[Fic HSJ] .....Daiki Dare ga suki?....... - [Fic HSJ] .....Daiki Dare ga suki?....... นิยาย [Fic HSJ] .....Daiki Dare ga suki?....... : Dek-D.com - Writer

    [Fic HSJ] .....Daiki Dare ga suki?.......

    เมื่อจิเน็น ยูริ และขาเม้าชาวเซเว่นอยากเล่นเป็นนักสืบเพื่อตามหา "แฟนของไดจัง" เรื่องวุ่นวายชวนหัวจึงเกิดขึ้น

    ผู้เข้าชมรวม

    461

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    461

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 พ.ย. 55 / 10:36 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    [SF]Daiki dare ga suki?






    คำเตือน เพื่อความตื่นเต้นและมีอรรถรสในการอ่านมากขึ้น ....อย่าแอบดูตอนจบก่อนนะจ้ะ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



      Denwa da yo~ Denwa da yo~ …………

      ทันที ที่เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ที่ถูกตั้งเป็นเสียงพูดน่ารักๆดังขึ้นมากลางห้อง ซ้อม ร่างเล็กกะทัดรัดของอาริโอกะ ไดกิ ที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อซ้อมเสร็จก็รีบวิ่งโร่มาถึงตัวเครื่องที่วางอยู่ใกล้ๆ กองกระเป๋านักเรียนและสัมภาระอีกมากมายของวงที่มีจำนวนคนมากที่สุดในค่าย .....และพอเห็นชื่อที่โชว์ก็ยิ้มหวานใส่โทรศัพท์แล้วกดรับด้วยใบหน้า รื่นเริง ก่อนจะเลี่ยงเดินออกไปคุยนอกห้อง เพราะสัมผัสได้ถึงตาแป๋วๆของเด็กที่นั่งทำการบ้านอยู่อีกสามคู่ที่กำลังจ้อง มองมาด้วยความสงสัย

      “พักนี้ นายว่าไดจังดูแปลกๆไปมั้ย”
      “อืม ก็เห็นคุยโทรศัพท์บ่อยๆ”
      “ต้องเป็นเรื่องดีๆแน่ๆเลย”
      “เรื่องดีๆอะไรของนายน่ะจิเน็น” ริวทาโร่ถามขึ้นมาเสียงห้วน ทำให้ยูริต้องเหล่ตาจิกมองไอ้เด็กไม่มีสัมมาคารวะแบบไม่ค่อยพอใจ
      “พูดจากับคนที่มีอายุมากกว่าให้มีหางเสียงหน่อยได้ไหม”
      “ครับๆๆ จิเน็นคุง!!!” แต่มันก็ดันกระแทกเสียงใส่รุ่นพี่ที่ตัวเล็กกว่าแบบหน้าตาเฉยได้อีก
      ยูริก็เลยละซึ่งความสนใจ สะบัดบ๊อบใส่แล้วหันมาทำหน้าตาแก่แดดแก่ลม บอกกับทุกคนด้วยสีหน้ามั่นใจแบบสุดว่า

      “ไดจังต้องมีแฟนแล้วแน่ๆเลย”

      “เห.....”
      “พวกนายอาจไม่ทันสังเกต แต่ฉันเห็นมาสักพักแล้วล่ะ ว่าไดจังต้องมีแฟนแน่ๆ”
      “แล้วทำไมนายต้องไปจับผิดไดจังด้วยละ” เรียวสุเกะแย้งขึ้นมา
      “อิจฉาเค้าเหรอ” ริวทาโร่พูดขึ้นมาลอยๆ
      “ใช่ เอ้ยย ไม่ใช่นะ ... ริวทาโร่!!!!!!!” ยูริหันไปตะโกนใส่เจ้าของชื่อด้วยความโมโห

      .....หนอย มาหลอกให้เค้าพูดด้านชั่วร้ายในใจออกมาได้นะ.....

      “ผมแค่พูดเล่น ไม่คิดว่าจะเผลอ” เด็กหนุ่มยักไหล่แบบขอไปที ใบหน้าหล่อๆนั้นเรียบเฉยแต่แลดูกวนโอ้ยไม่เบา
      “อ่าๆ อย่าเพิ่งตีกัน แล้วนายว่าแฟนไดจังจะเป็นใครล่ะ” เรียวสุเกะพยายามพูดประนีประนอมก่อนที่จะเกิดเหตุทะเลาะกันใหญ่โต

      “ยาโอโทเมะ ฮิคารุ” จิเน็น ยูริตอบชัดเจนพร้อมยิ้มอย่างมั่นใจ เล่นเอาอีกสี่ชีวิตที่เหลือได้แต่อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ

      “หา.....”

      “ถ้า นายจะพูดแบบนั้น ฉันว่าอิโนโอะ เคย์ ยังจะมีความเป็นไปได้สูงกว่านี้เยอะเลย” เคโตะที่ปกติจะอยู่นิ่งๆเงียบๆ ยังอดไม่ได้ที่จะแสดงความคิดเห็น
      “แล้วจิเน็น นายไปเห็นอะไรมาล่ะ” เรียวสุเกะถาม
      “ก็ ฮิคารุคุงชอบแหย่ไดจังนี่นา หลังๆนี่ก็แกล้งออกบ่อย เค้าว่าเด็กผู้ชายจะชอบแกล้งคนที่ตัวเองชอบไม่ใช่เหรอ” ยูริอธิบายด้วยใบหน้าใส่ซื่อบริสุทธิ์

      “แต่ฮิคารุคุงโตแล้วนะ” เรียวสุเกะแย้งขึ้นมา
      “แล้วฮิคารุคุงก็ไม่ได้เล่นกับไดจังคนเดียวด้วย” เคโตะก็พูดเสริมอีกที

      ...... กับฮิคารุคุงนี่เค้าเองยังเล่นด้วยออกบ่อย คงไม่แปลกมั้ง ถ้าฮิคารุจะเล่นกับพวกเบสด้วยกันน่ะ....

      “อย่าเอาความคิดเด็กๆของตัวเองมาตัดสินคนอื่นสิ” ถึงจะเป็นน้องเล็กของวง แต่ระดับฝีปากริวทาโร่ก็มั่นใจว่าไม่เป็นรองใคร
      “นายอายุเท่าไหร่กันริวทาโร่ นายโตกว่าฉันนักรึไง”
      “อย่างน้อยก็สูงกว่าล่ะกัน”

      เจอคีย์เวิร์ดนี้เข้าไป ยูริก็เถียงไม่ได้ เลยสะบัดบ๊อบงอนไปอีกรอบ เดือดร้อนเคโตะต้องมาไกล่เกลี่ยให้
      “เอาน่าๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกันสิ เราคุยกันเรื่องไดจังนะ”

      “แล้วนายล่ะเคโตะ ทำไมถึงคิดว่าเป็นอิโนโอะ เคย์ล่ะ” ยูริถาม
      “ก็ สองคนนี้อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่สมัย JJ-express แล้วอิโนะคุงก็หล่อ หน้าตาดี การศึกษาดี ฐานะก็ดีใครๆก็ชอบทั้งนั้นแหละ ทำไมไดจังจะไม่ชอบล่ะ” เคโตะบรรยายยืดยาว เขาใช้นิ้วมือทั้งห้านับข้อดีของอิโนโอะ เคย์ไปด้วย

      “ถ้า งั้นฉันว่าทาคาคิคุงมีโอกาสกว่ามั้ย ทั้งอยู่ JJ-express ทั้ง Hey! Say!7 มาด้วยกัน ทาคาคิคุงทั้งเท่ห์ทั้งใจดี ทำไมไดจังจะไม่ชอบ” เรียวสุเกะแย้งขึ้นมาบ้าง


      “คุยอะไรกันอยู่เหรอ ท่าทางน่าสนุก ^o^”
      แต่แล้วเจ้าของหัวข้อสนทนากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่มือใหม่หัดเม้าทุกคนหน้าตาเลิ่กลั่กอย่างน่าสงสัยเป็นที่สุด
      “ไม่มีอะไรหรอกไดจัง ... พวกเบสมาครบกันหรือยัง เริ่มซ้อมกันเถอะ” เรียวสุเกะยิ้มหวานหลอกล่อ พยายามจูงใจให้ไดกิไปสนใจการซ้อมแทน


      ///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


      หลัง จากที่อัดรายการตามตารางงานของวันนี้เสร็จเรียบร้อย พี่ใหญ่ใจดีของทุกคนก็ชวนทุกคนไปกินข้าวเย็นด้วยกัน หลังจากที่ไม่ได้ทำงานพร้อมหน้ากันสิบคนแบบนี้มาสักพักใหญ่

      “ใครอยากกินอะไรบ้างว่ามาเลย”
      ยาบุถามทุกคนอย่างใจดีแล้วเปิดยิ้มจนตาเป็นขีด เนื่องจากวันนี้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

      “ผมอยากกินซูชิ”
      “เนื้อย่างๆๆ”
      “สุกี้ยากี้”
      “ฉันอยากกินข้าว”
      “ราเม็งอะราเม็ง”
      “ฉันอยากกินอาหารอิตาเลี่ยน”
      “ผมอยากกินเค้ก”

      ใน บรรดาเสียงเอะอะของกลุ่มเด็กหนุ่มที่ฟังดูวุ่นวายยิ่งนักเวลาที่พูดอะไรขึ้น มาพร้อมๆกันแบบนี้ ... แต่ยาบุก็หูดีพอที่จะจับตัวข้อใดไม่เข้าพวกได้

      “อันนั้นไว้ก่อนดีมั้ย ยามะจัง”

      “เอา ล่ะๆ พอๆทุกคน วุ่นวายหนอ สรุปว่าเราไปกินเนื้อย่างละกันนะ” พี่ใหญ่ยาบุสรุปคำตอบออกมาให้เสร็จสรรพ น้องๆก็เลยทำหน้ามึน พร้อมหันไปมองไดจังที่ยิ้มรื่นเริง เพราะมติตัดสินได้อย่างใจ
      “เย้.... เนื้อย่างๆ” ไดกิที่กำลังยิ้มแย้มดีใจอย่างน่ารักไม่สนใจใคร ได้จุดชนวนความสงสัยให้แก่ขาเม้าชาวเซเว่นให้ต้องลอบมองตากันอย่างเคลือบ แคลง

      “อ๋า ทำไมยาบุคุงเลือกของไดจังคนเดียวล่ะ” แล้วเรียวสุเกะก็เป็นตัวแทนถามขึ้นมา

      “ทำไม น่ะเหรอ..... ก็เพราะมันเป็นไปได้มากที่สุดไงละโว้ยยยย!! ทั้งอิ่ม อร่อย ย่อมเยา แถมยังได้มีปฏิสัมพันธ์กับเมมเบอร์ทุกคนอีก ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว” ยาบุร่ายข้อดีของการไปร้านเนื้อย่างอย่างจริงจัง

      “แต่ฉันอยากกินแฮมเบอร์เกอร์นี่นา” พี่รองอย่างทาคาคิ ยูยะยังคงบ่นหงุงหงิงเบาๆ ร่างสูงทำหน้าบูดเหมือนเด็กเวลาถูกขัดใจ
      “แฮมเบอร์เกอร์ มันก็เนื้อย่างเหมือนกันนั่นแหละ ไปกินด้วยกันเถอะนะยูยัง” ไดกิหันไปตอบยูยะ พร้อมยิ้มหวานอย่างเอาใจ จนสุดท้ายยูยะก็ยิ้มตอบกลับมา

      “แล้วข้าวฉันล่ะ”
      “ที่ ร้านมีข้าวกระเทียมด้วยล่ะ เดี๋ยวฉันสั่งให้นะอิโนะจัง” อิโนโอะ เคย์เองได้รับยิ้มพิฆาตของไดกิเข้าไปอีกคนก็ยอมแพ้แต่โดยดีเช่นกัน

      “แล้วซูชิของฉันล่ะไดจัง” ฮิคารุโวยวายขึ้นมาบ้าง
      “แวะซื้อในเซเว่นก่อนเข้าไปในร้านละกันของแบบนั้นน่ะ” แต่กลับไม่ได้รับความสนใจใยดีจากไดกิสักเท่าไรนัก
      “โธ่...ไดจังใจร้ายกับฉันคนเดียวเลย” ฮิคารุแกล้งทำหน้างอน เชิดหน้าเบะปากเป็นเด็กบ้าง

      หนุ่มน้อยเซเว่นทั้งห้าคนได้แต่มองดูพฤติกรรมมะรุมมะตุ้มแปลกๆของเบสแล้วต่างคนก็ต่างเปิดโลกแห่งจินตนาการกันไปตามเรื่อง



      .......ยูริยิ้มกริ่มอย่างพึงใจ ฮิกได ในฉากเง้างอนชนะเลิศ.........

      ........เรียวสุเกะก็ยิ้มอย่างสบายใจเมื่อเห็นหน้าตาเขินๆของทากะได .........

      ........เคโตะที่จับจ้องรอยยิ้มแปลกๆของอิโนโอะ เคย์ เวลาที่คุยกับไดจังอย่างไม่วางตา.......

      ........ริวทาโร่ที่ไม่มีใจโอนอ่อนไปเชื่อใคร ก็มองไปที่ยาบุอย่างสงสัยใคร่รู้........




      เมื่อ ถึงร้านเนื้อย่าง ไดกิวิ่งเข้าไปจับจองที่นั่งเป็นคนแรกด้วยความไฮเปอร์ ใบหน้าหวานหันมองนั่นมองนี่รอบร้านด้วยความตื่นตา รอยยิ้มน่ารักที่เป็นเสน่ห์ประจำตัวแจกจ่ายให้กับทุกคนอย่างอารมณ์ดี

      ยู ยะและเคย์ที่เดินตามมาติดๆ เลือกที่นั่งขนาบซ้ายขวาของไดกิราวกับเป็นองครักษ์ ส่วนที่นั่งฝั่งตรงข้ามยาบุและฮิคารุก็จับจองเอาไว้ด้วยเวลาอันรวดเร็ว


      “ไดจัง กินเยอะๆน้า จะได้โตเร็วๆ” ยูยะที่นั่งข้างๆ คีบเนื้อย่างที่เฝ้าประคบประหงมอย่างดีจากเตาร้อนๆมาวางแหมะในจานไดกิ
      “อ่ะไดจัง ผักนี่มีประโยชน์นะ” ฮิคารุเห็นอย่างนั้นก็คีบผักมาใส่จานไดกิบ้าง

      “ไม่ใช่ว่าหาทางกำจัดผักที่ตัวเองไม่ชอบเหรอ ฮิคารุ” แต่ไม่วายโดนขัดคอจากผู้เฒ่าของวงที่นั่งอยู่ข้างๆ
      “ไม่ใช่ซะหน่อย” ฮิคารุพยายามปฏิเสธ

      “ไดจัง ชิ้นนี้ๆ กำลังร้อนๆเลย รีบๆกินนะ เดี๋ยวไม่อร่อย” ยาบุก็คีบชิ้นเนื้อจากเตามาวางในจานไดกิเช่นกัน
      “ไดจัง เอาข้าวไหม... กินแต่เนื้ออย่างเดียวเดี๋ยวจะปวดท้องเอา” เคย์พยายามนำเสนอข้าวกระเทียมของตัวเองอย่างเต็มที่


      ในระหว่างที่ฝั่งเบสกำลังมะรุมตะตุ้มอยู่กับการเอาใจไดกิ เด็กๆฝั่งเซเว่นก็เริ่มรวมหัวขาเม้าท์กันทันทีที่สบโอกาส
      “นี่....เรามาพนันกันมั้ย ว่าไดจังจะเลือกใคร” เรียวสุเกะตั้งข้อเสนอขึ้นมาด้วยความคึกคะนอง
      “ชนะแล้วได้อะไรล่ะ”
      “คนละหมื่นเยน”

      รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นบนใบหน้าของทุกคน ก็เป็นอันว่าตกลงตามนี้

      “ฉันเลือกฮิคารุคุง” ยูริชิงพูดขึ้นมาคนแรก
      “งั้นฉันลงข้างอิโนะจัง” เคโตะก็ยังคงปักใจ
      “ฉันว่าทาคาคิคุง” เรียวสุเกะก็ค่อนข้างมั่นใจเช่นกัน

      “เดี๋ยว แล้วเราจะตัดสินกันยังไงว่าใครชนะ” ยูริพูดขึ้นมา
      “ก็ ตามไปสืบน่ะสิ ว่าไงริวทาโร่ นายลงข้างใคร” เรียวสุเกะที่ทำตัวเป็นเจ้ามือในเกมนี้ไปแล้ว หันไปไล่เบี้ยเอากับน้องเล็กที่นั่งเงียบผิดวิสัย
      “ผมลงยาบุคุง” และแล้วก็ตัดสินใจเลือกช้อยส์ที่คาดเดาความคิดได้ยากที่สุด

      “เอ้ะ...จะเป็นไปได้มั้ยว่า แฟนไดจังจะอยู่นอกวงเราน่ะ” เรียวสุเกะทำหน้าตกใจเหมือนลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเสียสนิท
      “ไม่หรอก... ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าต้องเป็นคนใดคนนึงในวงแน่ๆ” ยูริทำหน้ามั่นใจแบบสุดอีกแล้ว


      “พวก นาย ซุบซิบอะไรกันอยู่นานแล้ว” ยูโตะที่กำลังมีความสุขกับการย่างเนื้อม้าของตัวเองอยู่อีกฟากนึงของเตาย่าง ถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าพวกเซเว่นกำลังสุมหัวคุยอะไรกันลับๆล่อๆ แถมยังไม่ชวนเขาอีกต่างหาก

      “เออ แล้วไม่ชวนยูโตะเหรอ” เคโตะหันมาถามทุกคนเหมือนเพิ่งนึกออกว่าเมมเบอร์เซเว่นหายไปคนนึง
      “ปล่อยมันเหอะ ท่าทางมีความสุขอยู่ในโลกของตัวเองน่ะ” ยูริหาได้รู้ไม่ว่าตัวเองได้พลาดกุญแจสำคัญของการไขคดีนี้ไปแล้ว

      “โอ เค งั้นเราตกลงกันตามนี้ จากนี้ไปก็เริ่มปฏิบัติการสืบหาแฟนลับๆของไดจังให้จงได้” เรียวสุเกะเป็นแกนนำปลุกใจโดยการวางเนื้อลงบนเตาย่างเสียงดัง ซู่วววววว์


      ///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


      “เคโตะ นายดูต้นทางไว้นะ”

      “เอ๋ ฉันเหรอ” ร่างหนาอิดออดไม่อยากทำ

      เรียวสุเกะกับยูริพร้อมใจกันหันมาจิกสั่งด้วยสายตาอีกครั้ง ทำให้เคโตะจำต้องลุกไปยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าห้องอย่างไม่มีเหตุผล


      เรียว สุเกะแอบค้นกระเป๋าไดจังตอนร่างบางไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็ไม่พบอะไรน่าสงสัย ยูริก็แอบเปิดดูมือถือของไดจัง แต่ยังไม่ทันจะเปิดเข้าไปค้นอะไร เคโตะก็ส่งสัญญาณอันตรายมาให้ทำให้ยูริต้องจำใจวางมันลงไปตามเดิม

      เห็นแค่หน้าจอเป็นรูปที่ถ่ายกันสามคน ระหว่างไดจัง อิโนะจัง แล้วก็ยูยะ

      .... งั้นก็เป็นหนึ่งในสองนี่สินะ ....


      .
      .
      .


      Denwa da yo~ Denwa da yo~ …………


      อีกครั้งที่ไดกิออกไปคุยโทรศัพท์เสียงหวาน ใบหน้าน่ารักนั้นยิ้มแย้มขัดเขินเป็นที่น่าสงสัยสำหรับขาเม้าชาวเซเว่นยิ่งนัก

      “ไดจัง ฉันยืมมือถือเล่นเกมหน่อยสิ”
      เรียวสุเกะใช้ความสนิทสนมเป็นตัวเบิกทางในการขอดูบันทึกการโทรออกแบบเนียนๆ

      “อือ เอาสิ”
      ไดกิผู้ไม่ได้ล่วงรู้ถึงเจตนาที่แท้จริงของเพื่อนรุ่นน้องคนสนิทก็ส่งสมาร์ทโฟนของตัวเองให้อย่างใจดี

      เรียว สุเกะเปิดเกมขึ้นมาเล่นอยู่สักพัก รอจนไดกิหันไปให้ความสนใจกับอย่างอื่นแทน ก็ค่อยเปิดดูในบันทึกการโทรเข้า-ออก ว่าใครโทรมาเมื่อสักครู่

      ....... Dangomushi งั้นเหรอ .....
      ...แล้วไดจังเมมเบอร์ใครด้วยชื่อแบบนี้กันล่ะเนี่ยยย .....


      “ไดจัง Dangomushi นี่ใครเหรอ”
      “เอ๋ ไปเอามาจากไหนน่ะ”
      “ใครเหรอ Dangomushi แฟนรึเปล่า ... อะไรอะไดจัง แค่นี้บอกเพื่อนไม่ได้เหรอ”
      “ก็...... Dangomushi Dangomushi มันนนน”

      “ฉันรู้นะว่าใคร” ยูโตะโพล่งขึ้นหน้าซื่อ
      “ยูโตะ!!!!!!!!” ไดกิหันไปทำหน้าตกใจ ..แก้มกลมๆนั้นซับสีเลือดอย่างชัดเจน

      “ตกใจอะไรกันน่ะ ทุกคน” ยูโตะผู้ที่อ่านสถานการณ์รอบตัวไม่ออกก็เอียงคอถามออกมาด้วยหน้าตาบ๊องแบ๊ว

      “ใครหรอ.... ยูโตะคุง.... Dangomushi น่ะ” เรียวสุเกะเปลี่ยนเป้าหมายไปล้วงเอาความลับจากยูโตะ(ที่ดูท่าจะหลอกถามง่ายกว่า)แทน

      “อยู่นั่นไง.... Dangomushiของไดจังน่ะ” ยูโตะชี้ไปทางประตูห้องซ้อม ที่ตอนนี้มีใครบางคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาโผล่เข้ามา


      “คิ คุจิ ฟูมะ!!!!!!!” เรียวสุเกะ ยูริ เคโตะ รวมถึงริวทาโร่เองต่างก็เบิกตากว้างแทบไม่เชื่อสายตา แถมยังประสานเสียงพร้อมกันจนเจ้าของชื่อต้องหันมาถามแบบงงๆ


      “เรียกผมหรือครับ”

      “โผล่มาทำไมตอนนี้ กลับห้องซ้อมตัวเองไปเลยเด็กบ้า!!!!”
      ไดกิตะโกนไล่ทั้งแก้มแดงๆที่ปิดไม่มิด

      “ครับๆๆไปแล้ว .... อ้อ ไดจัง...เลิกซ้อมแล้วไปกินข้าวด้วยกันนะ”
      “ไม่ไป!!!”
      “โอเค เดี๋ยวผมมารับนะ”
      “เด็กบ้า!!พูดไม่รู้ฟัง!”



      “ชัดเลย.... เอาไงล่ะที่นี้ แบบนี้ใครจะชนะล่ะ”
      “แพ้ราบน่ะสิ ใครจะไปคิดว่าจะมีม้านอกสายตาแบบนี้น่ะ”
      “เฮ้อ~”


      จบเถิดนะพี่น้อง

      I-PrA Talk : เป็นไงบ้างคะ.... จบหักมุมไปป่ะ ... จะมีใครเดาถูกบ้างรึเปล่าน้า ฮ่าๆๆ
      หลาย คนอาจจะอยากถามว่าคู่นี้มาได้ยังไง...ฮ่าๆ จำได้ว่ามีครั้งนึงที่ฟูมะชวนน้องไดมาดูคอนเซ็กซี่โซน(รึเปล่านะ ลืมล่ะ) แล้วน้องก็ไปตามคำชวน ....ก็เลยแอบคิดเล็กคิดน้อยว่าสองคนนี้ไปแอบสนิทกันตอนไหนหว่า ... ฮ่าๆ เหตุผลไร้สาระเนอะ แต่ช่วงนี้ประหลงใหลเสียงฟุม แล้วก็ชอบดูความเยอะแยะของนางเวลาเต้น ชื่อนี้เลยผุดขึ้นมาในหัวตอนที่คิดพล็อตเรื่องนี้อยู่ ......จริงๆประก็ไม่ได้ชอบคู่นี้หรอก แค่อยากลองแต่งฟิกแบบหักมุมดูบ้าง ก็เลยออกมาเป็นเช่นนี้แล....
      ....... หวังว่ามันจะช่วยสร้างความบันเทิงให้คุณผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อยนะค้า~ ..........





      ศัพท์น่ารู้ในวันนี้ (ตกลงว่ามีสาระ?)
      Dango mushi มันก็คือตัวแมลง pill bug จะมีลักษณะเป็นสีดำเงิน รูปร่างคล้ายแคปซูลยา ตัวเล็กๆ อาศัยอยู่ตามพื้นไม้ เดินช้าๆ กำจัดเท่าไรก็ไม่หมด
      (ไดจังเลยเอามาใช้เรียกคนที่มาคอยตามตอแย กำจัดยังไงก็ไม่หมด หนียังไงก็ไม่พ้นว่า Dango mushi อ่ะค่ะ)
      แหม ฟังดูมีสาระผิดหูผิดตา แตกต่างจากฟิกที่หาสาระไม่ได้5555+

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×