เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง - เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง นิยาย เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง : Dek-D.com - Writer

    เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง

    เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นค่ะ ไม่ใช่เรื่องน้ำเน่า อย่างที่ทุกๆคนคิดค่ะ เพราะสิ่งที่อยากบอกคือ ความจริงกับนิยาย คาบเกี่ยวกันเพียงเสี้ยวเดียว ลองอ่านดูแล้วคุณจะพบว่า ความรักอยู่ใกล้คุณเพียงเสี้ยวเดียว

    ผู้เข้าชมรวม

    446

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    446

    ความคิดเห็น


    14

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 เม.ย. 49 / 19:00 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ค่ะ  สวัสดีค่ะทุกๆคน เรื่องต่อไปนี้ที่ทุกๆคนจะได้อ่านอ่ะค่ะ อยากบอกทุกๆคนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงค่ะ  มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของเราคนหนึ่ง เค้าเล่าให้เราฟังตอนวันวาเลนไทน์  แล้วอีกอย่างอยากบอกทุกคนไว้ตรงนี้เลยดีฟ่าว่า
      เรื่องนี้เราเขียนขึ้นมาจากประสบการณ์เพื่อนเราจริงๆๆ นะ ไม่ได้ไปก็อปที่ไหนมานะ เพื่อนเราก็เต็มใจที่จะให้เขียนเรื่องนี้ เพราะหวังว่าใครต่อใครหลายคนอาจจะไม่ต้องมาพบเจอเรื่องแบบนี้อีก ค่ะ
                                     เราเห็นว่าเรื่องนี้มันมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆทุกคนค่ะ  แล้วอีกอย่างเพื่อนเราเห็นว่า มันเป็นการเล่าประสบการณ์ที่ได้เจอให้เพื่อนๆ  ฟัง

      นี่เป็นอีกมุมหนึ่งของความรัก เป็นอีกรสชาติหนึ่งที่ข่มขื่นที่สุด ของความรัก

                  ค่ะ เราก็ลองมาดูเรื่องจริงกันดีกว่าค่ะ

                  'เร็วสิ! มาเล่นด้วยกันเร็ว ' เด็กน้อยวัยเพียง 4 ขวบร้องเรียกเพื่อนตัวเล็กๆอีกคนหนึ่งที่นั่งเล่นอยู่อีกมุมหนึ่งของสนามเด็กเล่น

                  'อืม ก็พยายามเร็วอยู่นี่ไง ' เด็กชายวัย 4 ขวบเอ่ยตอบเช่นกัน

                  'แล้วเมื่อไรคุณแม่จามารับพวกเราล่ะ คิด' 

                  'เดี๋ยวก็มาล่ะ มั้ง ทามมายแทนกลัวหรือ '

                  'ไม่ เราไม่ได้กลัว'

                  'อืม ไม่เป็นไรนะ เราจาอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง '

                              เด็กน้อยทั้งสองคนนั่งเล่นด้วยกันที่สนามเด็กเล่นจนกระทั่งเย็น นี่เป็นเหตุการณ์ในความทรงจำเมื่อครั้งยังเยาว์วัยของทั้งสองคน  จากวันเป็นเดือนจากเดือนมาเป็นปี จาก 1 ปี กลายมาเป็น 10 ปี มาบัดนี้ เด็กทั้งสองคนได้เติบโตขึ้นแล้ว

                  'แทนเร็วๆสิ  จะสายแล้วนะ เดี๋ยวไม่รอซะเลยนิ' ด้วยเสียงเรียกนี้เองส่งผลให้ประตูบ้าน เปิดออกอย่างเร็ว 

                  'รุ แล้วน่า นี่ไงเสร็จแล้ว' หญิงสาวน่าแฉล้มโผล่ออกมาจากประตู ผมของเธอถูกซอยสั้นๆ ทำให้ดูแล้วน่ารักยิ่งนัก ผิวของเธอเป็นสีผิวขาวเลืองอ่อนๆ แม้บนใบหน้าจะมีกระบ้าง แต่ทั้งหมดกลับทำให้เธอแลดูน่ารักนัก 

                 

                  'ก็เร็วสิ นี่มารอตั้งนานแล้วนะ ' ชายหนุ่มตอบกลับมา

      ตอนนี้นายคิดคนเก่าได้เป็นเด็กหนุ่มเต็มตัว ผมตัดทรงนักเรียนสั้น  ผิวคล้ำหน่อยๆ มีดวงตาคมเข้ม ทั้งหมดเสริมให้ใบหน้านี้ ดูแล้ว หล่อคมสันยิ่งนัก

                  'นี่ เดี๋ยวตอนเย็นแวะซื้อของเป็นเพื่อนเราหน่อยนะ นะ น้า......................'

                  'อืม รู้แล้ว เรื่องมากจริงๆเลย'

                  แล้วทั้งสองก็เดินเถียงกันไปตลอดทางไปโรงเรียน

                  'นี่ มาที่นี่เร็วจิ ดูสิมีตุ๊กตาด้วย น่ารักจังเลย'

                  'อืม น่ารักดี '

                  'อย่าตอบแบบขอไปที่ได้ไหมเล่า ฮึ้ย'

                  'เออ น่ารักก็ได้ น่ารักจังเล้ย................'

                  'ไม่เอาแล้วไม่คุยด้วยแล้ว '

                 

                  จากนั้นทั้งคู่ก็เดินเลือกซื้อของจนกระทั่งกลับบ้านด้วยกัน

                  'นี่จำได้อ่ะเป่า ว่าเดือนน่าสำคัญยางงาย '

                  'อ้อ ใกล้สอบนี่เอง ขอบใจนะที่เตือน'

                  แทนก้มหน้างองุดๆ เพราะโมโหนายบื้อที่อยู่ข้างๆ คนอะไรวันสำคัญจำไม่ได้

                 

                  'แทน จะรีบเดินไปไหนนะ'

                  'หิว จะรีบกลับบ้าน  โมโหหิว '

                  'ตัวแค่นี้ทำไมกินเก่งจัง'

                  'นายอย่ามายุ่ง จะไปไหนก็รีบไปเร็วเราจะเข้าบ้าน'

                  'อะไรเนี่ย อยู่ๆก็ขี้โมโห จริงๆเล้ย'

                  'จุ้นน่า อย่ามายุ่งนะ อีตาบ้า'

                  จากนั้นไม่นานประตูบ้านก็กระแทกลงอย่างแรง ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่มิตรภาพของเธอที่มีให้แก่เขา แปรเปลี่ยนเป็นความรัก

      'รัก เธอรักเข้าอย่างนั้นเหรอ  ไม่หรอกเราไม่ได้รักเค้าหรอก' แทนเริ่มคิดอย่างวุ่นวายใจเธอปล่อยให้ความรู้สึกนี้เข้ามาครอบคลุมหัวใจเธอได้อย่างไร แล้วเค้าล่ะจะรักเธอบ้างไหม

                  ค่ำคืนนั้นสำหรับแทนผ่านพ้นไปอย่างเนิ่นนาน

      'ไม่หรอก เราไม่ได้รักเค้า เราแค่หวั่นไหวไปเท่านั้นเอง แทน ฟังเราสิ'

      เฮ้อ

      'โอ้ย ทำไมถึงคิดถึงอย่างนี้นะ ทั้งๆที่พึ่งเจอกันแท้ๆ โอ้ย มันอะไรกันหนักกันหนา'

      'ฮึ้ย  บ้าชะมัดเลยเรา คิดมากอยู่ได้ก็แค่โทรไปหาเค้าเอง'

      แทนมองโทรศัพท์ในมืออย่างวุ่นวายใจก่อนวางไว้ที่เดิม ด้วยว่าไม่กล้าโทรไปหาคิด

      'คิดมากคิดบ้าๆ  แล้วเค้าจะรักเราบ้างไหม'

      'รักเราเหมือนที่เรารักเค้าบ้างหรือเปล่า '

      เพียงแค่คิดเท่านั้นน้ำตาก็รื้นออกมาจากดวงตา แล้วแทนก็ปล่อยให้มันไหลพรากออกมา เพียงไม่นานแทนก็เผลอหลับไป

      ตอนเช้าแทนยังคงเฝ้ารอให้คิดมารับ

      'เมื่อไหร่จะมาซักทีน้า รอนานแล้ว '

      'ไม่เอาล่ะ ไปโรงเรียนแล้วดีกว่าไม่รอแล้ว'

                  นับตั้งแต่วันนั้น คิดก็ไม่ได้มารับแทนที่บ้านอีกเลย นั้นเป็นผลที่ทำให้แทนรู้สึกไม่สบายใจมาก

      'คิดอะไรมาก เราก็ไปหาเค้าเองเลยสิ '

      ในที่สุดแทนก็ตัดสินใจไปที่บ้านของคิด

      'อ้าว หนูแทน ไม่เจอแป็ปเดียวโตขึ้นเป็นสาวเลยนะ'

      'สวัสดีค่ะคุณน้า'

      'มานี้มีธุระอะไรรึเปล่าจ๊ะ'

      'คือแทนมาหาคิดเค้านะค่ะ แล้วก็เอาของฝากจากคุณแม่มาให้คุณน้าด้วยค่ะ'

      'คือ คิด เค้าไม่ค่อยสบายนะจ๊ะ '

      'หรือค่ะ งั้นแทนไม่รบกวนแล้วนะค่ะ'

       จากนั้นแทนก็ตัดสินใจกลับบ้าน

      'เห็นไหม บอกแล้วว่าไม่ต้องคิดมาก' แทนนั่งปลอบใจตัวเอง

      'เดี๋ยวพรุ่งนี้เค้าก็มารับเราเหมือนเดิมแล้ว'

      แต่หลังจากวันนั้นคิดก็ไม่ได้มารับแทนอีกเลยจนเวลาล่วงเลยไป 1 สัปดาห์

      'แทน แทน ลงมาหน่อยสิลูก'

      'ค่ะ เดี๋ยวลงไปแล้วค่ะ'

      'คุณแม่ค่ะมีอะไรค่ะ เรียกแทนซะเสียงดังลั่นเชียว'

      'แทนรู้รึยังว่า คิดเค้าเข้าโรงพยาบาล'

      'จะ จริง หรือค่ะ คุณแม่'

      แทนที่พึ่งได้รับรู้ข่าวถึงกับหน้าถอดสี ไม่ คิดไม่เป็นอะไรหรอก แค่ป่วยธรรมดา เท่านั้นเอง

      'เรานะจะไปเยี่ยมเค้าไหม เนี่ยเดี๋ยวแม่ว่าจะไปเยี่ยเขาซักหน่อย'

      'ค่ะ  แม่ แทนขอไปด้วยนะค่ะ'

      ไม่นานนักครอบครัวของแทนก็ไปถึงโรงพยาบาล

      'คิด  เมื่อไหร่จาหายซะทีละ'

      'อืม  เดี๋ยวก็คงหายแล้วล่ะมั้ง'

      'รีบๆ หายน้า รุมั้ยว่าใกล้วันเกิดเราแล้ว'

      'ทวง จริง '

      'ถ้าหายไม่ทันวันเกิดเรานะ  โดนแน่'

      'กลัวจัง'

      'เดี๋ยวเหอะ ล้อเราหรือไง'

      และแล้วบรรยากาศภายในห้องก็ดำเนินไปด้วยความสุข มีเสียงหัวเราะ

      และเสียงดังพลั่กๆๆ สลับกันเป็นระยะ ๆ

      'เรากลับแล้วนะ'

      'อืม โชคดีนะ'

      'นายนะรีบๆหายเร็วๆ'

      'จา.... พยา..... ยาม......'

      'ก็พยายามต่อไปแล้วกัน ตาบ้า'

      2-3 วันให้หลังจากนั้น คิดก็ยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาล

      กริ๊ง

      'ค่า มาแล้วค่า '

      'เอ้า คุณน้าสวัสดีค่ะ'

      'สวัสดีจ๊ะหนูแทน ขอน้าคุยกะคุณแม่หนูหน่อยนะ'

      'ค่ะ เชิญค่ะ คุณแม่อยู่ที่ห้องรับแขก'

      'จ๊ะ'

      'แทน แทน มานี่หน่อยสิลูก'

      'ค่า '

      'คุณแม่ค่ะ ทำไมคุณน้าร้องไห้ล่ะค่ะ'

      'แทน จ๊ะ ทำใจดีๆนะลูก ฟังแม่ดีดีนะ'

      'คิด เค้าไปแล้วลูก'

      เพียงแทนได้ยินเท่านั้น ใบหน้าก็เริ่มถอดสี ไม่ มันคงไม่ใช่อย่างที่เราคิด

      'คิดเค้าไปไหนค่ะ ' แทนยังคงทำใจดีๆพูดออกไป

      'เค้าจากไปแล้วลูก '

      'แม่ล้อเล่นใช่ไหมค่ะ มันไม่ใช่เรื่องตลกนะค่ะ '

      'เปล่าจ๊ะ เค้าไปสบายแล้ว'

      'โฮ  โฮ ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ  มะไม่  จริง  ฮึก ๆ ๆๆ มันเป็นเรื่องละล้อเล่น ฮึกๆๆ ชะใช่ ไหม ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   '

      'แทนลูกต้องยอมรับความจริงนะ'

      'ฮือๆๆๆ  ไม่ !  ไม่จริง ! ฮึกๆๆ คะ เค้า ฮือๆๆฮึก สะสัญญาแล้ว ฮือๆๆ ว่าเค้าจะกลับมา ฮือๆๆๆ'

      "ไม่ ฮือๆๆๆ  คิดเค้าสัญญาแล้ว  ทะ  ทำ ไมฮึกๆๆ  ทำแบบนี้  ฮือๆๆ"

                   "แทน  ลูกต้องทำตัวให้เข้มแข็งสิ  คิดเค้าคงเสียใจถ้าลูกอ่อนแอ"

                  "มะ  แม่ ค่ะ ตะ  แต่ ว่า ฮือๆๆ  ฮึกๆ ๆ เค้าจะไม่กลับมาหาแทนอีกแล้ว ฮือๆๆ  แทนกลัวๆ  ฮือๆๆๆ"

               ผู้เป็นมารดาได้แต่มองลูกสาวด้วยหัวใจที่ร้าวราน  ใช่เธอเองก็ไม่อยากให้แทนต้องมารับรู้เรื่องราวที่ทำให้แทนเสียใจ  หากนี่คือบทแห่งการมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ใช่หรือ!  แม้ต้องเจ็บแม้ต้องช้ำหากแต่การมีชีวิตอยู่ต่อไปลำบากกว่า 

           "แทน ฟังแม่นะ  ลูกต้องเข้มแข็ง แม่เชื่อว่าคิดเค้าต้องเสียใจที่แทนเป็นคนอ่อนแอ แทนต้องยืนหยัดฟันฝ่าบททดสอบที่ผ่านเข้ามาในชีวิตนะ "

           แทนเงยหน้ามองผู้เป็นแม่อีกครั้งด้วยอารมณ์ที่สงบลงกว่าเดิม ใช่ เราต้องไม่อ่อนแอ  เราต้องเข้มแข็ง ฟันฝ่าอุปสรรคตรงนี้ 
      ------------------------------------------------------------------------------------------

      ณ  สถานที่ที่จัด
      งานศพ

      'หนูแทนจ๊ะ '

      'คะ ค่ะ  คุณน้า'

      'นี่เค้าฝากไว้ เค้าบอกว่าให้เอาให้หนูให้ได้นะ'

      'ค่ะ ขอบคุณนะค่ะ'

      แทนอยู่ร่วมงานในวันนั้นจนเสร็จแล้วจึงกลับบ้าน แทนได้แต่มองเหม่อคิดถึงผูเเป็นเจ้าของกล่องใบนี้  กล่องที่เค้ามิอาจให้ได้ด้วยมือเค้าเอง

      แทนบรรจงหยิบกล่องที่มีลวดลายสวยงาม ออกจากกระเป๋า

      'สุขสันต์วันเกิด แทน  จาก คิด'

      'อืม เราได้รับแล้วนะคิด '

      'ตุ๊กตาหมีนี่น่า กดได้ด้วย'

       

      ' สุขสันต์วันเกิดครับแทน  แทนเรานะอยากบอกแทนมานานแล้วนะ

         แทนฟังเราดีๆนะ เรารักแทนนะ  ต้องขอโทษด้วยที่เราบอกความรู้สึก

      นี่ให้ฟัง เรารักแทนนะ อยากดูแลแทนตลอดไป  แต่เราคงทำอย่างนั้นไม่ได้

      แทน เราคงจะอยู่เคียงข้างแทนต่อไปไม่ได้ เรารู้นานแล้วแหละแต่ไม่ติดว่า 
                  จะ
      เร็วขนาดนี้ เราไม่กล้าบอกแทน เรากลัวเห็นแทนร้องไห้ แทนอย่าร้องไห้
                 นะ
       เรารักแทนนะ รักมาตลอด ขอโทษนะ ที่ไม่สามารถทำตามสัญญาได้

      แทนอย่าปิดกั้นตัวเองนะไม่งั้นเราคงไม่มีความสุข สัญญานะ  รักแทนนะ  '

      แทนนั่งฟังคำสารภาพของคิดทุกคำ ด้วยดวงตาเลื่อนลอย ด้วยความเจ็บ

      ความเจ็บมันแล่นเข้ามาในหัวใจ ไม่นานนักน้ำตาใสๆอุ่นก็ไหลรินออกจาก

      ดวงตา ไล้ไปตามใบหน้า

      'แทน ก็รักคิดนะ ทำไมคิดไม่บอกแทนให้เร็วๆกว่านี้'

      'ฮือๆๆ เราก็รักนายมาตลอด เลย ฮือๆๆ'

      'ทำไมนายไม่บอกเราเราจะได้ไม่หาเรื่องทะเลาะนาย  ฮือๆๆๆฮึกๆๆ ถ้าเพียงเรารู้'

      ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างยาวนาน ช่างเป็นคืนวันที่เนิ่นนานสำหรับแทน หากแต่ในวันต่อๆๆ ไป เมื่อแสงแรกของฟ้าทอประกาย เธอก็จะยืนหยัดอยู่ต่อไป  เพื่อคนที่เธอรัก......

      ค่ะ ทั้งหมดนี่เป็นเรื่องที่มาจากเค้าโครงจริงๆๆค่ะ  ก็ที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา

      เพื่ออยากให้ทุกๆคนลองหันกลับมาใส่ใจคนข้างๆหรือคนใกล้ตัวคุณค่ะ

      เพื่อว่า คุณจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง แล้ววันนี้

                           คุณดูแลคนข้างกายคุณดีแล้วหรือยัง!

      http://202.142.220.137/list/28/4029.rm

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×