พระยาน้อย - นิยาย พระยาน้อย : Dek-D.com - Writer
×

    พระยาน้อย

    โดย โลกา

    ผมกลับชาติมาเกิดเป็นลูกพระยา พ่อชื่อพระยาเกิด เป็นข้าหลวงของเจ้าอยู่หัวกรุงสุโขทัย ถูกสั่งย้ายไปคุมเมืองกำแพงเพชร แม่ถูกฆ่าตายระหว่างทาง ถ้าผมอายุครบ 15 เมื่อไร จะแต่เมียสัก 5 คนใช้ชีวิตเสรีให้คุ้มค่า

    ผู้เข้าชมรวม

    2,777

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1,090

    ผู้เข้าชมรวม


    2.77K

    ความคิดเห็น


    37

    คนติดตาม


    103
    หมวด :  สงคราม
    จำนวนตอน :  32 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  27 เม.ย. 67 / 17:14 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เสียงดนตรีในผับดังกระหึ่ม ทำนองเบสหนักๆ กระแทกหัวใจหนุ่มใหญ่วัย 40 อย่างบ้าคลั่ง ร่างกายโยกย้ายไปมาตามจังหวะดนตรี กลิ่นหอมของสตรีแรกรุ่น คุกกรุ่นอยู่เต็มร้าน เธอสวยมากมาย โยกย้ายไปมา ท่ามกลางแสงไฟหลากสี

    น้องแพร เธอคนนี้ดูสวยเป็นพิเศษ ทำยังไงถึงจะพาเธอกลับบ้านได้นะ เรื่องจีบผู้หญิงเราก็ไม่ค่อยเก่ง มาเจอคนถูกใจแบบนี้แล้วจะทำยังไงดี

    “เฮ๊ย!ไอ้เบื๊อก จ้องแฟนกูทำไมว๊ะ” เสียงตะคอกอันเกรี้ยวกราชดังขึ้น มีมือใหญ่ของใครบางคนกระชากหัวผมจากด้านหลัง ตามมาด้วยเสียงตีดัง ผั้ว!! ขวดเบียร์สีเขียวแตกกระจาย

    “โอ๊ย!!บัดซบ ใครขอโทษ” กำลังมึนงงๆ อยู่รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นที่หัว ถูกตีแล้ว วาดหมัดกลับหลังไปโดยไม่ต้องมอง

    ผัว!! โอ๊ย!!หน้าฉัน!!กรีด!!

    “เฮ๊ย!!ตายห่า..ขอโทษ” ทันทีที่ตาหายพล่า สายตาก็มองเห็น สาวสวยผมยาวนั่งกุมจมูก อยู่ตรงหน้า มือของเธอเต็มไปด้วยเลือด ไม่ต้องสืบก็เข้าใจ ผมต่อยเธอเข้าให้แล้ว ข้างๆเธอมีชายฉกรรจ์สองคนยืนอยู่ หนึ่งในนั้นถือคอขวดปลายฉลาม ขวดอันที่ตีหัวผมแน่ๆ

    “ไอ้เวร ตาย” มันแทงขวดเข้ามาทันที ผมตกใจ ดึงถาดจากมือบ๋อยมา กันหน้าอกของตัวเองเอาไว้ เสียงปากขวดกระทบกับถาดดัง เชี้ย เชี้ย!!สองครั้ง

    “บัดซบ มึงเป็นใครว๊ะ” แขนข้างที่ว่างอยู่ ฟันศอกสั้นใส่คิ้วซ้ายของมันไปสองที ผั๊ว ผั๊ว

    “โอ๊ย!!” เสียงร้องแหบดังสวนมา เลือดสาดกระจายออกจากคิ้ว ไหลอาบหน้ามือแทง

    “ไอ้เวร!!” ผั้ว!!เก้า ผมรู้สึกมึน เก้าอี้ไม้แตกกระจาย ไม่รู้ใครเอาเก้าอี้ฟาดผมจากด้านหลัง จนถลาล้มลงไป กลิ้งอยู่สองสามที ตัวก็ลอดโต๊ะเหล็กออกไปอีกด้าน หูได้ยินเสียง วี้ดว้ายอยู่รอบๆ มีคนตะโกนว่าคนตีกันแล้ว เสียงเท้าวิ่งวุ่นดังไม่ขาด เสียงฟาดเสียงทุบดังตามมาติดๆ

    “ไวเป็นลิงเลยนะมึง” เสียงคุ้นๆ ดังเข้าหูมาอีก ไม่ผิดมือขวดที่ฟาดผมไปเมื่อกี้ มันพุ่งเข้ามา ผมถีบเก้าอี้ไม้ไปหามัน ผัว!! ของเก้าอี้อัดเป้ามันไปจังๆ

    “โอ๊ย!!” มันทิ้งขวดกุมเป้าแน่น" เชี้ย! เสียงขวดแตกดังเสียดหูขึ้นอีกสองสามที

    “ตายห่า ปาขวดมาเลยเหรอ พวกเวร” ลุกขึ้นได้ผมกระโดดขึ้นเวทีไป ตอนนี้ไม่มีใครแล้วนักดนตรี คงออกหลังร้านไปหมดแน่ๆ ผั้ว! ผั้ว! ผั้ว! ขวดเบียร์หลายขวดปลิวมาทางผม หลบไม่ทันสองขวด ขวดหนึ่งฟาดเข้าหัวไหล่ อีกขวดเข้าขมับ ดาวหลายดวงพร่างพราวขึ้นในตา ผมมึนหัวไปหมด ทั้งตัวเต็มไปด้วยน้ำเบียร์ ตอนนั้นเองเท้าเปียกๆ เหยียบลงที่ปลั๊กไฟพอดี ตืด!!!! จะได้แค่ว่าตัวกระตุกไปมา ชาไปหมด

    “เวรเอ๊ย!! ไฟฟ้าช็อต”

    “เฮ้ย!เอาน้ำสาดมัน” ซ่า!!! น้ำสองถังถูกสาดเข้าตรงหน้าผมเต็มๆ

    “ฮ้าๆๆ ลูกพี่ นี่เหรอไอ้เพชรที่เขาลือกัน ไม่เห็นจะเท่าไรเลยนี่” เสียงแหลมเสียดหูดังอยู่ข้างๆ ผมลืมตาขึ้นไอออกมาสองสามครั้งเพราะน้ำเข้าจมูก

    “อย่าดูถูกมัน ไอ้นี้ดวงมันแข็งโดนไฟช็อตไปขนาดนั้นยังไม่ตายอีก”

    “จริงของลูกพี่ ถ้าพวกเราไม่รุมมันขนาดนี้ มีเหรอจะจับมันได้”

    “ไอ้ดิน!! ไอ้เวรตะลัย!!” ผมกัดฟันกรอด มองหน้าคนคุ้นเคยตรงหน้า

    “โอ้ว สวัสดีพี่เพชร” หนุ่มหล่อโผล่หัวออกมาจากกลุ่มคน

    “ไอ้แผน ไอ้ระยำ มึงหักหลังกูเหรอ”

    “ฮ้าๆ ไอ้พี่เพชร ทำไมเหรอ แปลกใจอะไรว๊ะ คิดเหรอว่ากูจะเห็นมึงเป็นพี่จริงๆ วันนี้มึงตายแน่ ส่วนน้องแพรกูจะช่วยมึงดูแลเอง” แผนยิ้มร่าออกมา มันเป็นเด็กกลุ่มไอดินมานานแล้ว ที่เข้าไปตีสนิทกับเพชรเพราะนายสั่งเพียงเท่านั้น

    “ไอ้ระยำ อย่าให้กูหนีไปได้นะมึง กูเอาพวกมึงตายแน่”

    “อ้าๆๆ หนี ไอ้พี่เพชร พี่คิดว่าจะหนีได้เหรอ มึงดูดิว๊ะพี่ ที่นี่มีกี่ตีน กูจะบอกมึงให้นะ คนที่นายสั่งเก็บมันไม่เคยมีใครรอด จำใส่หัวมึงเอาไว้” นายที่ไอ้แผนว่า เป็นนักการเมืองขาใหญ่เมืองกำแพง

    “เฮ้ย!!แผน ตรงนี้ไม่เกี่ยวกับมึงแล้ว ปล่อยพวกกูจัดการเอง"

    “ได้แน่นอน ฝากพี่ดินด้วยนะ ผมของไปเยแฟนไอ้พี่เพชรก่อนหว๊ะ ฮ้าๆๆๆ บายพี่เพชร เออกูลืมบอก ไม่ได้ซื้อถุงมาว๊ะ น้องแพรท้องแน่ๆเลย ฮ้าๆๆๆ”

    “ไอ้เวร บัดซบมึงอย่านะ” ผั้ว! เพชรหน้ามืดไปนิด ถูกไอ้ดินเตะอัดหน้าเข้าจังๆ ตัวก็ถูกมัดเป็นข้าวต้ม ดิ้นแค่ไหนก็ไม่ยอมหลุดเลย

    "ไม่ต้องดิ้น เชือกกล้วยมัดมือมึงอยู่ ดิ้นไม่หลุดหรอก กูได้ยินมาว่ามึงเหนียว จริงหรือเปล่า” ไอดิน หรือไอ้ดินพูดขึ้น มันจิกหัวเพชรขึ้นมา มองสบตาแบบแมนๆ

    “ถุย!!” น้ำลายเหม็นๆ สดๆ จากปาก อัดเข้าเต็มเบ้าตาไอ้ดิน

    “บัดซบ กระทืบมันให้ตาย” ผั้ว!! ผั้ว!! ผั้ว!! อ้าก!!โอ๊ย ผั้ว!! ตุบ ตับ ทั้งหมัด ทั้งเท้ากระหน่ำเข้ามาไม่ขาด ผ่านไปหลายนาที พวกมันก็หยุด

    “แฮกๆ เหนื่อยลูกพี่ แฮกๆ เอาไงต่อ” ลูกน้องต่างหายใจหอบ ลิ้นห้อยกันหมด

    “ทำไมมันไม่แตกเลยว๊ะ เอาขวดมา"ไอ้ดินเอาเท้าเขี่ย ตัวเพชรที่นอนสลบอยู่ เห็นว่าไม่มีเลือดก็เดือดดาลขึ้นมาอีก ผั้ว!! ผั้ว!! ผั้ว!! ขวดใบแล้วใบเล่าพาดเข้าที่หัวซ้ำๆ

    “มีด มึงเอามีดมาสับมัน” ลูกน้องสองคนชักมีดออกมา ปึก ปึก ปึก ฉับๆ ทั้งฟัน ทั้งแทง คนนอนอยู่ก็ไม่มีแผล

    “ฟันไม่เข้าเลยลูกพี่ เอาไงดี” คนฟันถามออกมาเสียงสั่น ตอนนี้พวกมันขนหัวลุกไปหมด

    “ไหน กูเอง ลองกิน 9 มม.กูหน่อย” แชะ แชะ แชะ แชะ

    “บัดซบ” ปั้ง!!

    “โอ๊ย!! ลูกพี่ยิงขาผมทำไม” ลูกน้องคนหนึ่งกระโดดโหยงขึ้น เลือดสาดกระจาย เมื่อกี้ไอ้ดินสับไก ไปสามนัด ปืนไม่แตก พอมันชี้ปืนไปทางอื่นนัดต่อมาก็แตก ยิงถูกขาลูกน้องเข้า

    “บัดซบ ค้นตัวมัน”

    “ค้นแล้วลูกพี่ไม่เจออะไร”

    “เอาไวดีว๊ะ” ไอ้ดินมองร่างที่สลบอยู่ตรงหน้า ตอนนี้มันกลัวจริงๆแล้ว ได้ยินแค่ข่าวลือ มาเจอกับตัวเพิ่งรู้ว่าไอ้เพชรมันของจริง

    “ไปเอาหีบเหล็กมา”

    “ครับ” ลูกน้องสองสามคนวิ่งออกไปทันที ยิงไม่ออก ฟันไม่เข้า กระทืบไม่ตาย มีทางเดียวใส่หีบถ่วงน้ำ ร่างที่กำลังสลบของเพชร ถูกเอาลงหีบเหล็กอะลูมิเนียมบาร์ สำหรับท้ายรถกระบะ สั่งทำเป็นพิเศษเอาไว้ใส่เครื่องมือตั้งแคมป์ปิ้งอย่างดี

    “น่าเสียดาย หีบนี้ราคาหลายหมื่นเลยนะลูกพี่”

    “พูดมาก ตักหินใส่ลงไป” เสียงตักหินคลุกดังขึ้น พวกมันใช้พลั่วเหล็กตักหินคลุกสีดำลงในกล่อง ถมร่างเพชรที่อยู่ในกล่องจนมิด

    “ปิดฝา ล็อกกุญแจเลย”

    “เรียบร้อยครับ”

    “ไปขึ้นรถ เอามันไปทิ้งแม่น้ำปิง” รถกระบะสามคันวิ่งตามกันออกไป ไม่นานพวกมันก็มาถึงจุดหมาย กลางสะพานข้ามแม่น้ำปิง อำเภอเมืองตาก

    “ทิ้งลงไปเลย” กล่องเหล็กถูกลากลงจากท้ายกระบะ คนหกคนหามกล่องขึ้น โยนลงไปในแม่น้ำทันที ตูม! บุ่งๆๆๆ กล่องเหล็กมีหินคลุกอยู่เต็ม ไม่นานก็จมหายไปจากสายตา เป็นตอนนั้นเองที่ไอ้ดิน ถอนหายใจยาวออกมาได้

    “มันคงไม่รอดแล้ว พวกเรากลับ” ทุกคนมองท้องน้ำอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหันหลัง กลับขึ้นรถกระบะจากไป ทิ้งตำนานของเพชรเมืองกำแพง เอาไว้ที่กลางสะพานข้ามแม่น้ำปิง

    เพชรรู้สึกหนาว ในความมืดมิดเขาพยายามลืมตาอยู่หลายครั้งแต่ไม่เป็นผล รู้สึกว่าสติของตัวเองขาดห่วงไปพักใหญ่ รู้สึกตัวขึ้นมาก็พยายามลืมตาแต่ทำไม่ได้

    “เฮ๊ย!ระวัง พวกมันมาแล้ว”

    “มีกี่คน”

    “ไม่รู้พี่ น่าจะสิบ พี่ขุนพานายน้อยลงเรือไปก่อน พวกข้าจะกันมันเอาไว้ตรงนี้”

    “เอาจริงเหรอไอ้แผน”

    “ไปพี่ไม่ต้องห่วง ชีวิตนายน้อยสำคัญกว่า”

    “ได้ พวกเราไป ลงเรือ”

    เพชรได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ตนยังลืมตาขึ้นมาไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หัวก็หนัก ความรู้สึกเจ็บปวดแล่นขึ้นหัวเป็นพักๆ

    “ธนู ระวัง” ฟิ้ว!!ฉึก!!ฉึก!!ฉึก!!

    “โอ๊ย!!”

    “นายหญิง นายหญิงถูกยิง ไป ไป ไป"เสียความวุ่นวายดังขึ้นอยู่พักใหญ่ แน่แล้ว มีการต่อสู้กันขึ้นแน่ๆ ใครกัน ลูกกันทำไม ไม่นานเพชรก็รู้สึกถึงบางอย่างอุ่นๆ ไหลอาบไปทั่วตัว แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ลืมตาไม่ขึ้น ตัวก็ขยับไม่ได้

    “เพชร แม่คงมาส่งลูกได้แค่นี้ ลูกเอ๊ย ลูกต้องมีชีวิตที่ดี โตไปเป็นเจ้าคนนายคนนะลูก เชื่อฟังพ่อเขาอย่าดื้อ…” เสียงผู้หญิงพูดอยู่ข้างๆ หู่ ไม่นานเสียงนั้นก็เงียบไป พร้อมกับสติของเพชรที่ดับลงอีกครั้ง

    “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เสียของใคร ทำไมเราถึงรู้สึกเสียในกันนะ” ความคิดสุดท้ายที่เพชรมี ก่อนสติจะหลุดลอยไป

    “พี่เพชร แม่ให้มาตามไปกินข้าวเจ้าค่ะ” เสียงเล็กๆ ของเด็กหญิง ร้องเรียกเขา

    “น้องแพรหรือ” ผมจำเธอได้ เด็กคนนี้ชื่อแพร ลูกแม่เล็ก แม่คนรองของผม

    “ใช่เจ้าค่ะ รีบๆ มาวันนี้มีของชอบพี่ทั้งนั้น”

    “อ่า พี่ล้างมือก่อน” ผมตอบไปตามความเคยชิน ไม่นานความฝันก็หายไป มีความทรงจำมากมายไหลผ่านไปเป็นฉากๆ ผมเพชร พ่อชื่อเกิด แม่ชื่อจันทร์เป็นลูกชายคนเดียวของพ่อเกิดกับแม่จันทร์ พ่อได้อวยยศเป็นพระยา ถูกเจ้าเมืองสุโขทัยสั่งให้ย้ายมาประจำเมืองกำแพง มีคนมาล้อมฆ่าระหว่างเดินทาง ตนถูกถีบตกม้านอนสลบเป็นผักไม่ได้สติ แม่เป็นคนอุ้มหนีลงเรือ พ่อแยกตัวออกไปสู้กับนักฆ่า เปิดทางให้เราหนีมา นี้คือความทรงจำล่าสุดที่มีอยู่ในหัว

    “อืม!! ปวดไปหมดเลย”

    “นายน้อย!! นายน้อยรู้สึกตัวแล้ว!! พี่ขุน นายน้อยตื่นแล้วขอรับ”

    “จริงเหรอไอ้ผา สวรรค์นายน้อยยังไม่ตาย สวรรค์คุ้มครอง” ผมลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง บนเรือลำเล็กๆ มีคนอยู่สามคน

    “ท่านแม่ ท่านแม่ไปไหน” ผมถามขึ้นเสียงแหบ

    “นายน้อย เราสมควรตายเราปกป้องนายหญิงเอาไว้ไม่ได้ เรือใหญ่ถูกพวกนั้นเผาไปแล้วขอรับ” ผาเล่าว่าตอนที่กำลังหนี เรือใหญ่ถูกเผาจนแตก ผากับขุนแผนพาผมกระโดดน้ำหนี ลอยน้ำอยู่นานถึงเจอเข้ากับเรือหาปลาของชาวบ้าน ทั้งคู่ขโมยเรือ พาผมหนีมาได้

    “ท่าพ่อละ”

    “นายท่านให้เราไปเจอที่เมืองกำแพงขอรับ”

    “หวังว่าท่านพ่อจะปลอดภัย ข้าเหนื่อย ขอนอนต่อสักนิด”

    “ขอรับ” ทั้งสองรับปาก เสียงแหบ ผาเอาผ้าฝ้ายคลุมผมทั้งตัวก่อนจะเอาฟางข้าวถมไว้ไม่ให้โดดแดด ผมนอนหลับไปนานเท่าไรไม่ทาบได้ รู้สึกตัวขึ้นมาอีกที เรือก็จอดแล้ว ข้างตัว มีเพียงผา ขุนแผนไม่อยู่

    “นายน้อย ตื่นแล้วหรือขอรับ”

    “อืม เราอยู่ที่ไหน”

    “บ้านหวายครับ พี่แผนไปซื้อยาแก้ช้ำในให้นายน้อย อีกไม่นานก็กลับมาแล้วละขอรับ นายน้อยหิวหรือเปล่า”

    “นิดหน่อย”

    “นี่ปลาย่างของรับ กินรองท้องสักหน่อย” ผายื่นเนื้อปลาย่าง ที่ห่ออยู่ในใบตองมาให้ เนื้อปลาสีขาวนวล ก้างปลาถูกเอาออกไปหมดแล้ว มีกลิ่นไหม้นิดๆ น่าจะเผามากกว่าย่าง

    ผมกินลงไปนิดหน่อย มันจืดชืด เพราะไม่มีเกลือหรือเครื่องปรุงอะไรเลย เป็นแค่ปลาเผาธรรมดาเท่านั้น รอไม่นานแผนก็กลับมาพร้อมกับยาหม้อ ยาถูกต้มมาแล้ว หมอยาที่นี่ บริการต้มให้ด้วยแต่ต้องซื้อไปทั้งหม้อแบบนี้

    “ผา ออกเรือ” มาถึงแผนก็สั่งออกเรือ เราสามคนล่องเรือไปตามแม่น้ำอีกครั้ง

    “นายน้อย ยาของรับ” ผา รินยาต้ม ส่งมาให้

    “ขม ฉิบหาย” ผมหน้าเบี้ยว กลืนยาลงไปอึกแรก ความขมเฝื่อนก็เล่นงานลิ้นเข้าเสียแล้ว

    “กินอีกหน่อยขอรับ จะได้หาย” เสียง ผา เอ่ยให้กำลังใจ ผมทนกินตามที่ผาบอก โดยไม่อิดออด กินเสร็จก็ทิ้งตัวลงนอนตามเดิม ผาเอาผ้ามาคลุมให้ แล้วกลบด้วยฟางข้าวอีกครั้ง

     

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น