คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter Three ทางลัดเส้นที่สาม
วันธรรมดาเช่นทุกวัน...แต่การเริ่มต้นวันนี้มันกลับไม่ธรรมดา!!!
ผมยืนอยู่หน้าตึกสูงระฟ้าที่ผมเคยเดินเข้าไปฝากกระดาษหนึ่งใบพร้อมรูปถ่ายและประวัติส่วนตัวของผม จนวันเวลาผ่านไปเนิ่นนาน จนผมลืมไปเสียสนิทว่าผมเคยยื่นใบสมัครเอาไว้กับที่นี่
บริษัท P.Ent.
ตัวอักษรที่ทำจากวัสดุแวววาวสีทองประจักษ์ตรงหน้า มันวาวจนผมสามารถใช้ส่องความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมได้แทนกระจกเงา ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจ
การที่แบคฮยอนได้รับสายจากเอเจนซี่ของบริษัทว่ามีงานที่ตรงกับคอนเซปของเขา คนตัวเล็กไม่จำเป็นต้องเสียเวลาคิดซักนิดว่าจะตกลงหรือปฏิเสธ เขาไม่มีทางเลือกมากถึงขั้นปฏิเสธบริษัทที่คร่ำหวอดในวงการบันเทิงมายาวนานอย่างพี.เอนเตอร์เทนเมนท์
ร่างบางเดินตรงเข้าไปบริเวณประชาสัมพันธ์ที่เป็นศูนย์กลางของชั้นหนึ่ง แล้วแจ้งชื่อตนเองแก่พนักงาน ก่อนพนักงานประชาสัมพันธ์จะยกหูโทรศัพท์ขึ้นคุยเพียงไม่กี่ประโยคแล้วหันมาบอกให้เขานั่งรอบริเวณล็อบบี้ของบริษัท
แบคฮยอนเดินตรงไปนั่งริมในสุดเพราะวิวจากภายนอกที่ดูสวยงามน่าจะช่วยบรรเทาอาการตื่นเต้นที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ได้ดี บริเวณทั้งหมดของล็อบบี้ถูกล้อมกรอบด้วยกระจกทั้งหมด ทำให้เห็นภายนอกซึ่งเป็นวิวอีกฝั่งของบริษัท วิวที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีที่บัดนี้กำลังผลัดใบ
สวนสวยที่คาดว่าน่าจะได้รับการออกแบบจากนักจัดสวนที่มีชื่อเสียง นอกจากต้นไม้สีเขียวธรรมชาติแล้ว ยังมีสวนดอกไม้สีสวยที่ทนต่อทุกฤดูกาลปลูกเอาไว้รอบๆ ม้านั่งสองสามตัวกระจายอยู่เป็นจุดๆ อากาศวันนี้มีแสงแดดอ่อนสาดลงมายังพื้นดิน ยิ่งทำให้สวนแห่งนี้ยิ่งดูก็ยิ่งสบายตา
แบคฮยอนนั่งมองสวนนั้นอย่างสบายใจจนลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองกำลังจะเข้าพบเอเจนซี่ของบริษัทเพื่อฟังข้อเสนอของงานที่เขาได้รับมอบหมาย และไม่ทันสังเกตสายตาปริศนาที่ถูกส่งมาจากอีกมุมของล็อบบี้
แบคฮยอนมองนาฬิกาข้อมือสลับกับนาฬิกาดิจิทัลที่ติดอยู่ในส่วนล็อบบี้แล้วก็ถอนหายใจ นี่เขานั่งรอมา 20 นาทีได้แล้ว แต่ก็ไม่มีวี่แววของตัวแทนที่นัดเขามา ร่างบางเริ่มสอดส่ายสายตามองไปรอบตัว สังเกตผู้คนมากมายที่เดินเข้าออกบริษัท มีทั้งพนักงานทั่วไปของบริษัท รวมไปถึงบรรดาคนดังที่อยู่ในสังกัดบริษัทนี้
“โห นั่นใช่ อีมินจองป้ะวะ? ยิ้มน่ารักขนาดนี้ได้ยังไงอ่ะ” แบคฮยอนตาลุกวาวทันทีที่เห็นว่าใครกำลังย่างกรายเข้ามาในบริเวณล็อบบี้พร้อมด้วยถ้วยกาแฟยี่ห้อดังในมือ
ดาราสาวสวยที่กำลังคุยโทรศัพท์หันมายิ้มน้อยๆให้แบคฮยอนเมื่อเธอเห็นว่าอีกฝ่ายจ้องเธอด้วยสายตาตื่นเต้น แบคฮยอนแทบเป็นลมไปกับรอยยิ้มนั้นทันที ก็เพราะเขาชอบดาราสาวคนนี้น่ะสิ J อีมินจองคนนี้ แบคฮยอนไม่เคยพลาดละครซักเรื่องที่เธอเล่น รอยยิ้มของเธอทำให้เด็กหนุ่มอย่างแบคฮยอนเพ้อไปนานนับจากวันที่เขาได้เห็นเธอในโทรทัศน์
“อ่า ตอนนี้ล็อบบี้น่านั่งขึ้นเยอะเลยเว้ย” แบคฮยอนคิดแล้วก็มีความสุขกับตัวเองเงียบๆคอยแอบลอบมองใบหน้าของดาราสาวเป็นระยะๆเพื่อให้หัวใจกระชุ่มกระชวย คิดแล้วก็เสียดายโทรศัพท์มือถือของเขามันเก่ามาก เรื่องกล้องถ่ายรูปไม่ต้องไปพูดถึงเลย
คิดแล้วก็ยิ่งเสียดาย ถ้าตอนนี้เขาได้แอบถ่ายรูปดาราสาวเก็บไว้ดูเองมันจะดีแค่ไหนนะ คิดแล้วก็ประเมินในใจว่าควรจะซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ดีไหม? เงินในบัญชีมีมากพอที่จะซื้อมือถือใหม่ซักเครื่อง อีกอย่างเครื่องมันก็เก่ามาก เขาเองยื่นใบสมัครเอาไว้หลายที่ แถมยังมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
หลายเหตุผลรองรับทำให้แบคฮยอนตัดสินใจว่าเสร็จจากการคุยงานกับตัวแทนในวันนี้แล้วเขาจะตรงไปที่ห้างสรรพสินค้า ซื้อมือถือดีๆเอาไว้ใช้ซักเครื่องคงไม่มีปัญหาอะไร
ร่างบางมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองอีกครั้งแล้วก็ถอนหายใจ ร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วที่เขานั่งรอ แต่เขาเองก็ไม่มีทางเลือก หากเขาไม่รอคิดหรือว่าบริษัทยักษ์ใหญ่จะง้อคนอย่างแบคฮยอน คนที่ไม่มีแม้แต่ประสบการณ์ในงานสายบันเทิงเสียด้วยซ้ำ
คิดได้ดังนั้นก็นั่งรอต่อไปเรื่อยๆอย่างใจเย็น ดาราสาวคนสวยลุกเดินออกจากล็อบบี้ไปได้ซักพักแบคฮยอนจึงเบนสายตากลับมาหาวิวจากสวนสวยอีกครั้งหนึ่ง เพราะความสวยงามของวิวต้นไม้ทำให้แบคฮยอนเริ่มไหลลงกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟารับแขกตัวนิ่ม
หากแต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน แบคฮยอนมองหน้าจอโทรศัพท์อยู่พักหนึ่ง ชื่อที่เขาบันทึกเอาไว้ให้อีกคนอย่างพิเศษ ปรากฏขึ้นวาบๆตามแสงไฟที่กระพริบ
‘อย่ารับ!!!’
“มีอะไร?” แบคฮยอนรับสายด้วยคำถามแทนที่จะใช้การทักทายแบบสากลโลก
“เดี๋ยวนี้เขารับสายกันด้วยคำว่า ‘มีอะไร?’ แทน ‘สวัสดี’ แล้วหรอคุณ” อีกฝ่ายก็ต้องการหยอกล้อในทีถึงได้กวนประสาทกลับมาทันควัน แล้วก็ได้ผลเมื่ออีกคนยุขึ้น
“นี่ รีบๆพูดธุระของนายมา แล้วจะไปตายที่ไหนก็ไป!” ร่างบางไม่ได้กำลังโมโหจริงจังอย่างที่แสร้งทำน้ำเสียงออกไป แค่ไม่อยากให้อีกฝ่ายได้ใจไปมากกว่านี้
“โอเคๆ ผมยอมแพ้คุณแล้ว ผมจะถามว่าอยู่ที่ไหน? ผมอยู่หน้าห้องคุณแต่คุณไม่อยู่”
“ฉันอยู่ข้างนอก ออกมาทำธุระ นายมีอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไรหรอก ผมก็แค่...คิดถึงน่ะ” แบคฮยอนใจกระตุกวูบทันทีที่ได้ยินคำว่าคิดถึงจากอีกคน
คำสั้นๆที่มีอำนาจทำลายล้างหัวใจของคนที่ไม่เคยสัมผัสความรักจริงๆ...
“นี่!ยังอยู่ในสายหรือเปล่า? แบคฮยอนๆ” อี้ฟานเอ่ยเรียกอีกคนเบาๆเมื่อเห็นว่าไม่ได้รับการตอบรับก็ยิ่งเรียกซ้ำๆ
“อืม ฟังอยู่” แบคฮยอนเองก็หมดคำพูดจะต่อล้อต่อเถียงทันที เมื่ออีกฝ่ายหลุดมาว่าคิดถึงเขา
“แล้วธุระของคุณจะเสร็จเมื่อไรอ่ะ? ผมจะรอกินข้าวเย็นด้วย” แบคฮยอนวูบไปกับประโยคท้ายสุด
เขาเคยแต่กินข้าวคนเดียว หรือไม่ก็นั่งกินข้าวกับพ่อแม่เงียบๆ...
เขาไม่เคยรอใครกินข้าว เพราะเขาคิดเสมอว่า ท้องใครก็ท้องมัน จะไปอดทนหิวทรมานตัวเองเพื่อใครอีกคนทำไม!!!
แต่เวลานี้...กลับมีใครอีกคนอยากรอให้เขากลับไปกินข้าวด้วยกัน
“อืม คงอีกซักสองสามชั่วโมงน่ะ นี่มันก็สี่โมงแล้ว นายไม่ต้องรอหรอก กลับไปเถอะ” แม้แบคฮยอนจะแอบรู้สึกดีที่อีกคนห่วงใย แต่เขาก็เลือกที่จะปฏิเสธความห่วงใยทั้งหมดนั้นให้ออกห่างจากตัว
เพราะเขารู้สึกผิด...
ผิดที่ให้อี้ฟานเป็นเพียง ‘ทางลัด’
“ไม่เอาหรอก ผมรอคุณอยู่ที่ร้านกาแฟหน้าหอพักคุณก็แล้วกัน มาถึงเมื่อไรก็เข้ามานะ ผมจะรอ” อี้ฟานไม่ปล่อยให้อีกคนปฏิเสธ เมื่อเอ่ยความต้องการจบเขาก็กดตัดสายทิ้งทันที
แบคฮยอนจึงไม่ทันได้เอ่ยรั้งอีกคนเอาไว้...
แบคฮยอนกลับมาให้ความสนใจกับคนรอบๆตัวอีกครั้ง คราวนี้แบคฮยอนมองไปรอบๆเพื่อมองหาคนที่คิดว่าอาจจะเป็นตัวแทนที่นัดเขามา ในเมื่อเขานั่งรอที่ล็อบบี้นี้มาชั่วโมงนึงได้แล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แวว ร่างบางจึงตัดสินใจเดินกลับไปรบกวนงานของสองสาวประชาสัมพันธ์อีกครั้ง
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคุณจองจุนยองที่นัดผมเมื่อตอนสามโมงยังไม่มาหรอครับ?”แบคฮยอนถามพนักงานหนึ่งในสองคนอย่างสุภาพ
“รอซักครู่นะคะ” พนักงานสาวยกหูโทรศัพท์ที่เขาคาดว่าน่าจะต่อสายตรงถามหาบุคคลที่นัดเขามา ไม่นานสาวเจ้าก็วางสายแล้วหันมายิ้มให้กับเขา
“คุณจุนยองพึ่งคุยงานเสร็จเมื่อครู่นี้เองค่ะ เขากำลังจะลงมาแล้วก็ฝากขอโทษคุณด้วยที่ทำให้ต้องรอนาน” แบคฮยอนยิ้มแล้วกล่าวคำขอบคุณแก่พนักงานสาวที่ทำหน้าที่ได้อย่างดี
แล้วเดินกลับมายังบริเวณล็อบบี้แต่คราวนี้แบคฮยอนเลือกที่นั่งในบริเวณกลางๆเพื่อให้อีกฝ่ายมองหาเขาได้ไม่ยากจนเกินไป เมื่อกำลังจะได้พบตัวแทนแบคฮยอนก็เริ่มกลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง ในท้องมันมวนเหมือนมีอะไรปั่นป่วนอยู่ข้างใน เริ่มรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาแต่ก็ต้องอดทนเอาไว้
“สวัสดีครับ คุณบยอนแบคฮยอนใช่ไหมครับ?” เสียงทุ้มเอ่ยทักทายคนที่เขานัดมาก่อนจะได้รับรอยยิ้มของอีกฝ่ายเขาจึงนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามทันที
“สวัสดีครับ ผมบยอนแบคฮยอนครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” คนตัวเล็กเอ่ยอย่างนอบน้อมก่อนจะลุกขึ้นยืนแนะนำตัวเองด้วยน้ำเสียงหนักแน่นตบท้ายด้วยการโค้งงามๆอีกหนึ่งรอบ
“สวัสดีครับ นั่งก่อนแล้วเรามาคุยเรื่องงานกันนะครับ” คุณจุนยองหัวเราะน้อยๆที่เห็นท่าทางกระตือรือร้นของอีกฝ่าย อดชื่นชมแววตามุ่งมั่นคู่นั้นไม่ได้
“ขอโทษที่ปล่อยให้รอเสียนานนะครับ นี่เป็นแบบงานคร่าวๆที่ผมสามารถนำมาให้คุณศึกษาได้ งานนี้เป็นแค่งานถ่ายภาพนิ่งให้กับนิตยสารแฟชั่นธรรมดาครับ ภาพของคุณจะอยู่ท้ายเล่ม” แบคฮยอนรับแบบงานมาศึกษาเงียบๆ
สายตาเรียวไล่อ่านทุกบรรทัดอย่างชัดเจน งานนี้เป็นแค่งานถ่ายแบบภาพนิ่งทั่วๆไป คอลเลคชั่นของเสื้อผ้าก็เป็นเพียงเสื้อผ้าที่ใส่แล้วดูสบาย แบรนด์เสื้อผ้าไม่ได้หรูหราหรือน่าจับตามอง
แต่โอกาสแบบนี้สำหรับแบคฮยอนนั้นถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ในการโลดเล่นอยู่ในวงการบันเทิงอย่างที่เขาใฝ่ฝันมาตลอด
“งานนี้หากคุณทำได้ดี ทางบริษัทจะรับพิจารณาแล้วป้อนงานให้คุณเรื่อยๆครับ หากคุณมีพัฒนาการที่ก้าวหน้าขึ้น ผมหวังว่าเราจะได้เซ็นสัญญารับคุณเข้าเป็นเด็กในสังกัด” คุณจุนยองพูดเปรยขึ้นมาเพียงเท่านั้น ก็ทำเอาร่างบางที่นั่งอยู่อีกฝั่งดีใจจนเนื้อเต้นทันที
“เข้าใจแล้วครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด ขอบคุณที่ให้โอกาสผมนะครับ” แบคฮยอนฉีกยิ้มกว้างให้คุณจุนยองก่อนจะจับมืออีกฝ่ายเขย่าแรงๆด้วยความรู้สึกขอบคุณ
“ให้คิดเสียว่านี่เป็นการเริ่มต้นที่ดี งานนี้เป็นเพียงการทดลองงานของคุณ ผมเอาใจช่วยนะครับคุณแบคฮยอน” คุณจุนยองเอ่ยทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้นก่อนเจ้าตัวจะขอไปทำงานของตัวเองต่อ
สายตาปริศนาคู่เดิมยังคงจ้องมองไปข้างหน้า จุดโฟกัสเดิมที่เขานั่งมองมาร่วมสองชั่วโมง!!!
“คุณหนูครับ ผมจัดการเรื่องที่สั่งให้เรียบร้อยแล้วนะครับ” พนักงานในความดูแลเดินเข้ามาโค้งทำความเคารพคนที่อายุน้อยกว่าแต่มีศักดิ์เป็นเจ้านาย
‘คุณหนู’ คนดังกล่าวพยักหน้าเพียงเล็กน้อย แต่ยังไม่ละสายตาจากคนตัวเล็กที่ยังคงนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กอดกระดาษแบบงานเอาไว้แนบอก
“ฉันไม่ให้ของฟรีง่ายๆหรอก มันต้องมีอะไรและเปลี่ยนมันถึงจะสมเหตุสมผล ฮึ!” เสียงทุ้มเอ่ยกับตัวเองพร้อมทั้งมองตามหลังอีกคนที่กำลังเดินออกจากบริษัท
แบคฮยอนที่เมื่อคุยงานเสร็จแล้วก็ตัดสินใจโทรหาใครบางคนที่ซึ่งกำลังรอเขาอยู่ เพราะเขาเองตั้งใจจะแวะไปซื้อโทรศัพท์มือถือที่ห้างสรรพสินค้า แล้วคงจะหาข้าวเย็นทานแถวนั้น
“นี่นาย!ยังรออยู่ไหม?” เช่นเคยที่พออีกฝ่ายกดรับสายแบคฮยอนก็กรอกคำถามไปตามสายแทนการทักทายทั่วไป
“ยังรออยู่แหละ ซัดกาแฟไปสองแก้ว กับเค้กอีกสามชิ้น คุณอยู่ไหนเนี่ย?”
“ผมอยู่บนรถประจำทางน่ะ คุณมาที่ห้าง XX ได้ไหม? ผมจะแวะซื้อของหน่อย แต่คุณจะกลับไปเลยก็ได้ ไม่ต้องรอหรอกเพราะผมคงหาข้าวกินแถวนี้”
“ห้างใช่ไหม? รออยู่หน้าห้างนั่นแหละ ผมกำลังจะไป รอนะ อย่าไปไหนนะ” คนปลายสายออกคำสั่งเสียงเข้ม แบคฮยอนจึงทำได้แค่ตอบตกลงแล้วอี้ฟานก็วางสายไป
รอไม่ถึงสิบห้านทีรถสปอร์ตสีดำก็เลี้ยวโฉบเข้ามาด้วยความรวดเร็ว จนคนที่เดินสวนไปมาบริเวณหน้าห้างต้องรีบกระโดดขึ้นไปยืนบนทางเท้าเพราะกลัวจะโดนรถคันงามเสยร่างเอา
แล้วอู๋อี้ฟานก็เดินอย่างสง่าผ่าเผยลงมาจากรถยนต์คันสวย เรียกสายตาจากสาวๆหลายคนให้ต้องมองเหลียวหลัง แม้ผู้หญิงพวกนั้นจะกำลังเดินจูงมือกับแฟนของพวกเธออยู่ก็ตาม
“รอนานไหม?” อี้ฟานถามทันทีที่เห็นแบคฮยอนนั่งรอตนอยู่หน้าห้างสรรพสินค้า
“ไม่อ่ะ ฉันสิต้องถามนายว่าที่นั่งรอฉันที่หน้าบ้านกับร้านกาแฟน่ะ นานไหม?” แล้วคำถามเจือความห่วงใยในประโยคก็ทำให้อี้ฟานรู้สึกดีขึ้นมา
“ไม่นานหรอก ว่าแต่คุณมาซื้ออะไร?”
“มือถือน่ะ มันดูเก่าจริงๆอย่างที่นายว่า ฉันเลยว่าจะซื้อเครื่องใหม่ ฉันคิดแล้วว่ามันจำเป็น” แบคฮยอนเดินนำหน้าร่างสูงเข้าไปในห้างสรรพสินค้า
สายตาก็มองไปรอบๆเพื่อหาโซนอิเล็กทรอนิกส์ อี้ฟานเห็นแบคฮยอนหยุดยืนนิ่งแล้วมองไปรอบๆตัวเหมือนไม่รู้จะเริ่มจากจุดไหน คนตัวสูงกว่าก็ยิ้มน้อยๆแล้วดึงข้อมือบางไปทางขวามือ
“เอารุ่นเดียวกันกับผมละกัน เดี๋ยวสอนใช้เอง” อี้ฟานลากแบคฮยอนมาหยุดยืนหน้าตู้กระจกที่ภายในติดไฟสว่างสวยงามเพื่อประดับโทรศัพท์มือถือสีขาวสวยที่อยู่ภายใน
“อืม ราคาประมาณนี้ก็ได้อยู่ ฉันคงใช้มันไปอีกนาน” แบคฮยอนมองราคาแล้วก็พยักหน้า ราคาเท่านี้หากเขาใช้มันไปได้นานๆก็ถือว่าคุ้มค่า ร่างบางเรียกพนักงานเพื่อขอดูตัวเครื่อง
“เอาเครื่องนี้ครับ รบกวนเปลี่ยนเป็นเบอร์นี้ให้ทีนะครับ” แบคฮยอนคิดไม่นานก็ตัดสินใจซื้อมือถือรุ่นเดียวกันกับที่อี้ฟานบอก
ของแบคฮยอนสีขาว...
ของอี้ฟานสีดำ...
พนักงานแจ้งราคาที่ต้องชำระให้แบคฮยอนรับทราบก่อนจะเดินหยิบอุปกรณ์มากมายออกมาวางเพื่อสาธิตการใช้งานตามหน้าที่
“นี่คุณอยู่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวผมไปจัดการเรื่องจ่ายเงินให้” อี้ฟานบอกกับคนตัวเล็กข้างกาย แต่แบคฮยอนกลับส่ายหน้า
“ไม่ต้อง เครื่องนี้ผมใช้เอง ผมก็จะจ่ายเอง”
“เปล่า ผมจะบอกว่าให้คุณอยู่ดูพนักงานสาธิตการใช้งานซะ แล้วเอาบัตรของคุณมาผมจะไปชำระเงินให้ ใครเขาจะจ่ายให้คุณ”
อี้ฟานดึงการ์ดออกจากมือเล็กแล้วสะบัดหน้าเดินไปอีกทาง เสียงของพนักงานเรียกให้แบคฮยอนหันกลับไปสนใจการสาธิตใช้งานมือถือ
“นี่ครับ” อี้ฟานยื่นการ์ดสีดำที่หยิบออกมาจากกระเป๋าเงินตัวเองส่งให้พนักงานเพื่อชำระเงิน พร้อมทั้งส่งมือถือของตัวเองให้กับพนักงานแล้วบอกให้เปลี่ยนเอาเครื่องสีขาวมาแทนเครื่องสีดำเครื่องเดิม
สุดท้าย...อี้ฟานก็จ่ายเงินทั้งส่วนมือถือของตัวเองกับแบคฮยอน
ก่อนร่างสูงจะเดินกลับเข้ามาสมทบฟังพนักงานอธิบายถึงการใช้งานคร่าวๆข้างแบคฮยอน คนตัวเล็กดูสนใจมากเป็นพิเศษ คริสเองที่ใช้มือถือรุ่นนี้อยู่แล้วจึงไม่ได้สนใจฟังมากนัก เดินรอบๆร้านก็เห็นเคสโทรศัพท์มากมายวางเรียงรายกันอย่างสวยงาม
ก่อนเคสคู่ลายยีราฟจะดึงความสนใจของเขาไป เคสสีเหลืองพาสเทลพิมพ์ลายยีราฟน่ารัก เมื่อเอาเคสทั้งสองอันมาวางคู่กันมันก็เหมือนกับว่ายีราฟทั้งสองตัวได้จูบกัน บนหัวของยีราฟเป็นรูปหัวใจที่เมื่อเคสวางติดกันจากหัวใจครึ่งดวงก็กลายเป็นหัวใจเต็มดวงสมบูรณ์
เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสนใจของพวกนี้ จนมาวันนี้ เขากวักมือเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ใกล้ๆให้เข้ามาหยิบเคสทั้งสองอันออกมาชำระเงิน อี้ฟานยิ้มมีความสุขกับตัวเองที่เวลานี้เขามีทั้งมือถือคู่ แล้วไหนจะเคสคู่ที่ดูน่ารักนี่อีก
“เสร็จแล้ว ไป หิวข้าวมาก” แบคฮยอนเดินถือถุงโทรศัพท์เข้ามาหาร่างสูงก่อนจะเห็นว่าอีกคนก็ถือถุงยี่ห้อเดียวกันในมือ
“ซื้ออะไรอ่ะ?” แบคฮยอนเอ่ยถามสายตาก็พยายามมองเข้าไปในถุงเหมือนเด็กอยากรู้อยากเห็น
อี้ฟานคว้ามือถือสีขาวจากมือแบคฮยอนมาวางคู่กับตัวเอง แล้วเอาเคสที่พึ่งซื้อมาใส่มือถือทั้งสองเครื่อง ก่อนจะวางคว่ำลงแล้วหันหน้าให้เคสทั้งสองชนกัน ปรากฏเป็นยีราฟสองตัวกำลังจูบกับ พร้อมหัวใจเต็มดวงสีแดงเหนือหัวยีราฟ
“อ่ะ เรียบร้อย” อี้ฟานส่งมือถือคืนให้แบคฮยอนที่ยืนนิ่งแต่หน้าแดงอยู่ใกล้ๆ
“ขอบคุณ” แบคฮยอนเอ่ยแค่นั้นก่อนจะรีบเดินหนีเพราะแก้มทั้งสองข้างกำลังแดงระเรื่อ แล้วริมฝีปากสวยก็กำลังยกยิ้มกับเคสมือถือที่ตัวเองพึ่งจะได้มา
ยีราฟตัวนี้กำลังทำให้เขา...ใจเต้น
[Talk]
อะโลฮ่าค่ะ คิคิ หายไปนาน แต่กลับมาอัพให้หลายๆตอนเลย
บอกแล้วว่าเรื่องนี้มันลื่น
แต่ยิ่งลื่นก็ยิ่งเสี่ยงล้มก้นกระแทก บาย...
#shortcutCB
ความคิดเห็น