คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter Four ทางลัดเส้นที่สี่
คนที่ไม่เคยคิดจะผูกความสัมพันธ์กับใครอย่างผม....
เขาทำยังไงให้ผมสยบได้แทบเท้าเขา...
คำตอบคือ...
เขาไม่ได้ทำอะไรเลย
“อี้ฟาน พี่ขอไหล่ผายอีกหน่อย นั่นแหละๆ ยืดเข้าไว้ๆ” เสียงดีไซเนอร์คนดังตะโกนบอกคนบนแคทวอล์คที่กำลังเดินอย่างสง่าผ่าเผยด้วยท่วงท่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหลือล้น
วันนี้งานของผมมีเพียงแค่เดินแบบให้คอลเลคชั่นเสื้อผ้า Duos เท่านั้น แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับนักกีฬา ซึ่งดีไซเนอร์คนดังก็เป็นคนที่ผมสนิทสนมและรู้จักกันดี ตั้งแต่ผมเข้าวงการใหม่ๆก็ได้ดีไซเนอร์คนนี้แหละที่ช่วยป้อนงานให้
“พี่อี้ชิง ผมฟิตติ้งเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ซ้อมเดินแล้ว ผมกลับนะ” อี้ฟานเดินเข้ามาหาพี่คนสนิทก่อนจะโค้งปลกๆให้แล้วก็เดินหันหลังเตรียมจะกลับบ้าน
“หยุดเลย!แน่ใจนะว่าฟิตติ้งเสื้อผ้าครบแล้ว อย่ามาโกหก พี่พึ่งทำเสื้อผ้าเสร็จเมื่อเช้า แล้วนายจะเอาเวลาไหนมาฟิตติ้งในเมื่อทุกชุดยังอยู่ในห้องพี่” อี้ชิงเอ่ยรั้งร่างสูงเอาไว้พร้อมทั้งจับโกหกอีกคนไปพร้อมกัน
“โถ่ พี่อ่ะ” อี้ฟานทำเพียงแค่บ่นงุ้งงิ้งแต่ก็ยอมเดินกลับเข้ามาในสตูดิโอโดยดี
“จะรีบไปไหน?” อี้ชิงถามก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆน้องชายที่รู้จักกันมานาน สายตาอ่อนโยนและห่วงใยถูกส่งให้คนตัวสูงเสมอมา
“ผมมีนัดอ่ะ ถ้าเขารอนาน เขาต้องเหวี่ยงผมแน่ๆเลย” อี้ฟานพูดไปก็ยิ้มไปพลางนึกถึงคนตัวเล็กที่วันนี้เขาเป็นคนนัดให้มาทานข้าวด้วยกัน รอยยิ้มสบายใจที่ปรากฏบนใบหน้าหล่อยามพูดถึง ‘เขา’
“รอบนี้นัดใครล่ะ? ดารา นางแบบ หรือไฮโซ เซเลปที่ไหนอีก? เมื่อไรจะหยุดเจ้าชู้แล้วจริงใจกับใครซักคนเสียที” อี้ชิงร่ายคำถามถึงคู่ควงคนใหม่ของน้องชายคนสนิทด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะร้อนรน จงใจเน้นคำว่า ‘จริงใจ’ แล้วลอบมองปฏิกิริยาอีกฝ่าย
“ไม่ใช่ซักอย่างที่ว่ามา J คนนี้คนธรรมดา แต่คนธรรมดาคนนี้กลับทำให้ผมยิ้มได้ทุกครั้ง สบายใจทุกครั้งเวลาได้เห็นหน้าหรือแค่ได้ยินเสียง คนธรรมดาแบบนั้นเขาทำยังไงให้ผมคิดถึงเขาได้ทุกวินาทีแบบนี้นะ” อี้ฟานหันมาเอาคำตอบในประโยคท้ายกับอี้ชิงพร้อมด้วยรอยยิ้มและแววตาหวานเยิ้ม
“งั้นนายก็คงชอบเขามากล่ะสิ” อี้ชิงให้คำตอบกับน้องชาย ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าความรู้สึกที่อี้ฟานกล่าวมามันคืออะไร? เพราะตัวเขาทุกวันนี้มันก็เป็นกับอี้ฟาน
พูดเอง...ก็เจ็บเอง
เขาคิดถึงอี้ฟานทุกวินาที แล้วก็ได้แต่หวังลึกๆในใจว่าอีกคนก็คงจะคิดถึงเขาเช่นกัน แม้ไม่มากเท่าที่เขาคิดถึงก็ไม่เป็นอะไร แต่เพียงซักนิดก็ยังดี
เขาอยากเห็นหน้าอยากได้ยินเสียง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้ป้อนงานให้อี้ฟานบ่อยๆทั้งที่นายแบบคนอื่นที่หล่อๆดังๆก็มีถมไป
เขามักจะเรียกอี้ฟานมาเป็นหุ่นลองเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ๆ ทั้งๆที่เขาจะให้ใครลองใส่มันก็ได้ แต่...เขาเลือกอี้ฟาน
เสื้อผ้าทุกชิ้น...ยามเขาออกแบบ ยามเขาตัด เขาคิดเพียงแค่ว่า...
อี้ฟานใส่แล้วจะพอดีไหม? สีเสื้อผ้าจะเข้ากับสไตล์ของอี้ฟานหรือเปล่า? อี้ฟานจะชอบชุดนี้ไหมนะ?
อาชีพดีไซเนอร์ของเขาที่แทบจะขึ้นตรงกับนายแบบเพียงคนเดียว
.
.
.
อู๋อี้ฟาน
“ฮ่าๆๆๆ คงจะใช่อย่างที่พี่ว่า ผมคง ‘ชอบ’ เขามากจริงๆ ถึงเป็นเอามากขนาดนี้” อี้ฟานหัวเราะร่ากับความรู้สึกของตัวเอง ก่อนจะหยิบมือถือออกมากดส่งข้อความหาแบคฮยอน
[อยู่ไหนแล้วคุณ? ผมขอเวลาครึ่งชั่วโมงนะ ยังเหลือลองเสื้อผ้าอีกนิดหน่อย แล้วจะรีบไปหาคุณทันทีเลย]
อี้ชิงที่นั่งติดกับอี้ฟานชะเง้อคอเข้ามาดูบทสนทนาที่น้องชายคนสนิทกำลังพิมพ์ส่งไปให้อีกฝ่าย ก่อนรายชื่อที่กดส่งจะทำให้ใจดวงน้อยของเขาเจ็บปวดราวกับมีใครเอามีดแหลมๆมาแทงทะลุขั้วหัวใจ
親愛的 (ที่รัก)
แล้วไหนจะเคสมือถือสีเหลืองหวานลายยีราฟกับหัวใจครึ่งดวงนั่นอีก แค่ดูก็รู้แล้วว่านั่นน่ะ มันเคสคู่รัก เดาไม่ยากเลยอีกครึ่งหนึ่งของมันอยู่ที่ใคร? ยิ่งคิดหัวใจก็ยิ่งเจ็บปวดเหมือนถูกมือปริศนาบีบรัด ไม่ว่าจะบีบหรือจะคลาย...สุดท้ายก็ค่าเท่ากัน
เขาไม่รักว่าเจ็บแล้ว...
แต่เห็นว่าเขารักคนอื่นมากขนาดนี้...มันเจ็บเสียยิ่งกว่า
ก่อนน้ำตาจะได้ไหลออกมาให้ใครเห็น อี้ชิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยๆผ่อนออก แล้วหันไปพูดกับอี้ฟานที่ยังคงยิ้มไม่หุบกับข้อความสั้นๆของอีกคนที่ส่งมาว่าจะรอ
ขอแค่เพียงนิดเดียว...ขอเพียงเวลาแค่ซักนิดให้เขาเท่านั้น
แม้จะเป็นเพียงฐานะพี่ชายที่สนิท แต่เขาขอใช้ฐานะนั้นรั้งคนๆนี้เอาไว้ให้นานเท่าที่จะนานได้
“อี้ฟาน ไปฟิตติ้งเสื้อผ้าได้แล้ว” ร่างสูงพยักหน้าแล้วเดินตามคนเป็นพี่เข้าไปในสตูดิโออีกส่วนที่ใช้สำหรับการออกแบบ
ความรัก...เปลี่ยนคนมีน้ำใจ ให้กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว
ความรัก...เปลี่ยนคนใจเย็น ให้กลายเป็นคนใจร้อน
ความรัก...เปลี่ยนคนพอเพียงให้กลายเป็นคนโลภ
แต่คนเราจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าความรักให้อะไรเมื่อผ่านความเสียใจ...บทเรียน
แบคฮยอนนั่งรออี้ฟานอยู่ในส่วนของร้านหนังสือได้ชั่วโมงกว่าแล้ว หลังจากร่างสูงส่งข้อความมาหาว่าจะช้าหน่อยเพราะติดลองเสื้อผ้าอะไรซักอย่าง จนถึงตอนนี้ก็ปาเข้าไปชั่วโมงกว่าแล้วที่นั่งรอ
เขาเป็นคนใจร้อน ต่อให้หาอะไรทำเพื่อเลี่ยงความสนใจจากคนผิดนัดอย่างการอ่านหนังสือ ก็ไม่ช่วยให้ความโมโหลดลงไปเลย หนังสือที่ถืออยู่ในมือ หน้าปกเป็นสีน้ำเงินเข้มเหลือบฟ้าอ่อน
สีที่เป็นตัวแทนของทะเล ท้องฟ้า สีที่เปรียบได้ว่ามันเป็นโทนที่ช่วยให้ใจของมนุษย์เราสงบได้อย่างน่าประหลาด แต่เวลานี้หนังสือ ‘ทำอย่างไรให้ใจสงบ’ มันไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
เนื้อหาในหนังสือกล่าวว่า จะไม่ผิดหวัง หากเราคาดหวังสิ่งนั้นให้น้อยลง
ในตอนนี้จะพูดว่าเขาผิดหวังที่อี้ฟานทำให้เขาต้องรอ ก็ใช่! เขาคาดหวังให้อี้ฟานตรงต่อเวลาเสมอ เพราะแค่เพียงเขาเอ่ยปากว่าให้มาหา ผู้ชายคนนี้ก็พร้อมจะรีบมาทันที คงเพราะมันเป็นเช่นนั้นเสมอมา อี้ฟานในวันนั้นที่เคยตรงต่อเวลา ถูกแทนที่ด้วยอี้ฟานที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อนัดที่ตัวเองเป็นคนเอ่ยปาก
แต่...หนังสือเล่มนี้คงจะตกหล่นข้อมูลอะไรบางอย่างไป
จะให้คนเราเลิกคาดหวังต่อสิ่งที่เฝ้ารอ มันก็เหมือนการวิ่งหาน้ำในทะเลทรายที่แห้งแล้ง รู้ว่าไม่มีแต่ก็ยังหวัง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะการหาข้อโต้แย้งของทฤษฎีในหนังสือกับความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ แบคฮยอนมองหน้าจอ ชื่อที่ปรากฏยังคงเป็นชื่อเดิมที่เขาเคยบันทึกเอาไว้
‘อย่ารับ!!!’ ในวันแรกที่รู้จักกัน เขาตั้งมันเอาไว้เพื่อเตือนว่าหากเบอร์นี้โทรเข้าก็อย่าได้ริอาจรับสาย แต่ในวันนี้ ‘อย่ารับ!!!’ ในความหมายของมัน กลับทำให้เขารีบกดรับด้วยความรวดเร็ว
“.....” แบคฮยอนใช้ความเงียบเป็นคำทักทาย อี้ฟานเงียบไปเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ใช้คำถามในการรับสายเหมือนที่เคย
เขาคิดว่าเมื่อแบคฮยอนรับสายมันต้องมีคำถามมากมาย
‘ไปมุดหัวที่ไหนมา?’
‘ปล่อยให้เขาคนอื่นเขารอนี่มีมารยาทบ้างไหม?’
‘มัวแต่ทำอะไรอยู่?’
ไม่มีคำเหล่านั้นออกมาจากปลายสาย ความเงียบทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราคิด...
แล้วก็ถูก...
“ไม่คิดจะโกรธกันเลยหรอที่ผมปล่อยให้คุณรอ” เมื่อหาเสียงตัวเองเจออี้ฟานก็เอ่ยถามกับคนปลายสายด้วยความไม่แน่ใจ
“ไม่นี่ โกรธทำไม? ก็ไม่ได้รอ”
“งั้นหรอ? ไม่เป็นไร ถึงบ้านแล้วใช่ไหม? กินอะไรแล้วหรือยัง?” แบคฮยอนกำมือข้างที่ถือโทรศัพท์เอาไว้แน่น พยายามข่มอัตราการเต้นของหัวใจที่เหมือนกำลังจะบีบรัดยามได้ยินน้ำเสียงตัดพ้อที่เจือไปด้วยความห่วงใย
“อืม กำลังจะเข้านอนแล้ว ง่วง” แบคฮยอนตอบอีกฝ่ายเพียงแค่สั้นๆแล้วใช้ความเงียบแทนบทสนทนา
ทั้งที่ความจริงแล้วแบคฮยอนยังคงนั่งจ่อมรออีกคนอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่นัดกัน...
“.......” อี้ฟานเองก็เงียบเช่นกัน เลยกลายเป็นว่า ทั้งสองยังคงไม่วางสายแต่กลับปล่อยให้เวลาแต่ละวินาทีเดินผ่านไปด้วยการฟังเสียงถอนหายใจของคนปลายสาย
“ที่ไม่โกรธ...เพราะไม่ ‘สำคัญ’ ใช่ไหม?” อี้ฟานพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะเอ่ยราตรีสวัสดิ์เช่นทุกคืน แล้ววางสายไป แบคฮยอนพยายามโทรกลับไปก็ไม่ติดเพราะอีกฝ่ายปิดเครื่องไปแล้ว
สุดท้ายแบคฮยอนก็แพ้...เมื่อเข้าใจความรู้สึกตัวเองในตอนนี้แล้วว่า...
เขาโกรธ...โกรธมาก...โกรธมากที่ปล่อยให้อี้ฟานเข้ามาสำคัญกับตัวเองขนาดนี้
น้ำเสียงของประโยคคำถามสุดท้ายที่ร่างสูงทิ้งเอาไว้ ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวตลอดทางที่นั่งรถกลับมาที่ห้องพัก
เขาเองก็อยากจะถามอี้ฟานเหมือนกัน...
เขาสำคัญมากเลยหรอ?
ถึงได้...แคร์เขามากขนาดนี้ ห่วงใยได้ขนาดนี้
แบคฮยอนได้แต่เก็บคำถามนั้นเอาไว้ในใจ คนตัวเล็กไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคำถามของตัวเองไม่จำเป็นต้องหาคำตอบด้วยซ้ำ เพราะมันชัดเจนเสมอมา...
อี้ฟานชัดเจนในตัวเอง อี้ฟานชัดเจนในความรู้สึกที่มอบให้อีกคน...
อู๋อี้ฟาน แค่ชัดเจนว่ารักและต้องการแบคฮยอน
อู๋อี้ฟานก็แค่ซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเองเท่านั้น...
[Talk]
ไม่รู้จะทอล์กอะไร
แค่อ่านแล้วเม้นก็พอ :)
#shortcutCB
ความคิดเห็น