ณ แหล่งกบดานของฝั่งซีกโลกตะวันออก มีเสียงหมู่คนดังเป็นรอบๆ บ้างก็เป็นเสียงร้องไห้ ของความโศกเศร้า บ้างก็เป็นเสียงโต้เถียง ทะเลาะ ระหว่างกลุ่มคน บ้างก็เป็นเสียงหอบจากการฝึกซ้อมการสู้รบ และบ้างก็เป็นเสียงวิ่งของฝีเท้าคน
“แฮ่ก แฮะ แฮ่ก” เสียงหอบของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น ในมุมมองของบุคคลในสถานที่แห่งนั้น ผู้ชายที่กำลังยืนหอบอยู่ มีเส้นผมสีดำขลับ และดวงตาสีน้ำตาล หน้าตายังดูอ่อนเยาว์ ซึ่งน่าจะมีอายุราวๆแค่ 20-22 ปี แต่คนในสถานที่แห่งนั้นรู้เป็นอย่างดีว่า เหล่าคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ไม่สามารถประเมิณกันได้ด้วยรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งเรื่องนั้นรวมถึงผู้ชายคนนี้ด้วย หน้าตาที่ดูเยาว์นั้นขัดแย้งกับอำนาจ และพละกำลังที่เขามีอยู่อย่างมาก และเขาก็พึ่งวิ่งไปทั่วแหล่งกบดานขนาดใหญ่แห่งนี้ซึ่งมีขนาดเทียบเท่ากับหมู่บ้านที่มีฝูงชนอยู่เป็นจำนวนมากได้ราวๆ 3 หมู่บ้าน ได้ 6-8 รอบได้แล้ว อย่างกับว่าเขากำลังหาบางสิ่งบางอย่างอยู่ ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งมายังเต็นท์ประชุมของหัวหน้าระดับสูง ด้วยใบหน้าซีดเผือก
“พันโทบราวน์(Brown)เกิดอะไรขึ้น!? ทำไมวิ่งมาแบบนี้” เสียงของผู้หญิงดังขึ้น ดูเหมือนกับว่าเธอกำลังวางแผนบางอย่างอยู่ในเต็นท์แห่งนี้ แต่หลังจากที่เธอเห็นสภาพของบุคคลที่ถูกเรียกว่าพันโทบราวน์ เธอก็ได้วางมือจากปากกา และไม้บรรทัดที่เธอถืออยู่เมื่อสักครู่ และรีบเดินมาหาพันโทบราวน์ทีกำลังยืนหอบอยู่
“ผม...ผมหาไม่เจอ” พันโทบราวน์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นจากความเหนื่อย พร้อมกับดวงตาที่เริ่มส่องประกายแสงสีน้ำตาลออกมา ซึ่งเป็นภาพที่น่าแปลกใจกับบุคคลอื่น เพราะคนที่กำลังแสดงท่าทางนี้อยู่นั้น คือบุคคลที่ได้ขึ้นชื่อว่า ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร บุคคลนี้จะไม่มีทางยอมแพ้ให้กับความสิ้นหวัง ไม่ว่ามันจะมืดมิดสักเพียงไหน เป็น prince of hope หรือเจ้าชายแห่งความหวัง อย่างแท้จริง แต่ ณ ขณะนี้ เจ้าชายแห่งความหวัง กลับมีสภาพอย่างกับคนที่หมดหวังไปแล้ว
“นายคงไม่ได้หมายถึงพันโทกรีน (Green) ใช่ไหม” ผู้หญิงคนเดิมพูดออกมาพร้อมกับน้ำเสียงที่แฝงความกลัวเล็กน้อย ซึ่งแม้ว่าเธอจะเป็นห่วงมากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถแสดงออกได้อย่างเต็มที่ เพราะภาระที่เธอจำเป็นต้องแบกรับไว้
“…….” พันโทบราวน์มิได้พูดอะไรตอบกลับ ไม่สิเขาแค่ไม่เหลือแรงที่จะพูดแล้วมากกว่า เพราะตอนนี้ที่ใบหน้าของเขาเริ่มมีน้ำหยดเล็กๆไหลออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลที่เคยดูมีชีวิตชีวา หลังจากที่เห็นดังนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ได้พาพันโทบราวน์ไปนั่งในตำแหน่งที่นั่งของหัวหน้าสูงสุดของหน่วยรักษาความปลอดภัย
หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงพูดคุยกันระหว่าง 2 บุคคลในห้องอีกเลย มีเพียงแต่เสียงออกคำสั่งฉุกเฉินและเร่งด่วนของผู้หญิงคนนั้น หลังจากที่เสียงการออกคำสั่งสิ้นสุดลงผู้หญิงคนนั้นได้หันไปพูดกับพันโทบราวน์ที่ตอนนี้นั่งก้มหน้าอยู่บนเก้าอี้
“ไม่ต้องห่วงเราจะหาเธอให้เจอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่ห่วงได้ไงล่ะ!! ก็ผมยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่างให้เธอเลย!! ถ้า...ถ้าเราหาเธอไม่เจอล่ะ” หลังจากที่พูดจบพันโทบราวน์ก็พึมพำอะไรบางอย่างออกมา
“นาย….” ผู้หญิงคนเดิมพูดแค่นั้นแล้วก็หยุดไป ก่อนจะพูดต่อว่า “นายทะเลาะกันมาใช่ไหม” หลังจากได้ยินดังนั้นพันโทบราวน์ก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับหัวหน้าของเขา ก่อนที่จะก้มลงอย่างเดิม
“คุณรู้ได้ไง? ” เขาเปล่งเสียงที่สั่นสะเทือนออกมา แต่เขาก็ยังไม่มีท่าทางว่าจะเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเลย
“ความรักน่ะ บางครั้งก็เจ็บปวดน่ะ” ผู้หญิงคนเดิมตอบกลับมา พร้อมกับใบหน้าที่เศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด เธอลูบไปที่แหวนที่ประดับด้วยอัญมณีสีฟ้าที่สวมใส่อยู่ที่นิ้วกลางข้างขวาของเธอ
หลังจากพันโทบราวน์ได้ยินดังนั้นความรู้สึกผิด และเป็นห่วงก็ก่อตัวขึ้นมาในใจของเขา “ผมขอโทษ” เขาพูดแค่นั้นแล้วก็นิ่งเงียบไป หลังจากนั้นทั้งเต็นท์ก็ตกอยู่ในความเงียบได้ราวๆ 2-5 วินาที แต่ในใจของคนทั้งสองเหมือนกับผ่านไปอย่างยาวนาน
“ไม่เป็นไร” ในที่สุดผู้หญิงคนเดิมได้เริ่มบทสนทนาอีกครั้งด้วยคำพูดที่มาพร้อมกับใบหน้าเศร้าหมอง แต่แค่เพียงไม่กี่วิเท่านั้นใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าเอาจริงเอาจรัง แต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน เปลี่ยนเป็นใบหน้าของ พันเอกบลู (Blue) ที่ทหาร และผู้นำระดับสูงของพันธมิตรแต่ละประเทศคุ้นเคยเป็นอย่างดี “เพราะไม่ว่ายังไงเราต้องหาเธอให้เจอ และต้องชนะในสงครามนี้!!” เสียงผู้หญิงที่อายุน้อยที่สุดในที่แห่งนี้พูดออกมาอย่างมั่นใจ และดังกรึกกร่องไปทั่วที่ประชุม แม้จะขัดกับรูปร่าง และหน้าตาที่ยังดูเยาว์ และสวยงามของเธอ แต่ก็สามารถสร้างกำลังใจให้กับคนที่ได้ยินได้อย่างดี
หลังจากที่พูดจบ พันโทบราวน์ก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาแม้ความรู้สึกเป็นกังวลจะไม่หายไป แต่คำพูดที่ได้ยินจากคนตรงหน้าที่ทั้งสภาพร่างกาย และอายุที่น้อยกว่าตัวของเขาทั้ง 2 อย่าง แต่ความคิด และการกระทำกลับเหมือนคนที่มีอยู่มาอย่างยาวนาน และคำพูดของเธอนั้นได้มอบความกล้า และความหวังให้กับเขาอีกครั้ง นั้นอาจเป็น 1 ในเหตุผลด้วยว่าทำไมทุกๆคนที่อยู่ที่แห่งนี้ และ คนอีกจำนวนมากถึงยอมรับเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นผู้นำของพวกเขา แต่ไม่ทันที่พันโทบราวน์จะได้กล่าวขอบคุณกับผู้หญิงตรงหน้า เขาก็สังเกตเห็นกลุ่มเงาสีดำขนาดใหญ่ ปรากฏอยู่ข้างหลังของผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้า และผู้กอบกู้มนุษยชาติ
“หัวหน้า!! ระวัง!ข้างหลังคุณ!!”
ความคิดเห็น