Short Fiction Osomatsu-san:ความสัมพันธ์พี่สามกับน้องสี่ - Short Fiction Osomatsu-san:ความสัมพันธ์พี่สามกับน้องสี่ นิยาย Short Fiction Osomatsu-san:ความสัมพันธ์พี่สามกับน้องสี่ : Dek-D.com - Writer

    Short Fiction Osomatsu-san:ความสัมพันธ์พี่สามกับน้องสี่

    เป็นช่วงก่อนที่สองคนนี้จะเปลี่ยนไปค่ะ ฝากด้วยนะคะ! (ตอนเดียวจบค่ะYwY)

    ผู้เข้าชมรวม

    1,155

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.15K

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    20
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 ก.พ. 59 / 00:43 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ไม่ได้แต่งฟิคซะนานแถมเรื่องเก่าก็ดองorz

    คราวนี้กลับมาแบบแปลกตาด้วยฟิคสั้นของเรื่องโอโซมัตสึซังนะคะ

    เป็นเรื่องราวของพี่สามกับน้องสี่ค่ะ

    โจโรมัตสึทั้งที่อดีตเป็นเด็กแสบแท้ๆ ทำไมถึงโตมาเป็นแบบนี้?

    อิจิมัตสึตอนเด็กๆเป็นเด็กดี ฉลาดเฉลียว โตมาดันเป็นคนหม่นหมอง?

    ---------------------------------------

    ฟิคนี้อ้างอิงจากภาคเด็กกับโตเลยค่ะ แถมยังอิงโดบางเรื่องที่พูดถึงวัยเปลี่ยนแปลงของมัตสึมาเสริมด้วยค่ะ

    .....บางอย่างก็มโนล้วนๆเขียนไปค่ะ;w;....

    สำนวนแต่งห่วย หรือข้อมูลผิดพลาดประการใดก็ขอโษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





    ‘จริงจังจังเลยน้า~ ผ่อนคลายซะบ้างสิ’

    ‘ฉันคิดว่า....ในหมู่หกแฝดเขาดูเป็นคนที่ปกติที่สุดแล้วล่ะนะ’

    ‘นายน่ะโวยวายพวกเราที่เป็นอย่างนี้ตลอด ทีแต่ก่อนล่ะไม่เห็นเป็นอย่างนี้เลย’

    ‘จะปฏิเสธตัวเองไปถึงเมื่อไหร่กัน?’












    หืม? นั่นน่ะสินะ เมื่อไหร่กัน......เมื่อไหร่ที่ผมกลายเป็นคนแบบนี้

    คิดดูอีกทีก็สักพักแล้วล่ะ... ก็เพราะผมอยากเป็นที่ยอมรับนี่นา

    แต่ก่อนน่ะผมยังเด็ก ไม่มีความคิดด้านนี้หรอก

    วันๆเอาแต่เล่นซน จับคู่กับพี่โอโซมัตสึ

    เขาเป็นคนบงการ ส่วนผมลงมือทำ

    พวกผมทำอะไรกันแผลงๆ

    พ่อแม่เรียกพวกผมมาตักเตือนบ่อยๆ

    พลางเปรียบเทียบกับน้องคนที่สี่

    เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นซ้ำๆบ่อยครั้ง

    อิจิมัตสึน่ะไม่ผิดหรอก เขาเป็นเด็กดีที่น่าเอ็นดูจริงๆ

    ‘หัดเอาอย่าง อิจิมัตสึมั่งสิ’.....งั้นเหรอ?


    ……...............

    อา— ตอนนั้นก็แอบอิจฉานิดๆแฮะ













    พอโตมาผมก็ได้รับรู้อะไรต่างๆมากขึ้น

    สังคมผู้ใหญ่ยอมรับพวกที่เอาการเอางาน

    ยิ่งตำแหน่งใหญ่ในหน้าที่การงานยิ่งดี

    ส่วนพวกที่ความคิดผิดแปลกไป จะโดนสังคมต่อต้าน

    ถ้าผมมีความคิดอ่านที่ปกติ คนอื่นๆในสังคมก็จะยอมรับผมใช่ไหมล่ะ

    มีตำแหน่งการงานที่มั่นคง มีครอบครัว ดูแลตัวเองได้ ทั้งหมดนั่นล้วนแล้วก็เป็นชีวิตในฝันของหลายๆคน

    พ่อแม่ทุกบ้านมักกวดขันลูกให้คิดแบบนั้นเป็น

    ผมชักจะเริ่มโดนโน้มน้าวให้มีความคิดแบบนั้น

    ถึงกระนั้นพวกเขาอายุเท่ากัน โตมากับผม แต่ทำไมไม่คิดแบบนั้นล่ะ?







    ……................


    ..อิจิมัตสึ..



    ทั้งๆที่ตอนเด็กเป็นเด็กที่น่าภูมิใจแท้ๆ

    ทำไมตอนนี้นายถึงเป็นแบบนี้ล่ะ? ผมไม่เข้าใจเอาซะเลย

    นี่.. ในบรรดาพวกเราหกแฝดน่ะ พ่อแม่คาดหวังในตัวนายนะ

    ผมกำลังพยายามก้าวข้ามตัวเองในอดีต ส่วนนายกำลังถอยห่างจากตัวตนในอดีต

    ไม่เข้าใจ.......ไม่เข้าใจจริงๆ

    แผ่นหลังที่ดูงอๆกับวงหน้าที่ดูซึมๆปรากฏให้เห็นเป็นปกติในทุกวันนี้

    พวกพ่อแม่ไม่กล้าพูดอะไรมาก การพูดเปรียบเทียบกันก็ไม่มีอีกแล้ว






    อาจจะดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่ผมรู้สึกดีนิดๆ

    ผมอยากจะก้าวข้ามนายให้ได้อยู่แล้ว นี่มันโอกาสเลยไม่ใช่เหรอ?

    …….อา ทำไมนายมองผมด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ?.........


    “มีเรื่องกลุ้มใจอะไรอยู่รึไง อิจิมัตสึ?”























    ผมดีใจกับการถูกสรรเสริญเยินยอ คำเหล่านั้นทำให้ตัวตนผมมีคุณค่า


    ‘เขาดูใช้ได้ที่สุดแล้วล่ะนะในหมู่หกแฝด’

    ‘เด็กดี แถมยังฉลาดเฉลียว โตขึ้นต้องเป็นนายคนอย่างไม่ต้องสงสัย’

    ‘พี่อิจิมัตสึน่ะ ยอดเยี่ยมที่สุดเลยนะฮะ’





    แต่นั่นก็นานมามากแล้ว ที่ผมได้รับการชื่นชมแบบนั้น

    แต่ก่อนผมเป็นเด็กที่ดี ผลการเรียนก็ใช้ได้ในสายตาทุกคน

    พ่อแม่นำผมไปเปรียบเทียบกับพี่โอโซมัตสึ กับพี่โจโรมัตสึยามเขาทำผิด

    แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขารังเกียจผมเลย

    พี่โอโซมัตสึยอมรับในตัวผม พลางยิ้มให้

    พี่โจโรมัตสึก็เช่นกัน เขามองมาที่ผม ก่อนจะยิ้มตามพี่โอโซมัตสึ

    ผมมีความสุขกับชีวิตแบบนั้น

    ชีวิตที่ไม่มีอะไรให้ทุกข์ร้อน กับตัวผมที่เป็นแบบนั้น

    .....มันต้องไปได้สวย.....











    พอโตมาอีกหน่อยผมก็ได้รับรู้อะไรต่างๆมากขึ้น

    ไม่เกี่ยวว่าเก่งหรือไม่เก่ง ดีหรือไม่ดี

    ขอแค่ขัดหูขัดตาคนอื่น พวกเขาก็เตรียมกลั่นแกล้งเรา





    ‘อิจิมัตสึเป็นหนึ่งในแฝดหกงั้นเหรอ?’

    ‘อื้ม ผมเป็นแฝดคนที่สี่น่ะ’

    ‘แย่จังเลยนะ สี่น่ะ เป็นเลขแห่งความโชคร้าย รู้ตัวไหม?’





    พวกเขากลั่นแกล้งผมโดยปล่อยคำนินทาว่าร้าย

    โต๊ะไม่ที่สลักด้วยคำสาปแช่ง ในชั้นหนังสือใบมีดที่สร้างบาดแผลยามมือปัดไปโดน

    เหล่าเพื่อนในชั้นที่พากันรังเกียจผมอย่างมิได้นัดหมายจากคำนินทาปั้นแต่ง

    ผมโดนรังเกียจ? ทั้งๆที่พยายามทำตัวให้ดีที่สุดมาโดยตลอดเนี่ยนะ

    นั่นคือสิ่งที่ได้รับการตอบแทนงั้นหรือ?


    แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังทำตัวตามปกติได้

    จะไปใส่ใจอะไรกับคนเหล่านั้นกันล่ะ

    เมื่อมีพบก็ย่อมต้องมีจาก เดี๋ยวคนพวกนั้นก็หายๆไปเอง

    ผมพยายามมองโลกในแง่ดี





    ……….

    แต่แล้ววันนึง หลังจากที่เห็นสายตาคู่นั้นแล้ว ก็เหมือนเปลี่ยนชีวิตผมไป

    วันที่แม่เรียกพี่โจโรมัตสึมาดุด่า

    พอเข้าวัยนี้ พี่โจโรมัตสึก็เริ่มเกเรขึ้น มีเรื่องวิวาท

    ดูเหมือนพี่โจโรมัตสึจะไปก่อเรื่องมาอีกแล้วนะ ได้รับบาดเจ็บอะไรรึเปล่า?

    ผมแอบเลื่อนที่กั้นเพื่อมองตรวจดูสารทุกข์สุขดิบของพี่น้องตัวเอง...

    เห็นแผ่นหลังของแม่ที่กำลังสั่นสะท้านพลางต่อว่าลูกชายตรงหน้า


    ‘….แกน่ะ หัดเอาอย่างอิจิมัตสึซะบ้าง!!’


    เหมือนโลกหยุดนิ่งชั่วขณะ สายตาของพี่โจโรมัตสึจ้องนิ่งตรงมาที่ผม

    สายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ความอิจฉาริษยาเหมือนกับคนพวกนั้น

    แต่เหมือนพี่โจโรมัตสึจะรู้ตัว สายตาเขาวูบเปลี่ยนไปเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

    แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้ผมมองโลกในแง่ดีได้อีกต่อไปแล้ว

    แม้แต่กับครอบครัว... ก็ต้องเจอด้วยเหรอ?

    เกิดจุดผิดพลาดตรงไหนกันนะที่ควรจะแก้?

    หรือว่าไม่ต้องโดนรับการสรรเสริญเยินยอก็เพียงพอแล้ว?

    เท่านั้นทุกคนก็จะพึงพอใจสินะ ผมก็จะสามารถใช้ชีวิตกับทุกคนได้อย่างปกติสินะ?

    …ก็แค่เปลี่ยนแปลงตัวเอง...




    “อา— นั่นสินะ ฉันนี่มันขยะจริงๆ"




    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×