คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : #11 ความพยายามกลายเป็นศูนย์ 50%
แอ๊ด...
เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างแผ่วเบาท่ามกลางรัตติกาลอันเงียบสงัดของพระราชวังแห่งธีบส์
พายในชุดนางกำนัลเก่ามอซอ คลุมผ้าสกปรกแบบทาสหญิงค่อยๆเยี่ยมหน้าออกมาภายนอก
ระเบียงทางเดินยาวนั้นมีคบไฟปักไว้ที่ห่วงทองแดงข้างทางเป็นระยะ เงาสีดำที่ทอดทับไปยังผนังหินทรายบิดเบี้ยวไม่เป็นรูปร่างราวกับเงาปีศาจ...พายกระชับผ้าคลุมหน้าแน่นด้วยมืออันสั่นเทา บรรยากาศช่างเป็นใจยิ่งนัก หนทางช่างสะดวกง่ายดายและเงียบงัน...เงียบจนเกินไปแล้ว
ร่างบางก้มหน้างุดในขณะที่ออกเดินตรงไปยังจุดหมาย...สถานที่ที่ใครๆต่างก็หวาดกลัวกันนักหนา
โถงทางเดินทิศตะวันตก !
เธอต้องการดวงไฟพยากรณ์นั่น...เธอต้องการทางออกแห่งปัญหานี้
หากความโชคร้ายมาเยือน หากเจ้าหญิงเนเฟรอะไรนั่นกลับมายังพระราชวังธีบส์แล้วจับได้ว่าเธอไม่ใช่เนฟรูเรตัวจริง เธออาจจะโดนกำจัดทันทีเพื่อเป็นการเปิดทางสู่บัลลังก์ฟาโรห์ก็เป็นได้...การแก่งแย่งอำนาจคือสิ่งที่ทำลายความอ่อนโยนไปจากใจมนุษย์มานักต่อนักแล้ว
ใครจะรับรองได้ว่าพายจะอยู่รอดปลอดภัยที่นี่ ดังนั้นทุกโอกาสที่มี เธอต้องไขว่คว้ามันไว้ !
และแล้วระเบียงทางเดินก็มาถึงจุดแยก
โถงทางเดินอันมืดสลัวปรากฏอยู่เบื้องหน้า เมื่อคิดถึงเรื่องเล่าต่างๆนาๆของเหล่านางกำนัลก็ยิ่งทำให้พายอยากหันหลังกลับไปนอนบนเตียงอุ่นสบายในห้องบรรทมยิ่งนัก
“สู้เค้านะพาย...เธอทำได้ เธอทำได้...” หญิงสาวพึมพำเป็นการปลอบใจตนเอง ก่อนสูดลมหายใจลึกเพื่อรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี
และก้าวตรงเข้าไปสู่หนทางที่เธอไม่รู้เลยว่าจะมีอะไรรออยู่บ้าง
ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไร อากาศรอบกายก็ยิ่งดูจะหนาวเหน็บมากขึ้นเท่านั้น
พายกัดริมฝีปากในขณะที่อีกมือหนึ่งระผนังหินทรายหยาบไปเรื่อยๆกันหลงออกนอกเส้นทาง ทางเดินบางช่วงเป็นสีส้มสลัวด้วยแสงจากคบไฟข้างผนัง สลับกับบางระยะที่มืดมิด...เธอจำได้ว่าสิ่งก่อสร้างของชาวอียิปต์โบราณได้ซุกซ่อนกับดักมากมายเอาไว้ในความมืดที่หลอกตา
โถงทางเดินแคบๆถูกสร้างขึ้นจากหินทรายเช่นเดียวกับระเบียงทางเดินอื่นๆหากต่างกันตรงที่สถานที่นี้ดูเหมือนจะถูกละเลยทิ้งร้างจากความสนใจของผู้คนมานานนักหนาแล้ว รอยแตกหลายรอยจึงพาดยาวจากผนังด้านบนสุดลงมาเกือบถึงพื้นหินราวกับสายฟ้าในค่ำคืนแห่งพายุ...ใยสีขาวที่ถูกถักทอด้วยฝีมือเจ้าสัตว์แปดขาโยงระเกะระกะจากฟากหนึ่งไปอีกฟากหนึ่งจนดูน่าขนลุก
นี่ถ้าเอาซาวด์เอฟเฟกต์หมาหอนมาเปิดแถมด้วยนะ บรื๋อ...พี่ป๋องคงไม่ยอมพลาดที่นี่แน่ๆ
เส้นทางหักเลี้ยวไปทางซ้าย ด้วยความรีบร้อนทำให้หญิงสาวเลี้ยวโค้งอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันระวังตัว
เงาร่างสีดำพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วจากความมืดมิด !
“กรี๊ดดดดดดด !!!”
พายหลับตาปี๋หวีดร้องอย่างตื่นตระหนก แจ็กพอตแตก เธอเจอของดีเข้าให้แล้ว !
“ฮือๆอย่าทำอะไรฉันเลยนะ กลัวแล้วจ้า พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกช้างด้วย”
แทนที่เงาดำนั้นจะเริ่มหลอกหลอนแบบในหนังผีที่เคยดูมา พายกลับได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักเบาๆดังขึ้นแทนจนเธอชักเหวอ มือที่ไหว้ปลกๆทิ้งตกลงข้างตัว
หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ...
ร่างบางในชุดสีขาวกรุยกรายคลุมร่างมิดชิดยืนอยู่เบื้องหน้า ผ้าคลุมสีขาวและผ้าโปร่งที่ใช้ตวัดคลุมดวงหน้าจนเหลือเพียงดวงตาสีรัตติกาลในกรอบยาวรีล้อมด้วยแพขนตาหนาทำให้ยากที่จะระบุว่าเป็นผู้ใด นางยังคงป้องปากหัวเราะเบาๆกับท่าทางที่คงน่าขบขันเต็มทีของพาย นิ้วเรียวนั้นสวมแหวนเชือกถักสีดำดูแปลกตา
“ธะ...เธอเป็นใครกันน่ะ ?” พายรวบรวมความกล้าถามออกไป
แม้จะหยุดหัวเราะแล้วทว่าสตรีผู้นั้นยังคงยืนนิ่ง ไม่ตอบคำถามของเธอแต่อย่างใด
อาการนิ่งสนิทราวกับรูปสลักนั้นยิ่งเป็นเชื้ออย่างดีของความกลัวที่เพิ่มขึ้น...ค่ำมืดดึกดื่นเช่นนี้ ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับน่าหวาดกลัวเช่นนี้ คนปกติธรรมดาที่ไหนเลยจะกล้าเข้ามา...นอกจาก...นอกจาก...
ร่างโปร่งบางในชุดขาวเริ่มเคลื่อนไหวเล็กน้อย ก่อนหันหลังกลับเลี้ยวเดินกลับไปยังความมืดที่นางเพิ่งก้าวออกมา
บางสิ่งในความรู้สึกคล้ายบอกว่าเธอไม่ควรปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้เดินจากไปเฉยๆ ดังนั้นหญิงสาวจึงรีบลุกขึ้น ปัดฝุ่นออกจากอาภรณ์ที่สวมใส่ก่อนวิ่งตามพลางร้องเรียกร่างบางนั้น
“เธอ เดี๋ยวก่อน รอด้วยสิ เฮ้ วู้วววว”
ในความมืด...เธอมองเห็นเพียงปลายโถงทางเดินที่อยู่ไม่ไกลนัก ชายกระโปรงสีขาวปลิวผ่านเข้าไปในเวิ้งอุโมงค์ที่เจาะเข้าไปในผนังด้านซ้าย แสงสีแดงอมส้มสลัวรางทอออกมาจากที่นั่น...ดูเหมือนสิ่งที่เป็นผู้สร้างความสว่างจะซ่อนตัวอยู่ในเวิ้งอุโมงค์นั้นเอง
พายรู้สึกได้ว่ามือของเธอเย็นเฉียบตอนที่เธอก้าวมาหยุดตรงหน้าเวิ้งอุโมงค์ที่ปลายสุดโถงทางเดินทิศตะวันตก
ที่ด้านในสุดของห้องเล็กๆนั้น แท่นหินอ่อนเนื้อดีสีขาวบริสุทธิ์ราวแกะสลักจากปุยเมฆวางเด่นเป็นสง่า รองรับเทวรูปทองคำของเทพเจ้าอามุนราผู้มีศีรษะรูปเหยี่ยวประทับอยู่บนเรือสุริยะ แผ่นดวงอาทิตย์ทองคำกลางพระนลาตสะท้อนแสงสีส้มอมแดงของเปลวเพลิงในอ่างทองคำที่ลุกโชติช่วงล้อมรอบเรือสุริยะนั้นไว้...ราวทรงกำลังแล่นเรือข้ามทะเลเพลิงด้วยความงามสง่า
นี่เอง...ดวงไฟศักดิ์สิทธิ์แห่งอามุน-รา !
ร่างของพายโซเซไปพิงผนังหินอย่างอ่อนแรง ไม่ใช่ด้วยความยินดีที่ได้พบดวงไฟศักดิ์สิทธิ์หรอกนะ
ความรู้สึกนั้นเลือนหายไปนานแล้ว ตั้งแต่เธอค้นพบว่าถ้าหากไม่นับแท่นแห่งดวงไฟแล้ว เวิ้งอุโมงค์นี้...ว่างเปล่า
ใช่แล้วล่ะ ว่างเปล่า
ในเมื่อทางออกจากเวิ้งอุโมงค์มีเพียงทางเดียวคือต้องกลับออกมาทางเดิม และต้องเดินผ่านพายอย่างแน่นอน แล้ว...ร่างของหญิงสาวในชุดขาวผู้นั้นหายไปไหนกัน !
คำพูดของเฮมีหวนกลับมาสู่ความทรงจำ
‘...แต่ทว่าไม่มีผู้ใดเคยได้มันไป เพราะ ‘คา’ ที่รักษาดวงไฟนั้นจัดการคนโลภมากให้เสียสติไปทุกราย’
คราวนี้ ไม่เผ่นไม่ได้แล้วจริงๆนะ !!
ความคิดเห็น