คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : หวั่นไหว (50%)
9
หวั่นไหว (50%)
ปรวิตต์หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในเช้าวันใหม่ที่ท้องฟ้ายังมืดครึ้มอึมครึมด้วยก้อนเมฆที่ลอยต่ำและอุ้มฉ่ำไปด้วยพายุฝน แล้วมีความเป็นไปได้ที่ฝนจะตกทั้งวัน ชายหนุ่มเปิดวิทยุชุมชนฟังข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า นอกจากพายุนอกฤดูกาลลูกเมื่อคืนแล้ว ยังจะมีพายุตามมาอีกหนึ่งลูก จะมีผลกระทบให้มีฝนตกติดต่อกันไปอีกสองถึงสามวัน ขอให้ประชาชนระวังน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก ชาวประมงควรงดออกจากฝั่ง
วิศวกรหนุ่มต้มน้ำชงกาแฟด้วยเตาถ่านที่เห็นได้น้อยมากในสังคมเมือง เพราะทุกบ้านเรือนในปัจจุบันนี้ใช้เตาไฟฟ้าหรือไมโครเวฟกันทั้งนั้น ซึ่งให้ความสะดวกและรวดเร็ว เตาถ่านอาจจะยังมีหลงเหลืออยู่บ้างในสังคมชนบทและบนเกาะช้องนางแห่งนี้ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ยังใช้เตาถ่านกันอยู่ วิศวกรหนุ่มไม่เดือดร้อนกับการติดเตาถ่านต้มน้ำ เขาทำได้อย่างคล่องแคล่วเพราะกิจกรรมที่เขาโปรดปราน คือการเดินป่า แคมป์ปิ้ง ปีนเขา ดำน้ำ
เขาชอบป่าชอบภูเขารักธรรมชาติ พิสมัยชีวิตที่เงียบสงบและเรียบง่าย ซึ่งเขาตั้งใจไว้ว่า ชีวิตหลังเกษียณจะพาครอบครัวมาอยู่ที่เกาะช้องนางแห่งนี้ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณตาที่ยกเป็นมรดกให้กับเขา
บ้านไม้เก่าหลังนี้เดิมเป็นบ้านร้างอยู่ท้ายเกาะ พอเขามีแผนที่จะพาตัวมธุรสมาอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่ง เขาจึงสั่งให้ลุงพินคนเก่าแก่สมัยคุณตา มาช่วยปรับปรุงให้ดีขึ้นพอที่จะอยู่ได้ ไม่ต้องดีเด่อะไรนัก และไม่ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆทั้งสิ้น ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านนี้สักชิ้น นอกจากวิทยุคลื่นความถี่สูงไว้ฟังข่าวสารและพยากรณ์อากาศ ตู้เย็นเก่าแก่เสียงเจนเนอเรเตอร์ดังกระหึ่มอายุหลายสิบปีหลังใหญ่ไว้เก็บตุนอาหารและของสดกับเครื่องปั่นไฟที่ให้พลังงานไฟฟ้าและแสงสว่างเท่านั้น
ปรวิตต์ต้องการแยกแม่ผู้ช่วยสาวสวยคนนี้ออกจากบิดาของตนสักพักและที่สำคัญเขาต้องการจะดัดสันดานแม่สาวชาวกรุงให้ได้รับความลำบากเสียบ้าง เพราะดูเจ้าหล่อนจะชอบชีวิตง่ายๆสำเร็จรูปโดยขายของเก่าที่มารดาให้มาแต่กำเนิดหลอกผู้ชายหน้าโง่ตัณหากลับอย่างไร้ยางอาย
วิศวกรหนุ่มโทรศัพท์มือถือถึงหัวหน้าคนงานสอบถามสถานการณ์และสั่งงาน
การก่อสร้างช่วงนี้คงต้องชะลอไว้ก่อนจนกว่าพายุฝนหลงฤดูนี้จะหมดไป
และคงจะต้องโหมเร่งงานกันในภายหลัง
ปรวิตต์ดูนาฬิกาข้อมือบอกเวลาเกือบสิบเอ็ดโมงเช้า
แล้วส่ายศีรษะอย่างระอิดระอาใจเดินไปทุบประตูห้องของเชลยสาวที่ยังเงียบกริบ
“นี่จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนกันแม่คุณ ลุกได้แล้ว” ปรวิตต์ปลดล็อคกุญแจ แล้วเดินกลับมานั่งจิบกาแฟและดูแบบแปลนรีสอร์ตไปพลางๆ สิบนาทีผ่านไปก็ยังเงียบ เชลยสาวของเขายังไม่มีทีท่าเยื้องย่างออกมาจากห้องนอน จนชายหนุ่มเริ่มเอะใจเปิดประตูเข้าไปดู เห็นร่างบางยังนอนอยู่บนเตียงไม้หลังเก่าตัวใหญ่
“นี่มธุรส เธอจะนอนอะไรนักหนา” ปรวิตต์เข้าไปจับไหล่บางให้หงายหน้ากลับมา แต่ก็ต้องตกใจเพราะตัวของเธอร้อนจัด “มธุรส!”
หญิงสาวยังอยู่ในเสื้อผ้าชุดเมื่อวานซึ่งยังหมาดชื้น ใบหน้าของเธอซีดขาวปานกระดาษ เนื้อตัวร้อนด้วยพิษไข้ “บ้าแท้ๆ ทำไมไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า นอนไปทั้งอย่างนี้ได้อย่างไร พอดีปอดบวมตาย” ปรวิตต์โมโหอย่างบอกไม่ถูก แต่ร่างบางนั้นก็ไม่รู้สึกรู้สมอ่อนม้วนไปทั้งตัว
“โธ่เอ้ย!” เขาหงุดหงิดมากขึ้นหันซ้ายหันขวา แล้วตัดสินใจที่จะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอก่อนเป็นอันดับแรก เขาเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอได้ชุดเสื้อคลุมตัวหลวมใส่ง่ายมาหนึ่งตัว
ปรวิตต์ถอนหายใจเฮือกใหญ่หลายครั้งขณะพลิกหน้าพลิกหลัง ปล้ำถอดเสื้อผ้าให้กับร่างอรชรที่สลบไสลตัวอ่อนปวกเปียกอยู่บนเตียง กว่าจะเสร็จทำเอาเขาอึดอัดปั่นป่วนสลับเครียดเขม็งไปหมด ลำคอยังแห้งผาก เม็ดเหงื่อผุดขึ้นรอบหน้าผากทั้งๆที่อากาศภายนอกแสนจะเย็นและชุ่มชื้น
เขารีบหายาลดไข้ให้เธอกิน ก่อนที่จะรองน้ำใส่อ่างผสมกับน้ำอุ่นที่เพิ่งต้ม ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดตามหน้าตาเนื้อตัวเพื่อบรรเทาอาการไข้และทำความสะอาดเนื้อตัวและเส้นผมที่ยังมีเม็ดทรายเกาะอยู่ไปด้วยในตัว
มธุรสมีอาการไข้ขึ้นสูงจนเขาต้องให้ยาลดไข้ทุกๆสี่ชั่วโมง และคอยเช็ดเนื้อตัวบรรเทาอุณหภูมิที่สูงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทุกครั้งที่ต้องเช็ดตัวให้เธอ ชายหนุ่มก็ถึงกับต้องกลั้นหายใจเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ไม่อยากมองเนื้อตัวขาวๆ ผิวเนียนนุ่มมือที่เต่งตึงและเย้ายวนไปด้วยวัยสาวที่เอิบอิ่มที่ทำให้จิตใจของเขาแกว่งไกว ลมหายใจติดขัดได้ทุกครั้ง ยามที่เห็นหรือแตะต้องสัมผัสอย่างไม่ได้ตั้งใจ และถ้าคืนนี้อาการของเธอยังไม่ดีขึ้นเขาคงต้องไปตามหมอยิ่งศักดิ์นายแพทย์คนเดียวประจำเกาะช้องนางมาดูอาการเสียแล้ว
“ไม่เอาน่ามธุรส กินข้าวต้มเสียหน่อย แล้วจะได้กินยาอีก” เขาพยายามป้อนข้าวต้มให้เธอ
“อื้อ...” หญิงสาวเบี่ยงหน้าหลบไปมาไม่ยอมกิน จนเขาต้องยอมแพ้เลิกป้อน จับร่างที่อ่อนปวกเปียกกินยาแล้วห่มผ้าให้
มธุรสแทบไม่มีสติ เธอร้องครางงึมงำและกระสับกระส่ายอยู่ตลอดเวลาด้วยพิษไข้ ผ้าห่มก็ดิ้นถีบไปกองอยู่ปลายเตียง เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ดึงทึ้งออกอย่างรำคาญ เขาต้องตามใส่ให้ใหม่ เธอก็ดึงทึ้งออกอีก เป็นอยู่อย่างนี้สองสามครั้งจนเขาคร้านที่จะใส่ให้ เลยปล่อยเธอให้นอนเนื้อตัวเปล่าเปลือย แต่เขาหาผ้าห่มเนื้อหนาห่มให้ความอบอุ่นแทน ซึ่งเธอก็มักจะถีบออก จนเขาต้องคอยตามห่มให้อยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นมีหวังต้องปอดบวมตายไปจริงๆ เพราะฝนยังคงตกหนักบ้างเบาบ้างอยู่ตลอดทั้งวัน อากาศเย็นและชื้น จนคนปกติอย่างเขายังต้องหาสเวตเตอร์มาสวมทับอีกชั้นด้วยเกรงว่าจะไม่สบายไปอีกคน เพราะร่ำๆเขาเกือบจะจับไข้อีกวันละหลายๆหน เพราะภาพหญิงสาวที่นอนเปลือยไร้อาภรณ์ปกปิดร่างกาย ช่างก่อกวนสายตาและอารมณ์ของเขาอย่างร้าย
“นะ...หนาวจัง” เสียงครางไม่เบานัก เรียกสติของวิศวกรหนุ่มที่กำลังนั่งดูแปลนรีสอร์ทอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหารตัวใหญ่หน้าห้องนอนต้องลุกเข้ามาดู ปรวิตต์เปิดประตูทิ้งไว้ เพื่อที่ว่าจะได้ยินเสียงหรือคอยเข้าออกดูแลอาการของเธอ
หญิงสาวจับพิษไข้เตะผ้าห่มตกไปกองอยู่กับพื้น ปรวิตต์ส่ายศีรษะแล้วก้มลงเก็บผ้าที่พื้นพลางคิดในใจว่าจะไม่หนาวได้อย่างไร ก็ทั้งเนื้อทั้งตัวมีอะไรปิดบ้าง นอนล่อนจ้อนไม่เกรงใจใครซะขนาดนี้ เขาขยับตัวเข้าใกล้ แล้วห่มผ้าให้ใหม่
“พ่อขา...อยู่กับรสก่อน อย่าเพิ่งไป” เธอฝันว่าบิดามาหาและห่มผ้าห่มให้เหมือนตอนที่เธอยังเป็นเด็ก มธุรสเอื้อมมือมาจับข้อมือใหญ่ แล้วดึงเข้าหาตัว
“รสกลัว รสหนาว อยู่กับรสก่อน อย่าเพิ่งไป” แรงเหนี่ยวรั้งของคนที่อยู่บนเตียงมีมากอย่างไม่น่าเชื่อ ร่างสูงเซล้มลงนั่งบนเตียงข้างๆเธอ “กอดรส รสหนาว กอดรสหน่อย” หญิงสาวไม่พูดเปล่าผวาเข้ากอดร่างสูงใหญ่ด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทาเหมือนลูกนกตัวน้อยๆ ที่โผผินหาความอบอุ่นและปลอดภัย
“คุณปรวิตต์…” เธองึมงำอยู่ในลำคอเหมือนคนละเมอ ก่อนที่จะซุกและเบียดตัวเข้ากับแผ่นอกกว้างแข็งแรงด้วยความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยภายใต้จิตใต้สำนึกที่อยู่ลึกสุดของหัวใจ
“มธุรส...” ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่หัวใจอ่อนยวบกับความเจ็บป่วยของเธอ ยอมทิ้งตัวลงนอนไปด้วยกันบนเตียงไม้เก่าๆ และกก...กอดร่างนุ่มเหมือนกับจะถ่ายทอดความอบอุ่นจากร่างกายแข็งแรงไปให้ ในขณะเดียวกันเขาก็ซึมซับเอาความอวบอิ่มนุ่มเนียนเนื้อและหอมกรุ่นชวนให้คลั่งอย่างไม่รู้เบื่อ
เช้าวันต่อมาปรวิตต์เห็นว่าอาการไข้ของเธอยังไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจขับสปีดโบ๊ทฝ่าสายฝนที่ยังโปรยปรายไปหาหมอยิ่งศักดิ์นายแพทย์ประจำเกาะแต่เช้า โดยให้เหตุผลกับหมอว่าเขามาคุมงานก่อสร้างที่เกาะช้องนาง แล้วพาแฟนสาวมาด้วย แต่วันที่มาถึงก็เจอกับพายุพัดเข้าเกาะพอดี ทำให้แฟนสาวไม่สบายนอนซมด้วยพิษไข้อยู่ที่บ้านพักท้ายเกาะ ขอให้คุณหมอไปช่วยดูอาการ ซึ่งคุณหมอก็ยอมมาแต่โดยดี หลังจากที่คุณหมอตรวจดูอาการก็วินิจฉัยว่า เธอเป็นไข้ธรรมดาแต่มีอุณหภูมิขึ้นสูง คุณหมอจึงฉีดยาให้สองเข็มและให้กินยาตามที่หมอสั่ง อาการก็จะดีขึ้นภายในวันสองวันนี้ ทำให้ชายหนุ่มคลายความกังวลไปได้
หลังจากที่คุณหมอฉีดยาให้ มธุรสมีอาการดีขึ้น อย่างน้อยไข้ก็ไม่ขึ้นสูงเหมือนแต่ก่อน รู้สึกตัวเหมือนละเมอเป็นระยะๆ เวลาที่เขาเรียกให้กินยาหรือกินข้าว เธอก็ตอบสนองเขาได้ดีขึ้น
ยามที่เธอรู้สึกตัวก็เหมือนคนละเมอ มธุรสมักจะเรียกร้องให้เขานอนกก...กอดเธอไว้ อย่าทิ้งเธอไปไหน ทำให้จิตใจแข็งกร้าวของเขาโอนอ่อนลงและที่แน่นอนความรู้สึกว้าวุ่นกระอักกระอ่วนใจเข้ามาแทนที่ เพราะเขาเป็นผู้ชายที่มีเลือดเนื้อ ต่อให้มีความสุขุมอดกลั้นมากขนาดไหน ลองได้มานอนกอดร่างอวบอิ่มนุ่มเนียนที่อุดมไปด้วยเลือดเนื้อของผู้หญิงสาว จิตใจก็อดแกว่งไกวไปตามแรงธรรมชาติไม่ได้ จนต้องยกเอาความโกรธเคืองออกมาเป็นกำแพงขวางกั้น และตั้งสมาธิให้มั่นคงที่จะนอนกอดเธอแต่เพียงอย่างเดียว โดยที่จะไม่ทำอะไรอื่นตามแรงธรรมชาติของเพศผู้เรียกร้อง
คืนแรกยังพอทำเนา แต่คืนที่สอง ที่สาม เขาอยากจะกลั้นใจตายเสียให้ได้ เมื่อโนมเนื้อที่อิ่มอุ่นเบียดกระแซะร่างแข็งแรงของเขาอย่างให้ท่าและเชิญชวนอย่างไม่รู้ตัว จนเขาเกือบจะตบะแตกแล้วรักเธอให้สมใจไปตามแรงธรรมชาติเรียกร้องนัก
To be continue…
คุณวิตต์ขา จะต้านทานแรงธรรมชาติเรียกร้องไหวมั้ยคร๊ะ คริ คริ
ก็เชลยสาวขาว สวย หมายอึ๋ม เซ็กซี่ซะขนาดนั้น
ต่อให้สุขุมลุ่มลึกเพียงใด งานนี้คุณวิตต์มีตบะแตกกันบ้างล่ะค่ะ คริ คริ
พรุ่งนี้ หวั่นไหว กันต่อค่ะ ก็แหม! อยู่กัน 2 ต่อ 2 บนบ้านท้ายเกาะ
พายุฝนก็เป็นใจซะขนาดดดด เนอะ อิอิ
พร้อมส่งแล้วนะจร้า
‘เล่ห์มธุรส’ โฉมใหม่
พร้อมตอนพิเศษ Underneath her red clothes
อัลรัย เอ่ย! แฝงอยู่ใต้ชุดแดงแรงส์ฤทธิ์ คริ คริ
ในราคา 320.- (รวมค่าส่งไปรษณีย์ลงทะเบียน)
ขอบพระคุุณค่า
ความคิดเห็น