"นี่เจ้าคิดจะทำสิ่งใดกัน" บุรุษหนุ่มรูปร่างสูงสง่า ใบหน้างดงามคล้ายเทพเซียนจุติลงมายังดินแดนมนุษย์ ในอาภรณ์สีม่วงที่เจ้าตัวชอบสวมใส่ จับยึดข้อมือของสาวน้อยร่างบางจอมกวนใจไว้แน่น คล้ายกึ่งโกรธา กึ่งกริ่งเกรงว่านางจะหลุดจากการจับกุมก่อนที่จะรู้ความ
"ท่านอ๋อง ทรงปล่อยหม่อมฉันเถิดนะเพคะ" ฟางลี่อิงพยายามบิดข้อมือให้หลุดพ้นจากสภาพที่เป็นอยู่
"เปิ่นหวางจะบอกเจ้าอีกครา เปิ่นหวางมิคิดสนิทเสน่หาสตรีนางใด เจ้าได้ยินชัดเจนหรือไม่" สาวน้อยทำได้เพียงเงยหน้ามองท่านอ๋องด้วยสายตาวิงวอน
"ท่านอ๋องทรงโปรดรับฟังความหวังดีของหม่อมฉันก่อนเพคะ" สาวน้อยส่งรอยยิ้มพิฆาตที่บุรุษใดได้พบพานเป็นต้องตกหลุมเสน่ห์ด้วยกันทั้งสิ้น แต่คงมิใช่บุรุษตรงหน้า
"หลี่ม่านเทียนเป็นบุตรีของท่านเสนาบดี ความงามเป็นที่เลื่องลือไปทั่วแคว้น" ขณะที่ร่างบางเอ่ยวาจาชักจูงท่านอ๋องให้ทรงคล้อยตาม เนตรของท่านอ๋องหรี่ลง ๆ คิ้วเริ่มขมวดเป็นปม
"ซ้ำนางยังมีความสามารถมากมายที่สตรีในเรือนพึงมี นางโดดเด่นทั้งด้านพิณ ร่ายรำ แต่งกลอน เล่นหมากรุก งานบ้านงานเรือนก็ล้วนมิขาด. เป็นเช่นนี้แล้ว นางก็คู่ควรเป็นชายาที่ช่วยเชิดชูท่านอ๋องให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้น" นางยังมิทันกล่าวความในใจจบ บทสนทนาก็ต้องหยุดลงชั่วคราว ยามเห็นสีหน้าถมึงทึงของอีกฝ่าย นางจำต้องกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ แล้วบรรจงเลียริมฝีปากแห้งผากก่อนจะรีบพูดต่อ
"ท่านอ๋องทรงมีชันษาที่ควรมีชายาเคียงกาย" นางใช้อีกมือฉุดแขนข้างที่เกาะกุมมือนางไว้ ทำให้ร่างของท่านอ๋องผู้สง่างามโน้มตัวลงจนจมูกอยู่ห่างจากจมูกของอีกฝ่ายเพียงเล็กน้อย
"ข้าน่ะรู้ว่าท่านอ๋องมิทรงโปรดอิสตรีเท่าใดนัก อีกทั้งยังรู้ว่าฮ่องเต้ทรงกังวลพระทัยว่าท่านจะทรงขึ้นคาน กลัดกลุ้มพระทัยว่าท่านจะทรงมีอารมณ์แปรปรวน รุนแรงเพียงเพราะมิได้ปลดปล่อย ก็ท่านน่ะ ไม่มีผู้ใดคอยอุ่นเตียงเคียงข้างท่าน" นางกระซิบเสียงเบา สายตากวาดไปมาทั่วห้อง. คล้ายเกรงว่าจะมีผู้ใดได้ยิน ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก หากเพียงฟางลี่อิงจับจ้องสีพระพักตร์ของอีกฝ่าย นางคงจะหยุดคำพูดและการกระทำไว้เพียงนี้ แล้วค่อยกลับมาเจรจาใหม่ในวันข้างหน้า คงจะดีกว่านี้
"หลี่ม่านเทียนมิสนใจจะออกเรือน มิอยากตั้งครรภ์ ช่างเหมาะสม ช่างเหมาะสมกับท่านยิ่งนัก"
ไม่พูดพล่ามทำเพลง ริมฝีปากงามของชายหนุ่มประกบลงบนริมฝีปากของสาวน้อยอย่างดุดัน มือข้างที่ว่างก็จับคางสาวน้อยไว้ บีบให้อยู่ในองศาที่ต้องการ ลิ้นร้อนฉกเข้าดูดกลืนความหอมหวานในโพรงปากอย่างร้อนแรง
เด็กสาวตกใจเป็นยิ่งนัก มิเคยคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับนาง สาวน้อยเริ่มอ่อนระทวยไร้ซึ่งเรี่ยวแรง มือข้างหนึ่งยกขึ้นกอดคอบุรุษตรงหน้าไว้มิให้ตนเองล้มลงก่อนที่สติจะดับวูบลง
"ใครอยู่ข้างนอก มาช่วยเปิ่นหวางพานางไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้เดี๋ยวนี้"
ฟางลี่อิง จำต้องกลับคืนสู่มิติที่จากมาเพื่อแก้ไขให้เคราะห์กรรมเบาบางลง ภารกิจก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่ทำหน้าที่คล้ายกามเทพ แผลงศรจับคู่ให้หนุ่มสาว ยิ่งจับคู่ให้คนมีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ วาสนาสูงส่ง กรรมดียิ่งเพิ่มพูนหลายเท่าตัว
"เสน่ห์ของข้าล้วนมัดใจทั้งบุรุษและสตรีในใต้หล้า ความจริงใจของข้ารึก็ทำให้ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ
มีเพียงเขา บุรุษสูงศักดิ์ มากบารมีที่ข้าต้องใช้เล่ห์เพทุบายมากมาย เปลืองเนื้อเปลืองตัวบ่อยครั้งก็ยังมิอาจทำให้เขาคล้อยตามได้ แถมยังคิดมิดีมิร้ายกับข้าอีก เพราะเหตุใดกันแน่"
ชินอ๋องหรือจ้าวเฟยหลง อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน
"ตั้งแต่นางเข้ามาในชีวิต ทุกอย่างรอบกายข้าแลดูวุ่นวาย มีแต่เรื่องให้ปวดเศียรเวียนเกล้า มาคราวนี้นางยังคิดจูงจมูกข้า ให้เห็นดีเห็นงามไปกับนาง นางช่างหาญกล้ายิ่ง! เห็นทีข้าจะต้องลงมือเอง มิเช่นนั้น..."
องค์ชายสาม, แม่ทัพใหญ่หรือจ้าวหมิงหลง
หลี่เหวินอี้ พี่ชายของหลี่ม่านเทียน
หลี่ม่านเทียน
สวัสดีค่ะ นิยายเรื่องนี้ไรท์แต่งขึ้นตามการมโน ไม่มีส่วนใดอิงประวัติศาสตร์
หากอ่านแล้วคิดเห็นยังไงช่วยกันติชมหน่อยนะคะ
หนึ่งคอมเม้นต์หนึ่งกำลังใจ
ความคิดเห็น