ศึกอลาโม
วีรกรรมของนักรบชาวบ้าน เพียงร้อยกว่าคน กับข้าศึกที่เป็นทหารอาชีพมากกว่า7000 คน
ผู้เข้าชมรวม
4,505
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นอีกบทหนึ่งจากประวัติศาสตร์การสร้างชาติของสหรัฐอเมริกา เรื่องราวของความกล้าหาญของเหล่าชนผู้รักเสรีภาพ แห่งป้อมอลาโม
ปูมหลัง : ย้อนกลับไปในปี ค.ศ.1821 หลังชนะสงครามประกาศเอกราชกับสเปน ทำให้เม็กซิโกได้ครอบครองดินแดนกว้างใหญ่ไพศาลที่ทุกวันนี้ เป็นภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาซึ่งประกอบด้วย เท็กซัส อริโซนา แคลิฟอร์เนีย และนิวเม็กซิโก ดินแดนแถบนี้แห้งแล้งทุรกันดารและเต็มไปด้วยชาวอินเดียนที่ดุร้าย ทำให้มีชาวเม็กซิกันไม่กี่ครอบครัวที่กล้าเข้าไปอยู่ แต่เนื่องจาก รัฐบาลเม็กซิโกต้องการให้เป็นพื้นที่กันชนจากพวกอินเดียน จึงประกาศชักชวนผู้อพยพชาวอเมริกา ให้เข้าไปตั้งรกรากในเท็กซัส โดยเสนอขายที่ดินราคาถูกแก่ผู้อพยพโดยแลกกับการที่ผู้อพยพต้องเปลี่ยนสัญชาติเป็นเม็กซิกัน
ในระยะแรกความสัมพันธ์ระหว่างผู้อพยพกับรัฐบาลเม็กซิโกเป็นไปด้วยดี แต่ชุมชนเท็กซัสขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยในเวลาเพียงสิบปีก็มีชาวอเมริกันมากถึง 20000 คน และทาสผิวดำอีกพันคน แต่ชาวเม็กซิกันแท้ๆมีเพียง 5000 คน เท่านั้น ขณะเดียวกันก็เริ่มมีความคิดในหมู่ชาวเม็กซิโกเชื้อสายอเมริกันในเรื่องการที่จะแยกตัวไปรวมกับอเมริกา อีกทั้งทางอเมริกาเองก็รอจังหวะที่จะเจรจาซื้อเท็กซัส ดังนั้นนาย
นายพลซานตา อันนาปฎิเสธและจับกุมสตีเฟน ออสติน( Steven Austin) ผู้เป็นตัวแทนเจรจาขังคุก 8 เดือน ความอดทนของชาวเท็กซัสหมดลง เมืองต่างๆลุกฮือประท้วงไม่ยอมอยู่ใต้การปกครองของเม็กซิโก อีกทั้งมีการระดมกองกำลังป้องกันตนเองโดยมีนาย
ฉากการรบ: สำหรับป้อมอลาโม (Alamo) นั้นเดิมทีเป็นสำนักมิสชันนารีสเปน ที่สร่างขึ้นในปี 1718 โดยพวกมิสชันนารีสเปนที่มาเผยแผ่ศาสนาให้กับชนพื้นเมือง และได้ถูกทิ้งร้างไปในเวลาต่อมา จนกระทั่งถึงปี 1836 กองทัพเม็กซิกันเข้าโจมตีเท็กซัส นักรบทหารอาสาเท็กซัสจำนวน 189 นาย นำโดย พันเอก วิลเลียม เทรวิส , จิม โบวี่ และ เดวี่ ครอกเก็ต ได้ใช้โบสถ์เก่าแห่งนี้เป็นที่มั่นโดยเรียกที่นี่ว่า ป้อมอลาโม เพื่อเตรียมรับมือกองทัพเม็กซิกัน โดยจะตรึงกำลังข้าศึกไว้จนกว่านายพลแซม ฮูสตันจะมาช่วย แต่กองทัพของนายพลฮุสตันเป็นเพียงทหารใหม่ที่ ยังไม่พร้อมจะออกรบและไม่อาจจะยกกำลังมาช่วยได้ทันเวลา เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1836 ทหารเม็กซิกันจำนวน 7000 นาย ภายใต้การนำของนาย
วันแห่งการรบ: ในวันแรก ขบวนทหารม้าเม็กซิกันเป็นหัวหอกในการเข้าโจมตี แต่ถูกระดมยิงจากปืนใหญ่จนต้องล่าถอยไป ในช่วงสองวันแรกกองทัพเม็กซิกันระดมยิงปืนใหญ่ใส่ป้อม แต่เนื่องจากป้อมตั้งอยู่ไกลเกินไป จึงไม่มีผลอะไร จนถึงวันที่สามฝ่ายเม็กซิกันลากปืนใหญ่เข้าไปใกล้และระดมยิงอย่างหนัก วันที่สี่และวันที่ห้า ฝ่ายเท็กซัสส่งคนไปลอบเผาที่พักข้าศึก และได้ปะทะกับทหารเม็กซิกัน การโจมตียังคงมีอยู่เรื่อยๆ จนถึงวันที่สิบโดยทหารเม็กซิกันโอบล้อมเข้ามาช้าๆในวันที่สิบเอ็ดผู้พันเทรวิสให้ทุกคนเลือกทางของตนเองว่าจะหนีหรือสู้ ไม่มีใครยอมหนีแม้แต่คนเดียว และเมื่อถึงวันที่สิบสาม ซานตา อันนามั่นใจว่าฝ่ายอลาโมอ่อนแรงเค็มที่แล้ว จึงส่งกำลังบุกอีกครั้งในเวลาตีสี่ของวันที่ 6 มีนาคมแต่ถูกฝ่ายเท็กซัสตีถอยร่นกลับ
ซานตา อันนาสั่งบุกอีกระลอกในตอนตีห้าครึ่งเพราะเกรงว่าถ้ารอนานไปทหารฝ่ายตนจะเสียขวัญมากขึ้น นักรบเท็กซัสสู้อย่างถวายชีวิต ทำให้ข้าศึกสูญเสียกำลังพลเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ในที่สุดกองทัพเม็กซิกันก็สามารถเจาะเข้าทางด้านเหนือของป้อมได้และบุกทพลวงเข้าไปต่อสู้ประชิดตัวจนถึงแท่นหน้าโบสถ์ ผู้พันเทรวิสตายคาที่มั่น ในขณะที่จิม โบวี่ซึ่งกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียงสามมารถฆ่าทหารเม็กซิกันได้ห้าคนก่อนโดยรุมแทงตาย ชาวเทกซัสล้มตายกลาดเกลื่อนหลังการรบอันดุเดือดในที่สุดฝ่ายเม็กซิกันก็ได้รับชัยชนะมีผู้รอดชีวิตเพียง 9 คน และถูกจับเป็นเชลย ซึ่งในนั้นมีเดวี่ ครอกเก็ตและร้อยเอกดิคคินสันกับภรรยาและลูกรวมอยู่ด้วย
ซานตา อันนาปล่อยตัว นางดิคคินสันและบุตรพร้อมกับทาสผิวดำอีก 1คนออกไป นาย
บทสรุป: หลังจากการรบที่อลาโมจบสิ้นลง ซานตา อันนาเคลื่อนทัพไปโจมตีผู้ต่อต้านที่เมืองโกเลียต (Goliad)ผู้ต่อต้าน 330 คนสู้ไม่ได้และยอมจำนนแต่กลับถูกยิงทั้งอย่างเหี้ยมโหด ส้รางความโกรธแค้นแก่ชาวเท็กซัสอย่างที่สุด แต่ขณะนั้น ฝ่ายเท็กซัสยังไม่เข้มแข็งพอ นาย
หลังการรบ ชาวเท็กซัสได้รับชัยชนะ สังหารทหารเม็กซิกันตายไป 630 นาย บาดเจ็บ 208 นาย และอีก 730 นาย ถูกจับเป็นเชลย ส่วนนาย
ผลงานอื่นๆ ของ สิงขรลักษณ์ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สิงขรลักษณ์
ความคิดเห็น