มันเป็นเรื่องสมัยตอนน้องนู่ใหญ่เรียนมหาวิทยาลัย ที่น้องๆมันกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงสงกรานต์ (มั้ง) ตัวนู่ใหญ่เองก็ไม่ใช่จะกลับมาบ่อยนักหรอก ไม่เหมือนพี่ก้อยที่กลับบ้านแทบทุกอาทิตย์ เวลาเจ๊แกกลับมาที ชาวบ้านก็คอยแต่เอาใจ ซื้อโน่นซื้อนี่มาให้กิน แต่กลับเราซิ “นู๋อยากกินอะไร ก็ไปซื้อซิ อ้อ ซื้อมาเผื่อพี่แกด้วยนะ” มาเลยคำๆนี้ ทั้งป๊าและแม่
พอไปบ้านพี่ก้อยแก ก๊จะเจอยายที่แกรักหลานมากๆ ขนาดหลานมาเมื่อไหร่ แกก็หอบผ้าหอบผ่อนจากสวนเข้ามานอนที่บ้านในเมืองด้วย ยายแกเป็นคนตรงๆ แต่อายุก็ปาไป 90 กว่าแล้ว แกยังแข็งแรงและจำหลานๆได้ (บางครั้งก็หลงนะ)
เช้าวันนั้น เจ๊ก้อยแกอยากกินปาท่องโก๋ (ที่กรุงเทพฯไม่มีหรือยังวะเนี่ยไอ้ปาท่องโก๋น่ะ) แม่ใช้นู๋ออกไปซื้อตั้งแต่ไก่โห่แหนะ เพราะปาท่องโก๋เจ้านี้ ขายดีมาก หมดก่อน 8 โมงเช้าทุกที แม่แกกลัวพี่ก้อยไม่ได้กินเลยสั่งนักสั่งหนา แถม “นู๋ แกอย่าลืมซื้อแกงแสงตุ้งมาเผื่อป้าแกด้วยนะ” ฮั่นแน่ มีเพิ่มอีก ดีนะที่เราเองก็ชอบแกง เลยยอมแวะให้ “ยัยกล้วย แม่ฝากปาโก๋มาให้น่ะ อ้อนั่นแกงขแงป้านะ” เมื่อนู๋ใหญ่มาถึงบ้านรีบบอกทันที
“วันนี้ฝนตกแน่ว่ะ ที่แกตื่นเช้าไปซื้อของมาให้น่ะ” พี่ก้อยย้อนถามแบบกวนๆ
“ก็แม่น่ะซิ ห่วงแกไม่ได้กิน เลยปลุกชั้นตั้งแต่ 6 โมงได้มั้ง” น้องสาวย้อนแกมงอน
“โอ๋ๆ คนดี อย่างอนๆ แต่แกมาช้าจังว่ะ พี่กินข้าวหยำกะปิ (ข้าวคลุกกะปิ) กับยายเรียบร้อยแล้ว” พี่สาวตอบ
“มีเหลือไหม นู๋ก็อยากกินข้าวหยำกะปิบ้าง” น้องนู๋ถามอย่างสนใจ
“ไม่รู้ซิ เดี๋ยวถามแม่ให้ ” พี่ก้อยพูดเสร็จก็หันไปตะโกนถามแม่
“พอดี กะปิมันหมดน่ะ เดี๋ยวถ้าได้กะปิมาให้จพทำให้กินนะ นู๋ ” แม่ตอบ
“เนี่ยใครๆก็ให้พี่ก้อยได้กินแต่ของดีๆ พอถึงคิวนู๋ทีไรเป็นแบบนี้ทุกที ” เอาล่ะ น้องสาวเริ่มเข้าโหมดงอแงขึ้นมาแล้ว ซวยล่ะซิ พี่ก้อยได้แต่คิดในใจ
ทันใดนั้นเอง คุณแม่ผู้แสนดี ก็หันมามองพี่ก้อยแล้วพูดว่า
“ก้อยแกไปบ้านป้าให้ที ป้าแกน่าจะมีกะปิเหลืออยู่นะ ”
“โห แม่ให้นั่งรถไปหาป้าที่สวนน่ะนะ ไกลจะตาย ใเดี๋ยวไอ้ใหญ่มันก็เลิกงอแงเองแหล่ะ ” พี่ก้อยพูดยังไม่ขาดคำ เจ๊แกก็ตาเขียวใส่เลยประมาณว่า แกกล้าขัดชั้นรึ เตี่ยก้เป็นเตี่ยที่ดีมากเลย แกลุกขึ้นไปเตรียมรถมอเตอร์ไซด์ให้เสร็จสรรพ แบบว่าไปดีมาดีเด้อ
นู๋ใหญ่เองก็กระหยิมยิ้มหย่ง เพราะเดี๋ยวแกจะได้กินข้าวคลุกกะปิ
พี่ก้อยออกไปได้ซักประมาณ 2 ชั่วโมงก็กลับเข้ามา ส่งกะปิให้แม่ทำให้
พอยายเห็น ก็บอกว่า แกจะทำให้หลานสุดที่รักนี้กินเอง นู๋ใหญ่เราก็ยิ่งยิ้มหน้าบานใหญ่เลย
เฮ้อ ปล่อยมันซักวันละกัน พี่ก้อยคิดอยู่ในใจ
แม่ส่งข้าวร้อนๆให้ยาย แล้วยายแกก็เอากะปิมาวางลงบนข้าวแล้วก็ใช้มือขยำๆๆ คลุกจนทั่วแล้วก้เอามาเสริฟนู๋ใหญ่
พอแกเห็นเท่านั้นแหล่ะ หน้าแกก็งงเป็นไก่ตาแตก หันมามองที่พี่ก้อยที่กำลังอ่านการ์ตูนอย่างเมามันส์
“พี่ก้อยๆ นี่หรือ ที่พี่ก้อยเรียกว่าข้าวหยำกะปิน่ะ ” นู๋ใหญ่กระซิบไปกินไป
“เออ ทำไมหรือ ” พี่ก้อยตอบ
“ก็ไม่มีอะไรหรอก ” นู่ใหญ่รีบกินแล้วรีบลากลับบ้านทันที ไอ้เราก็เลยงงตามว่าน้องมันเป็นอะไรหรือเปล่า
พอช่วงเย็นพี่ก้อยก็ไปนอนที่บ้านน้องนู๋ใหญ่ พอเข้าไปคุยกับน้างอน (แม่นู๋ใหญ๋) น้าก็หัวเราะลั่นบ้านเลย พร้อมทั้งบอกว่า “ แม่ นู๋งงมากเลยว่าพี่ก้อยมันกินเข้าไปได้ยังงัย ไหนว่ามันเลือกกินนักกินหนางัย” พอพี่ก้อยได้ยินก็หัวเราะตาม “แต่มันก็กนจนหมดนะน้า ” พี่ก้อยตอบ
“ลองไม่กินซิ ป้าแกได้อาละวาดให้ ” น้าตอบแบบสะใจมาก พี่ก้อยคิดในใจว่า สงสัยมันไม่กล้ากินของตามอีกนานเลย
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น