ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HAEEUN : Wrathful love ....แค้นรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : [1] พบเจอ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 56







     

    เช้าที่แสนสดใจในฤดูใบไม้ล่วง นักศึกษามหาลัยโซลต่างพากันแยกกันทำกิจกรรมในวันแรกของปีการศึกษาอย่างคึกคัก

    เฉกเช่นเดียวกับคณะเก่าแก่ของมหาลัย คณะที่สาวๆน้อยใหญ่ในมหาวิทยาลัยต่างใฝ่ฝันจะได้หนุ่มๆคณะนี้ไปคอบครอง



     

    วิศวกรรมศาสตร์



     

     

    โหววว พี่ทงเฮครับนี่มึงจะมารับน้องหรือไปเดินแบบแม่งหล่อมาเชียว


    เสียงเอ่ยแซวของเพื่อนร่วมคณะดังขึ้นทันทีเมื่อร่างหนาของทงเฮย่างกายเข้ามาภายในลานกิจกรรม

    อีทงเฮ นักศึกษาปีสามของคณะวิศวกรรมศาสตร์ รูปหล่อ พ่อรวย จบไฮสคูลเมืองนอก ชีวิตเพอร์เฟคจนไม่คิดว่าคนแบบนี้จะเดินบนดิน ได้


    ไม่หล่อก็หุบปากไปครับเยซอง อย่ากวนตีนแต่เช้า

    ทงเฮว่าให้เพื่อนตัวดีก่อนจะเดินเข้าไปรวมกลุ่มเพื่อนๆ

    กลุ่มของอีทงเฮเป็นกลุ่มไม่ใหญ่มาก แต่ถือว่าเพอร์เฟคมาก สมาชิกแต่ละคนครอบครัวรวยติดอันดับต้นๆของเกาหลี ยกเว้นอีทงเฮที่ไม่ได้ติดอันดับที่เกาหลีแต่รวยติดอันดับต้นๆของอเมริกา


    มึงไปเข้าร้านทำผมอยู่หรอไอ้คุณชาย แม่งมาสายสุดตลอด


    โจว คยูฮยอน เอ่ยแซวเพื่อนที่ติดจะมาสายที่สุดในแก๊งค์ตลอด ไม่สนว่าจะมีกิจกรรมอะไรไหม ใครรีบไม่รีบอีทงเฮไม่สนเพราะมันถือคติ กูไม่รีบใครจะทำไม



    กูไม่รีบ ใครจะทำไม

     

    กูว่าละ มันต้องตอบแบบนี้ = =

     

    ฮ่าๆๆๆ  กูว่าแล้วแม่งต้องตอบแบบนี้ กูถึงไม่ถามไง


    เฮนรี่หนุ่มน้อยอิมพอทจากเมืองจีนพูดพลางหัวเราะร่า


    เขารู้จักนิสัยอีทงเฮดีจนพูดได้เต็มปากว่าแค่มองตาก็รู้ใจละ

    แน่นอนไม่ใช่แค่เขาหรอกที่รู้ใจทงเฮ เยซอง คยูฮยอน เองก็ไม่ต่าง เพราะพวกเขาน่ะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาล เรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนมหาลัยยังตามตูดย้ายกลับมาเรียนที่เกาหลีด้วยกัน เพราะพวกเขาถือคติเพื่อนต้องไม่ทิ้งกัน ไม่ว่าเรื่องอะไร…..

     

     

     

    น้องๆครับ มารวมกันตรงนี้เลยนะครับ เข้าแถวเลยเข้าแถว รีบๆเดินหน่อยนะครับ น้องฟหาด่ากห่สวก่แฟห่กวสหาหวสวสาสว…..



     

    เสียงเหล่าสตาฟประจำคณะตะโกนร้องเรียกนิสิตใหม่ของคณะให้เข้าแถวเพื่อนทำกิจกรรม

    วันนี้เป็นวันต้อนรับน้องใหม่ วันที่รุ่นพี่ที่เตรียมตัวรับน้องตั้งแต่ปิดเทอมรอคอยมาตลอด

    ปีนี้เป็นหน้าที่ของนักศึกษาปีสอง กลุ่มของอีทงเฮเลยได้แค่นั่งมองอยู่ห่างๆไมได้เข้ามายุ่งเกี่ยว เพราะปีที่แล้วพวกเขาเองก็เคยได้รับหน้าที่อันหนักหน่วงพวกนี้เหมือนกัน

    ไม่ใช่ว่ากลุ่มของทงเฮรักการทำกิจกรรม ทว่าที่เขามาอยู่ตรงนี้วันนี้ เพราะเขาต้องการเจอใครบางคน




    ใครบางคนที่เขาใจเย็นอดทนรอมาตลอดหลายปีน่ะสิ…..





     

    เห็นรุ่นน้องทำงานแล้วก็เหนื่อย นึกถึงปีเราเลย น้องใหม่แม่งพูดไม่ค่อยจะฟัง ถ้าเป็นสาวๆสวยงี้กูจะไม่ว่าหรอก นี่มีแต่ถึกๆควายๆ สัส



    บ่นทำเหี้ยไรนักหนาเพื่อนเย่ ทำไมตอนให้เลือก มึงไม่เลือกเรียนพยาบาล อยากเจอสาวๆนักไม่ใช่หรอ


    คยูฮยอนว่าให้เพื่อนอย่างเซงๆเพราะพวกเขาทุกคนมีสิทธิ์เลือกอยู่แล้วว่าจะเรียนคณะไหน ถ้าไม่ชอบไม่เห็นจำเป็นต้องมาทนอยู่ เพราะแค่เขาโทรหาพ่อกริ๊งเดียวจะย้ายไปเรียนหมอตอนนี้ยังได้เลย



    “ไม่เอาว่ะ กูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพวกมึง”




    “ถุย!


    ทั้งกลุ่มประสานเสียงพร้อมกันด้วยความเอือมระอา มันก็ถูกที่เยซองพูดนั่นแหละ


      พวกเขาขาดใครไม่ได้ และแน่นอนว่าจะไม่ยอมเสียใครไปอีก แค่คนเดียว คนสำคัญก็เกินพอแล้ว
    ….






    ตกลงเด็กคนนั้นมันอยู่คณะนี้แน่หรอวะ กูยังไม่เห็นใครเหมือนในรูปนี่สักคน


    ทงเฮว่าพลางมองสำรวจใบหน้าของรุ่นน้องปีหนึ่ง ถ้าคนอื่นมองมาอาจจะแปลกใจนิดหน่อยที่รุ่นพี่หน้าตาดีสี่คนมายืนส่องกล้องส่องทางไกลมองหาอะไรก็ไม่รู้ แต่ไม่มีใครสักคนกล้าจะเอ่ยปากถามหรอก



    ”เฮ้ย อยู่ดิวะ พ่อกูเป็นเจ้าของมหาลัยนี่นะข้อมูลกูเป๊ะ

    เป๊ะตลอด  อย่าพลาดนะมึงกูจะเหยียบซ้ำ

    กูรออยู่ครับน้องเฮรี่  อยากโดนเหยียบจังเลย ว๊ายๆ ^^

    เดี๋ยวเหอะอีหอกคยู




    เฮนรี่ชี้หน้าคาดโทษเพื่อนตัวดีที่กวนไม่เลิก ก่อนจะหันไปมองทงเฮที่ตั้งใจมองหาหนุ่มน้อยหน้าใสในรูป

    หนุ่มน้อยที่พวกเขาตามหามานาน ตามสืบมานาน และรอคอยมานาน…..

     

     

     

     



     

    กูว่ากูเห็นละ

    ทงเฮพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบเรียกให้ทุกคนหันไปมองอย่าสนใจ

    อยู่ตรงไหนวะ

    แถวแปดคนที่สิบ

    ทงเฮบอกคยูฮยอนที่พยามส่องกล้องหา

    กูก็เห็นละ

    อืม..น่าตาน่ารักนี่หว่า

    นั่นสิ แต่ว่าแดกไม่ได้ครับ น่ารักก็ช่างประไร พรากหัวใจพี่เย่ไป  พี่ไม่ทนครับ

    เยซองพูดพร้อมรอยยิ้มร้าย ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงหัวเราะในลำคอของทุกคน







     

    พบแล้วสินะ…..

     

     

    หึหึ ถึงเวลาชำระแค้นของพวกเราแล้ว

     

    ทงเฮว่าก่อนจะหันหลังเดินไป

     

    วันนี้ยังเร็วไป

     





    ไม่สิ

     






    วันนี้แหละเหมาะแล้ว….

     



    มันต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้…..

     



    แต่ตอนนี้น่ะ ยังเร็วไป…..

     

     

     

    ……………………………………





     

     

    โอ้ย เชี่ยนี่กูเหนื่อยสายตัวแทบขาด รุ่นพี่แม่งให้ทำอะไรก็ไม่รู้กว่าจะให้พักแม่งก็ปาไปห้าทุ่มแล้วเนี่ย แล้วพรุ่งนี้นะกูมีเรียนเช้านะ จะเอาปัญญาที่ไหนปลุกตัวเองตื่น ซองมินมึงต้องปลุกกูนะ T^T”





    ฮยอกแจหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักบ่นพลางทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือเพื่อนสนิทอีกคน



    อย่าว่าแต่ปลุกฮยอกแจเลยซองมินจะตื่นได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ปวดขาชะมัด TT”

    นั่นไงใครมันจะตื่นไปเรียนได้วะโธ่โว้ย ช่างเถอะตื่นได้ก็ตื่น ตื่นไม่ได้แม่งก็นอนอยู่อย่างนั้นแหละ ไปๆรีบไปนอน

    ว่าพร้อมกับลากแขนเพื่อนสนิทไปด้วยท่าทางหัวเสีย



    เดี๋ยวดิฮยอกแจ นี่เราจะขาดเรียนตั้งแต่วันแรกไม่ได้นะ

    “ =_= ใช่ว่ากูอยากขาดครับ แต่ถ้าตื่นไม่ได้จะให้กูทำไง

    นั่นสิน….อ้อ งั้นฮยอกแจก็ให้เมทฮยอกแจปลุกสิ เดี๋ยวซองมินจะให้พี่เมทของซองมินปลุกมินด้วย



    ซองมินเสนอความคิดด้วยรอยยิ้มทันที่ที่คิดถึงรุ่นพี่ที่เป็นรูมเมทของตัวเองที่เขาเจอเมื่อวาน ตอนขนของเข้าหอ

     

    พี่เขาหน้าตาดีชะมัด ใจดีมากด้วยแหละ ><


    มึงเห็นเมทมึงแล้วมึงก็พูดได้สิ เมทกูหน้ายังไงกูยังไม่รู้เลย เมื่อวานแม่งก็ไม่อยู่ห้อง เผื่อตัวอ้วนควายถึก กูก็ไม่กล้าจะผูกมิตรด้วยหรอกนะ = =”


    “’ง่า จริงด้วยสิ ..งั้นถ้าซองมินตื่นแล้วซองมินจะรีบไปปลุกฮยอกแจนะ ซองมินรีบไปนอนก่อนนะ บายๆฮยอกแจ^^”



    ว่าก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องของตัวเองที่อยู่ถัดจากเพื่อนไปอีกสามห้อง  ฮยอกแจยิ้มพลางส่ายหัวให้กับความน่ารักของเพื่อนตัวเองช้าๆ

     

    ซองมินน่ารักเกินไป ว่าแต่เมทซองมินหน้าตาแบบไหนนะ นี่น่าระแวงว่ะ = ___=

     

     

    ก๊อกๆๆ




    ฮยอกแจเคาะประตูเพื่อให้สัญญาณคนในห้องถึงการมาของตัวเองก่อนจะไขกุญแจเข้าไปช้าๆพร้อมกับมองสำรวจไปรอบห้อง

     




    ไม่เห็นมีใครอยู่?

     

    นี่เมทเขายังไม่มาอีกหรือยังไง แต่เอ๊ะ  อีกเตียงก็มีของมาวางแล้วหนิ

     

    สงสัยออกไปเที่ยวกลางคืนมั้ง

    ฮยอกแจเบ้หน้าเมื่อนึกถึงเมทตัวเองที่อาจจะเป็นคนชอบเที่ยวกลางคืน ฮยอกแจเกลียดเหล้า เกลียดพวกชอบเที่ยว




    จะอยู่กับมันได้หรอวะแม่ง

    บ่นเบาๆก่อนจะทึ้งหัวตัวเองโดยไม่รู้ว่ามีใครอีกคนที่ยืนมองอยู่ด้วยรอยยิ้มที่คนนอกไม่มีทางมองออกนอกจากเจ้าตัว


    ทำไมจะอยู่กับพี่ไม่ได้หรอครับน้อง ^^”


    เชี่ย!”


    คนตัวเล็กอุทานออกมาอย่างลืมตัว



    ตกใจอะไรครับ สวัสดีครับน้องรูมเมท ยินดีต้อนรับน้า ^^”



    ว่าพร้อมรอยยิ้มทำเอาคนมองอยู่เผลอยิ้มตอบด้วยความหลงใหลกับรอยยิ้มนั้น



    เอ่อ.. คือขอโทษนะครับที่ผมอุทานไม่เพราะเลย แหะๆ ผม เชวฮยอกแจครับ



    แนะนำตัวก่อนจะยืนมือออกไปหมายจะผูกมิตรกับรุ่นพี่ตรงหน้า



    ครับ พี่ ลี ทงเฮ จะพยามเป็นเมทที่ดีของน้องฮยอกแจครับ ^^”


    มือหนายื่นออกไปรับมิตรภาพกับรุ่นน้องตรงหน้าอย่างอ่อนโยน





    ใช่อีทงเฮกำลังอ่อนโยน

     

    อ่อนโยนจนฮยอกแจที่มองรอยยิ้มสลับกับมืออุ่นๆของใบหน้าคมจนเผลอใจสั่นไปกับสำผัสอบอุ่นนั่น….


    เอาล่ะวันนี้ทำความรู้จักกันแค่นี้ก่อน เดี๋ยวตื่นไปเรียนไม่ทัน เอาเป็นว่ามีอะไรปรึกษาพี่ได้พี่อยู่ปีสามคณะเดียวกับเรานั่นแหละ ^^”

    ครับ..^^”


    คนตัวเล็กโค้งให้รุ่นพี่ด้วยท่าทางน่ารักก่อนจะหันหลังไปหยิบของแล้วเข้าห้องน้ำไป โดยไม่มีโอกาสได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ได้ชื่อว่าเป็นเมทของตัวเอง

     









    รอยยิ้มหุบลงแล้ว….

     








    เหลือแต่ใบหน้าไร้ความรู้สึกกับแววตาที่ยากจะคาดเดาเวลามองประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทนั่น……

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×