[SF HSJ] ...........I'm a Man........... [Yuya x Ryosuke] - [SF HSJ] ...........I'm a Man........... [Yuya x Ryosuke] นิยาย [SF HSJ] ...........I'm a Man........... [Yuya x Ryosuke] : Dek-D.com - Writer

    [SF HSJ] ...........I'm a Man........... [Yuya x Ryosuke]

    ผู้เข้าชมรวม

    776

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    776

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  19 ต.ค. 54 / 00:13 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    /> /> />

    [Fic HSJ]............. I'm a man ................ [Yuya x Ryosuke] By :: I-PrA

      

    Title : I'm a man

    Cast : Takaki Yuya x Yamada Ryosuke

    Author: I-PrA


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

      I'm a man

       

       

      ผมน่ะ.. แมนจริงๆนะ

       

       

       

      _.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._

       

       

       

                      "เรียวจางงงงง เดี๋ยวซี่~"

                      "กลับห้องนายไปได้แล้ว เจ้าบ้า!"

       

                      ปัง!!!!!!!!

       

      เฮ้อ ... ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน ว่าเหตุการณ์มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง

      ทั้งๆที่เมื่อเดือนก่อน ผมยังต้องให้ความช่วยเหลือเจ้านั่นกับคนที่มันชอบอยู่เลยแท้ๆ .....  ไหงตอนนี้ มันทำท่าว่าจะเข้ามาจีบผมแทนซะงั้นล่ะ....

       

                      แต่ผมจำได้เลาๆนะ  ว่าเรื่องเนี้ยมันเริ่มต้นมาจากเมื่อ 3เดือนก่อน ..... ป๊าติดป้ายแบ่งห้องให้เช่าไว้หน้าบ้าน  เพราะหาเงินมาหมุนธุรกิจไม่ทัน ..... แล้วก็ค่อนข้างโชคดีที่บ้านผมน่ะ อยู่ใกล้กับโรงเรียน  แบบที่จะเดิน หรือปั่นจักรยานไปแปบเดียวก็ถึง... พอติดประกาศไว้แค่วันเดียวก็มีคนมาเช่าแล้ว

       

       

                      "ทาคาคิ ยูยะ คร้าบบ ฝากตัวด้วยนะครับ^"

       

      ร่างสูงผิวสีน้ำผึ้ง ผมสีน้ำตาลอ่อนประกายทอง หน้าตาท่าทางแลดูคล้ายจะเป็นคนเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ แต่พอแต้มด้วยรอยยิ้มแจ่มใสแบบที่เจ้าตัวกำลังทำอยู่นั้น มันเปล่งรัศมีความหล่อให้แผ่กระจายจนผมใจกระตุก ....ห้วงหนึ่งในความคิด เป็นไปได้ว่าหมอนี่อาจจะเป็นคนสองบุคลิกรึเปล่านะ?

       

      .... นั่นเป็นอิมเมจที่ผมคิดตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน ....

       

                      เขาย้ายเข้ามาในบ้านผมในวันที่ฝนตกหนัก  ทั้งสภาพคนและของที่นำติดตัวมาเปียกโชกไปทั้งหมด ... แต่กระนั้นแล้ว ความสดใสและรอยยิ้มเต็มแก้มของเขาก็ยังแผ่ซ่านออกมาจนผมรู้สึกได้ ....

       

                      "หวา .. เสื้อผ้าเปียกหมดเลย แล้วพรุ่งนี้จะเอาอะไรใส่ไปโรงเรียนล่ะเนี่ยย"

       

      ไม่รู้เหมือนกันว่า เขาแค่บ่นกับตัวเองคนเดียว เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ หรือว่า จงใจรำพึงดังๆให้ผมได้ยิน.... สุดท้าย คนใจดีอย่างผม ก็เลยยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ..

      ช่วยไม่ได้นี่นะ ที่ไปบังเอิญได้ยินความเดือดร้อนของเขา...

       

                      "ถ้าไม่รังเกียจ พรุ่งนี้จะยืมของผมไปใส่ก่อนก็ได้นะ ผมพอจะมีเสื้อตัวใหญ่ๆอยู่บ้าง"

      เท่านั้นแหละ ดวงตาสีน้ำตาลที่ฉายแววขุ่นๆเศร้าๆของเขาเมื่อครู่ก็กลับมาสว่างไสว สดใสปี๊งปั๊งตามเดิมได้ในพริบตา .... อ่า ผมรู้สึกตาพร่านิดๆแฮะ....

       

                      "ขอบคุณมากกก^^ นายใจดีจังเลย... ตอนแรกนะ คิดว่านายจะมนุษย์สัมพันธ์แย่ซะอีก ฉันล่ะกลัวแทบแย่ นึกว่านายจะไม่ยอมคุยด้วยแล้วนะเนี่ย.... เออ นายชื่อ เรียวสุเกะใช่ม้ะ งั้นฉันขอเรียก เรียวจัง ล่ะกันนะ ... พรุ่งนี้ก็ไปโรงเรียนพร้อมกันนะ..."

       

                      "อ่ะ..."

                      "อ้อ รบกวนอีกทีสิ ช่วยแบกของที่เหลือนี่ขึ้นไปที่ห้องหน่อยได้มั้ย แบบ...ไม่มีมือว่างแล้วอ่ะ ช่วยทีนะๆ"

      ตบท้ายด้วยรอยยิ้มพิฆาตที่ทำให้ผมเบลอไปชั่วขณะ .... ไม่ใช่เพราะเขาฟันขาวเป็นประกายระยิบระยับแบบในการ์ตูนหรอกนะ  แต่ผมกำลังอึ้ง .... ผมไม่อยากจะคิดหรอกนะว่าเขาหายใจทางเหงือกหรือทางผิวหนัง .... แต่ว่าพล่ามประโยคยาวๆได้ขนาดนั้น โดยไม่หยุดพักเนี่ย ผมก็ทึ่งจะแย่แล้ว .....

       

                      คืนนั้นเอง ผมก็จับผลัดจับผลู หลวมตัวไปนั่งจับเข่าคุยกันกับเจ้าเพื่อนใหม่ท่าทางแปลกๆ คนนี้ .... แล้วก็ได้รู้ว่า เขาน่ะ แก่กว่าผมตั้ง 3 ปี... 3 ปีเชียวนะ!!! ลำพังแค่รูปร่างหน้าตาน่ะก็พอเชื่ออยู่หรอกว่าอยู่ม.ปลายแล้ว แต่นิสัยเจ้านี่เนี่ยสิ เด็กประถมชัดๆ!

       

                      " เรียวจัง คืนนี้นอนห้องนี้เหอะนะ" ร่างสูงเอื้อมมือมาดึงรั้งผมที่กำลังจะลุกกลับห้องตัวเองไป

                      "ไม่เอา ห้องอยู่แค่นี้เอง" ผมปฏิเสธออกไป ในเมื่อมีห้องนอนอีกห้องอยู่ใกล้ๆทำไมจะต้องมีใครมาทนนอนลำบากด้วยล่ะ

                      "ให้เรียวจังนอนเตียงก็ได้  เดี๋ยวฉันนอนพื้นเอง น๊าๆ"

                      "ไม่ได้~! เดี๋ยวป๊ารู้ ด่าตายเลย ป๊าสั่งห้ามไม่ให้ไปยุ่งย่ามกับห้องนายเกินความจำเป็น"

                      "ไม่เป็นไรหรอก หน่านะ อยากคุยกับเรียวจังต่ออ่า" ยูยะเขย่ามือผมราวกับเด็กน้อยเอาแต่ใจ

       

                      "พรุ่งนี้ค่อยคุยก็ได้นี่ครับ ไม่รู้ล่ะ ผมกลับห้องแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน^^"

      ผมสะบัดมือออกแล้วหนีไปที่ประตูห้อง พูดล่ำลาเสร็จสรรพไม่เปิดโอกาสให้เขาได้งอแงอะไรใส่อีก ... เพราะผมโดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนค่อนข้างขี้สงสาร  โดยเฉพาะกับหน้าหล่อๆอ้อนๆหงอยๆแบบเนี้ย มันจะพาลให้ใจอ่อนเอาซะง่ายๆน่ะสิ!

       

      _.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._

       

      เช้าวันต่อมา

       

                      ผมว่าผมก็ไม่ใช่คนตื่นสายอะไรนี่นา  แต่ไอ้เจ้าคนที่กำลังนั่งจ้องหน้าผมบนเตียงนี่มันอะไร!!

       

                      "อรุณสวัสดิ์ เรียวจัง~"

      ผมลุกขึ้นมาจากที่นอน ด้วยหน้าตาตื่นๆยุ่งๆ สารรูปผมตอนนี้คงดูไม่ได้สุดๆ จนมันไปแอบขำคิกๆอยู่คนเดียว... น่าขายหน้าจริงเชียว

       

                      "ป๊านายให้ขึ้นมาปลุกได้... บอกว่า ~เรียวจังน่ะนะ ขี้เซาจะตาย กว่าจะยอมลืมตา กว่าจะยอมลุก ชักช้าอืดอาด~"

      ยูยะบอกเล่าพร้อมทำท่าเลียนแบบป๊าผมซะเหมือนเป้ะอย่างกับถอดแบบกันมา  เล่นเอาผมอดจะขำไม่ได้... แต่ว่านะ เนื้อความมัน ..... ป๊านะป๊า เอาลูกชายมาขายได้ไงครับ .... นั่นมันก็แค่ช่วงวันหยุดเองนี่ ที่จะขี้เกียจได้ขนาดนั้นน่ะ วันปกติผมก็ตื่นไปโรงเรียนทันทุกวันอยู่แล้ว ...

       

                      "ไม่ใช่แบบนั้นซักหน่อย ป๊าอะเวอร์ นายอย่าไปเชื่อนะ"

                      “คร้าบๆ ไม่ให้เชื่อก็ไม่เชื่อ”

       

      ป๊าผมน่ะ ค่อนข้างจะชอบยูยะเอามากๆ  ด้วยความที่มันเป็นคนปากหวาน (เฉพาะกับป๊าผม) แล้วก็เนียนเอาโล่ จะว่ายังไงดีล่ะ....มันเนียนเป็นลูกชายบ้านนี้ จนบางครั้งคุณป๊าก็ทำลืมไปว่ามีผมเป็นลูกอยู่อีกคนนึง....

       

                      "อ้าว ข้าวของผมล่ะป๊า"

                      "เอ๋... เออ นั่นสิ มีกัน 3 คนนี่หว่า ..ลืมไปๆโทษที.. ไปตักเอาเองใหม่ละกัน"

       

      ...ทำไมป๊าผมถึงได้ใจร้ายกับลูกในไส้อย่างนี้หนอ ...

       

                      "เรียวจัง เอาจานนี้ไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันไปตักใหม่เอง^^"

      พูดยังไม่ทันจบคำดี .. ร่างสูงของยูยะก็วิ่งปรู้ดไปในครัวเรียบร้อยแล้ว.....ไม่ทันให้ผมได้ปฏิเสธ จะด้วยความเกรงใจส่วนตัวหรือสายตาดุๆของป๊า เชิงตำหนิ ที่ผมปล่อยให้ลูกสุดรักของเขาซึ่งจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร ไปบริการตัวเองก็เหอะ ... ผมก็เลยได้แต่ยิ้มแหยๆใส่ป๊าไปทีนึง ...

       

                      "ไปล่ะนะคร้าบบ"

      การเดินทางไปโรงเรียนโดยมีสายลม แสงแดด และท้องฟ้าอันสดใสเป็นเพื่อนนั้นได้จบลงแล้ว เพราะเนื่องด้วยบัดนี้ มันถูกแทนที่ลงด้วยเสียงหัวเราะ แล้วก็เสียงคุยกันดังโหวกเหวกไปตลอดทางอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ....

       

      ถนนสายเดิมที่เคยเงียบเหงา  ก็ถูกเติมเต็มไปด้วยความสุขจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม...

       

      _.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._

       

       

                      "ยามะจัง เมื่อเช้ามาโรงเรียนกับใครน่ะ?"

       

      พอผมก้าวเข้ามาในห้องได้ไม่ทันไร เหยี่ยวข่าวนามไดกิ ก็แล่นปรี่เข้ามาสอบสวนผมทันที

       

                      "อ๋อ คนที่มาเช่าห้องที่บ้านฉันไง.. ที่เคยบอกไปแล้วน่ะ" ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะ ควานหาสมุดการบ้านมา ตั้งใจว่าจะทำ ...

       

                      "มีคนเช่าแล้วหรอ ก็ไหนนายบอกว่าจะเก็บไว้ให้ฉันไง" ไดกิเริ่มคิ้วขมวดไม่พอใจ... ระหว่างที่โยนการบ้านที่ทำเสร็จแล้วเรียบร้อยของมันมาให้อย่างรู้ใจ

       

                      "ก็ป๊าจะเอาเงินไปหมุนเร็วๆ ไดจังก็มัวแต่ชักช้า ช่วยไม่ได้นะ" ผมก็เลยก้มหน้าก้มตาลอกมันซะอย่างงั้น ... อ่ะ... โทษผมไม่ได้นะ... ผมไม่ได้ขอยืมมันซักหน่อย

       

                      "ว่าแต่ คนที่เดินกับยามะจังเมื่อเช้าน่ะ คุ้นหน้าคุ้นตามากเลยนะ"

                      "อือ คงจำไม่ยากหรอก หน้าตาแปลกประหลาดต่างจากคนทั่วไปอยู่หรอก..ฮ่าฮ่าฮ่า"

       

                      "ว่าไปนั่น ขนาดว่ามองไกลๆฉันยังรู้สึกได้ถึงออร่าความหน้าตาดีเลย แต่ที่พูดเนี่ยฉันหมายถึง เค้าอาจจะเป็นหนึ่งในกลุ่มคนดังๆปี 3 ก็ได้หนิ"

       

      ระหว่างที่ไดกิกำลังสร้างสรรค์จินตนาการอันบรรเจิดไว้ในหัวผม ใบหน้าของยูยะก็ลอยเข้ามาในหัวให้ผมคิดภาพตาม ... เมื่อเอาไปเปรียบกับพวกคนดังอย่างรุ่นพี่อิโนโอะ เคย์ ผู้เคร่งขรึมหรือว่ายาบุ โคตะที่มีรอยยิ้มละลายใจที่ผมเคยเจอมาแล้ว ก็ตัดสินผลออกมาได้ทันทีว่า...

       

                      "ไม่มีทางอ่ะ"

                      "เอ้า ไม่แน่เว้ย ... อาจเป็นไปได้"

       

                      ....ไม่มีทางหรอก...ปัญญาอ่อนอย่างเจ้านั่น ไม่มีทางอยู่ในกลุ่มคนดังปี 3 ได้หรอกน่า...

       

       

                      "นี่... เรียวสุเกะ... อยู่ห้องนี้ใช่ป่ะ?"

      ผมเงยหน้าจากสมุดขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงนุ่มๆทุ้มๆคุ้นหู ..... อยู่ๆเจ้าตัวหัวข้อสนทนาก็มาโผล่อยู่ตรงหน้าประตูแบบไม่คาดฝัน... รึมันจะมีญาณพิเศษล่วงรู้ว่าผมกำลังนินทามันอยู่

       

      เพื่อนผมคนนึงที่นั่งอยู่ใกล้ประตูที่สุด ตอบคำถามพลางจ้องหน้ายูยะด้วยเสียงสั่นๆ ตะกุกตะกักไม่เป็นคำ กว่าจะรู้เรื่องก็ต้องสื่อภาษามือชี้ตรงมาพิกัดที่ผมกำลังลอกการบ้านอยู่อย่างขันแข็ง

       

                      พอได้คำตอบเป็นที่พอใจแล้ว ร่างสูงที่ตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งห้องโดยไม่รู้ตัวก็เดินยิ้มกริ่มตรงเข้ามาหาผมทันที

      ผมเงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่ง แล้วส่งเสียงทักไปตามประสาคนบ้านเดียวกัน

       

                      "มาทำไรเนี่ย ไม่ไปเรียนหรือไง"

                      "แค่แวะมาหา... พอดีเอาของมาให้ครูห้องข้างๆอะ ก็เลยแว้บมา... นายทำไรเนี่ย"

                      "การบ้าน"

      พยายามอิ้บคำว่า"ลอก" เอาไว้ เพื่อเป็นการไม่ดูน่าเกลียดจนเกินไป

       

                      "อ้าว แล้วเมื่อวานไม่ทำอ่ะ"

      ผมล่ะอยากตบหัวคนความจำสั้นนัก เมื่อวานทำไมไม่ทำ!.. หึ ..ก็ใครล่ะ ชวนคุยจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนกัน... แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปทำอย่างอื่นได้อีก!!...

       

                      "โอ้ะๆ จำได้ล่ะ ขอโทษคร้าบ... ไม่กวนแล้ะ ตอนเย็นเดี๋ยวมารับ รอที่ห้องนะ"

                      "อือ"

       

      พอเจ้าตัวปัญหาที่บัดนี้ดึงดูดความสนใจของคนทั้งห้องจนสงบเงียบงันลุกเดินออกไปได้ 3 ก้าว มันก็ถลากลับมาเขย่าผมซะจนโยกไปทั้งตัว...

       

                      "เรียวจัง~!! ที่45องศา เพื่อนนายคนนั้นน่ะ ตัวเล็กๆ น่ารักๆ หน้าเล็กๆคนนั้น... ชื่ออะไร!"

       

      ผมชะโงกหน้ามองไปตามพิกัดที่ร่างสูงบอก ก็เจอกับเพื่อนตัวเล็กหน้าหวานที่กำลังพูดคุยอยู่ในกลุ่มเพื่อนอย่างร่าเริง.... "หือ จิเน็น ยูริอ่ะหรอ"

                      "ชื่อยูริหรอ น่ารักจังเลยยย~ นี่ๆเค้ามีแฟนยัง?" ยูยะถามผมอย่างกระตือรือร้น ดวงตาเป็นประกาย

                      "ไม่แน่ใจเหมือนกัน... แต่ยูริไม่เคยมีข่าวทำนองนี้กับใครเลยนะ"

                      "แจ๋ว.."

                      "ชอบหรอ"

                      "อื้อ เห็นแล้วปิ๊งเลยนะเนี่ย ขอบใจมาก ฉันไปล่ะ"

      แล้วยูยะก็ยิ้มหล่อเดินออกจากไปด้วยความอารมณ์ดี  ส่งผลให้เลเวลความน่ามองของมันอัพขึ้นไปอีกระดับ

       

      .... ทิ้งไว้ก็แต่......

       

                      "ยามะจัง~!!!!!"

      กลุ่มสาวๆสาวกคนดังที่รอจังหวะนี้อยู่แล้ว กรูกันเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังผมแบบไม่ทันตั้งตัว

       

                      "ยามะจัง... ไปสนิทกับรุ่นพี่ยูยะมาตอนไหนเนี่ย"

      รู้จักกับคนดังปี3แบบนี้ไม่เห็นบอกกันมั่งเลย

                      "น่าอิจฉาจังเลยน้า"

       

      คนดัง!.....ปี3! ..... ตกลงว่ายูยะเป็นหนึ่งในกลุ่มนั้นจริงๆอะนะ!?

      นี่ถ้าแม่พวกนี้รู้อีกอย่างว่าชุดนักเรียนที่รุ่นพี่ยูยะสุดฮอตใส่วันนี้เป็นของผมด้วยเนี่ย  ผมจะไม่โดนเหยียบแบนเลยเรอะ...

       

                      "แล้ว.... พวกนายเป็นอะไรกันเหรอ"

      คำถามไคลแม๊กซ์หลุดออกมาแล้ว  ทุกคนดูจะตั้งใจลุ้นกับคำตอบของผมซะเหลือเกิน ...

       

                      "ก็..เพื่อนกัน ธรรมดา"

                      "จริงเหรอ แต่รุ่นพี่บอกจะมารับกลับบ้านด้วยนี่ ไม่เป็นอะไรกันจริงอะ"

       

      ...ไม่ได้เป็น แค่อยู่บ้านเดียวกันเฉยๆ

      แต่ถ้าจะบอกไปแบบนั้น .. ผมก็ยังไม่อยากตายเร็วนี่นา... TwT

       

                      "ใช่ บอกมาเถอะน่า ไม่มีใครว่าอะไรหรอก ออกจะน่าภูมิใจ ที่อย่างน้อยก็มีตัวแทนของห้องเราคบอยู่กับคนดังปี3น่ะ"

       

                      "ง่ะ ไม่ใช่... ไม่ได้เป็นอะไรกันจริงจรี้ง เชื่อซี่"

                      "จ้าๆ พ่อคนปากแข็ง อย่าทิ้งหลักฐานไว้ให้พวกเราจับได้ล่ะกัน อิอิ"

       

      เฮ้อ น่ากลัวจริงเชียว ผู้หญิงพวกนี้ ...ก็มันไม่มีอะไรในกอไผ่จริงๆนี่นา .....

      ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากที่กลุ่มผู้หญิงได้ถอนกำลังที่โอบล้อมผมไปหมดแล้ว ค่อยหายใจสะดวกหน่อย ....

       

      ผมเหลือบไปมองไดจังที่นั่งอยู่โต๊ะข้างกัน เห็นหน้ามันแล้วคันมืออยากจะเดินไปดึงแก้มป่องๆนั้นนัก  ไดจัง! เพื่อนทรยศ!!... แทนที่เพื่อนถูกรุมจะมาช่วยเพื่อน.. กลับนั่งขำเป็นบ้าเป็นหลังอยู่คนเดียว ... ทั้งๆที่ก็มีมันคนเดียวนี่แหละที่เข้าใจว่าผมน่ะ แมน!!... แมนในที่นี้หมายถึงผมเป็นผู้ชายธรรมดาที่สนใจผู้หญิงน่ะนะ ... แม้ภายนอก คนอื่นจะดูว่าไม่เป็นอย่างงั้นก็เถอะ... -_-"

       

                      "ไม่ต้องมาขำเลยนะไดจัง" ผมใช้หางตาจิกมองเพื่อนรักอย่างไม่ปิดบัง มันถึงได้หยุดหัวเราะบ้าบอเสียที

                      "โทษทีๆ... ว่าแต่ นายไม่ได้เป็นแฟนกับรุ่นพี่นั่นจริงๆหรอ" ไดกิย้อนถามผมอีกครั้งด้วยดวงตาใสแป๋ว

                      "เอ้า.. ไดจังก็เป็นไปด้วย ลืมไปแล้วหรอไง ที่เล่าให้ฟังเมื่อกี้น่ะ"

                      "อ๋อ เออนั่นสินะ แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ รุ่นพี่นั่นอาจไม่ได้คิดแบบนายก็ได้ ใครจะรู้" ไดจังยิ้มเจ้าเล่ห์

                      "โว้ะ แกนี่อยากให้ฉันเป็นเกย์นักใช่ม้ะ ห้ะ!!...หยุดเลยๆ ไม่มีทางที่ฉันจะไขว้เขวแน่นอน... หยุดคิดจะจับคู่ฉันได้เลย"

                      "โธ่ รู้ทันอีก.. ก็แหม ใครๆก็คิดว่านายเป็นอยู่แล้วนี่ ก็ตามน้ำไปเลยดิ๊"

                      "ไม่เอาอ่ะ ขอผ่าน ... แกเป็นไปคนเดียวเหอะ"

                      "โอเคๆ... จะแมนก็แมนไปเว้ย... หาแฟนให้ได้ก่อนฉันละกัน เห้อะ! ...บอกให้ว่าถ้านายชอบหนุ่มหล่อๆอ่ะนะ ป่านนี้ได้แฟนสบายใจเฉิบไปแล้ว ไม่ต้องมานั่งแห้งเหี่ยวอยู่คนเดียวอย่างงี้หรอกเว้ย"

                      "พูดมาก อย่างกะตัวเองมีงั้นแหละ"

                      "ม่ายๆ.. ฉันรักอิสระ ไม่ชอบการผูกมัดต่างหาก" ไดจังทำปากจู๋ ใช้นิ้วชี้สั้นๆของมันแตะปากนิดนึงแล้วโบกไปมา ท่าทางน่าหมันไส้จนผมต้องพาลเตะโต๊ะมันแรงๆทีนึงให้ตกใจเล่น

                      “เฮ้ย! อะไรอะ เตะทำไมเล่า”

       

      จะว่าไปผมก็ไม่ได้รังเกียจเรื่องพวกนี้หรอกนะ .... เกิดเราจะไปรักใครซักคน มันก็ห้ามไม่ได้หรอก ว่าจะเป็นใคร เพศอะไร เมื่อไหร่ ที่ไหน ...... แต่ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากมีความรักธรรมดาๆมากกว่าอยู่ดี .....

       

      _.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._

       

       

                      "เรียวสุเกะล่ะ?"

       

      เสียงกริ่งเลิกเรียนดังได้ไม่นาน ร่างสูงของยูยะก็พาตัวเองมาที่ห้องเรียนของคนที่เป็นเพื่อน(?)ร่วมบ้านอย่างรวดเร็วราวกับติดปีก

                      "ยามะจังไปห้องน้ำ เมื่อกี้นี้เองค่ะ... เอ่อ รุ่นพี่ไม่รังเกียจนั่งรอตรงนี้ก็ได้นะคะ"

                      "อ๋อ ขอบคุณมาก แต่ผมรอที่โต๊ะเรียวจังดีกว่า" ตบท้ายด้วยรอยยิ้มสะกดใจ เหมือนที่ทำเรียกคะแนนจากสาวๆเป็นประจำ 

       

      ส่วนไอ้เรื่องดีกว่าที่ว่าเนี่ย หมายถึง มันเป็นมุมที่น่าจะเรียกได้ว่าเห็นน้องยูริจังได้ชัดที่สุดน่ะสิ!!.... น่ารักจังเลยน้า...

       

       

                      ผมเดินกลับมาที่ห้องเรียน ก็ต้องตาโต เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของคนที่ลั่นวาจาไว้ว่าจะมารับตอนเลิกเรียน นั่งโปรยยิ้มเรี่ยราด หัวเราะเบิกบานกับเพื่อนๆของผมที่โต๊ะสนุกสนานไปแล้ว

       

      ...........เฮ่ย!!!.... สมองสั่งการให้ผมรีบดูนาฬิกาทันควัน .... ก็เพิ่งเลิกเรียนเองนี่หว่า ..... อะไรจะกระตือรือร้นรีบมารับขนาดนั้น .... แต่พอมองตามสายตาของยูยะไปแล้วก็ถึงบางอ้อ….

       

       คนๆเดียวที่ร่างสูงมักจะแอบมองเสมอ กลืนเนียนเข้ากับการพูดคุยกับสาวๆในห้องอย่างไร้พิรุธ.....

       

                      "นี่พวกเธอ หลบไปๆ.. ตัวจริงเขากลับมาแล้วจ้า"

                      "หือ ตัวจริง??"

                      "ว้า กำลังจะตีท้ายครัวซะหน่อย ยามะจังไม่น่ากลับมาเร็วเลย"

                      "ก็เอาไปสิ เชิญเถอะ"

      เอาอีกแล้วน้า ผู้สาวพวกนี้นี่ไม่ฟังอะไรจริงๆ ผมก็ได้แต่ตอบไปแบบไม่สนใจเท่าไหร่ จริงๆแล้วจะเอาไอ้รุ่นพี่ยูยะเนี่ยไปต้มยำทำแกงที่ไหน ผมก็ไม่มีสิทธิจะไปห้ามปรามหรอก

       

                      "ว้ายๆ ยามะจังงอนเลย ..ขอโทษนะค้า รุ่นพี่ยูยะ! ขอให้ง้อได้เร็วๆนะ พวกเราไปกันเถอะ ปล่อยให้เขาอยู่กัน 2 คน.... ไดจัง!! มานี่ อย่าไปเป็นก้างขวางคอเค้า..."

       

      ชั่วพริบตาเดียว ห้องทั้งห้องที่กำลังครึกครื้นไปด้วยเสียงผู้คนมากหน้าหลายตา ก็สลายตัวอย่างรวดเร็วจนเหลือแค่ผมกับยูยะ 2 คนในห้องจริงๆ ....

       

                      "เฮ้อ.. ไปกันใหญ่แล้ว" ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ....พวกนี้นี่ไม่ฟังกันเลยจริงๆ

                      "มีอะไรกันหรอ? " ยูยะส่งสายตาที่มากไปด้วยคำถาม พร้อมกับรอยยิ้มขำๆ ที่เห็นหน้าตาประหลาดๆของผม ตอนที่เพื่อนๆลุกพรึ่บออกไปจนหมดห้อง ....

                      "ไว้เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังที่บ้านคืนนี้ล่ะกัน"

                     

       

                      "ที่บ้าน!!!! คืนนี้!!!!!"

                      "เบาๆสิ เดี๋ยวเค้าก็รู้ตัวหรอก"

       

      จู่ๆก็มีเสียงแปลกประหลาดดังออกมาจากหน้าห้อง เท่านั้นผมก็รู้ได้ทันทีว่า เจ้าพวกนั้นยังไม่ยอมกลับบ้านไป  แต่คงช้ากว่ายูยะที่ยื่นหน้าออกไปขมวดคิ้วใส่ จนกลุ่มที่เกาะติดสถานการณ์แตกกระเจิงกันไปหมด ....

       

                      เฮ้อ~.. ยิ่งรุ่นพี่ยูยะไปทำอย่างนั้นก็ยิ่งเหมือนคอนเฟิร์มข่าวว่าเป็นเรื่องจริง ทีนี้ล่ะจะแก้ตัวยังไงไหว....

       

                      .

                      .

       

                      "ห้ะ แค่บอกว่าจะมารับเนี่ยนะ คิดกันไปได้ขนาดนั้น"

       

      ยูยะร้องออกมา หลังจากที่ตามผมเข้ามานั่งเสนอหน้าอยู่ในห้องแล้ว ผมก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ....เขาทำหน้านิ่งเสียจนผมกลัวปฏิกิริยาตอบรับของเขาจับใจ

       

                      "อือ ก็อย่างที่เล่านั่นแหละ"

      ..... หรือว่ายูยะ จะรังเกียจที่ต้องมีข่าวกับผมกันนะ?

       

                      ยูยะนิ่งไปเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

      "งั้นก็แสดงว่าเราน่ะ เหมาะสมกัน!!"

                      "อืม..เฮ้ยย ไม่เหมาะ... ไม่เอา ผมไม่ชอบผู้ชาย!..." ไอ้ผมก็มัวตกใจกับระยะห่างที่ถูกลดลงอย่างรวดเร็วจนเผลอตอบรับคำพูดแปลกๆของยูยะไปสิน่า

                      "ก็แหม พูดเล่นเอ๊ง.."

                      "ขนลุกน่ะ อย่ามาเล่น"

                      "คร้าบๆ .. เอ้อ.. เรียวจัง..ช่วยไรหน่อยดิ" ยูยะมีสีหน้าเครียดขึงขึ้นมาชั่วขณะจนผมต้องหันกลับไปตั้งใจฟัง

                      "อะไรครับ"

                      "มีเบอร์มือถือยูริจังมั้ย ...อีเมลล์ก็ได้อ่ะ"

      .... แค่เนี้ยนะ! ... โอเค ผมอาจจะไม่เห็นมันเป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่สำหรับคนที่ตกอยู่ในห้วงรักแล้ว อะไรก็ดูยิ่งใหญ่สำคัญไปซะหมดล่ะมั้ง

      ผมชั่งใจอยู่แป้บนึง ก็หยิบโทรศัพท์ยื่นให้ ....ยูยะทำหน้าซาบซึ้งในบุญคุณของผมอย่างสุดชีวิต รับโทรศัพท์แล้วลงมานอนกลิ้งอยู่บนเตียงผมประหนึ่งเป็นเตียงตัวเองอย่างไรอย่างนั้น

                      "งั้นขอเบอร์เรียวจังด้วยเลยละกันนะ"

                      "อือ..จะทำอะไรก็ทำ"

       

      _.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._

       

       

                      และวันต่อๆมา ผมก็ยังมาโรงเรียนพร้อมกับยูยะเหมือนเดิม ท่ามกลางเสียงเป่าปากแซว ข่าวลือแปลกๆหรืออะไรอีกสารพัด .... แต่ก็อย่างที่ไดจังได้สันนิษฐานไว้ตั้งแต่แรก...  ยูยะเป็นหนึ่งในกลุ่มรุ่นพี่ชื่อดังปี 3 ... ซึ่งผมไม่อยากจะเชื่อเลย ... ไอ้เรื่องหน้าตาอ่ะ ผมให้ผ่าน  แต่เรื่องอื่น ... อืม หมอนี่มีคุณสมบัติเป็นคนดังที่ตรงไหนกันหนอ ....

       

                      "เรียวจัง ฉันเข้าไปคุยดีมั้ยอ่ะ"

      ยูยะใช้ปลายตีนของมันสะกิดขาผม แล้วเอียงหัวมาจนชิดเพื่อกระซิบถาม .... จริงๆแล้วไม่ต้องทำท่าเหมือนกลัวความลับจะรั่วไหลหรือใครมาได้ยินขนาดนี้ก็ได้นะ ในเมื่อผมกับยูยะถูกกันออกจากกลุ่มเพื่อนเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวกับพวกผมเต็มที่อย่างในตอนนี้ ... สภาพห้องมันก็เลยกลายเป็นว่า มีผมกับยูยะนั่งเป็นเซ็นเตอร์อยู่ตรงกลาง และมีเพื่อนๆล้อมรอบ โดยเว้นระยะห่างพอประมาณ...

       

                      "อืม ก็ไปสิ.."

                      "แต่เขินอ่า ทำไงดีๆๆ" ยูยะใช้มือปิดหน้าตัวเอง พลางดิ้นปัดๆอย่างน่ารัก?

                      "ถ้าไม่อยากคืบหน้า ก็นั่งมองอยู่ตรงนี้ต่อไปเถอะ" ผมคีบข้าวเข้าปากไม่สนใจ

       

      .... จริงๆแล้วมันรู้สึกคล้ายไม่ชอบใจเสียมากกว่า ....ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงต้องหงุดหงิดด้วยนะ....

      เอ... รึอาจจะเป็นเพราะโมโหหิว

      ......... ต้องใช่แน่ๆ

       

                      "ก็ได้ๆ .. แต่ว่านะ เค้าจะรำคาญมั้ย..จะ"

                      "โอ้ย ไม่ลองก็ไม่รู้สิฟะ!!"

      ผมเผลอเสียงดังด้วยความหงุดหงิด .. เรื่องบ้าๆล่ะกล้านัก.. ทีเรื่องอย่างงี้ล่ะทำเป็นอาย...

       

      ยูยะเลยยอมเดินเข้าไปคุยกับยูริที่นั่งยิ้มน่ารักอยู่ที่โต๊ะ ..... เพื่อนๆในห้องต่างส่งสายตาอันสุดแสนจะสงสัยอย่างหาที่สุดมิได้มาหาผม... ซึ่งผมก็ทำได้แค่ยิ้มๆรับเท่านั้น.... ยูยะมันจะไปหาใคร ไปชอบใครที่ไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับผมตั้งแต่ต้นอยู่แล้วนี่นา...

       

       

       

                      ตั้งแต่วันนั้นมา ยูยะก็มักจะแวะมาที่ห้องผมเสมอๆ  แต่ไม่ได้มาหาผมเหมือนแต่ก่อน ... ร่างสูงเข้ามาป้วนเปี้ยน คอยดูแลเทคแคร์ยูริอย่างดี ... เทียวรับเทียวส่งทุกวัน โทรไปหาทุกคืน... 

       

      วันนี้ก็เหมือนกัน .. ยูยะเดินยิ้มหลั่นล้า รื่นเริงเข้าบ้านมาแต่ไกล ....

       

                      "มีความสุขจังเลย เรียวจัง!"

      เปล่านะ ผมไม่ได้มีความรู้สึกเจ็บในอก หรืออะไรเทือกๆนั้นหรอกนะ ...

       

      ผมมีความสุขที่เห็นเพื่อนมีความสุขต่างหาก ....

       

                      "นี่ วันนี้นะ..ฉัน...."

      แล้วยูยะก็เริ่มต้นพรรณนาถึงความรักของมัน ... ถึงแม้ว่ายูริจังจะยังไม่ตอบรับอะไรก็ตาม  แต่ถ้าดูโดยรวมแล้ว ผมก็ว่ามันเป็นไปในทางที่ดีนะ .....

       

       

      แต่ทำไม วันนั้น....  ยูยะถึงได้หน้าหมอง นัยน์ตาเศร้า เดินเหี่ยวๆไร้เรี่ยวแรงเข้ามาในห้องผม .... แล้วก็ถามด้วยน้ำเสียงหมดอาลัยตายอยากสุดชีวิต

       

                      "เรียวจัง ฉันมันน่ารำคาญมั้ย"

                      "ไม่นี่" ผมตอบไปตามความจริง

      ... ผมไม่เคยรำคาญเขาหรอก แม้ว่ายูยะจะทำตัวน่าหงุดหงิดอยู่บ้างก็ตามที

       

                      "แต่ยูริ เค้าบอกว่าเค้ารำคาญ.. ให้ฉันเลิกไปยุ่งกับเค้าซักที....ทำไมล่ะ ทำไม...ทั้งที่กำลังไปได้สวยแท้ๆ.."

                      "ใจเย็นน่า ค่อยๆเป็นค่อยๆไปสิ ...รุกหนักๆเพื่อนผมก็ตกใจแย่"

                      "เค้าเกลียดฉันแล้วแน่เลย"

                      "ไม่หรอกน่า"

                      "ฉันมันตัวน่ารำคาญ นายจะรำคาญรึเปล่า เรียวจัง"

                      "ไม่มีทาง"

                      "เหรอ.... น่าดีใจจัง" ร่างสูงยิ้มออกมาน้อยๆ

      .... ถึงผมจะพูดปลอบใจยังไง แต่ความเศร้าเสียใจมันก็คงไม่จางหายไปง่ายๆสินะ.... ผมก็เลยได้แต่นั่งอยู่ข้างๆเขาอย่างเงียบๆ

       

                      "คืนนี้ เรียวจังอยู่เป็นเพื่อนฉันนะ"

                      "อือ.. ได้สิ"

       

      _.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._

       

       

                      "ยามะจัง ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ"

      จู่ๆ ในเช้าวันรุ่งขึ้น ต้นเหตุที่ทำให้ยูยะมีอาการซึมเศร้า เหงาหงอย กินข้าวไม่ลง ไม่เจริญอาหาร นอนหลับกระสับกระส่ายทั้งคืน....  ก็มายืนอยู่ตรงหน้าผม

       

                      "ว่าไงล่ะ จิเน็น"

       

      หลังจากที่พากันออกมาจากแหล่งอันตราย ซึ่งประกอบด้วยบุคคลจำพวกหูทิพย์ ชอบแอบฟังชาวบ้านคุยกัน ในทุกๆอาณาบริเวณของห้องแล้ว ผมก็เอ่ยถามจุดประสงค์การมาของหนุ่มน้อยน่ารัก ที่หักหัวใจรุ่นพี่คนดังปี3 อย่างทาคาคิ ยูยะมาแล้ว....

       

                      "นายรู้เรื่องแล้วใช่มั้ย"

                      "เรื่องอะไร.."

                      "ที่ฉันบอกกับ..รุ่นพี่ทาคาคิ"

       

      แค่ฟังสรรพนามที่ห่างเหินกันขนาดนั้น ก็สะเทือนใจ ...

      ขนาดผมเป็นคนนอก ... แล้วร่างสูงที่เฝ้าทุ่มเทให้ซะขนาดนั้น จะรู้สึกยังไงกันล่ะเนี่ย ...

       

                      "อืม รู้แล้ว.. ถามจริง นายรู้สึกแบบนี้มาตั้งแต่ต้นแล้วใช่ไหม"

                      "อื้อ.."

                      "แล้วทำไมถึงไม่ปฎิเสธให้มันรู้เรื่องรู้ราวตั้งแต่แรก..."

      ด้วยอารามความรักเพื่อนจัด ทำให้ผมอารมณ์ขึ้น ราวกับว่าเป็นคนได้รับความเจ็บปวดนั้นเอง

       

                      "ก็..ฉันเห็นว่าเป็นเพื่อนกับยามะจังนี่  นายเองก็มองมาตลอดเลยด้วย ... ฉันก็เลยไม่กล้า พูดอะไรออกไป"

                     

      แต่คำตอบที่ได้รับมา ทำให้ผมถึงกับอึ้ง....  ที่จิเน็นไม่ทำอะไรให้ชัดเจนแต่แรก เป็นเพราะผมเองหรอกหรือ

       

                      "แล้วก็นะ นาย 2 คนน่ะ เหมาะสมกันอยู่แล้ว.. ฉันว่ามันเป็นแบบนั้นก็ดีอยู่แล้วนี่"

                     

      จริงๆไม่ต้องมาเอี่ยวเรื่องที่เป็นไปไม่ได้พรรค์นั้นด้วยก็ได้นี่ -*-

       

                      "เพราะงั้น นายเองก็ช่วยฉันกันรุ่นพี่ออกไปที... แล้วก็ ที่จริงแล้ว ฉันไม่พร้อมจะมีความรักกับใครทั้งนั้นแหละ ขอโทษด้วย.."

       

      ผมไม่รู้จะเอาเรื่องที่ได้คุยกับจิเน็นไปบอกยูยะได้ยังไง ..... เพราะนั่นมันก็เหมือนกับว่าผมเอง ที่ผลักดันให้ยูยะต้องพบกับความเจ็บปวด  ผมเองที่ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น.. มันจะจบลงด้วยดีใช่มั้ย ถ้าไม่มีผมซักคน .....

       

       

      _.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._

       

       

                      ก๊อกๆๆ~!!

       

      เสียงเคาะประตูดังขึ้นหน้าห้องผม  คาดว่ายูยะคนดังของประชาชน คงจะมีหน้าตาเหมือนคนป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแน่นอน...

       

                      "เรียวจัง.."

      ผิดคาดไปนิดแฮะ ... ร่างสูงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แล้วโผเข้ากอดผม ....แล้วโถมน้ำหนักทั้งตัวเข้ากอดผม .... ดีนะว่าพอตั้งตัวทัน ไม่งั้นล่ะได้หงายหลังผึงหัวฟาดพื้นกันทั้งคู่แน่นอนล่ะ ...ตัวก็ไม่ใช่เบาๆนะโถมเข้ามาได้!!

       

                      "คืนนี้ ฉันจะโทรไปตื้อเค้าอีกครั้ง ให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย..."

                      "จะเลิกหวังแล้วหรือไงกัน"

                      "แล้วถ้าทำยังไงก็ไม่มีทางสำเร็จ ฉันจะเลิก... จบ.. จบทุกอย่าง กลับไปเป็นเหมือนเดิม... เรียวจัง..ฉันจะทำได้มั้ย"

                      "ทำได้สิ นายต้องทำได้..."

       

      ผมไม่รู้ว่าเหตุการณ์หลังจากที่ยูยะกลับห้องไปแล้วเกิดอะไรขึ้น  .... เพราะผมเองก็ไม่ได้เอ่ยปากถามถึงเรื่องนี้เลยในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น .... ยูยะเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเหมือนกัน .... แต่ดูจากสีหน้าท่าทางแล้ว .. คนที่สมหวังคงจะไม่มีอาการแบบนี้หรอกมั้ง..

       

                      .

      .

       

                      "ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงเนี่ย.. แล้วรุ่นพี่ทาคาคิชอบใครกันแน่"

                      "ไม่รู้สิ แต่ฉันว่านะ รุ่นพี่ต้องทะเลาะกับยามะจัง แล้วก็ทำตัวประชดไปจีบยูริแน่เลย"

                      "งั้นเหรอ ไม่ใช่ว่ารุ่นพี่เจอของใหม่ แล้วก็เลยทิ้งยามะจังหรือไง"

                      "อ้ะ ยามะจังมาแล้ว เงียบๆไว้ล่ะ เดี๋ยวเค้าจะเสียใจ"

       

      ผมได้ยินคำพูดพวกนี้พอดี ตอนที่กำลังจะเดินเข้าห้อง .... หัวข้อสนทนาหัวข้อที่ว่าด้วยเรื่องผม มันน่าสนใจนักหรือไงนะ แม่สาวพวกนี้ถึงได้คิดกันได้เป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ ... นี่ถ้าผมมาช้ากว่านี้อีกนิดคงจะดราม่าจนเรียกน้ำตาคนฟังได้เลยใช่มั้ยเนี่ย

       

                      "เย็นนี้จะมารับเหมือนเดิมนะ"

       

      ยูยะที่เดินตามมาส่งเหมือนทุกที ต่างกันที่วันนี้มันมาส่งผม ไม่ได้มีจุดประสงค์จะมามองคนอื่นแอบแฝง ....เพื่อนๆนั่งลุ้นกับเหตุการณ์อย่างเงียบๆ คงจะคิดกันไปอีกสิ ว่าผมไปดักตบยูริ ขู่ให้เลิกยุ่งกับยูยะ ตอนหลังเลิกเรียนน่ะ -*-  

       

                      และบัดนี้ ยูยะก็ได้แสดงให้ผมเห็นอย่างกระจ่างใจแล้วว่า เมื่อคืนวาน เกิดอะไรขึ้นบ้าง

      .....แต่ผมล่ะนับถือยูยะอยู่อย่างนึง  ซึ่งมันก็คือความเด็ดขาดนี่แหละ.... บอกว่าจะเลิกยุ่งก็คือเลิกยุ่ง... วันนี้ก็เมินยูริได้อย่างใจ... เจอหน้ากันก็ไม่คิดจะทัก ทำเหมือนว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน  เดินเข้ามาในห้อง แม้แต่หางตาก็ไม่แลไปทางนั้นเลยซักนิด.... ผมล่ะนับถือความใจแข็งของยูยะจริงๆ....

       

       

      _.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._

       

       

                      "เรียวจัง..ไปหาอะไรกินกันก่อนกลับบ้านมั้ย"

                      "ไม่อ่ะ ไม่อยาก"

                      "หรอ งั้นเอากระเป๋ามา เดี๋ยวถือให้"

                      "บ้าหรือเปล่า ผมไม่ได้เป็นง่อยเสียหน่อย ... ก็ถือเองมาได้ทุกวัน แล้ววันนี้มันเป็นอะไรถึงจะต้องมาถือให้ด้วยเล่า!"

       

      ผมล่ะนึกสงสัยว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทำไมมันถึงได้เจ้นท์นักวะ

       

                      "ก็แค่อยากถือให้นี่นา"

       

      ทั้งที่แต่ก่อน ไม่เคยคิดจะเหลียวแลเนี่ยนะ ...

       

      ........ ผมคิดว่ายูยะเปลี่ยนไปมากนะ ... เปลี่ยนไปในทางแปลกๆซะด้วยสิ ....แปลกมาตั้งแต่วันที่มันลั่นวาจาว่าจะตัดใจจากจิเน็นได้... แล้วมันก็เริ่มหันมายุ่งวุ่นวายกับผมแทน -_-"

       

      ........ ผมก็เลยเริ่มเข้าใจความรู้สึกของจิเน็นแล้วเหมือนกัน ....

       

       

       

                      "เรียวจัง~ วันนี้ฉันทำโอโคโนมิยากิมาฝาก... กินด้วยกะ.. อ่ะ... มีอะไรหรือเปล่า ทำไมทำหน้าดุแบบนั้นล่า~"

                      "ผมขอถามกันแบบเคลียร์ๆเลยนะ ... ยูยะมีจุดประสงค์อะไรกับผมรึเปล่า.."

       

      แล้วเมื่อผมสงสัยอะไร  ผมก็อยากเคลียร์ให้มันจบๆ ... ไม่อยากให้มันคาราคาซังอยู่ในใจ...

       

                      "ทำ..ทำไมล่ะ"

      ยูยะทำหน้าเหวอแตกจนน่าขำจริงๆแหละ ... เป็นใครไม่งง จู่ๆเปิดประตูเข้ามาเจอคนทำหน้าเคร่งใส่ ทั้งที่ยังไม่ทันได้ทำอะไร...

       

                      "ก็ที่นายทำอยู่น่ะ มันมากเกินกว่าจะเป็นพี่น้องหรือว่าเพื่อนกันแล้วนะ... ทำยังกะจะเอาผมเป็นแฟนไปได้"

       

      ยูยะเงียบไปอึดใจ ก่อนจะอุบอิบตอบออกมาเสียงเบา

                      "ก็.. คิดอย่างงั้นจริงๆนั่นแหละ"

       

      ให้ตายเถอะ ข้อสงสัยของผมกลายเป็นจริงเหรอเนี่ย .....

       

                      "ห๋า!!... ก็บอกแล้วไง ว่าผมไม่ชอบผู้ชาย"

      ผมก็ยังแสดงเจตจำนงเดิมอย่างมั่นคง .... แต่ทำไมน้า ถึงไม่มีใครเชื่อเลยว่า ผมน่ะ ชอบผู้หญิงจริงๆนะ....

       

                      "ก็นายเคยบอกว่าไม่รังเกียจ"

                      "ก็ไม่ได้แปลว่าจะชอบ"

                      "แต่ก็ยังมีสิทธิ์นี่"

      ยูยะก็ยังอุบอิบ แถหาเหตุผลไปได้เรื่อยๆ จนผมคร้านจะต่อปากต่อคำ .....

       

                      "โอเค ผมไม่เถียงแล้วก็ได้.. แต่บอกไว้อย่าง ผมให้ยูยะเป็นได้แค่เพื่อนหรือรุ่นพี่ที่สนิทได้ก็เท่านั้นเอง..."

                      "จริงเหรอ..."

       

      จู่ๆยูยะก็เปลี่ยนท่าทีสงบเสงี่ยมเจี๋ยมเจี้ยม มาเป็นทะเล้นทะลึ่งได้อย่างไม่น่าให้อภัย .... สังเกตได้จากใบหน้าหล่อไม่บันยะบันยังที่ยื่นเข้ามาแทบจะชนกับผมอยู่รอมร่อ ...ไหนจะมือยาวๆที่สาวเข้ามากอดรัดตัวผมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว...

                      "เฮ่ย หยุดเลยๆ จะทำอะไร.. ปล่อยเดี๋ยวนี้"

                      "ปล่อยก็ได้ ...แต่ขอรางวัลก่อนทีนึงสิ"

       

                      จุ๊บส์~

       

      รวดเร็วปานสายฟ้าฟาด... ผมได้แต่แค้นใจที่ตัวเองต้องมายืนนิ่งๆ ปล่อยให้ยูยะมาทำอะไรตามใจชอบแบบนี้!!!!

       

      _.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._

       

       

                      ตั้งแต่คืนวันนั้น ... ยูยะก็กลายเป็นตัวอันตรายที่ผมอยากจะหลีกหนีไปให้ไกล ....ทั้งมือไวใจเร็ว แถมยังถึงเนื้อถึงตัวได้อย่างหน้าด้านๆ

      ... ทีตอนไปจีบจิเน็น ไม่เห็นจะมีไอ้แบบนี้เลยนี่นา -*-  

       

                      "คิดยังไงถึงมาจีบผมเนี่ย"

       

      ผมถามขึ้นในวันหนึ่ง  ตอนพักกลางวันที่ยูยะเสนอหน้าหล่อๆของมันเข้ามาขอนั่งกินข้าวด้วย...... แล้วเพื่อนของผมที่ช่างเป็นใจกับยูยะเสียเหลือเกิน ถึงกับยอมเนรเทศตัวเองไปนั่งโต๊ะอื่น ... ไม่รู้ว่ามันอยากให้เพื่อนตกลงปลงใจกลายเป็นเกย์ในซักวันหรืออย่างไร ....

       

                      "ไม่รู้สิ เพิ่งจะมาสังเกตเห็นความน่ารักล่ะมั้ง ฮ่าฮ่าฮ่า"

                      "บ้าบอจริงๆ"

                      "มาเป็นแฟนกันเหอะน่า"

       

      ยูยะเลื่อนมือมากุมมือผมที่กำช้อนกับส้อมไว้แน่น...

      ผมคิ้วกระตุกขึ้นนิดนึง ตอนที่เห็นข้าวกระเด็นหกจากช้อน ....

       

                      "ก็บอกกี่ทีแล้ว ว่าผมไม่ชอบผู้ชาย!!"

      ผมก็ยังยืนยันคำตอบเดิมๆ โดยไม่ได้ไต่ถามใจตัวเองให้แน่ชัด ว่ามันยังเป็นอย่างที่พูดติดปากปาวๆว่าไม่ชอบผู้ชายหรือเปล่า

       

      .... ผมไม่เอะใจเลยซักนิดเดียว ...

       

                      "ไม่เปลี่ยนใจเลยหรอ"

                      "ไม่"

                      "นิดนึงน่ะ"

      ยูยะก็ยังคงอ้อน เซ้าซี้ ทำหน้าตาน่าสงสาร ให้ผมเห็นใจ ... ซึ่งผมไม่หลงกลหรอก ... จริงๆนะ..

       

                      "ไม่เปลี่ยน.."

                      "ไม่จริงหรอก เรียวจังน่ะ เปลี่ยนไปแล้ว"

       

      แต่ที่ยูยะพูดออกมาได้อย่างมั่นใจขนาดนั้น ก็เริ่มบั่นทอนความมุ่งมั่นจะแมนของผมไปทีละน้อย

       

                      "อย่ามามั่ว ยูยะจะมารู้ดีไปกว่าผมได้ยังไง"

       

      ใช่... ผมรู้ตัวของผมเสมอ ว่าผมน่ะ แมน!!!!!

       

                      "ก็นั่นน่ะสิ เมื่อไหร่เรียวจังจะรู้ตัวซะทีน้า ว่าเรียวจังน่ะ ชอบฉันไปแล้ว"

                      "บ้าล่ะ เห้อะ อิ่มแล้ว ไม่มีอารมณ์จะกิน.."

       

      ที่ผมทำอยู่นี่มันเรียกว่าหนีปัญหาหรือเปล่านะ ... แต่ให้ตายเถอะ ผมเริ่มไม่มั่นใจจริงๆซะแล้ว ....

       

      _.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._.._

       

       

                      "เรียวจัง!!... แย่แล้วๆ"

       

      เช้าวันนี้ก็ยังคงสดใสไร้เมฆหมอกเหมือนเช่นวันวาน ....แต่ป๊าผมที่วิ่งหน้าตาตื่นลงมา พาเอาผมตกใจจนแทบสำลักเอาแซนวิสที่ยัดเข้าปากไปเมื่อกี้พ่นออกมาให้ได้...

       

                      "อะไร!..เกิดอะไรขึ้นป๊า"

                      "เจ้ายูยะ หายตัวไป!! โทรศัพพ์ก็วางทิ้งไว้ในห้อง... เราจะทำไงกันดีล่ะ!"

                      "ยูยะไม่ใช่เด็กแล้วนี่ครับ อาจจะแค่...ไปโรงเรียนแล้วก็ได้"

       

      ผมพูดปลอบใจป๊า ทั้งที่ในใจผมตอนนี้มันร้อนรนไปหมด.... คิดกังวลจนหัวหมุนไปหมดว่าเจ้าบ้านั่นจะไปทำอะไรที่ไหนบ้าง

       

                      "เรียวจัง!.. ไปตามหายูยะเถอะลูก...ป๊าใจร้อน"

                      "ครับ!.."

       

      ผมตั้งหน้าตั้งตาออกวิ่ง ตั้งแต่ยังใส่รองเท้าได้ไม่เสร็จดี

      ..... ที่แรกที่ผมนึกจะไปก็คือ โรงเรียน!!

       

                      "ขอโทษนะครับ....รุ่นพี่ทาคาคิ มาโรงเรียนแล้วหรือยังครับ!"

                      "อ่า.. น้อง..เรียวจังใช่เปล่าเนี่ย ...เห็นยูยะมันพูดถึงบ่อยๆ น่ารักจริงๆด้วย^"

      ถ้าไม่ได้อยู่ในอารมณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ผมก็ยังพอจะใจดียิ้มรับคำชมอยู่บ้าง แม้จะไม่ได้อยากได้นักก็ตามเถอะ .... แต่เวลานี้น่ะ ขอทีเถอะ!

                      "ยูยะมาถึงหรือยังครับ"

                      "โห...ไม่สนใจพี่บ้างเลยเหรอเนี่ย เหอะ.. เฮ้ย ยาบุ.. ไอ้ยูยะมันมายังวะ"

                      "หึ.. ยังไม่เห็นเลยนี่เช้านี้ .. มีธุ.."

                      "ขอบคุณครับ!!"

                      ผมตัดบทแล้ววิ่งออกมาทันที

       

                      "ไดจัง!.. วันนี้นายเห็นยูยะมั่งมั้ย"

                      "ไม่หนิ"

                      "เออ ขอบคุณ!!" ผมไม่สน แม้ว่าเพื่อนจะอ้าปากค้าง ที่แค่ผมมองก็เห็นไปถึงลิ้นไก่แล้วว่า หน้าตาแบบนั้น มันคงอยากจะพูด อยากจะด่าผมว่ายังไง

                      .... เหอะ ขอโทษที ผมไม่อยู่ฟังเสียเวลา เสียอารมณ์หรอก

       

                      "ครูครับ เห็นทาคาคิ ยูยะมั่งมั้ยครับ!"

                      "อืม.. ยังเลยจ้ะ..มีอะ.."

                      "ขอบคุณครับ!!"

       

      ผมวิ่งออกตามหารุ่นพี่ที่ไม่รู้จักโตอยู่แบบนั้นทั้งวัน แต่ก็ไม่เห็นจะมีวี่แวว หรือเบาะแสอะไรเลยซักอย่าง .... เจ้านั่นจะหายตัวไปไหนได้นะ .... เฮ้ย! .. กลุ้มเว้ย!!...

       

                      "กลับมาแล้วครับ"

       

      ผมเดินเหี่ยวๆกลับเข้าบ้านมาในตอนค่ำ ....

       

                      "เป็นไงบ้าง เจอมั้ยลูก" พ่อผมวิ่งออกมาถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงทันที

      .....บอกแล้วว่าพ่อผมรักเจ้านั่นยิ่งกว่าลูกในไส้ซะอีก

       

                      "ไม่เลยครับ..."

                      "งั้นก็พักผ่อนซะนะลูก.. เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาคิดต่อว่าจะทำยังไง"

                      "ครับ"

       

      ผมแทบจะคลานขึ้นบันไดไป เพราะความเหนื่อยล้าจากที่วิ่งวุ่นมาทั้งวัน ...

       

                      "โอ้ย มันจะไปไหนได้วะ.. เครียด!"

      ผมเดินหงุดหงิดอยู่ในห้องระหว่างที่กำลังจะเตรียมตัวอาบน้ำ

       

      เอ หรือว่ามันจะกลับไปที่บ้านพ่อกับแม่ ..... แต่ถึงขนาดต้องหยุดเรียน แล้วก็ไปโดยไม่บอกกล่าวใครสักคนเนี่ยนะ ...ไม่น่าจะใช่

       

                      "ไอ้บ้า ป่านนี้แล้วไปอยู่ไหน จะได้กินข้าวหรือยัง ทำไมมันบ้าแบบนี้วะ!.. รู้มั้ยว่าคนเค้าเป็นห่วง!"

       

      แต่พอผมเปิดตู้เสื้อผ้าจะเอาผ้าเช็ดตัวเท่านั้นแหละ ... ไอ้คนที่ผมตามหามาตลอดทั้งวันก็ปรากฎตัวอยู่ในนั้นนั่นเอง ...

       

                      "ไอ้.. เฮ่ยย ... เข้ามาในนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!!"

       

                      "เซอร์ไพรส์!!!! ตกใจล่ะสิ"

      ยูยะเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มสดใสอย่างที่ผมไม่ค่อยได้เห็นมันมาสักพัก ... แต่สิ่งที่ทำให้ผมดีใจมากที่สุดก็คือการที่ได้เห็นหน้าหล่อๆของยูยะอีกครั้ง .... ยูยะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมแล้วจริงๆกระมัง.... ผมคิดไม่ออกเลยล่ะว่าถ้าไม่มียูยะแล้วผมจะเป็นยังไง ....

       

      ......ผมคงรักเจ้ารุ่นพี่ที่โตแต่ตัวอย่างยูยะเข้าแล้วจริงๆ........

       

                      "ไอ้บ้า!!.. ทำไมเล่นอย่างงี้เล่า! สนุกนักหรือไงกัน ฮึก.."

      สุดท้ายผมก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ปล่อยให้มันไหลออกมา จะด้วยความดีใจหรือโมโหเอามากๆก็ตามเถอะ

       

                      "โอ๋ๆ ฉันขอโทษ ...อย่าร้องไห้เลยน้า ฉันอยู่นี่แล้วไง ไม่หนีไปไหนหรอก.." ยูยะรวบตัวผมเข้าไปกอดซบอกมันพลางลูบหลังลูบไหล่ปลอบไปพลาง

                      ถ้าผมไม่เปิดตู้ขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ ไม่ขาดอากาศหายใจตายหรือไง ไอ้บ้า เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง! ผมโมโหก็เลยฟาดกำปั้นลงบนอกแข็งๆของมันไปหลายที

       

                      ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง ยูยะหน้าจ๋อย หงอยเหมือนเด็กที่เล่นซนแล้วถูกผู้ปกครองดุเข้าให้

                      "ไม่ต้องมาพูดเลย ทำคนอื่นเค้าเป็นห่วงไปหมด" ผมตั้งใจยกมือขึ้นปาดน้ำตา แต่ก็โดนมือใหญ่กว่าปัดออกแล้วใช้นิ้วป้ายเช็ดคราบน้ำตาให้แทน

       

                      "คนอื่นที่ว่าน่ะใคร ยอมรับแล้วใช่มั้ยล่ะ ว่านายรักฉันน่ะ" ยูยะจับคางผมให้เงยเริ่ดขึ้นเพื่อสบกับดวงตาคมที่สะท้อนเห็นแต่ใบหน้าผม               

                      "ไม่.. ผมหมายถึงป๊าต่างหาก.. ป๊ารักยูยะยังกะอะไรดี"

                      "หรอ.. แล้วใครน้อที่มาตะโกนล๊งเล๊งบอกว่าเป็นห่วงฉันอย่างงั้นอย่างงี้น่ะ หืม? อีกอย่าง ป๊าเรียวจังเสียอีก ที่เป็นต้นคิดเรื่องที่ให้ฉันหายตัวไปเนี่ย"

       

                      "ป๊า!! ... นี่รวมหัวกันหรือไง" ผมเงยหน้ามองมันอย่างอึ้งๆ

                      ..... หมายความว่าที่ผมวิ่งตามหามันทั้งวันนี่ มีแค่ผมที่วิ่งเป็นไอ้บ้าไปคนเดียวสินะ....

       

                      "ก็คนปากแข็ง ยังไม่ยอมรับตัวเองซักทีนี่นา"

                      "เฮ้อ เข้าใจแล้วครับ... ผมเข้าใจแล้วก็ได้"

                      "เข้าใจว่ายังไงล่ะ"

                      "โอเค ผมยอมแพ้แล้ว.. ผมชอบยูยะ พอใจรึยัง" ร่างสูงยิ้มกว้าง และกอดรัดผมแน่นยิ่งกว่าเดิม จนผมต้องร้องประท้วงว่าเจ็บถึงจะยอมคลายอ้อมกอด แล้วเปลี่ยนมายืนยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ผมแทน

                      ยังไม่พอหรอก

                      อะไร... นี่ผมยังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องนั้นเลยนะ กล้าดียังไงที่ทำให้ผมเหนื่อยฟรีมาทั้งวันน่ะฮะ ยูยะ!!

                      นวดให้เอามั้ยล่ะ! จะนวดให้ทั้งคืนเลย เริ่มจากท่าไหนดีล่ะ!!”

       

      ตุบบบบ!!

       

      นวดอีท่าไหนมันถึงได้กดผมจมเตียงลงไปแบบนี้ล่ะ ท่าทางแทบนี้มันอยากจะนาบมากกว่าสิไม่ว่า!

       

                      นี่มันไม่ใช่นวดแล้ว ปล่อยผม!!!

       

       

       

      THE END

       Talk : แล้วประก็พาคนอ่านซูมอินไปที่โคมไฟหัวนอน อิอิ (หัวเราะเลว)  ขออภัยในความอ่อนด้อยค่ะพี่น้อง 

      ประยังไม่อยากโดนแบน(ข้ออ้างสุดๆ)

      ลงฟิกขัดดอก ฮ่าๆๆ เรื่องนี้ก็เป็นฟิกแปลงนะจ้ะ แต่แก้ไขปรับปรุงเพิ่มการบรรยายเข้าไปอีกหน่อย น่าจะได้อรรถรสมากกว่าเดิม(รึเปล่า)นะ ...... ยังไงก็ขอให้เพลิดเพลินกับการอ่านนะจ้ะ ใครที่สอบเสร็จแล้วก็ถือซะว่าเป็นของขวัญหลังสอบละกันเน้อ

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×