[SF] SAME - KrisLay - [SF] SAME - KrisLay นิยาย [SF] SAME - KrisLay : Dek-D.com - Writer

    [SF] SAME - KrisLay

    SAME but DIFFERENT

    ผู้เข้าชมรวม

    2,405

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    2.4K

    ความคิดเห็น


    19

    คนติดตาม


    16
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 พ.ย. 56 / 02:23 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    Title : SAME

    Paring : Kris x Lay

    By : WithKrisLay




     

     














    beyo ng
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

       

       

       

       

      ปัง!

      กระสุนพุ่งไปยังเป้าหมาย ปลอกกระสุนกระเด็นหลุดจากรังเพลิงลงสู่พื้น ลูกตะกั่วหนาหนักเจาะเข้าที่กะโหลกหน้าผากชายชุดดำที่ไล่ยิงพวกเขาจนต้องทิ้งรถแล้ววิ่งหนี เขารู้ว่าคนที่ตัวเองพยายามจะปกป้องต้องไม่พอใจแน่ แต่จะทำยังไงได้

      “อี้ชิง!”  เสียงทุ้มตะโกนเรียกชื่อคนที่ตัวเองกำข้อมือเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้แล้วทรุดนั่งลงไปบนพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่นเกรอะกรังของโกดังที่วิ่งหนีมาซ่อนตัว ใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนฝุ่น เขาอยากจะใช้มือของตัวเองเช็ดแก้มใสของคนตรงหน้าที่บัดนี้ก็ดูไม่ต่างกันกับเขานัก แต่ทำไม่ได้ มือใหญ่เปียกชื้นและเปรอะเลือด

      “นายถูกยิงเหรอ?”

      “แค่ถากไม่เป็นอะไรหรอกครับ กลับกันเถอะ” อี้ชิงบัดตัวออกจากการเกาะกุม เอื้อมมือเก็บปืนของตัวเองแล้วลุกขึ้นยืน โดนแค่นี้ไม่ถึงตาย

      “อี้ชิง ฉันไม่อยากให้นายฆ่าใครอีกแล้วนะ”

      “ผมเลือกได้หรือไง” ร่างผอมบางหันหลังกลับมา เหลือบสายตาขึ้นมาร่างสูงกว่าที่ยืนใกล้ค้ำศีรษะ นั่นคือสิ่งที่อี้ชิงตอบนายของตัวเอง แน่นอน ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว

       

       

       

               

      ชายแก่นอนหายใจผะแผ่วรวยรินบนเตียงผู้ป่วยในห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ บรรยากาศรอบข้างเงียบสงบคงมีเพียงเสียงติ๊ดติ๊ดของเครื่องวัดชีพจรที่ดังอย่างชัดเจน รอบห้องมีชายสวมสูทดำยืนอยู่นับสิบ ทุกคนเอามือประสานกันไว้ด้านหน้า ข้างเตียง ร่างสูงสง่ายืนนิ่งก้มมองผู้เป็นบิดา เขาเป็นลูกชายคนเดียวที่จะสืบทอดสายเลือดมังกรต่อไปจากนี้

      มือผอมเหี่ยวแห้งสั่นเทายกสูงขึ้น อู๋ฟานจับมือบิดา กิจการที่ต้องสืบทอดมันผิดกฎหมายทั้งนั้น เขาไม่ได้อยากทำเลย

      “รับปากกับฉันว่าแกจะทำ .. ฉันจะให้อี้ชิงกลับมา .. อยู่ข้างแก”

       

                อู๋ฟานนอนไม่หลับอยู่หลายคืน ไม่หรอก ไม่เคยมีคืนไหนเลยที่จะหลับตาลงได้สนิทเลยต่างหาก ระบบรักษาความปลอดภัย บอดี้การ์ด ไม่เคยทำให้เด็กชายอู๋ฟานรู้สึกปลอดภัยได้เลยตั้งแต่ได้รู้ความจริงของครอบครัว

                ก๊อกก๊อกก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามครั้ง อู๋ฟานมองดูนาฬิกาที่บอกเวลาตีห้า นี่เขาไม่ได้นอนอีกแล้ว

                “อี้ชิงมาถึงแล้วครับนายน้อย”  ทันทีที่ได้ยินเสียงบอดี้การ์ดคนหนึ่งตะโกนเข้ามาในห้องแบบนั้นอู๋ฟานรีบผุดลุกขึ้นจากเตียง วิ่งเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาแล้ววิ่งลงมาชั้นล่างทั้งยังสวมชุดนอน ช่วงใกล้จะพ้นที่พักบันไดเขาชะลอฝีเท้า ก้าวย่างอย่างสง่างามอย่างที่ชายชุดดำส่วนใหญ่คุ้นชิน

                แล้วหัวใจกระตุกวูบ อี้ชิงจริงๆ ด้วย...

       

                ดวงตาแข็งกร้าวจดจ้องเข้ามาในดวงตาของเขา อู๋ฟานพยายามจะมองหาสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในดวงตาของอี้ชิงบ้าง แต่ไม่มี...ภายในดวงตาคู่นั้นมีแต่ความลับดำมืดที่เขาไม่กล้าเข้าไปค้นหา อู๋ฟานหลบสายตา อี้ชิงเปลี่ยนไปแล้ว

                “ต่อไปนี้ผมจะเป็นบอดี้การ์ดของคุณแทนคนเก่า เป็นมือขวา เป็นทุกอย่าง”

                “ไม่ต้องทำอย่างที่พ่อหรอก นายจะเป็นบอดี้การ์ดให้ฉันได้ยังไง” อู๋ฟานส่ายหน้า อี้ชิงตัวเล็กกว่าเขาไม่เคยเปลี่ยน ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี คงเพราะเขาสูงขึ้นมาก อี้ชิงเลยยิ่งดูตัวเล็กกว่าเดิมไปอีก

       

       

       

      ที่นั่นทำอะไรให้อี้ชิงเปลี่ยนไป

       

      อู๋ฟานบอกให้บุคคลที่สามออกไปจากห้องนอนของตัวเอง ลูกน้องคนนั้นหยิบอุปกรณ์ทำแผลแล้วล็อคห้องก่อนปิดประตูให้ อู๋ฟานหันมองอี้ชิงที่มีผ้าพันแผลพันรอบต้นแขนขาว ใบหน้าสวยงามเรียบนิ่งไม่แสดงความเจ็บปวด คงเพราะยาที่ถูกฉีดเข้าเส้นเลือดไปก่อนหน้านั้น

      มือหนากุมมือเล็กเอาไว้ตอนที่อี้ชิงกำลังจะยกเสื้อเชิ้ตขึ้นมาสวม คุกเข่าลงที่พื้นตรงหน้าอี้ชิง ดวงตาดุร้ายราวสัตว์ป่าต่อหน้าชายชุดดำผู้จังรักภักดิ์ดีต่อบิดาอย่างปกติบัดนี้เศร้าสร้อย พิจารณาเรือนร่างบอบช้ำของคนตรงหน้า อี้ชิงไม่เคยพูดว่าเจ็บปวดขนาดไหนแต่ใช่ว่าจะไม่เจ็บ แค่เห็นยังทำให้อู๋ฟานเจ็บขนาดนี้

       

       

      อี้ชิงเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อของอู๋ฟานพามาเลี้ยงตอนที่อู๋ฟานอายุได้ห้าขวบ อี้ชิงอ่อนกว่าเขาหนึ่งปี เด็กกำพร้าจากสถานสงเคราะห์เล็กๆ ถูกยกย่องดูแลในฐานะคุณหนูคนเล็กของบ้าน อี้ชิงมีพ่อคนเดียวกันกับเขากระทั่งวันหนึ่งที่พ่อโมโหจนทำร้ายร่างกายอู๋ฟาน วันนั้นมีเพียงอี้ชิงที่กล้าเข้ามาปกป้อง

      วันนั้นเองที่พ่อบอกความจริงกับอี้ชิงว่าเด็กชายไม่ใช่ลูกแท้ๆ นั่นสินะ อี้ชิงจะเป็นพี่น้องกันกับอู๋ฟานได้ยังไง พวกเขาไม่ได้มีอะไรเหมือนกันเลย

       

      อี้ชิงถูกส่งไปที่นั่นตอนอายุสิบเจ็ด มันเป็นความผิดของอู๋ฟานเอง พ่อของเขาจับได้ว่าลูกชายเพียงคนเดียวกับเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่รับมาอุปการะมีความสัมพันธ์เกินเลย พ่อส่งอี้ชิงไปที่อื่น ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมา อู๋ฟานเฝ้ารอ..

      ในที่สุดคนที่ชายหนุ่มคิดถึงสุดหัวใจก็กลับมายืนอยู่หน้าประตูบ้าน เขาเดินลงบันไดมาช้าๆ ทั้งชุดนอน หัวใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ อี้ชิงจะมาดูแลเขาตามเงื่อนไขของผู้เป็นพ่อ อี้ชิงที่แข็งแรงขึ้น โตขึ้น นิ่งสงบและเย็นชาขึ้น

       

      “ปล่อยครับ ผมจะใส่เสื้อ” อู๋ฟานจ้องอี้ชิง เจ็บปวดที่แววตาของอี้ชิงไม่มีภาพของเขาสะท้อนอยู่ในนั้น สี่เดือนแล้วที่อี้ชิงกลับมา เขาไม่เชื่อหรอกว่าอี้ชิงจะไม่คิดถึงเขาอย่างที่เขาคิดถึงอี้ชิงเหลือเกิน

      “อี้ชิงคุยกันก่อน ถึงจะไม่มีใครเอาผิดพวกเราได้แต่ฉันไม่อยากให้นายทำ ฉันไม่อยากให้มือนายเปื้อนเลือดอีกแล้วเข้าใจมั๊ย”  อู๋ฟานรู้ดี ตระกูลของเขาใหญ่ยิ่งที่สุด ต่อให้อี้ชิงฆ่าใครตายอีกเท่าไหร่ก็ไม่เป็นปัญหา แต่อู๋ฟานไม่อยากให้อี้ชิงทำอีกแล้ว

      “พ่อของคุณไม่ชอบแน่ถ้ารู้ว่าคุณทำแบบนี้  ความอ่อนแอไม่ใช่วิสัยของผู้นำ ปล่อยผมเถอะ”

      “ฉันไม่ได้คิดจะสืบทอด ฉันแค่อยากอยู่กับนาย ไม่ได้เหรอ” อู๋ฟานยังคงจ้องมองด้วยสายตาเว้าวอน ถ้าตาไม่ฝาดไป เขาคิดว่านัยน์ตาสีน้ำตาลของอี้ชิงวูบไหวแต่ในเสี้ยววินาทีก็กลับมาเป็นประกายกร้าวดังเดิม

      “ทำไมนายไม่ยอมให้ฉันกอดเหมือนที่เคย ทำไมไม่จูบฉันล่ะ เราเคยรักกันไม่ใช่เหรอ”

      “เคยรักเหรอ..”

      “ไม่ ฉันยังรักนาย ฉันรอ สี่ปีแล้วนะอี้ชิงที่ฉันรอนายกลับมา แต่ที่ฉันไม่ได้พูดอะไร ไม่กอดนายไม่จูบนายไม่ใช่ว่าฉันไม่คิดถึงนาย แต่นายเปลี่ยนไป”

      “ฉันกลัว อี้ชิง ... กลัวว่านายไม่ได้รักฉันแล้ว”

       

       

       

       

      ที่นั่นทำอะไรให้เขาเปลี่ยนไป

       

      เขาถูกครอบครัวที่รับอุปการะส่งไปเพื่อซักวันเขาจะได้สร้างคุณประโยชน์ตอบแทน ที่นั่นสอนเขาให้เด็ดขาด ทุกครั้งที่เหนี่ยวไกไม่มีคำว่าพลาด หนึ่งนัดเท่ากับหนึ่งศพเสมอ  ไม่มีพื้นที่สำหรับความอ่อนแอเหลือในหัวใจอีกต่อไป

       

      “อี้ชิง ... ฉันรักนายนะ”

      อู๋ฟานกดท้ายทอยคนที่นั่งอยู่บนเตียงของเขาให้ก้มต่ำลงมาแล้วจูบอี้ชิงอย่างอ่อนโยนที่สุด รู้สึกถึงแขนอุ่นที่ค่อยเลื้อยมาเหนี่ยวรอบลำคอ เขารั้งเอวบางลงมาจากเตียงบ้าง อี้ชิงกางเข่าคร่อมอู๋ฟานแล้วจูบกลับ คางเรียวลอยสูงตอนที่มีลมหายใจร้อนเป่ารดทั่วแผ่นอก

      “รักฉันหรือเปล่า”

      “...ครับ”

       

       

                  อี้ชิงรักอู๋ฟาน .. มากกว่าที่อี้ชิงคนเก่าเคยรักร้อยเท่าพันเท่า

       

       

       

      /////////////////////////////

       

       

       

                  “แค่กๆ .. เข้ามาใกล้ๆ สิอี้ชิง”

                  “ครับนายท่าน”

                  เพี้ยะ!!  เสียงฝ่ามือกระทบแก้มเสียงดัง ชายชุดดำคนหนึ่งที่ยืนอยู่มุมห้องเหลือบตาขึ้นมามองแล้วหรุบตาลงตามเดิม  ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นฝีมือของคนป่วยหนักขนาดนี้  อี้ชิงก้มหน้านิ่ง แค่พูดยังแทบไม่มีเสียง ชายแก่คงใช้แรงแทบทั้งหมดที่มีเพื่อลงโทษเขา

      “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะอี้ชิงเรื่องที่แกนอนกับลูกชายฉัน แค่ก ฉันส่งแกไปไกลๆเพื่อไม่ให้ยุ่งกับอู๋ฟาน แค่กๆๆ อย่าสำคัญตัวนักเรื่องที่ฉันให้แกกลับมา”

      “...............”

      “ถ้าฉันจับได้ว่าแกทำเรื่องชั่วๆ แบบนี้อีก แค่ก แกรู้ใช่มั๊ยว่ามันจะเป็นยังไง”

       

      ไม่รู้หรอก .. จะฆ่าเขาหรือยังไง

      อี้ชิงขอให้คนอื่นออกไปก่อน เขาทำได้ ตอนนี้เขามีอำนาจมากพอจะสั่งชายสวมสูทดำทุกคน รองจากตาแก่ที่นอนง่อยอยู่บนเตียงกับลูกชายของมันก็มีเขานี่แหละที่มีอำนาจกว่าใคร

       

      “ตอนแรกฉันก็กะว่าจะไม่บอกหรอกนะ แต่ไหนๆ แกก็ทรมานมามากแล้ว ฉันจะบอกให้เอาบุญ”  มือเล็กขาวจัดลูบขอบเตียงที่ทำจากอลูมิเนียมเย็นเฉียบ ก้าวช้าๆ ทีละก้าวไปที่ปลายเตียง ไม่มองหน้าชายแก่ที่เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ อี้ชิงไม่เคยพูดแบบนี้หรือใช้สรรพนามแบบนี้กับเขามาก่อน

      “ฉันเป็นคนทำให้แกเป็นแบบนี้เอง วางยาในอาหารหรูหรา ในบรั่นดีราคาแพงของแก”  นัยน์ตาสีน้ำตาลประกายแวววาว ยกนิ้วตัวเองขึ้นพลิกไปมามองเล่นทีละนิ้วอย่างเชื่องช้าไม่ได้สนใจว่าคนป่วยพยายามตะโกนด่าตัวเองอยู่

      “รังเกียจมากเหรอที่ลูกชายแกรักกับอี้ชิง ดูนี่สิ ผ้าผืนนี้เป็นของอู๋ฟานที่อี้ชิงเก็บไว้ติดตัวตลอดเวลา ฉันก็เพิ่งรู้นี่แหละ ฮึ รักกันเหลือเกิ๊น”  ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวเบะปาก สะบัดผ้าเช็ดหน้าสีขาวผืนนิ่มที่ล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกงใส่หน้าคนที่นอนอยู่กับสายระโยงระยางบนเตียง

      “หมายความว่ายังไง”  ชายแก่เค้นเสียงออกมาอย่างที่สุด เพิ่งรู้...

      “ทำไมคุณไม่ช่วยผม....”

      “อะ .. อะไร?” ชายแก่ตาเบิกโพลงจนแทบหลุดออกจากเบ้าตอนที่ใบหน้าสวยก้มลงมาหา เสียงหวานพูดแผ่วเบาให้พอได้ยิน

      “จำไม่ได้เหรอครับ คุณซื้อตัวอี้ชิงมาได้..... แค่ผมอีกคนเดียวทำไมทำไม่ได้ล่ะครับ ทำไมซื้อผมมาด้วยไม่ได้....”

      “แก.. แกเป็นใคร”  บอดี้การ์ดของลูกชายขมวดคิ้วยุ่งแล้วยืดตัวขึ้นยืนตามเดิมทำหน้าครุ่นคิด ชายแก่ขยับตัวแทบไม่ได้ ในห้องก็ไม่มีคนอื่น เขากลัว

      “จำไม่ได้จริงๆ เหรอเนี่ย? ...ผมเสียใจนะ”

       

       

                  จำได้แล้ว...ชายแก่จำได้แล้ว

                  เมื่อหลายปีก่อนเขาบังเอิญไปเจอเด็กชายฝาแฝดคู่หนึ่งถูกล่ามโซ่เอาไว้ เด็กชายหน้าตาดี ผิวพรรณดี เขาดูรู้แม้ว่าเนื้อตัวจะมอมแมมและแต่งตัวมอซอขนาดไหน น่าแปลกใจว่าทำไมถึงมาอยู่ในที่สกปรกโสมมแบบนี้  เขาขอซื้อเด็กคนนึงมา

      แค่คนเดียว...

       

                  “จริงๆ ผมไม่อยากพูดถึงอีกหรอก ... แต่เล่าให้ฟังก็ได้”  ร่างผอมใช้เล็บเคาะราวเหล็กรอบเตียงดังแก๊ง เดินไปอีกก้าวก็เคาะอีก เสียงแก๊ง แก๊ง ดังช้าๆ เป็นจังหวะ

                  ภาพในอดีตย้อนกลับเข้ามาในความนึกคิด อี้ชิงร้องไห้จนสลบไปตอนที่เขาพาเด็กนั่นมาที่บ้าน ตื่นขึ้นมาเด็กชายตัวเล็กช็อคจนจำอะไรไม่ได้ เขาบอกว่าเขาเป็นพ่อ อู๋ฟานคือพี่ชาย แต่บอกอู๋ฟานว่าเอาเด็กนั่นมาจากสถานสงเคราะห์

       

                  “ผมเป็นคนของศัตรูของคุณ คนที่พยายามจะเอาชีวิตคุณกับลูกชายก็คือเจ้านายของผมมาตลอด เสียใจด้วยนะครับที่เจ้านายผมตามคุณไปคืนนั้น”  วันที่หัวหน้าตระกูลอู๋มาซื้อเด็กชายคนหนึ่งไป

      “คุณคงคิดว่าเค้าซื้อผมไป... ไม่หรอก ไอ้ชั่วนั่นปล่อยให้ผมถูกขายไปที่อื่น ผมโตมายังไงคุณนึกไม่ออกหรอก!!!!”  ชายแก่สะดุ้งเฮือก ในตาของคนตรงหน้าแดงก่ำ อี้ชิงถอยหลังห่างออกไปแล้วพูดต่อ

      “ผมถูกข่มขืน.. ผมหนีออกมา...แล้วเขาก็ช่วยผมไว้ เขาเป่าหูให้ผมเกลียดน้องตัวเอง เกลียดอี้ชิง เกลียดคุณ เกลียดลูกชายคุณ  ไม่สิ ผมเกลียดของผมเองนั่นแหละ ... สายพวกนี้มันสายอะไรบ้างนะ...”  เด็กหนุ่มเบนความสนใจไปที่เครื่องมือมากมายข้างเตียง จับสายยางขึ้นมาดูเล่น

      “..อย่านะอี้ชิง”

      “ผมไม่ใช่อี้ชิง...ผมอิจฉาเค้า ตอนแรกคิดว่าเค้าคงเสวยสุขในบ้านหลังใหญ่ของคุณ แต่มาถูกตบแบบนี้ชักไม่ค่อยแน่ใจแล้วสิ”  มือสวยยกขึ้นลูบแก้มตัวเองข้างที่โดนฝ่ามือปะทะ ตอนนี้มันคงแดงเถือก

      “แต่ลูกชายคุณทำให้ผมรักเค้า...อู๋ฟานเป็นคนจิตใจบริสุทธิ์จริงๆ ฮึๆๆๆๆๆ ไม่น่าเกิดมาเป็นลูกคุณเลย”

      “....อย่า .. อย่าทำลูกฉันนะ”  เสียงแหบพร่าหลุดออกมาจากริมฝีปากแห้งผาก เบาจนถูกเสียงติ๊ดถี่ๆ ของเครื่องวัดชีพจรกลบไปเสียหมด แต่ก็พอจะได้ยิน

      “รักลูกเหรอครับ ผมไม่แน่ใจว่าคุณรักเค้าได้เท่าที่อี้ชิงรักหรือเปล่าด้วยซ้ำ”  ปลายนิ้วยังรู้สึกได้ถึงสัมผัสเย็นเยียบของราวเหล็ก ร่างบางเริ่มเดินไปช้าๆ รอบเตียงอีกครั้ง ชายแก่ทำเพียงแค่กรอกตาตามเพราะไม่มีแรงขยับเขยื้อนตัวอีกแล้ว

                  “ผมไม่น่าเล่าให้คุณฟังเลย ... แบบนี้คุณก็รู้สิว่าผมไม่ใช่อี้ชิง ทำยังไงดีนะ ...” 

                  “อย่านะ ..อย่าทำอะไรฉัน...”

                  “นั่นกำลังอ้อนวอนอยู่เหรอครับ ไม่ให้ทำทั้งตัวเอง ไม่ให้ทำทั้งลูกชายเลยเหรอ ... มากไปหน่อยมั๊ยครับ”  เท้าเล็กหยุดเดิน หันกลับมามองด้วยใบหน้าขึงขังไม่เปื้อนรอยยิ้มโรคจิตๆ เหมือนตอนแรก ชายแก่ตอบไม่ได้เลยว่าแบบไหนดีกว่า

                  มือเล็กคว้าผ้าเช็ดหน้าสีขาวกลับใส่กระเป๋าตามเดิมแล้วหันหลังเดินออกจากห้องไม่บอกลา อี้ชิงห้ามไม่ให้ใครเข้าไปในห้องอีกจนกว่าเขาจะกลับมา หวังว่าทุกคนจะเชื่อฟัง แต่ถ้าไม่เชื่อก็ตามใจเถอะ เดี๋ยวทุกอย่างก็จบแล้ว

       

       

       

       

      อี้ชิงกลับมาที่บ้าน รออู๋ฟานจนดึกดื่น อู๋ฟานไม่เคยไปไหนโดยไม่มีเขาเคียงข้าง เสียงประตูห้องนอนเปิดออกพร้อมกับร่างสูงโปร่งผู้เป็นเจ้าของห้อง

      “อี้ชิง!? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่”  อี้ชิงไม่ได้นอนห้องนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะหน้าที่หรือเพราะอู๋ฟานหาเรื่องให้เข้ามาร่างเล็กก็แทบไม่เข้ามาใกล้ด้วยซ้ำ

      “ผมคิดถึงคุณ”  ร่างเล็กลุกเดินเข้าไปใกล้ โน้มคอคนตัวสูงกว่าลงมาบดเบียดริมฝีปากหาอู๋ฟาน ร่างสูงปล่อยให้อี้ชิงจูบจนพอใจแล้วกอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่น ฝังจมูกลงบนแก้มนิ่มสูดดมกลิ่นกายหอมหวานที่คุ้นเคย

      “ฉันรักนายนะ รักมากขึ้นเรื่อยๆ นายปกป้องฉัน ยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพราะฉัน ฉันรักนาย ... แต่ ... ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้อี้ชิงอยู่ที่ไหน ... บอกฉันได้มั๊ย”

                  “...................”

       

                  ตอนกลางวันอู๋ฟานไปที่นั่น ที่ที่พ่อส่งอี้ชิงไป ขอค้นทะเบียนนักเรียนจนเจอคนคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนอี้ชิงไม่ผิดเพี้ยน ทั้งสองคนเกิดวันเดียวกัน ที่เดียวกัน ไม่ระบุชื่อพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ตอนแรกอู๋ฟานคิดว่านี่เป็นเอกสารของอี้ชิงแต่ไม่ใช่ เขาเจอเอกสารของอี้ชิงอยู่กับเอกสารของนักเรียนอีกชั้นปี

                  เล่ย เป็นนักเรียนท็อปคลาสของที่นั่น เยือกเย็นกว่าใครๆ และไม่เคยทำพลาด

       

                  อู๋ฟานได้แต่ทรุดตัวลงนั่งที่พื้นด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมถึงมีคนสองคนที่เหมือนกันขนาดนี้ อู๋ฟานจำได้ อี้ชิงมีรอยแผลเป็นที่ต้นแขนยาวถึงหัวไหล่ด้านหลัง อี้ชิงวิ่งมาบังอู๋ฟานจากแรงหวดของพ่อ หวายก้านยาวกระทบผิวเนื้ออ่อนจนผิวแตก เลือดสีสดค่อยซึมออกมาจากเนื้อผ้าบางที่ฉีกขาดจนสีแดงเปียกชุ่ม  

      ทุกครั้งที่กอดก่ายคนตัวเล็กเอาไว้ยามค่ำคืน อู๋ฟานจะจูบมันเบาๆ ขอโทษที่ตัวเองเป็นต้นเหตุให้ผิวเนื้อสวยต้องมีร่องรอยน่ารังเกียจแบบนั้น

                  ใช่ .. เล่ยไม่มี

       

                 

       

       

                  เลือดข้นคลั่กสีแดงเข้มไหลจากปากแผลออกมาเจิ่งพื้น ร่างสูงนอนเหยียดหายใจรวยริน มือใหญ่กุมท้องเอาไว้แน่นแต่มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เลือดข้นไหลออกจากแผลตามจังหวะบีบตัวของหัวใจที่เต้นรัวขึ้นเรื่อยๆ  กลิ่นคาวคละคลุ้งเตะจมูกจนแทบอาเจียน เขากำลังจะตาย เขาได้ยินแต่งเสียงหวานที่เอาแต่พูดว่า ฉันไม่อยากทำเลย ฉันรักนาย ซ้ำไปซ้ำมา

                  “อี้ชิง .. อยู่ .. ไหน”

                  “อี้ชิงตายแล้ว ฉันฆ่าเขา ... ฆ่าเขาด้วยมีดเล่มนี้ที่ใช้แทงนาย ดีใจมั๊ยอู๋ฟาน ..” คนที่อู๋ฟานคิดว่าเป็นอี้ชิงมาตลอดนั่งลงใกล้ๆ ลูบผมเขาเบามืออย่างรักใคร่ เล่ยก้มลงจูบหน้าผากชื้นเหงื่อของอู๋ฟานที่สีหน้าซีดลงเรื่อยๆ อีกไม่นานอู๋ฟานก็จะตาย ตายไปเหมือนอี้ชิง

                  “ฉันไม่อยากทำเลย ตอนแรกฉันคิดจะฆ่านายด้วย แต่...อยู่ๆ ฉันก็เผลอมีความคิดว่าอยากจะมาแทนที่อี้ชิง ถ้านายไม่ทำตัวสู่รู้แบบนี้ ฉันจะเป็นอี้ชิง เราจะอยู่ด้วยกัน”

      “นายเป็นใคร .. ทำแบบนั้น กับอี้ชิง ..ทำไม .. อึก..”

      “ไปอยู่กับอี้ชิงเถอะ รักกันให้ตายอย่างที่พวกนายปรารถนา”

      “.....อี้ชิง ... อี้ ..ชิง”   สติของอู๋ฟานเริ่มพร่าเลือน เขาคิดถึงแต่อี้ชิง ป่านนี้อี้ชิงจะอยู่ที่ไหนกันนะ ...

      “นี่ผ้าเช็ดหน้าของนายสินะ อี้ชิงเก็บมันไว้กับตัวตลอด ตอนแรกฉันนึกว่าอี้ชิงแอบไปมีผู้หญิงที่ไหน ที่แท้ก็ของนายนี่เอง ... บางทีที่ฉันรักนายอาจจะเป็นเพราะความรู้สึกของอี้ชิงก็ได้มั้ง”

      “............”

      “อู๋ฟาน ... กล้าดียังไงถึงไม่ฟังที่ฉันพูด ...”  กลุ่มผมเปียกชื้นถูกขยุ้มยกขึ้นมาตามแรงของมือน้อย เล่ยปล่อยมือที่จิกผมของอู๋ฟานออกอย่างแรง โยนผ้าเช็ดหน้าลงบนตัวของอู๋ฟานที่นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอีกต่อไป

      ผ้าสีขาวซับเลือดแดงสดช้าๆ ไว้จนเต็มผืน คนตัวเล็กร้องไห้ ... เล่ยร้องไห้

                  ทำไมเขาถึงไม่เจอคนที่รักเขาแบบที่อี้ชิงเจอบ้างนะ

                  น่าอิจฉาจริงๆ

       

       

                  อี้ชิงตัวปลอมอาบน้ำแต่งตัวกลับไปที่โรงพยาบาล  จุดประสงค์ที่เขามาที่นี่ไม่ใช่อู๋ฟานซักหน่อย ช่างเถอะ เขาก็แค่กลับไปที่โรงพยาบาล ปิดตำนานสายเลือดมังกรที่พวกมันคิดเอาเองว่ายิ่งใหญ่กว่าใครซะก็พอ

       

       

       

       

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×