านห้องของเลย์ที่อยู่ตรงกลางระหว่างห้องของเขากับคริสในหอพักเพราะรู้ว่าเลย์คงหลับแล้ว และมาหยุดที่หน้าห้องของคริสแต่ที่สุดก็ตัดสินใจหมุนตัวกลับ บางทีเรื่องแบบนี้เพื่อนอาจลำบากใจที่จะฟังก็ได้ เขาไม่อยากทำให้คนอื่นต้องคิดมากไปด้วย

                 

                  .

                  .

       

       

                  .

                  วันเสาร์ลู่หาน เลย์ คริสนัดเจอกับเซฮุนที่สวนสนุก คริสเป็นคนชวนก็จริงแต่ไอเดียมาสวนสนุกนี่ลู่หานเป็นคนคิด ใครมันเป็นคนบอกวะว่ามาเที่ยวกับแฟนต้องไปสวนสนุก เมิงชวนกันไปสวนสัตว์ ฟาร์มถั่วงอกหรือพิพิธภัณฑ์หอยทะเลอะไรบ้างก็ไม่มีใครว่าผิดหรอกมั้ง

                  “เสื้อตัวนี้สวยมั๊ย พี่ซื้อมาซักพักแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสใส่เลยใส่มาวันนี้น่ะ นายชอบหรือเปล่า” ลู่หานถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเป็นคำถามแรกทันทีที่เซฮุนมาถึง เมื่อคืนหลังจากเดินกลับจากหน้าห้องคริสกว่าจะได้นอนก็ราวตีสอง มัวแต่ตื่นเต้นเลือกเสื้อผ้า มันก็เหมือนเดทอยู่นะมาเที่ยวแบบนี้ ..

                  “ใส่อะไรก็เหมือนกันแหละฮะ”

                  “........... “

      “............”

      “อือ .....นั่นสินะ มันก็คล้ายๆตัวเก่าๆที่เคยมี”  เสียงหวานพูดเบาๆ ก้มหน้ามองฮู้ดดี้สีสวยที่เข้ารอบชนะชุดทุกชุดที่ลองสวมดูเมื่อคืนนี้ ก็คงเป็นอย่างงั้นมั้ง คงเหมือนๆกัน “ฮิ  มาเที่ยวกันแบบเนี้ยเหมือนดับเบิ้ลเดทเลยเนอะ ^^

                  “พรวดดด! แค่กๆ ๆ ลู่เมิงพูดอะไรเนี่ย”  เลย์สำลักน้ำค่อกแค่ก ใช้หลังมือเช็ดปากลวกๆแล้วแว้ดใส่ลู่หาน

                  “อ้าวเมิงใจเย็น ถึงกับสำลักน้ำเนี่ยเมิงคิดอะไรกับกูป่าว”

                  “บ้านเมิงคริส”

                  “บ้านกูอยู่กวางโจว เมิงไม่ต้องเขินหรอก เขินหน้าแดงเลยเมิงเนี่ย”

                  “เขินบ้านม๊าเมิง น้ำเข้าจมูกกูเนี่ย แค่กๆ”

                  “บ้านม๊ากูอยู่หนานจิง กูไม่เคยบอกใครนะเนี่ยแต่ถ้าเมิงอยากไปไหว้ม๊ากูล่ะก็นะ..อ้าวเฮ้ย”

      “เร็ว!

      ยังไม่ทันพูดจบเลย์ก็คว้าข้อมือเพื่อนตัวสูงให้รีบวิ่งไปทางที่เซฮุนกับลู่หานเดินนำไปก่อนแล้ว เถียงกันแป๊บเดียวสองคนนั้นเดินกันไปซะไกล จะรีบไปไหน

                  .

                 
                  .

       

                  .

                             

                  .

       

       

       

                  “ไปซื้อไอศกรีมกันเหอะเซฮุน” ลู่หานยิ้มจนตาปิด ดึงแขนรุ่นน้องมาทางซุ้มขายไอศกรีม วันนี้อากาศค่อนข้างเย็นแต่ก็มีแดด มาสวนสนุกกับแฟนน่ะยังไงก็ต้องไอศกรีมใช่มั๊ยล่ะ

                  “พี่ไปเถอะผมไม่อยากกิน”

                  “นะ มาเถอะ”

                 

                  สุดท้ายหนุ่มๆทั้งสี่ก็มีไอศกรีมรสชาติต่างๆกันในมือคนละโคนจนได้ ...

       

                  “ฮุนดูนู่นสิ ม้าหมุนล่ะ เล่นมั๊ยๆ” มือเล็กกระตุกเสื้อรุ่นน้องอย่างตื่นเต้น ถึงจะมีแต่เด็กๆที่เล่นอยู่แต่จะเป็นอะไรไปล่ะ มันไม่ตลกหรอก

                  “จมูกพี่เปื้อน” ก้มมองเสื้อที่โดนกระตุกก่อนจะเงยหน้ามองคนแก่กว่าที่ตอนนี้ทำตัวยุกยิกๆซะยิ่งกว่าเด็กๆ แล้วก็ต้องส่ายหน้าเอือมๆ กินยังไงให้ไอศกรีมมันติดอยู่ตรงปลายจมูกได้ คิดว่าตัวเองอายุเท่าไหร่

                  เซฮุนชะงักมือที่ถือทิชชู่จะเช็ดรอยเปื้อนให้ลู่หานที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วยัดกระดาษสีขาวใส่มืออีกคนแทน

                  “เช็ดซะ ทำตัวเป็นเด็กไปได้”   ลู่หานยกกระดาษขึ้นเช็ดจมูกตัวเอง เซฮุนทำตัวแปลกๆมาตั้งหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าโกรธเรื่องอะไรหรือเปล่า เขาพยายามทำตัวร่าเริง เอาใจสารพัดแต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรดีขึ้นเลย เซฮุนเป็นคนเฉยๆแต่ไม่ได้เย็นชา เขาเป็นเด็กจิตใจดีเรื่องนี้คริสกับเลย์ก็รู้ แต่ทำไม...

                  “พี่บอกอยากนั่งชิงช้าสวรรค์ไม่ใช่เหรอ?”

                  “เอ๊ะ? แต่...นั่งตอนกลางคืนไม่ดีกว่าเหรอ?”  ลู่หานเอียงคอสงสัย เขาพูดว่าอยากขึ้นจริงๆ นานมาแล้วแต่บอกว่าอยากนั่งบนชิงช้าสวรรค์ตอนกลางคืนแบบโรแมนติกต่างหาก

                  “ตอนนี้แหละคนรอคิวไม่เยอะ”

                  “งั้นเหรอ อื้ม! ไปสิ” พยักหน้าหนักๆหนึ่งครั้งแล้ววิ่งตามคนรักที่เดินล้วงกระเป๋ากางเกงนำไปก่อนแล้ว ตอนไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละถ้าขึ้นสองคนกับเซฮุนน่ะ

       

       

                  “นี่กูต้องขึ้นด้วยมั๊ย?” คริสมองตามเพื่อนกับแฟนรุ่นน้อง ไม่เห็นจะอยากขึ้น เป็นรถไฟเหาะก็ว่าไปอย่าง ตอนม้าหมุนก็ทีนึงละ เกิดเด็กเซฮุนมันบ้าจี้ตามไปเล่นด้วยนี่ .. อ่อมส์

                  “ไม่ขึ้นเมิงก็รอข้างล่าง”

                  “แล้วเมิงจะขึ้นคนเดียวเหรอ?”

                  “เออ กูต้องตามไปส่อง”

                  “เผือก..”

                  “เมิงว่าใครเผือก? พูดดีๆนะ” เลย์หันมาทำตาโตใส่คนตัวสูงกว่า นี่หาว่าเขาเป็นคนสอดรู้สอดเห็นเหรอ ใช่ที่ไหน นี่มันความเป็นไปของเพื่อนทั้งคนนะ ดูก็รู้ว่าเหตุการณ์ไม่ปกติ เขาก็แค่เป็นห่วง..

                  “เปล๊าาา กูบอกว่าเมิงนี่ผิวขาวมากเลย เหมือนเด็กเผือก ฮึ”

                  “แล้วไป  เฮ้ยเดี๋ยว คริสเมิงกลับมาก่อนนน”

       

                  ,

                  ,

                  ,

                  ,

                  ,

                  ตลอดเวลาที่อยู่บนชิงช้าสวรรค์เซฮุนเอาแต่เงียบมองออกไปด้านนอก ..  ลู่หานไม่คิดว่าการนั่งอยู่กันลำพังแค่สองคนจะทำให้อึดอัดได้มากขนาดนี้ แค่ระยะเวลาไม่เกินสิบนาทีแต่รู้สึกเหมือนยาวนานนับชั่วโมง

       

                  เซฮุน ... อยู่กับพี่ นายลำบากใจขนาดนั้นเลยหรือไงนะ ....

                  .....

                  ...

                  ..

                 

       

                  จู่ๆฝนก็ตกกระหน่ำลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ท้องฟ้าที่กำลังมืดลงยิ่งมืดกว่าที่ควรจะเป็น เซฮุนที่เดินนำหน้าหันกลับมาคว้าข้อมือบางแล้วจูงกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปใต้ต้นไม้ ลมพัดรุนแรง ที่ควรจะบังฝนได้ร่มไม้กลับยิ่งดูเหมือนทำให้เปียกมากขึ้นเสียอย่างนั้น

                  ลู่หานยกแขนขึ้นกอดตัวเอง ฟันกระทบกัน ปากสั่นอย่างห้ามไม่ได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนอย่างน้อยเขาคงกล้ากอดแขนคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ทั้งหนาวทั้งเหงาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน รู้สึกโดดเดี่ยวจนเริ่มกลัว คงเพราะฝนที่ตกหนักล่ะมั้ง

       

                  ถ้าบอกได้ ลู่หานคงขอร้องให้ฝนหยุดทำร้ายเขาเสียที ...

       

       

                  “ลู่ !! เมิงงงง อยู่กันตรงนี้เองพวกกูหาตั้งนาน!!

                  “....”  ลู่หานโผเข้ากอดเลย์ทันทีที่เพื่อนทั้งสองคนวิ่งเข้ามาอยู่ใต้ร่มต้นไม้ใหญ่ด้วยกัน เลย์กับคริสลงมาจากชิงช้าสวรรค์ทีหลังแค่ไม่กี่นาทีแต่ก็ตามหาทั้งสองคนไม่เจอ โทรศัพท์ลู่หานก็โทรไปไม่ติด โทรหาเซฮุนก็ไม่รับสาย พอฝนตกจะโทรอีกทีก็ไม่กล้าเดี๋ยวฟ้าจะผ่าเอา

                  “โอ๋ หนาวเหรอเมิง กอดกูๆ”  ลู่หานซุกตัวนิ่งไม่เงยหน้าขึ้นมา เลย์กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นเมื่อรู้สึกว่าเพื่อนตัวสั่น ลู่หานน่ะกลัวเสียงฟ้าร้องจะตายไป

       

       

                   

       

                  “กลับกันเถอะครับ ผมเอารถมาเดี๋ยวจะไปส่งที่หอ”  เซฮุนเดินไม่ช้าไม่เร็วฝ่าสายฝนออกไปโดยที่เลย์ผลักลู่หานให้วิ่งตามไปแล้วตัวเองตามหลังเพื่อนอีกทีโดยมีคริสรั้งท้าย

                 

                  ขายาวของเซฮุนหยุดก้าว สายตาที่ยังคงเรียบเฉยหันมองลู่หานที่วิ่งตามหลังจนคนตัวเล็กกว่าวิ่งตามมาทัน มือเล็กที่เริ่มซีดเพราะเปียกฝนเอื้อมไปข้างหน้าเพื่อจะจับมือกับคนรักตามความเคยชิน แม้ปากจะบ่นงึมงำว่าลู่หานเดินช้าหรือชอบเดินมองข้างทางจนเดินป่ายซ้ายป่ายขวา เซฮุนมักจะจับมือเค้าเสมอ ไม่ใช่แค่เฉพาะเวลาข้ามถนน นั่นทำให้ลู่หานรู้สึกปลอดภัย เซฮุนทำให้รู้สึกว่าเขาไว้ใจใครซักคนได้ในที่ที่ไม่ใช่บ้าน

       

                  ปลายนิ้วเล็กสัมผัสมือของเซฮุนเพียงแผ่วเบา เซฮุนไม่ได้รอเขา

       

                  แขนข้างที่เอื้อมออกไปข้างหน้าทิ้งลงข้างลำตัว ลู่หานยืนนิ่งปล่อยให้ฝนเม็ดใหญ่ตกกระทบ มองแผ่นหลังของคนรักที่ห่างออกไปเรื่อยๆ

       

       

                  .

                  .

                 

                  “โอ๊ย” คริสคว้าแขนเลย์ที่ลื่นบนพื้นนองน้ำฝนจนเกือบล้มเอาไว้ได้ทัน

                  “เลย์เมิง นี่เมิงไขข้อเสื่อมหรือรองเท้าเมิงไม่มีดอกยางเนี่ยห๊ะ วิ่งยังไง ล้มหัวฟาดไปนี่กูไม่แบก..”

                  “คริส...”  เลย์สะกิดคนขี้บ่นให้มองเพื่อน ลู่หานหยุดอยู่ข้างหน้าไม่ไกลนัก ศีรษะที่ผมเปียกน้ำก้มต่ำ สองมือยกขึ้นปิดใบหน้า ไหล่บางไหวน้อยๆ

       

      ร้องไห้อยู่ใช่มั๊ยเมิง.....

       

                 

       

       

       

                  ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

       

       

       

       

       

                  “หยุดร้องไห้ได้แล้วเมิง เดี๋ยวเมิงอาบน้ำแล้วกินยานอนนะ กูจะไปด่าไอ้คริสให้ มาชวนเที่ยวไม่รู้เวลา”   มือสวยเช็ดผมให้เพื่อนไม่แรงนัก เลย์มาส่งลู่หานที่ห้อง ขืนไม่มาดูให้เห็นกับตาเดี๋ยวกลับเข้าห้องมานั่งร้องไห้ทั้งตัวเปียกๆก็ป่วยตายกันพอดี

                  “ไม่ใช่ความผิดคริสมันหรอก มันเรื่องของฉันกับฮุน จะช้าจะเร็วถ้าฮุนจะเลิกกับฉัน .. ฮึก ยังไงก็คงต้องเลิกอยู่ดี”

       

                  ลู่หานเคยบอกเซฮุนไปตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาอยู่ที่เกาหลีแค่ปีเดียว ถ้าคบกันยังไงก็ต้องห่างกันไปในที่สุด ลู่หานเองไม่ได้ว่าอะไรแต่เซฮุนยังไงเด็กเขาไม่อยากให้มายึดติดกับเขา กลัวว่าถ้าต้องเลิกกันไปจริงๆไม่ใครก็ใครคงได้เสียใจกันบ้าง

       

                  ก๊อกก๊อก ,,

                  เคาะสองทีเร็วๆแบบนี้มีแต่คริส ... เลย์เดินมาเปิดประตู

                  “เมิงอยู่ด้วยเหรอเนี่ย?”

                  “ไม่มั้ง เมิงเห็นกูมั๊ยล่ะ?”

                  “เมิงออกมานี่ก่อน” มือใหญ่คว้าข้อศอกเพื่อนตัวเล็ก ดึงออกมาพ้นห้องของลู่หานแล้วปิดประตูลง คนถูกดึงกำลังจะโวยวายแต่พอเห็นว่าใครที่มากับคริสก็เลือกที่จะเงียบแล้วเดินตามคริสกลับไปที่ห้องของเขาเอง ว่าแต่ไอ้คริสจะเข้ามาในห้องเขาทำไมเนี่ย

       

                  “เมิงยืนตรงนั้นก่อนอย่าเพิ่งเข้ามา  มันเปียก”  โยนผ้าขนหนูผืนหนึ่งคลุมหัวเพื่อนตัวสูง ที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องด้านใน

      “รถฮุนมันเปียกทั้งคันน้องมันไม่เห็นว่าเลย เมิงก็จะอะไรนักหนา”

       “เช็ดซะอย่ามัวแต่พูด” เลย์เดินหลบไปที่มุมนึงของห้อง ถอดเสื้อชื้นน้ำออกทางศีรษะ หยิบเสื้อยืดในตู้มาสวมแล้วเดินออกมาคุยกับคริสตรงประตู “เมื่อกี้เมิงคุยอะไรกับน้อง?”

       

                  ตอนกลับเซฮุนขอให้คริสนั่งข้างหน้าข้างคนขับ บอกว่าคริสจะได้ช่วยดูทางซึ่งนั่นก็ดีเพราะลู่หานก็เอาแต่ซบไหล่เลย์อยู่ด้านหลังของรถ ตอนที่ถึงหอคริสเลยขอให้เลย์พาลู่หานขึ้นห้องไปก่อนแต่ไม่ได้บอกว่าจะทำอะไร

      “บอกให้น้องมันขึ้นมาคุยกับลู่”

                  .

                  .

                  .

                  .

                  .

       

                 

       

       

       

      “กูกำลังจะอาบ .. ฮุน” เจ้าของห้องชะงักเปิดประตูค้าง เป็นเซฮุนที่ยืนอยู่หน้าห้องไม่ใช่เลย์อย่างที่คิด ลู่หานก้มหน้าลงเล็กน้อยเขาไม่อยากให้คนตรงหน้าเห็นว่าตาเขาบวมมากขนาดไหน

      “ผม ...”

      “...........”

      “ผม .. “

      “ถ้ารักฉันแล้วมันเหนื่อย ... นายจะหยุดก็ได้นะ ขอโทษที่ทำให้นายลำบากใจฉันมันงี่เง่าเอง ทำตัวเป็นเด็กๆตลอด ขี้แยอีกต่างหาก นายคงรำคา.. อ๊ะ”

      “ผมขอโทษนะ”  เด็กรุ่นน้องดึงตัวคนรักเข้ามาในอ้อมกอด มันอาจจะดูแปลกๆที่มายืนกอดกันหน้าห้อง ไหนจะสัมผัสประหลาดๆของเสื้อผ้าชื้นน้ำฝนนี่อีกแต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้สนใจ มือขาวกดศีรษะเล็กที่ซบอยู่กับไหล่เบามือ

      “ฮึก ...ฮือออ เซฮุนน่า.. ฮึก”

                  “พี่ร้องไห้ทำไมฮะ” คนเป็นน้องตกใจไม่น้อยที่คนรักร้องไห้ ความจริงลู่หานก็เอาแต่ใจหรอก แต่ก็ไม่ได้ขี้แยอย่างที่เจ้าตัวว่า .... ยกเว้นตอนดูซีรี่ย์นะ

                  “ก็พี่ไม่อยากเลิกกับนาย ฮืออออ T ^ T

                  “ใครบอกว่าผมจะเลิกกับพี่”  คนน้องจับเข้าที่ไหล่ทั้งสองข้างของคนเป็นพี่ พยายามจะดึงออกมาจากอกเพื่อที่จะคุยกันแต่ลู่หานกอดเอวเขาเอาไว้แน่น

                  “ก็ฮุนเย็นชาใส่พี่”

                  “ผมไม่ได้เย็นชานะฮะ ผมแค่พยายามจะเป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้ชายอย่างที่พี่ชอบไง” คราวนี้เป็นลู่หานซะเองที่ผละจากอกรุ่นน้อง ถอยหลังก้าวนึงเพื่อจะมองหน้าอีกฝ่ายให้ถนัด

                  “เป็นแบบที่พี่ชอบเหรอ?”

                  “ตอนไอศกรีมเปื้อนจมูกพี่ผมอยากจะเช็ดให้ ตอนเล่นเครื่องเล่นแล้วตัวพี่เปียกผมก็อยากเช็ดให้ ตอนฝนตกผมก็อยากจะกอดพี่ อยากจูงมือพี่ข้ามถนน ตอนขึ้นชิงช้าสวรรค์ก็อยากคุยกัน อยากขึ้นมาส่งที่ห้อง ผมน่ะ..”

                  “แล้วทำแบบนี้ทำไม? ฮึก ฮืออออ”  พูดแล้วก็เศร้าชะมัดเล้ย

                  “พี่อย่าร้องสิฮะ ก็ผมนึกว่าพี่ชอบแบดบอยนี่นา”

                  “ห้ะ???  ใครบอก?”

       

                  .

                  .

                  .

                  .

                  .

                  .

       

                  “เมิงบอกน้องอย่างงั้นเหรอคริส???”

                  “อือ  กูก็ไม่คิดว่าน้องมันจะทำขนาดนี้”

                  “นี่น้องมันแอคติ้งเก่งนะเนี่ย ฮ่าๆๆ”  คริสมันก็บ้า มีอย่างที่ไหนไปบอกว่าเดี๋ยวนี้ใครๆเค้าก็ชอบแบดบอยกันทั้งนั้น ผู้ชายดีๆเค้าไม่สนใจกันแล้ว ให้เซฮุนแกล้งเย็นชาใส่ลู่หานแบบที่ไอ้คุณอู๋ฟานพระเอกซีรีย์บ้าบอนั่นทำ เป็นไงล่ะ งานงอกกันทั้งคณะเลยมั้ย “กูขอตีเมิงซักทีได้มั๊ยวะห๊ะ”

                  “ตีกูเดี๋ยวกูฟ้องน้องแบคฮยอน”

                  “อยากฟ้องเมิงฟ้องเลย กูจะได้บอกน้องแบคฮยอนว่าเมิงมีน้องนั่นน้องนี่อีกเยอะแยะ เมิงเอาสิ”

                  “เลย์เดี้ยะเมิงเดี้ยะๆ”

                  .

                  .

                  .

                  .          

                  .

                  .

       

       

                  “ผมมีของจะให้พี่ด้วยนะ”  เซฮุนจับมือเล็กของลู่หานมาตรงหน้าแล้ววางของชิ้นเล็กๆลงไป มันเป็นพวงกุญแจรูปปลาโลมาตัวเล็กๆประมาณนิ้วหัวแม่มือสีชมพูใส ทำท่าโค้งตัวเหมือนกำลังกระโดดอยู่เหนือน้ำ ลู่หานจำได้ว่าเขายืนมองมันผ่านกระจกของร้านขายของที่ระลึกของสวนสนุกอยู่นาน

                  “อีกตัวนึงล่ะ?”

                  “นี่ไง .. ตัวนั้นของพี่ ตัวนี้ของผม” เซฮุนยกนิ้วที่เกี่ยวพวงกุญแจรูปโลมาสีน้ำเงินมาตรงหน้า ลู่หานยิ้มตาเป็นประกาย มันเป็นพวงกุญแจปลาโลมาคู่ที่เป็นแบบเดียวกัน ส่วนโค้งของตัวโลมาทั้งสองตัวจะเข้าล็อคกันเหมือนเอาตัวพันกันพอดี

                  คนพี่ยิ้มกว้างจนตาปิด คนน้อง...ยืนมองคนพี่นิ่งๆอย่างเคย

                  “ชอบมั๊ยฮะ” ยกมือขึ้นเกาหัว เขินนิดนึงนะเนี่ย

                  “อื้ม  พี่ชอบนายที่เป็นแบบนี้แหละ”

                 

       

      ชอบเซฮุนที่เอาใจใส่พี่เสมอ ชอบเด็กซื่อๆที่ติดพี่ เด็กที่คอยโทรมาหาเรื่อยๆ

      ถามว่ากินข้าวหรือยัง อย่าอ่านหนังสือดึกนะ ไปดูหนังกันมั๊ยฮะ

      ทั้งที่ฝ่ายเขาต่างหากควรจะเป็นคนพูด

      ไม่ได้ชอบแบดบอยเลย

      ไม่ซักนิด

      .

      .

      .

      .

       

      “เซฮุนเป็นแบบนี้ก็ดีมากพอแล้ว .... แค่นี้ก็รักมากแล้ว”

       

                  ‘

                  .

                  .

                  .

                  .

                  .

                  .

                  .

                  .

                  .

                  “ผม...ถามถึงปลาโลมาต่างหาก...”  -///-

                 

                 

       

       

       

       

       

       

       

       

                 

       

       

      =====================================================

      เขียนไว้นานมากกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ไม่ได้ลง

      ลงแล้วเย่~ อ่านไปฮะอย่าคิดมาก ^^

      @WithKrisLay

       

                 

       

       

       

       

       

       

       

       

             

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×