ก็ดีเหมือนกันนะ - ก็ดีเหมือนกันนะ นิยาย ก็ดีเหมือนกันนะ : Dek-D.com - Writer

    ก็ดีเหมือนกันนะ

    ผู้เข้าชมรวม

    125

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    125

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 ก.ค. 51 / 20:15 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นจากการโทรของเธอปลุกผมตอน 6 โมงเหมือนทุกๆวัน ยังไม่อยากตื่นนักหรอก แต่สุดท้ายก็ต้องข่มใจลุกขึ้นไปอาบน้ำ จะกว่าทำอะไรเสร็จจนออก
      จากบ้านก็ 7 โมงกว่าเข้าไปแล้ว เธอยังรอผมอยู่หน้าบ้าน เหมือนเคยๆ ที่เป็นอยู่ทุกวัน กี่ปีแล้วสินะที่เป็นแบบนี้มาตลอด ตั้งแต่ประถม มัธยม จนถึงมหาวิทยาลัย ผมก็
      เรียนที่เดียวกับเธอมาตลอด เรา 2 คนบ้านอยู่ใกล้กัน เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก อาจเป็นเพราะแถวๆนี้ไม่มีเด็กวัยใกล้เคียงกันอยู่เลย ทำให้เราสนิทกันมากนานแล้ว ฟังดู
      แล้วก็เหมือนกับการ์ตูนสินะ ที่มีพลอตเรื่องแบบเชยๆว่าพระเอกกับนางเอกสุดสวยเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก สุดท้ายก็รักกัน แต่นี่มันไม่ใช่การ์ตูน เธอคนที่มารอผมอยู่ทุกวัน
      ก็ไม่ได้ดูสวยหรือมีเสน่ห์อะไรเลย ตรงกันข้ามที่นอกจากจะไม่มีอะไรดึงดูดแล้ว กลับน่าเบื่อน่ารำคาญซะด้วยซ้ำ

      เธอ วิ่งเหยาะๆแซงหน้าผมไป พร้อมกับเรียกให้ผมเดินตามเธอไปเร็วๆ แต่ผมก็ยังใช้ความเร็วในการเดินเท่าเดิม ถึงไปมหาลัยเร็วขึ้นก็ไม่ทำให้อาจารย์มาสอนเร็วขึ้นหรอกน่า ผมคิดในใจ แต่สุดท้ายเธอก็ทั้งฉุดทั้งลากผมให้ตามเธอไปจนได้ ก็เหมือนกับทุกๆวันนั่นแหละ ผมก็ทำได้แค่เดินตามเธอไปอย่างเสียไม่ได้ก็เท่านั้น

      ผมเป็นคนที่ขาด เพลงไม่ได้นะ เพราะอย่างนั้นผมจึงชอบเสียบหูฟังอยู่ตลอดเวลา แต่ก็เป็นเธออีกนั่นแหละที่ชอบดึงหูฟังของผมออก พร้อมกับให้เหตุผลว่า มาคุยกับเธอดีกว่า บ่อยครั้งมากที่เป็นแบบนี้ จนบางครั้ง ไม่สิ ทุกครั้งเลยดีกว่าที่ผมไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการนิ่งเงียบและเก็บอารมณ์ที่ขุ่นเคืองไว้ภายใน แต่บางครั้งสาเหตุนีก็ทำให้เราทะเลาะกันบ้าง แต่สุดท้ายผมก็ต้องเป็นคนง้อเธออีกนั่นแหละ ก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ยังไงก็อยากรักษามิตรภาพเอาไว้ แต่ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมเธอถึงชอบวุ่นวายกับชีวิตผมนักนะ

      ช่วงบ่าย ผมยกนาฬิกาขึ้นมาดู เลยเวลาเข้าเรียนภาคบ่ายมาพักนึงแล้ว ตัดสินใจโดดเรียนดีกว่า คงมีเพื่อนผมอยู่แถวร้านเกมหลังมหาลัยบ้าง ตามไปสมทบพวกมันท่าจะดีเเต่ไม่ทันก้าวออกจากมหาลัย ผมก็ได้ยินเสียงอันดังแต่คุ้นเคย เรียกชื่อผมอยู่ด้านหลัง ไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นใคร ผมหันไปหลังกลับไป พบเธอในสภาพเหงื่อท่วมตัว พูดพลางหอบให้ผมเข้าเรียน ผมปฎิเสธ ยังไงผมก็อยากไปเล่นเกมมากกว่าอยู่ดี เพื่อนผมก็อยู่ที่ร้าน ถึงเข้าเรียนไปตอนนี้ผมก็ไม่มีสมาธิเรียนเท่าไหร่หรอก แต่เธอไม่ยอมพร้อมกับบอกว่ายังไงผมก็ต้องตามเธอกลับไปเรียนให้ได้ ความจริงเราก็ทะเลาะกันเรื่องนี้หลายครั้งเหมือนกันนะ แนวคิดของเราในเรื่องนี้ไม่ตรงกันซักเท่าไหร่ ผมคิดว่าประสบการณ์ชีวิตกีบเวลาที่ใช้ไปกับเพื่อน สำคัญกว่าเนื้อหาในตำราเรียนเป็นไหนๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องมาวุ่นวายให้ผมเข้าเรียนอยู่เสมอๆ แต่ครั้งอื่นๆสุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายยอมเดินตามเธอกลับไป แต่ครั้งนี้ผมไม่ เมื่อเธอวุ่นวายกับผมไม่หยุดจนถึงจุดหนึ่ง ความอดทนของผมก็หมดลง ผมต่อว่าเธอกลับไปบ้าง ทำไมเธอต้องมาวุ่นวายกับผม จะมายุ่งมาสนใจกับชีวิตผมทำไม ผมจะใช้ชัวิตยังไงมันก็สิทธิของผม เราไม่ได้เป็นอะไรกัน อย่ามายุ่งมาตอแยอีกได้ไหม ปกติที่เราทะเลาะกันเรื่องนี้ หลายๆครั้งผมก็พูดกับเธอประมาณนี้ แต่น้ำเสียงและความหมายไม่รุนแรงเท่า ซึ่งเธอก็จะสวนกลับมาด้วยไม่หมัดก็ฝ่ามือที่ประเคนมาลงบนตัวผม ซึ่งเหมือนเราจะรู้กันดีว่าถ้าเธอลงมือแล้วก็คือจบ ผมต้องตามเธอกลับไปแต่โดยดี แต่ครั้งนี้ไม่ เธอไม่ได้ต่อยหรือตีผมเลยหลังจากที่ผมว่าเธอไป ผมมองไปที่หน้าเธอ หน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมกับมีน้ำตาใสๆเอ่อขึ้นมา เธอหันหลังกลับแล้วเดินออกไปจากผมโดนที่ไม่ได้พูดอะไรซักคำ

      วันต่อมา ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้น หันไปมองนาฬิกาที่แขวนไว้ที่ผนังห้อง เก้าโมงกว่าแล้ว ใช่ ผมสายแล้ว กว่าจะถึงมหาลัยก็เกือบๆ 11 โมง วิชาภาคเช้าก็เข้าเรียนไม่ทันแล้ว ผมเลยตรงเข้าร้านเกม เข้าไปสมทบกับเพื่อนๆผมที่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่ในแต่ร้านอยู่แล้ว เวลาผ่านไปถึงบ่าย ถึงเวลาเข้าเรียนภาคบ่ายแล้ว ผมหยุดคิดเล็กน้อยแล้วนั่งอยู่ที่เดิม ไม่มีคนมาตามผมไปเรียนแล้วนี่ ผมอยู่เล่นต่อดีกว่า สนุกกว่ากันตั้งเยอะ



      วันที่สอง ตื่นสิบโมง ใช้ชีวิตทั้งวันในร้านเกม มันเป็นอะไรที่สบายใจจริงๆ



      วันที่สาม ตื่นเก้าโมงสี่สิบห้า ใช้ชีวิตทั้งวันในร้านเกม ก็ดีกว่าทั้งอ่านตำราเรียนนะ



      วันที่สี่ ตื่นสิบโมงครึ่ง ชีวิตทั้งวันในร้านเกม ก็ดีกว่าอยู่ว่างๆน่า



      วันที่ห้า ตื่นสิบโมง เหมือนบางอย่างในชีวิตผมหายไป



      ระหว่าง ผมออกร้านเกม เตรียมตัวกลับบ้าน ผมได้เจอเพื่อนของเธอ ซึ่งได้ถามผมว่าเธอไม่สบายหรือเปล่า ผมตอบไปว่าผมไม่รู้ พร้อมทั้งถามเหตุผลที่เพื่อนของเธอถามคำถามนี้ จนผมได้รู้ว่าหลังจากวันนั้น เธอไม่ได้ไปเรียนเลย กลับถึงบ้าน ผมตั้งคำถามให้กับตัวเอง สี่วันที่ผ่านมาผมมีความสุขแล้วเหรอ ไม่ต้องคิดนานผมก็ได้คำตอบ ผมหยิบโทรศัพท์พร้อมกับกดเบอร์ของเธอ




      เสียง โทรศัพท์ที่ดังขึ้นจากการโทรของเธอปลุกผมตอน 6 โมงเหมือนทุกๆวัน ยังไม่อยากตื่นนักหรอก แต่สุดท้ายก็ต้องข่มใจลุกขึ้นไปอาบน้ำ จะกว่าทำอะไรเสร็จจนออกจากบ้านก็ 7 โมงกว่าเข้าไปแล้ว เธอยังรอผมอยู่หน้าบ้าน เหมือนเคยๆ ที่เป็นอยู่ทุกวัน เธอวิ่งเหยาะๆนำผมออกไปพร้อมกับเร่งให้ผมเดินตามเธอ ผมมองตามหลังเธอพร้อมกับยิ้มด้วยหัวใจที่พองโตขึ้น
      .
      .
      .
      .
      .

      "เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ"

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×