ห้องสมุด
ใช่ ตอนนี้เขาอยู่ที่ห้องสมุด เครื่องปรับอากาศที่เย็นกำลังดีกับบรรยากาศเงียบๆทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย เหม่อมองออกไปด้านนอกบานกระจก บรรยากาศที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน ส่วนมากมักจะเดินกันมาเป็นคู่ ใกล้วาเลนไทน์เต็มทน โดดเดี่ยวแทบบ้า ให้ตายสิ
จิ๊ปากกับตัวเองก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ เอียงหัวเสตาไปมองที่อีกด้านของห้องสมุด ผู้ชายร่างโปร่งคนหนึ่งกำลังจัดวางหนังสือขึ้นวางบนชั้นอย่างเบามือ พอวางเสร็จอีกมือก็คอยขยับกรอบแว่นตาหนาเตอะให้เข้าที่อย่างสม่ำเสมอ โฮซอกเผลอยกยิ้ม
เขาไม่ได้โดดเดี่ยวสักหน่อย ความรักของเขายืนอยู่ตรงนั้น..
บอกไว้เลยว่าเขาไม่ใช่คนที่จะเห็นคนแปลกหน้าแล้วหลงรักเข้าได้เต็มเปาเสียทันควัน แต่คนคนนั้นชื่อมิน ยุนกิ แอบมองมาตั้งแต่สมัยม.ปลาย ถ้าจะให้ย้อนความหลังให้ฟังเขาก็โอเค จอง โฮซอกในวัยมัธยมปลายค่อนข้างที่จะแข็งกระด้างและเอาเรื่องอยู่มากถึงมากที่สุด เข้าห้องปกครองไม่เว้นวัน มีเรื่องกับต่างโรงเรียนจนปากแตกหน้าแตก และสุดท้ายความโชคร้ายของเขาคือโดนดักทำร้าย ยังต้องขอบคุณความหูไวตาไวของตัวเองอยู่บ้าง วิ่งหนีอุตลุดหัวซุกหัวซุน เกือบจะเป็นหมาจนตรอกอยู่เต็มที โชคดีที่เจอห้องสมุดแห่งนี้..
คนตัวขาวเอื้อมมือคว้าประตูกระจกทึบบานใหญ่ พลิกป้ายด้านหน้าให้เปลี่ยนเป็น close โฮซอกที่วิ่งหนีมาเหนื่อยอย่างหมา แถมยังช้ำระบมไปทั่วร่าง รีบผลักประตูเข้าไปด้วยความเอาตัวรอด แต่ก็ไม่ลืมที่จะผลักอีกคนเข้ามาด้วย
เสียงรองเท้ากระทบพื้นดังถี่ๆวิ่งผ่านไป แต่สิ่งที่มันถี่มากกว่านั้นคือเสียงหัวใจของเขาเอง ใครจะรู้ว่าที่อยู่ๆก็ผลักเข้ามาแบบไม่ได้ดูเมื่อกี้จะทำให้เขานอนคร่อมร่างของอีกคน สองแขนของโฮซอกเท้าอยู่ข้างๆกรอบหน้าเรียว ใบหน้าห่างกันเพียงคืบ จำไม่ได้ว่าเขาเผลอจ้องใบหน้าขาวเนียนนั่นนานแค่ไหน แต่รู้สึกตัวอีกทีก็โดนต่อยลงเบ้าตาเข้าอย่างจัง
สุดท้ายแล้วมิน ยุนกิ(ที่แอบอ่านจากป้ายชื่อบรรณารักษ์)ก็ต้องมานั่งทำแผลให้เขา ทั้งแผลที่โดนอัดน่วมมาและรอยช้ำที่เจ้าตัวเป็นคนก่อ ไม่รู้ว่าเพราะความสงสารหรือสมเพชเวทนา ยุนกิไม่มีรอยยิ้มหรือคำพูดใดๆมอบให้ แต่กลับทำให้เขายิ้มไม่หยุด กรอบแว่นตาหนาเตอะโคตรพ่อจะเด็กเนิร์ดไม่เหมาะกับโฮซอกเอาซะเลย แต่เขากลับมองแล้วรู้สึกว่าอีกคนน่ารัก อยากจะบอกว่าระยะเวลาหลายปีที่เกิดมาโฮซอกเองก็ไม่เคยรักใครเข้าจริงจัง เขาไม่เคยมีแฟน และไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าวันนึงจะมาตกหลุมรักผู้ชายเหมือนกับตัวเอง
หึ ละครเป็นบ้า
แต่นั่นแหละ ขอพูดไว้เลยว่ามิน ยุนกิเป็นรักแรก และ รักเดียวของจอง โฮซอก
" คอเคล็ดละมั้ง "
" ก็ไม่ขนาดนั้น "
โฮซอกยักไหล่หลังจากฟังประโยคเหน็บแนมจากยุนกิ
ไม่รู้ว่าติดใจอะไร แต่หลังจากวันนั้นโฮซอกก็เหมือนเปลี่ยนจากหลังเท้าเป็นหน้ามือ ทุกเย็นหลังเลิกเรียนเขาจะมาที่ห้องสมุดนี่เสมอ เพื่อนๆหาว่าเขาโดนตีหัวจนสมองกลับไปแล้วหรือไง แต่ไม่ใช่ โฮซอกแค่จะมาแอบมองคุณบรรณารักษ์ แอบมองความน่ารักของเขาจัดวางหนังสือเล่มต่างๆลงบนชั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน
แอบมองอยู่ไม่นานก็เหมือนยุนกิรู้ตัว ตาคมภายใต้เลนส์หนาเตอะตวัดมองแล้วบอกว่ามองทำไมนักหนา โฮซอกในตอนนั้นได้แต่ยิ้มแหยแล้วหัวเราะแฮะๆ ยอมรับว่าตอนแรกทำอะไรก็ติดๆขัดๆกล้าๆกลัวๆ เพราะยุนกิเป็นความรักครั้งแรก แอบทำตัวไม่ถูกอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงหรือเริ่มต้นยังไง
แต่หลังจากที่เขารู้ว่าอีกคนแก่กว่าเขาหนึ่งปี สุดท้ายเขาเลยหาวิธีเข้าใกล้มินยุนกิด้วยมุขโง่ๆ เช่น ช่วยสอนการบ้านหน่อย ช่วยหาหนังสือทำรายงานหน่อย ช่วยติวเข้ามหาวิทยาลัยหน่อย ฯลฯ อีกคนทำหน้าทำตาไม่พอใจทุกครั้งแต่ก็ช่วยอยู่เสมอ โฮซอกคิดว่านั่นเป็นสัญญาณที่ดี
ต้องขอบคุณยุนกิในวันนั้นอยู่เหมือนกันที่ช่วยสร้างโฮซอกในวันนี้ ตอนนี้เขาเรียนจบแล้ว มีงาน มีเงิน มีรถ มีคอนโดเป็นของตัวเอง..
ไม่สิ ต้องเรียกว่าคอนโดของเขาและมิน ยุนกิ
" มองอะไรนักหนา อยากโดนสันหนังสือฟาดให้ตาแตกหรือไง "
" มองรักแรกของตัวเองก็ผิดหรือไง "
" มองมาตั้งหลายปีไม่เบื่อหรือไง "
" ต่อให้มองต่อไปอีกสิบปีก็ไม่เบื่อ "
" ปากดี "
" เอวก็ดีด้วย "
มิน ยุนกิถอนหายใจแล้วกรอกตา ยังดีที่เขามาต่อปากต่อคำกันในห้องสมุดขนาดเล็กนี่ อีกคนถึงทำได้แค่พูดจาสวนเขาเบาๆไม่มีการลงไม้ลงมือเหมือนอย่างเคย แล้วอีกอย่างพวกเขาไม่ได้ใช้เสียงดังนะ พวกเขาทำตามกฎของห้องสมุด ตอนนี้สองร่างแทบจะเบียดเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่รอมร่อ ริมฝีปากแทบจะจรดอยู่ที่ใบหูของอีกฝ่ายเวลาพูด
" วาเลนไทน์จะเดทที่ไหนดี "
" ต้องมาทำงานที่ห้องสมุด "
" โคตรแย่เลยแฟนไม่มีเวลาให้ "
" แล้วนายไม่มีการไม่มีงานทำหรือไง "
" ก็ว่างยาวๆเลยนี่นา "
" ถ้างั้น.. ก็มาด้วยกันสิ "
โฮซอกกอดเอวบางก่อนจะทำหน้าไม่เข้าใจ ยิ่งเห็นแก้มใสนี่ใกล้ๆก็ไม่อยากจะห้ามใจ อยากจะภาวนาให้มันหมดวันไวๆเขาจะได้กลับบ้านไปฟัดแก้มนิ่มนี่ให้ช้ำให้หนำใจ
" วันนั้นห้องสมุดปิด แต่ฉันต้องมาจัดหนังสือ "
" .. "
" นายก็มาด้วยกันสิ "
อีกร่างพลิกตัวหันหน้าเข้าหาเขา ส่วนสูงที่ห่างกันพอประมาณแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกดีจนแทบบ้า แขนเล็กของยุนกิเอื้อมมาคล้องรอบคอเขา ไม่เพียงแค่นั้นแต่อีกคนยังออกแรงดึงรั้งต้นคอให้ใบหน้าใกล้กันมากขึ้นกว่าเดิม จอง โฮซอกดันจนแผ่นหลังของยุนกิแนบชิดกับตู้หนังสือ
" มาอยู่ด้วยกัน แค่นายกับฉัน "
" .. "
" แค่เราสองคน "
ยุนกิยกยิ้มที่โฮซอกมองว่ามันโคตรพ่อจะน่ารักแต่มันก็แฝงความร้ายกาจและเย้ายวน
" ก็เอาสิ ผมตกลง "
เอ่ยตอบแล้วส่งยิ้มกลับไป
จะว่าไปแล้ว..
เดทที่ห้องสมุดก็ไม่แย่นะว่ามั้ย :-)
_______________________________________________________________
555555555555555555555555555555555555555555555555
เหมือนหลุดคีย์เวิร์ดเลยง่ะ แต่เราพยายามสื่อนะว่าพิ่โฮซอกไม่เคยมีความร้าก
พี่ยุนกินี่คนแรกแถมเข้ามาเปลี่ยนชีวิตเรยน้า /-\
ไหนๆก็จะวันวาเลนไทน์แล้วเราเลยโยงเข้าวาเลนไทน์ไปด้วย
มั่วเลยทีนี้ แง5555555555555555555555555555555555555555555555 T^T
ยังไงก็ฝากโด้ยนะค้าบร้ากๆๆๆนะ
ความคิดเห็น