In My Dreams ( ครั้งหนึ่ง....ที่ฉันเคยฝัน ) - In My Dreams ( ครั้งหนึ่ง....ที่ฉันเคยฝัน ) นิยาย In My Dreams ( ครั้งหนึ่ง....ที่ฉันเคยฝัน ) : Dek-D.com - Writer

    In My Dreams ( ครั้งหนึ่ง....ที่ฉันเคยฝัน )

    เขาเหมือนจะกล่อมฉันให้สู่ห้วงภวังค์แห่งกาม ฉันไม่อยาก... ทันใดนั้นฉันถูกเขาจูบที่ปากอีกครั้งมันไม่ใช่ระดับที่นุ่มนวลแล้ว มันเป็นระดับของความรุนแรงปานกลาง เข้าโอบเอวฉันแล้วดึงตัวฉันเข้าไปแนบตัวเขา

    ผู้เข้าชมรวม

    376

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    376

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 ก.ย. 57 / 17:07 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ทำเรื่องสั้น ฉบับ Y เป็นเรื่องแรก...

    ไรต์อยากขอบคุณที่ติดตามไรต์มาตลอด...ขอบคุณมากจริงๆ

    ไม่พรรณาอะไรมากมาย โปรดติดตามเรื่องสั้นนี้เลยจ้า

    ( ปล. อยากให้มีมีภาคต่อไรต์ก็โอเคนะ Ooops !! <3 xoxo )






     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      In My Dreams ( ครั้งหนึ่ง....ที่ฉันเคยฝัน )

       

              ช่วงหนึ่งของอายุที่ฉันพอเรียนมาแล้วเข้าใจในวิชาสุขศึกษา อารมณ์ของเราจะสูงขึ้น ฮอร์โมนเราจะเพ่นพ่าน

      สูบฉีดเต็มร่างกาย เชื่อฉันเถอะว่ามันคือความจริงของคนที่เป็น วัยรุ่น เพราะวัยนี้แหละที่ทำให้ฉันรู้สึกแปลกอย่างที่

      ไม่เคยเป็นมาก่อน จะให้เรียกว่าอะไรดี
      ?? กระหาย กระสับกระส่าย อยากใคร่ อยากครวญ มันอธิบายเกินกว่าที่ฉัน

      จะสื่อออกมา...เอาเป็นว่าฉันจะเล่าเรื่องให้คุณฟังก็แล้วกัน มันคงจะดีกว่านี้ถ้าฉันทำมันให้ตรงกับเวลากับคนที่คิดว่า


      เขามีตัวตนจริงๆ ( ปล.ในความรู้สึก )

                     

                      7.30 น. ณ โรงเรียน XOXO


      ฉันเดินออกมาจากห้องปกครองอย่างตั้งหน้าตั้งตาและภาวนาว่าขอให้เรื่องที่ถุงเท้าฉันสั้นให้มันจบๆไปซะ เพราะ

      ฉันไม่เคยที่ทำผิดกฎโรงเรียนมาก่อนฉันเลยเกลียดการทำผิดที่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อฉันออกมาได้ 2 ก้าว ฉันเห็นเงาลางๆ

      รูปร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน ไหล่กว้าง ริมฝีปากที่บางออกน้ำตาลชมพูเล็กน้อย จมูกที่โด่งเป็นสัน ดวงตาของเขาดำ

      แต่ไม่สนิทประกายน้ำตาลเมื่อส่องแสงแดดยามเช้า คิ้วที่หนาเข้มสีดำ ทรงผมของเขานั้นคล้ายพระเอกซีรี่ย์วัยรุ่น

      ชื่อดัง ภาพรวมแล้วเขาดูดีแล้วเขาก็อยู่ชั้นมัธยมเดียวกันกับฉัน ฉันสังเกตได้จากรอยขีดที่ปักอยู่ตรงปกเสื้อน่ะ

      สงสัยเขาโดนข้อหากางเกงสั้น ( ถ้าให้ฉันเดา ) ตาของฉันและเขาจับจ้องกันในเวลาที่ไม่ถึง 3 วินาที แต่มันเป็น

      ความรู้สึกที่ยาวนานเลยทีเดียว ( หรือฉันรู้สึกไปเอง ) ยังไงซะ ฉันจึงรีบเดินออกมาจากจุดนั้น แล้วยืนมองเขา

      เข้าห้องปกครองอย่างสงสัย จนกระทั่งเสียงสัญญาณของการเข้าแถวก็ดังขึ้น ฉันจึงรีบถือกระเป๋าหนังจาคอปไป

      ที่แถวอย่างเร็วที่สุด จนลืมไปว่าสายตาของเขาเหมือนจะ
      ชำเลืองมาที่ฉันด้วย ( แบบผ่านๆฉันก็รู้สึกนะจะบอกให้ )

       

                      8.00 น. ในแถวของระดับชั้นมัธยมปลาย....


      ฉันร้องเพลงโรงเรียนอย่างตั้งใจ เพื่อกลบเสียงของเพื่อนสาวของฉันได้สนิท...ตายจริง !! เสียงฉันดังไป จนทำให้

      ครูที่ปรึกษาของฉันเดินเข้ามาพร้อมบอกฉันว่า
      ดังไปมั้ยลูก ?? ” ครูของฉันบอก ไม่หรอกครับ ผมก็ร้องปกติ

      ฉันยิ้มแบบอายๆที่ทำอะไรผิดไป 2 อย่างในวันนี้ อะไร ??!! ” ฉันหันไปแล้วทำท่าหาเรื่องใส่เพื่อนสาว เปล่านิ

      เพื่อนฉันยิ้มพร้อมตอบสั้นๆแบบสบายๆ ไม่คุยลูก...นี่เวลาเข้าแถวครูฉันตำหนิฉันอีกครั้งก่อนที่จะก้าวเท้า

      ด้านขวาที่ใส่ส้นสูงสายหนังสีดำประมาณ 1 นิ้วไปด้านหลังของฉัน
      โกหกหน้าตายนะแก !! ” ฉันมองเพื่อนสาว

      ของฉันด้วยสายตาที่ไม่พอใจนัก... ในตอนนั้นเองฉันได้มองไปที่แถวของห้องอีกห้องหนึ่งเป็นห้องเลขคู่ ฉันเห็นเขา

      และ เขาก็เหมือนจะเห็นฉัน เขาสูงกว่ากับฉันนิดหน่อย คงเป็นเพราะฉันกินนมน้อยไป 1 แก้วล่ะมั้งเลยเตยกว่า
      ? ฉัน

      ก้มหน้าแล้วยิ้ม เขายังไม่หยุดมองฉันจนเพื่อนของเขาเรียกหน้าของเขาจึงหันไปที่อื่น ซึ่งทำให้ฉันโล่งใจขึ้น

      มาก....เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการหน้าเสาธง ฉันกำลังเดินไปซื้อน้ำเปล่ามาจิบเล่นๆ ( อารมณ์ไหน
      ?? ) และเขาก็เดินเข้ามา

      แทรกแถวของฉัน ฉันได้กลิ่นของเหงื่อที่ปะปนกับความหอมของเสื้อที่ได้รับแสงแดดจางๆจากตัวของเขา เขากำลัง

      ซื้อน้ำเหมือนกัน และ ฉันก็จะซื้อ เมื่อเขาเห็นหน้าฉันเค้าจึงถอยไป 1 – 2 ก้าว แล้วยืนอยู่ข้างหลังฉันเหมือนเขาคงรู้

      ว่า ฉันมาเข้าแถวก่อน .... ฉันพยักหน้าลงเพื่อแสดงคำขอบคุณทางอ้อม เขาเม้มปากแล้วถอยไป เมื่อฉันได้น้ำมา

      1 ขวด ฉันจึงรีบเดินออกมาจากกลุ่มนักเรียนที่ซื้อน้ำเป็นจำนวนมาก เขายังคงก้มหน้าหยิบเหรียญ 10 อย่างตั้งใจ

      ฉันยิ้มให้เขาทั้งที่เขามองไม่เห็นแล้วฉันก็รีบวิ่งไปเรียนวิชาเอกของฉันอย่างเร่งรีบจริงๆจังๆ

       

                      12.30 น. หลังจากที่ฉันและเพื่อนอีก 2 คนรับประทานอาหารเสร็จ....


      ฉันยังก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์อัพเดทข่าวข้อมูลต่างๆจาก Facebook และ Instagram จังหวะนั้นเองแหละ

      ที่ฉันเงยหน้าขึ้นมาแล้วเจอเขาพอดี เขากำลังเล่นบาสอยู่ในสนาม เสื้อสีขาวมีปกที่เปื้อนรอยเหงื่อจางๆ กางเกงที่สั้น

      ทำให้เขาเคลื่อนตัวได้รวดเร็ว ถุงเท้าสั้นเหมือนกับแบบของฉันที่โดนเมื่อเช้าเลย
      ตายจริง !! เขามองมา !! ” ฉันพูด

      ในใจพร้อมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่สั้นแต่ไม่มากออกมากดเล่นเพื่อกลบอาการที่แสดงอยู่...

      ฉันได้ยินเสียงหัวเราะจากกลุ่มของเขาอย่างต่อเนื่อง ความคิดในตอนนั้น ฉันเหมือนตัวตลกที่อยู่ในสวนสนุกไม่มี

      ผิดเลย หน้าฉันซีดลงอย่างเห็นได้ชัด และ ฉันคงเก็บอาการนี้ไม่นานจึงรีบเดินโดยไม่มองเขาแม้แต่น้อย

       

                      หลังจากที่ฉันกลับมาจากโรงเรียน ฉันวางกระเป๋าลง ถอดเสื้อผ้าแล้วรีบไปอาบน้ำ ทำการบ้านที่มีอยู่

      ให้เสร็จ ซึ่งมันแต่งต่างกับชีวิตของเด็กทั่วไปโดยสิ้นเชิง เชื่อฉันเถอะว่าฉันทำมันจริงๆแค่คนเดียวก็ตามนะ ...

      ในที่สุด ผ่าน 1 ชั่วโมงกว่าๆ เกือบจะ 2 ชั่วโมง ฉันก็ได้เล่นโน๊ตบุ๊ค สิ่งที่ฉันเปิดอย่างแรกคือ
      Facebook  และบันทึก

      เรื่องราวส่วนตัวลงในไดอารี่ตามนางเอกซีรี่ย์ต่างประเทศ ( ยอมรับว่าฉันทำตามแล้วมันก็ติด หน้าขำดีนะว่ามั้ย
      ? )

       

                      เช้าวันต่อมาเป็นวันที่ฉันต้องไปเรียน รด. การเตรียมความพร้อมจึงไม่ค่อยเป็นอุปสรรคสำหรับฉัน

      มากนัก เหลือแต่ใจฉันอย่างเดียวนี่แหละที่มันไม่พร้อม...
      จะเอาอะไรก่อนออกจากบ้านไหม ?? ” แม่ของฉันถือ

      นมเปรี้ยวกับกล้วยมาเป็นตัวเลือก 2 อย่างในวันนี้
      เอานมเปรี้ยวดีกว่า..แม่เก็บกล้วยไว้นะเดี๋ยวกลับมาหนูจะกิน

      ฉันบอกแม่แล้วเจาะนมเปรี้ยวพร้อมดื่มในขณะนั้น ได้จ่ะ โชคดีนะลูกแม่ฉันอวยพรให้ฉันแบบนี้ทุกๆวันไม่เว้น

      ว่างเลยสักวันเดียว มันทำให้ฉันรู้สึกมีพลังขึ้นมานิด
      เช่นกันครับ แม่หวัดดีครับฉันอำลาพร้อมยกมือไหว้

      ท่านด้วยใจเคารพ

       

                      ฉันรีบวิ่งไปที่แถวอย่างรวดเร็วแล้วคิดในใจว่า ฉันไม่ควรมาสายอีก โชคดีนะที่พวกเขายังไม่เริ่มกล่าว

      คำปฏิญาณ ฉันจึงได้เขียนเซ็นชื่อลงในสัปดาห์ที่ 10 ของการมาเรียน รด. ฉันขึ้นไปเก็บกระเป๋าในห้องที่เขาจัดไว้

      อยู่แล้ว ในขณะที่ฉันลงมานั้น ฉันเห็นเขาเป็นครั้งแรกของวันนี้ หน้าของเขาสดใส กำลังยิ้มแย้ม ฉันมองแล้วรู้สึก

      เขินอายนิดๆแต่ก็ต้องกัดฟันทนก้มหน้าทำเป็นไม่รับไม่รู้ไป เมื่อระดับสายตาที่เขามองเพื่อนเปลี่ยนมามองฉัน

      เขาเม้มปากแล้วมองหน้าฉันอยู่อย่างนั้นไม่ละหายไปไหน เหมือนฉันจะนับได้ 4 วิ นะถ้าจำไม่ผิด จนในที่สุดเขา

      ก็เดินผ่านฉันไป ฉันถอนหายใจอย่างช้าๆและยาวๆ หวังว่ารัศมีความใกล้ระหว่างฉันกับเขาจะคงไม่ใกล้กันมากกว่านี้

       

                      ในช่วงเวลาฝึกในชั่วโมงแรก โรงเรียนของฉันได้ไปก่อวีรกรรมอันใหญ่โตมโหฬาร ( ฟังดูเหมือนจะเยอะ

      แต่เชื่อเหอะมันคือความจริง
      !! ) จากที่ฉันเรียนมาคนตัวสูงมักจะได้อยู่ข้างหน้า และ ฉันเหมือนจะเกือบยืนอยู่

      ข้างหน้าตลอด แต่อันนั้นไม่ใช่ประเด็นที่ฉันจะเล่า....หลังจากการทำผิดของเพื่อนในโรงเรียนฉัน พวกเราทั้งหมด

      ที่อยู่ในโรงเรียนเดียวกันกับเขาจะต้องก้มหน้ารับกรรมอันเจ็บปวดกาย คือ การโดนรับประทาน

      ( ถ้าเรียกให้สุภาพนะ ) ทวงท่าในการทำโทษนั้น คือ การดันพื้น
      , การหมอบ , การพุ่งตัว , การวิ่งจัดแถวแบบ

      ปิดระยะ ( ทั้งแถวตอนลึกและหน้ากระดาน ) เป็นต้น....เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น
      !! ฉันรีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อให้ความ

      อยู่รอดทั้งตัวฉันและผู้คนรอบข้างฉันอยู่ในระยะที่ปลอดภัยที่สุดจากครูฝึก ฉันวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต จนกระทั่งฉันได้

      วิ่งไปชนเขา ( คนที่ฉันกล่าวเมื่อตอนเก็บกระเป๋านั่นเอง ) ฉันกล่าวขอโทษเขาอย่างแผ่วเบา แต่เขาก็ได้ยิน เขาพยัก

      หน้าลงแล้วมายืนข้างๆฉัน ( ตอนนั้นเป็นแถวหน้ากระดาน ) เรารอฟังสัญญาณการเรียกแถวใหม่ ลมหายทั้งฉันและ

      เขาผ่อนทิ้งลงอย่างเหน็ดเหนื่อย...เหงื่อของเขาไหลลงจากหน้าผากสู่ตรงลำคอ มันเป็นประกายเมื่อมันจะกระทบกับ

      แสงแดดจัด แต่ถึงกระนั้นฉันก็ไม่ได้ชื่นชมกับความงามในรูปร่างของเขาได้นาน เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้นอีกครั้ง
      !!

      ฉันวิ่งนำเขาเพื่อไปตั้งแถวตอนลึกแบบ 2 แถว ฉันยืนข้างหน้าเป็น 1 แถว แล้วฉันก็รอคนที่จะขึ้นแถวใหม่มาเป็นแถว

      ที่ 2 ฉันคิดว่าเขาจะมายืนข้างฉันอีกครั้ง
      !! หัวใจฉันสั่น มือไม้ไม่มีแรง ปากฉันสั่น ถึงตอนนั้นอาการจะร้อนพากัน

      ตับพังก็ตามเถอะนะ ... ฉันนับ
      หนึ่งเขาดันพูดพร้อมฉัน !!!  หนึ่ง ฉันพูดเริ่มอีกครั้งด้วยเสียงดังฟังชัด

      สองเขานับต่อจากฉันด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าฉันนิดหน่อย... ขอโทษนะฉันกล่าวขอโทษเขาอย่างเกรงกลัว ไม่

      เป็นไร...เราผิดเอง
      เขาตอบกลับ ซึ่งตอนนั้นใจฉันหวิว หัวฉันคิดฟุ้งซ่าน ร่างกายสั่นเทา....จุดนั้น ฉันก้มพูดกับเขา

      ฉันกลัว กลัวที่จะพูดไปมองหน้าเขาไป ดวงตาของฉันมันมักจะเก็บอารมณ์ต่างๆไม่ค่อยจะอยู่ด้วยสิ

       

                      เสียงนกหวีดดังขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เพื่อเรียกแถวใหม่....ฉันวิ่งไปยืนเป็นแถวหน้ากระดานอีกครั้ง หวังใจว่าเขา

      จะมายืนอีก แต่ก็
      Fail อ่ะนะ เขาดันโดนเพื่อนต่างห้องที่รู้จักกันแย้งเขาให้เขาไปอยู่ข้างหน้าหัวแถว ซึ่งฉันค่อยโล่งใจ

      ขึ้นมาบ้าง
      เฮ้อ !! เกือบไปแล้วมั้ยล่ะเรา... ฉันถอนหายใจเนียนไปกับเสียงผ่อนลมหายจของเพื่อนๆในหมวดพอดี

      เลยไม่เป็นที่สงสัยมากนัก โชคร้ายหรือวันที่ซวยของฉันหรือแม่ฉันอวยพรให้ฉันไม่พอก็ไม่รู้สิ
      !!! ฉันดันกลายเป็น

      คนที่สั่งแถวซะงั้น
      !! ฉันเดินไปข้างหน้าแถวแล้วสั่งเพื่อนด้วยความที่กล้าๆกลัวๆ ตอนที่พูดตอนนั้นฉันพูดผิดหลาย

      ครั้งมาก แต่โชคดีที่ครูฝึกรู้ดีว่า..ฉันเป็นเพศอะไร แล้ว ทำหน้าที่อะไร เขาจึงช่วยพูดกระซิบผ่านใบหูของฉัน ...

      ช่วงเวลาของการล่าก็เริ่มขึ้น
      !! ฉันสั่งแถวเดียวปิดระยะ เขาดันวิ่งมาคนแรกพร้อมนับ หนึ่ง เสียงดังที่ฟังชัด...

      ฉันเดินเข้าไปหาเขาด้วยระยะห่างเพียงแค่ 6 ก้าว มันเริ่มใกล้ขึ้น
      ! ใกล้ขึ้น !! และ ใกล้ขึ้น !!! จนหน้าของฉันเกือบ

      จะใกล้หน้าของเขาอยู่แล้ว เขามองหน้าฉันพร้อมเม้มปากดวงตาเหมือนจะแสดงอาการหวั่นไหว

      ( เท่าที่ฉันเห็นมานะ ) ฉันมองหน้าเขาเพื่อแสดงความกล้าและท้าทายกับสายตาของเขา แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานฉัน

      จึงก้มหน้าลง....ทันใดนั้น ฝามือของครูฝึกคนที่ 2 ไปพุ่งเข้ามาที่หัวของฉันอย่างแรง

      ( แต่ไม่ถือว่าเจ็บมากโชคดีที่มีหมวกอยู่ ... ขอบใจนะเจ้าหมวก
       ) เขาหัวเราะ เมื่อฉันยิ้มด้วยอาการที่เขินอาย

      ในท่าทางที่ผิดของการคุมแถว ฉันเห็นเขาหัวเราะเป็นครั้งแรกอย่างจริงๆจังๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นครั้งที่ 2 ที่ทำให้

      ฉันรู้สึกเป็นตัวตลกก็ตามนะ.....

       

                       เมื่อเวลาผ่านไปจนได้เวลาที่ครูฝึกจะปล่อยพวกเราทั้งกองร้อยกลับบ้าน ฉันจัดเตรียมของทุกอย่างใส่

      ในกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็น สมุดเล่มเล็ก สมุดเล่มใหญ่ หนังสือเรียน และ ปากกา 2 สี ... ก่อนที่ฉันจะได้ของเหล่านี้ไป

      เก็บในกระเป๋าได้นั้น ฉันเจอเขาลงมาจากบันไดผู้คนที่กำลังเบียดเสียดกันนั้น ทำให้เราได้ใกล้ชิดกันอีกครั้ง

      ( ความบังเอิญมากไปไหมบางที ) ในพื้นที่โล่งไม่กี่ช่วงก้าวเท้า ฉันจะใช้ช่วงนั้นหลบในเขาเดินลงไปด้านล่าง แต่

      ขาดันใช่ช่วงนั้นก้าวมาหาฉันแล้วทำท่าเหมือนเบียด หรือ เสียดสีฉันลงไป แต่โชคดี เพื่อนฉันตาไวเลยขว้างเขาทัน

      แต่ก็นะ เขาดันเบียดฉันได้ไปนิดเดียว....

       

                      ฉันกลับมาถึงบ้านด้วยร่างกายที่อ่อนล้าเต็มทน ... ฉันนั่งพักที่โซฟาสักครู่แล้วถอดเสื้อผ้าไปอาบน้ำ

      ตามภาษาของคนที่เหนียวเนื้อเหนียวตัว กระเป๋าที่ใส่อุปกรณ์การเรียนนั้น ฉันเอาออกแล้วจัดมันเข้าที่เดิม

      ( ฟังดูคล้ายๆเหมือนคนเจ้าระเบียบ แต่หาไม่...แม่ฉันบังคับ
      !! ) เวลานั้นฉันควรได้นอนพักร่างกายเพื่อฟื้นฟูใน

      เช้าวันใหม่ของการเรียนพรุ่งนี้ ฉันดันฝันถึงเขาซึ่งมันไม่น่าจะเป็นจริงได้ .... หรือ ว่าเขาอาจจะอยู่ในจิตใต้สำนึกลึกๆ

      ของฉันก็เป็นไปได้นะ
      ??!!

       

                      ในฝัน....ฉันเจอเขากำลังถอดเสื้อเล่นบาสอยู่ ร่างกายของเขามันวาว เต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลลงสู่พื้น กางเกง

      ของเขาสั้นแล้วพลิ้วไหว ตามลมและร่างกายที่เขากำลังขยับ...จุดนั้น ฉันกำลังกดโทรศัพท์อยู่ ( เหมือนตอนที่ฉันเดิน

      ผ่านเขาแล้วเขาหัวเราะกับเพื่อนเขาไม่มีผิดเลย )  ฉันเงยหน้ามองเขา แต่ ทันใดนั้นลูกบาสที่มีขนาดเล็กจากระยะไกล

      มันก็เริ่มใหญ่ขึ้นเมื่อมันอยู่ระยะใกล้กับใบหน้าของฉัน มันกระแทกตรงสันจมูกของฉันเข้าอย่างจัง
      !!! ฉันจับจมูกตัว

      เองแล้วถูกมันขึ้นลงอยู่อย่างนั้น...เขาวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางที่หอบจากการเล่นกีฬา เขาขอโทษกับเพื่อนของเขาที่โยน

      ลูกบาสผิดจุด
      โทษทีนะ เพื่อนเราโยนแรงไปหน่อยเขาพูด ไม่เป็นไร เราผิดเอง...นี่ลูกบาสฉันกล่าวกลับ

      พร้อมยื่นลูกบาสให้เขาสายตาฉันตอนนั้นยังตะลึงกับช่วงท่อนบนของเขา ฉันเลยรู้ได้เลยว่าถ้าขืนยังก้มหน้าอย่างนี้

      มีหวังคงจะคุยกันไม่รู้เรื่อง...ฉันเลยเงยหน้าพูดคุยกับเขาเมื่อเขาถามถึงเรื่องส่วนตัว
      แล้ว...มาทำอะไรอ่ะเขาถาม

      ฉัน
      ฉันมาเรียนพิเศษภาษาอังกฤษน่ะฉันตอบกลับด้วยหน้าที่ยิ้มแย้ม ( ตอนฝันฉันคิดอะไรอยู่...อะไร อะไร ก็จะ

      เรียนอย่างเดียว
      ?? ) อ๋อ !! เราก็จะเรียนเหมือนกัน วันนี้เรามาเรียนวันแรกน่ะ รอก่อนนะเขาขอร้องฉันให้ยืนอยู่

      กับที่ เขาวิ่งกลับไปหยิบกระเป๋าของนักกีฬาพร้อมใส่เสื้อกล้ามเว้าตรงลำตัวเล็กน้อยมันเป็นสีส้มพร้อมเลขข้างหลัง

      เป็นเลข 7 ฉันแอบคิดในใจมันคือเลขนำโชคของฉัน...

       

                      ภาพในฝันของฉันมักจะร่วนและแปรป่วนตลอด คิดยังไงไม่รู้นะ ฉากของความฝันฉันได้ตัดมายังจุดห้อง

      อาบน้ำขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครอยู่เลยเหลือเพียงแต่ฉันและเขา....เขาถอดเสื้อออกอีกครั้ง ฉันได้เห็นถึงท่อนบนที่เปลือย

      เปล่า เขายืนแล้วมองหน้าฉัน ฉันยิ้มแบบ งงๆ  แต่เขาดันมองหน้าฉันด้วยสายตาที่แปลกประหลาด ดวงตาเป็น

      ประกายผิดปกติ ปากที่เม้มตลอดกลับกลายเป็นการกัดริมฝีปากล่างอย่างช้าๆ แสดงถึงอารมณ์ของฮอร์โมนที่พุ่ง

      พล่านในกายเขานั่นเอง .... เขาหมุนวาล์วน้ำตรงฝักบัวไปทางขวา เขาทำอย่างนี้ทุกวาล์วพร้อมเดินเข้ามาหาฉัน เขา

      หมุนมันอย่างช้าๆแล้วลูบ หัวใจฉันเต้นดังแถมยังสั่นผิดปกติ ฉันไม่เคยที่จะรู้สึกแบบนี้มาก่อน มือฉันชาไปจนถึง

      ปลายเท้า
      ทำยังไงดี ฉันกัดปากตัวเองจนเลือดออกเพราะกลัวเขาขึ้นสมอง

       

                      ในที่สุด....เขาก็ดึงฉันเข้าไปใกล้ในห้วงของลมหายใจของเขาที่ระยะห่างประมาณ 1 – 2 นิ้วได้ ฉันมองตา

      เขาอย่างสั่นๆ เขาเอียงหน้าไปด้านข้างแล้วโน้มริมฝีปากไปประกบที่ริมฝีปากของฉัน เขาดูดเลือดตรงริมฝีปากฉัน

      อย่างเบาๆ ปากบนของเขาประกบกับปากล่างของฉันด้วยสัมผัสที่นุ่มนวล ฉันค่อยๆหลับตาลงแล้วปล่อยให้ร่างกาย

      ตอบสนองกับอาการของเขาอย่างเต็มที่.....หยดน้ำทุกหยดที่ออกมาจากฝักบัวทุกตัวที่เขาเปิดมันกระทบทั้งร่างใหญ่

      ของเขาและร่างบางของฉัน มันเย็นวาบต่อเนื่องเหมือนกำลังโดนสายฝนหรืละอองน้ำมาสาดใส่ เขาดันตัวฉันไปชน

      กับกำแพงข้างฝักบัว เขาถอดเสื้อฉันคอวีของฉันแล้วโยนทิ้งลงพื้นที่เปียกชุ่ม ริมฝีปากของเขายังคงทำงานอย่างต่อ

      เนื่องและคงไม่หยุดหย่อน เขาค่อยๆจูบจากปากของฉันไล่ลงไปยังลำคอ ฉันรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากปากของเขา เขาถอด

      กางเกงนักกีฬาขาสั้นของเขาลงอย่างช้าๆเหลือเพียงแต่กางเกงในสีขาวขุ่น ฉันเม้มปากแล้วมองหน้าเขาสักพัก
      ฉัน

      ยังไม่พร้อม ตอนนี้...
      ฉันพูดแล้วเอาฝ่ามือด้านขวาแตะไปที่หน้าอกที่มีกล้าเนื้อของเขาเพื่อหยุดการกระทำเหล่านั้น

      กลัวหรอ ?? ” เขาถามฉันกลับ ไม่ใช่ว่าฉันกลัว..ฉันแค่ไม่มั่นใจในใจจริงฉันกลัว กลัวทุกอย่างที่มันจะเกิดขึ้น

      ตามมา เพราะฉันรู้ดีว่าอะไรที่มีความสุขตอนนี้แบบรวดเร็ว มันมักจะจบไม่สวยในตอนท้ายเสมอ

      ( เท่าที่ฉันเข้าใจมา )
      เรารักนายนะ รักมาตั้งแต่แรกเห็น...เขาเหมือนจะกล่อมฉันให้สู่ห้วงภวังค์แห่งกาม

      ฉันไม่อยาก...ทันใดนั้นฉันถูกเขาจูบที่ปากอีกครั้งมันไม่ใช่ระดับที่นุ่มนวลแล้ว มันเป็นระดับของความรุนแรง

      ปานกลาง เข้าโอบเอวฉันแล้วดึงตัวฉันเข้าไปแนบกับตัวของเขา ไออุ่นจากร่างกายเขาส่งผ่านมาทางผิวหนังของฉัน

      ฉันรู้สึกได้ถึงอวัยวะตรงส่วนหลังที่มันเริ่มจะแข็งตัวฉันจิกตัวเขาหวังใจว่าเขาจะยอมปล่อยฉัน แต่เขาก็ไม่ทำตามที่

      ฉันคิด เหมือนเขากลับชอบมัน แล้วเพิ่มทวีความรุนแรงของริมฝีปากขึ้นลำคอของฉันถูกดูด ด้วยริมฝีปากแดงๆของ

      เขา ทั้ง 2 ข้างคอฉันเต็มไปด้วยรอยแดงช้ำเลือด ฉันผลักเขาออกแล้วตบหน้าของเขา 1 ที ก่อนที่จะวิ่งไปจากบริเวณ

      นั้นแล้วหลุดออกจากห้วงของความฝันที่ไม่เป็นจริงนี้ไปได้สักที ..... 

       

                      เช้าวันต่อมาฉันตื่นขึ้นด้วยความอ่อนล้า จากความฝันเมื่อคืน + การรับการฝึกจากวิชา รด. กางเกงขาสั้น

      ของฉันเหนียวแล้วมีน้ำใสๆออกมา...หรือว่า มันจะเป็นสัญญาณ ต้อนรับสู่วัยรุ่นเต็มตัวของฉันซะแล้ว...

       

                      ฉันเข้าโรงเรียนด้วยเวลาที่เช้าอยู่พอตัว...ฉันเจอเขาที่แถวเคารพธงชาติ เค้าทำท่าเหมือนจะมองฉันเล็ก

      น้อย แต่ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร จนเขาเข้ามาถามฉันว่า.........
      ชื่อ xxxxx ใช่มั้ย ?? ” เขาถามชื่อจริงฉันพร้อมมองหน้า

      ฉัน 
      ใช่...ทำไมหรอ ?? ” ฉันมองหน้าเขากลับแล้วทำหน้า งง สงสัย ?? “ อ๋อ !! อาจารย์ xoxo ฝากสมุดมาให้น่ะ

      เขาส่งสมุดของฉันที่ถืออยู่ในมือของเขาให้ ขอบคุณนะ...แต่มันไปอยู่กับนายได้ยังไงหรอ ?? ” ฉันถามเขาอีกครั้ง

      แล้วยิ้ม
      เราเอาไปลอกน่ะ อย่าโกรธกันนะเขายิ้มแล้วทำท่าเกาหัวด้วยความรู้สึกที่ผิด ไม่หรอก...แต่ถ้านายบอก

      ก่อนมันก็ดีนะ
      ฉันยิ้มแล้วหยิบสมุดจากมือเขามา กอดไว้ที่หน้าอก งั้น...เจอกันนะเขาบอกฉันแล้วก็เดินจากฉัน

      ไป
      โอเค เจอกันฉันยังคงกอดสมุดเล่มนั้นอยู่ที่อกแล้วพูดมันออกไป เขาหันกลับมาแล้วยิ้มให้ฉันอย่างรู้สึกดี.....นี่

      แหละนะ คนช่างฝัน กับ สิ่งในฝันที่บันดาลให้ทุกอย่างเกิดเป็นความจริง ( ปล.ถึงแม้มันจะไม่มาในเชิงเร้าอารมณ์แต่

      ฉันก็รู้สึกดีที่เขาได้เข้าพูดคุยกับฉัน อย่างไม่อายอะไร )  
      ฉันเริ่มจะชอบคุณแล้วสิ...นาย xoxoxo


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×