ตอนตุ๊กตาคิดตี้ภาค ๒
คนที่จะอ่านตอนนี้อยากให้อ่านตอนตุ๊กตาคิตตี้ตอนแรกก่อนนะคะ ไม่งั้นอาจจะไม่เข้าใจเรื่องที่มา เรื่องก็คือว่า ในช่วงหยุดยาวช่วงหนึ่งของปี นู่ใหญ่มันนึกยังไงของมันก็ไม่รู้ อยากกลับบ้าน ก็คงไม่พ้นเรื่องของกินหรอกนะคะ เพราะถ้าอยู่บ้านก็จะมีพร้อมทุกอย่างตั้งแต่อาหารคาวและอาหารหวานอย่างเพียบ
ส่วนพี่ก้อยนอนเล่นอยู่หอดีกว่า แบบว่าขี้เกียจนั่งรถทัวร์กลับ เมื่อยหลังด้วย นู๋ใหญ่มันแอบโดดเรียนกลับก่อน ๑ วันเพราะกลัวคนเยอะ แบบเอาเวลาตั้งแต่เช้าตรู่เลย คนก็โอเคนะ ไม่มากดี ตอนแรกก้อยคิดว่าหยุดยาวนี้จะสบายแล้วที่ไหนได้ เหตุเกิดตอนเช้าของอีกวัน
นังกล้วย แกเอาตุ๊กตาคิตตี้ชั้นไปใช่ไหม เสียงน้องผู้คุ้นเคยตอบซะเสียงดังแต่เช้า
เอาไปที่ไหน ก็แกเก็บไว้เองไม่ใช่รึ ทำไมหรือมันหายไปรึ พี่ก้อยถามแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น
ก็มันหายไปทั้งหมดน่ะซิ น้องเริ่มเล่าอย่างสับสน
ทำยังงัยดีล่ะ นู๋ใหญ่เริ่มกระสับกระสาย
หาดีแล้วหรือยัง แกเปลี่ยนที่ซ่อนเองหรือเปล่าแล้วลืมว่าไปวางไว้ไหน พี่ก้อยเริ่มปลอบให้ใจเย็นๆ
ไม่ใช่แน่ เพราะนู๋เก็บมันไว้ที่เดียวอยู่แล้ว เนี่ยแม่ก็ช่วยหาแล้วแต่ไม่เจอ แง ทำยังดี น้องคนสวยเริ่มครวญออกมา
หาอีกรอบละกัน ค่อยๆหามะนไม่หายไปไหนหรอก ก้อยต้องปลอบน้องอย่างจริงจัง พราะรู้สึกว่าน้องเสียงเครือแล้ว
นังกล้วย แกลงมาช่วยหาซะดีๆเลย นู่ใหญ่เข้มแข็งขึ้นมาทันทีเลย ไม่น่าไปปลอบมันเลย
ไม่เอาด้วยหรอก ขี้เกียจนั่งรถ เดี๋ยวแกก็เจอแล้ว พี่ก้อยสวนกลับไป
นู๋ใหญ่ร้องเงี๊ยวง้าวแบบไม่ยอมแต่พี่ก้อยไม่ใจอ่อนเด็ดขาด เพราะแค่เรื่องแค่นี้ถึงกับต้องสละวันหยุดอันแสนมีค่าให้น้องน่ะนะ ไม่มีทางซะล่ะ
หลังจากนั้น ผ่านไปยังไม่ทันเที่ยงเลย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแต่เจ้าของเสียงนั้นไม่ใช่นู๋ใหญ่
ก้อยแกกลับบ้านมาเลย เตี่ยสั่งแบบไม่เกรงใจลูกสาว
อะไรกันนี่เตี่ย จะให้กลับไปหาตุ๊กตาน่ะนะ ก้อยย้อน
ก็หยุดตั้งหลายวัน แกก็กลับมาเยี่ยมบ้านมั่งจะเป็นไร น้องมันหาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แกไม่สงสารน้องมันเลยหรือ เตี่ยเริ่มสวดแล้ว แล้วเตี่ยไม่สงสารลูกที่ต้องเดินทางไกลกลับบ้านเรอะ
ก้อยก็อยากกลับ แต่วันนี้คงคนเยอะแล้ว ตั๋วคงหมด ไว้พรุ่งนี้จะรีบกลับตอนเช้า ก้อยเริ่มต่อรองเผื่อมันหาเจอก่อนพรุ่งนี้ จะได้ไม่ต้องกลับ
แกจะกลับแล้วใช่ไหม ถ้างั้นเดี๋ยวเตี่ยให้ป๊าขึ้นไปรับรออยู่ตรงนั้นแหละ เตี่ยพูดแบบมัดมือชก
ไม่ต้องก็ได้เปลืองตังส์จะตาย มารับถึงกรุงเทพฯแล้วก็ตีกลับบ้านอีก ก้อยเริ่มอ้างสารพัดตามหลักการเศรษฐกิจพอเพียง แต่เตี่ยไม่ฟัง เพราะกลัวลูกสาวไม่กลับบ้าน ป๊าก็พอกันเลย
หลังซัก ๓ ชั่วโมงกว่าๆป๊าก็มาถึง ตีรถกลับบ้านอีกประมาณ ๔ ชั่วโมง เพราะแวะทานข้าวด้วย กว่าจะถึงบ้านก็ปาไปเกือบ ๓ ทุ่ม สรุปว่าวันนั้นก็ไม่ได้หาตุ๊กตาเจ้ากรรมนั่นหรอก ก้อยก็ไปนอนบ้านน้าเช่นเคย เพราะไม่ค่อยได้นอนบ้านอยู่แล้ว
วันนั้น น้องชายนู๋ใหญ่ก็อยู่ลยอยู่กันพร้อมหน้าซะที ไม่มีใครพูดถึงเรื่องตุ๊กตาเลยซะคน เพราะทุกคนมักจะถามว่า ก้อยงานเป็นยังงัยบ้าง กรุงเทพเป็นยังงัยบ้าง แบบว่ากลับบ้านทุกครั้งเจอคำถามพวกนี้เป็นอย่างแรกเลยจนถึงตอนนี้
เช้าวันต่อมา ตอนมานั่งกินปาท่องโก๋ ร้านโปรดที่ให้พี่คนงานเขาวิ่งไปซื้อให้ตอนเช้าตรู่เลยเพราะถ้าเกิน ๗ โมงเช้าแล้ว ร้านปิดเพราะขายหมด
ก้อยก็เริ่มถามน้องนู๋
ไอ้ใหญ่ แกหาไปถึงไหนแล้ววะ เจอหรือยัง
แหม..พี่ก้อย ถ้าเจอนะไม่ให้พี่ก้อยกลับมาช่วยหาหรอก นังหมวยตอบ
มีอะไรกันหรือเจ๊ น้องชายสุดหล่อถาม เพราะไม่รู้เรื่อง
ก็ตุ๊กตาคิตตี้ของพี่น่ะซิ มันหายไปทั้งถุงเลย พี่สาวผู้เสียหายเล่า
ถ้าเจ๊นู๋หมายถึงตุ๊กตาคิตตี้ที่มันใส่ชุดประจำชาติน่ะ อยู่ห้องปุ๊เอง น้องปุ๊พูดออกหน้านิ่งๆ
ก้อยกับนู่ใหญ่มองหน้ากันแล้ววิ่งไปที่ห้องของน้องชายที่อยู่ชั้นบน
ภาพที่เจอก็คือ ตุ๊กตาคิตตี้ประมาณ ๒๐กว่าตัววางเรียงอยู่บนหัวเตียงแถวยังไปวางบนชั้นตรงนั้นตรงโน้นกระจายรอบห้อง
ไอ้ปุ๊ ใครใช้ให้แกเอาออกมาวางแบบนี้ นู๋ใหญ่เริ่มแว๊ดใส่น้องชาย
อ้าวแล้วเจ๊ ไม่เอาออกมาวางโชว์แล้วซื้อมาไว้ทำไม น้องถามเจ๊แบบงงๆ
เอาออกมาแบบนี้ มันเลอะฝุ่นย่ะ น้องคนสวยตอบแบบจริงจังมาก
แล้วเอาออกมาแบบไหน ไม่เลอะฝุ่นวะ พี่ก้อยคิดอยู่ในใจ
แล้วคุณเธอแกก็รีบเก็บเจ้าตุ๊กตาทั้งหลายลงถึงเช่นเดิม คือแกจะต้องใส่ถุงพลาสติกก่อนที่จะลงถุงใหญ่นะ ทำเรื่องยุ่งยากมากเลยน้องชั้น แบบว่าทำง่ายๆไม่เป็
คุณเธอแกก็เก็บไปบ่นไป
น้องปุ๊ มันก็ไม่ว่าอะไร คงเพราะชินละมั้งกับไอ้นิสัยของพี่สาวตัวเอง
แต่พี่ก้อยซิ คิดหนักเรื่องน้องชาย น้องของพี่ก้อยเป็นผู้ชายนะ เห็นตุ๊กตาคิตตี้ว่าน่ารักดี แล้วเอามาเรียงเต็มห้องนี่ซิคิดหนักมากเลย เพราะน้องปุ๊สารภาพเองว่าเป็นคนจัดเอง
ความคิดเห็น