ตอนที่ 56 : บทที่54 พี่สาวคนนั้น...กับละครกากๆ
บทที่ 54 พี่สาวคนนั้น....กับละครกากๆ
“ท่านพี่คะ….. ท่านพี่….” เสียงเรียกพร้อมแรงเขย่าเบาๆ ทำให้ฉันกระพริบตามอง เห็นเอลโดร่ายิ้มหวานให้ฉัน น้องสาวคนสวยช่วยพยุงฉันขึ้นนั่ง ขณะที่ฉันกำลังเบลอเพราะพึ่งตื่น รู้สึกอีกทีก็คือสัมผัสได้ถึงแปรงปัดแก้มที่เอลโดร่าใช้เติมสีเครื่องสำอางที่เริ่มจางลงจากตอนมาถึง
เมื่อน้องสาวกำลังทาริมฝีปากให้ฉันที่เริ่มมีสติขึ้นมา ก็มีเสียงดังขึ้นที่ประตู พร้อมร่างสูงของอะมาดิโอที่เปิดประตูเข้ามา ใบหน้าเย็นชาหล่อเหลามีร่องรอยของความตึงเครียด ยิ่งใบหน้ามีหยดเหงื่อเกาะบ่งบอกถึงความรีบร้อนจนทำให้คนที่สุขุมขนาดนี้ต้องวิ่งมา
“องค์ชาย เกิดอะไรขึ้นคะ” ฉันถามด้วยใบหน้าที่จริงจัง และพยายามจะลงจากเตียง โดยมีน้องสาวคอยพยุงเอาไว้ เอลโดร่าที่เห็นว่าฉันสามารถยืนได้มั่นคงแล้วจึงเดินไปหาอะมาดิโอที่หอบหายใจอยู่
“อะมาดิโอ มีอะไรหรอ” เอลโดร่ามองเจ้าชายน้ำแข็งพร้อมยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับเหงื่อให้ ทิ้งให้คนโสดยืนมองด้วยความรู้สึกขยุกขยิกหัวใจ ทั้งหมั่นไส้และอิจฉา จนสายตามองไปยังต้นเหตุของดวงอันไร้คู่ของฉันที่นั่งหน้าขนอยู่ข้างๆ เมื่อสัมผัสถึงสายตาที่มอง ดวงตาสีทองมองตอบมาที่ฉันอย่างสงสัย ฉันจึงละสายตาไปมองคู่รัก(?) ตรงหน้าแทน
“เกิดเรื่องที่งาน…….เกี่ยวกับเจ้า….” อะมาดิโอที่เริ่มหายเหนื่อยตอบพร้อมมองไปที่เอลโดร่าอย่างเป็นห่วง โดยตัวน้องสาวของฉันกลับทำหน้านิ่งๆ และพยักหน้าตอบ พร้อมชวนเจ้าหน้าน้ำแข็งไปยังที่เกิดเหตุ
“ท่านพี่ ถึงเวลาแล้วค่ะ” เอลโดร่าเดินกลับมาที่ฉันพร้อมจูงมือด้วยรอยยิ้มน่ารัก ซึ่งฉันก็ยอมให้น้องสาวพาเดินไปยังงาน โดยมีเจ้าชายเดินตามมาพร้อมเฟนริสโดยคาบตะกร้าที่มีอาเมะผู้กำลังยกหัวเล็กๆสีขาวออกมาจากกองผ้าเพื่ิอมองไปรอบๆอย่างสงสัยอยู่
ไม่นานหลังจากนั้นพวกเราก็เดินมาถึงประตูขนาดใหญ่ที่น่าจะหนักพอตัว ดีที่มันมีเวทย์ร่ายอยู่ทำให้แค่พอมีคนยืนอยู่หน้า พวกมันก็จะเปิดเองประดุจประตูอัตโนมัติในโลกก่อนของฉัน
เมื่อประตูเปิดออก เรียกสายตาคนทั้งงานให้มามองผู้มาใหม่ โดยมีสายตาหลากหลายปะปนกัน ทั้งโกรธ หวาดกลัว และขยะแขยง ฉันที่พอเห็นสายตาพวกนั้นก็เลือกที่จะเมินพวกมันไป พวกไร้สาระ ฮึ
“เอลโดร่า ฮาเซล! ถ้าเกิดเรื่องอันตรายขึ้นกับเบล เธอจะรับผิดชอบยังไง อาหารพวกนี้เป็นหน้าที่ของเธอไม่ใช่หรอ ปล่อยให้มีคนทำอย่างนี้ ไม่หละหลวมไปหน่อยหรอ!” เสียงตะโกนดังลั่นจากเจ้าชายหลุยห์หรือเจ้าชายใจง่ายที่กำลังโอบกอดร่างของนางเอกเกมอย่างเบลล่า โดยเธอกำลังสำลักเลือดออกมาทางปาก และมีจานที่มีอาหารกระจายแตกอยู่ไม่ไกล ฉันมองความวุ่นวายที่เกิดขึ้นด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า และเพื่อไม่ให้ดูเสียมารยาทมากนักฉันจึงยกพัดขึ้นปิดใบหน้าครึ่งล่างอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าไม่มีใครสนใจการกระทำของฉัน เพราะทุกคนกำลังสนใจละครเวทีครงหน้า พระเอกโอบกอดนางเอกที่กำลังกระอักเลือดพร้อมน้ำตาดูน่าสงสาร ซึ่งสาเหตุน่าจากเกิดจากการกินอาหารเข้าไป และแทนที่จะพาไปห้องพยาบาลหรือตามหมอมา กลับกักกันอยู่ในห้องโถงนี้ ถ้าโดนยาพิษจริงๆ นางเอกได้ลาโลกไปนานแล้ว นี่ทุกคนในเกมโง่ขนาดนี้ เอาจริงดิ ส่วนนางร้าย (ที่อยู่ผิดรูท) ยืนมองด้วยสายตาที่นิ่งเฉย มีพระเอก(อีกรูท)ยืนข้างๆนางร้ายบ่งบอกฝั่งที่ยืนอย่างแน่ชัด
ทั้งห้องจัดงาน นอกจากเสียงซุบซิบอันน่ารำคาญของคนอื่นๆก็มีเสียงตะโกนด่าทออันหยาบคายของเจ้าใจง่าย ฉันมองไปยังคนป่วย (จิต?) ที่ในตอนนี้มองมาที่น้องสาวอย่างผู้อยู่เหนือกว่า มุมปากที่มีหยดเลือดยกขึ้นอย่างถูกใจ โอ้โห เอาจริงดิ ไม่มีใครเห็นรอยยิ้มนั้นเลยอะนะ คนทั้งงาน สมแล้วที่เป็นตรรกะเกมจีบหนุ่ม เฮ้อ……
‘เทีย เอาไงต่อดี ชักรำคาญแล้วนะ ฆ่าเลยไหม….’ เฟนริสผู้แต่เดิมก็มีจุดเดือดน้อยกว่าชาวบ้านอยู่แล้วเอ่ยขึ้นพร้อมลุยเต็มที่ ฉันจึงต้องรีบบอกจัดการอย่างเร่งด่วน ไม่งั้นงานเลี้ยงกลายเป็นงานเลี้ยงนองเลือดแน่น
‘เฟนใจเย็นๆ เราจะจัดการในงานเอง ฝากจัดการด้านนอกด้วยนะ’ ฉันลูบขนสีขาวเบาๆด้วยรอยยิ้ม ดึงหูตะกร้าออกจากปากเฟนริสมาถือเอง เฟนเอาผงกหัวตอบก่อนจะรีบเผ่นออกจากที่นี่ทันที
ฉันมองไปรอบๆเพื่อเช็คสถานการณ์ จนมองเห็นพี่รามีเอลที่ยืนอยู่ในมุมหนึ่ง กำลังโบกมือให้พร้อมส่งสัญญาณ เอาละ เริ่มแผนปิดฉากค่ะ!!
“ขอโทษนะคะ คุณหนูคนนั้นเป็นอะไรไปหรอคะ” ฉันตัดสินใจเดินเข้าไปในฉากของละครเรื่องนี้ ด้วยใบหน้างุนงง
“ฮึ คุณโง่หรือเปล่า ดูไม่ออกหรอว่าเบลโดนอะไร โดนนังเอลโดร่า ฮาเซลคนนั้นวางยาไงล่ะ” เจ้าใจง่ายผู้น่าจะจำฉันไม่ได้ตวัดสายตาไม่พอใจมาที่ฉันแทน ฉันยกพัดขึ้นปิดปากอีกครั้งอย่างมีจริต
“แหม แปลกจังนะคะ ทำไมเธอต้องทำแบบนั้นด้วยละคะ คุณหนูท่านนี้มีปัญหาอะไรกับคุณหนูท่านนั้นหรอคะ” ฉันที่แสดงเป็นคนนอกทำหน้าตกใจ มองน้องสาวที่หันมามองฉันด้วยใบหน้างุนงง และหันไปมองคุณนางเอกที่ทำหน้าไม่พอใจส่งมาให้ฉัน
“.......” เกิดเสียงซุบซิบดังขึ้นแทน เพราะใครๆก็รู้ว่าทั้งสองคนไม่ค่อยมีเรื่องผิดใจอะไรกัน ถ้าเป็นคุณหนูที่เป็นคู่หมั้นของเจ้าชายหลุยห์ก็อีกเรื่อง รายนั้นเกลียดเบลล่าจะตายไป
“แล้วยังไง! ก็เห็นอยู่ว่าหลังจากเบลกินอาหารที่ยัยนั้นเป็นคนดูแลเข้าไปก็กระอักเลือดออกมา ถ้าไม่ใช่ยัยนั้นแล้วจะเป็นใคร!” ใจง่ายผู้ที่มีสมองน้อยลงไปอีกขั้นตะโกนใส่ฉัน อย่างโมโห
“แค่กๆ อีกอย่างท่านหญิงท่านนี้เป็นพี่สาวของท่านหญิงฮาเซล ก็คงจะไม่แปลกถ้าจะช่วยพูด….” แม่นางเอกรีบเติมไฟใส่เจ้าใจง่ายเข้าไปอีก สังเกตได้ยังดวงตาของเจ้าชายหลุยห์ที่ดูเดือดดาล
“แหมๆ ถึงจะเป็นน้องสาว ดิฉันก็ไม่ใช่คนที่จะเชื่อคนผิดนะคะ น่าแปลกที่ทางพวกคุณเลือกที่จะเจาะจงมาที่น้องสาวดิฉันทันที ทั้งๆที่น้องสาวดิฉันเป็นแค่คนจัดการความเรียบร้อยของอาหาร ไม่ใช่คนทำ” ฉันพูดช้าๆและชัดเจน สังเกตได้จากเสียงภายในห้องจัดเลี้ยงที่มีเสียงเห็นด้วยมากขึ้น และใบหน้านางเอกที่เริ่มบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด เจ้าชายใจง่ายทำหน้าตกใจและเงียบ คงคิดจะหาเหตุผลมาหักล้างสินะ ฮึฮึ
“แล้วอีกอย่าง คุณหนูท่านนั้นน่ะ โดยยาพิษจริงๆหรอคะ น่าแปลกนะคะทั้งๆที่นานขนาดนี้แล้วกลับไม่มีเลือดไหลออกมาเพิ่มเลย อาการก็ไม่เห็นจะทรุดลง หรือว่าจะเป็นพิษชนิดใหม่คะ แปลกจัง” ทันทีที่ฉันพูดเสร็จทุกคนต่างมองไปที่นางเอกอย่างตกใจ เสียงแสดงความคิดเห็นดังลั่น และแน่นอนว่าทุกคนเริ่มมายืนทางเอลแล้ว
“แหมๆ เรื่องนี้แปลกจริงๆนะคะ” ฉันยิ้มเย็นให้นางเอกที่เริ่มหน้าซีด มองเห็นความร้อนรนในดวงตา
ถ้าจะเล่นละครน่ะ ศึกษาบทให้ดีหน่อยนะ…..ฮึ ฮึ ฮึ
*********************************************
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

//อินจนยาวเลย ที่จริงหยาบกว่านี่อันนี้ภาษาสุภาพแล้วนะ ลองด่าฉบับเทียดู หึๆ
-3- ยังอยากอ่านต่อนานๆ
ลองกดใหม่ดูนะคะ เราลองแก้ลิิงค์แล้ว