ปรนนิบัติผิวสวยด้วยคุณค่าจากธรรมชาติ
ผู้เข้าชมรวม
566
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
1. ว่านหางจระเข้
ว่ากันว่าแม้แต่พระนางคลีโอพัตราก็ยังใช้ว่านหางจระเข้ ในการบำรุงผิวพรรณ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความรู้สมัยใหม่ในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมความงามนั้นก็หยิบจับเอาความรู้ดั้งเดิมมาประยุกต์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นภูมิปัญญาไทย หรือภูมิปัญญาพื้นบ้านต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีส่วนเป็นอย่างมากในการพิจารณาผลิตภัณฑ์เสริมความงาม
คุณค่าของว่านหางจระเข้นั้นมีมากมายเหลือเกินค่ะ นอกจากที่เราๆ รู้กันว่าจะสามารถใช้รักษาโรคบางโรคได้แล้ว ว่านหางจระเข้ยังใช้บำรุงผิว บำรุงเส้นผมได้อีกด้วย ทุกวันนี้จะเห็นว่ามีแชมพู และเครื่องสำอางหลายอย่างที่ใช้ว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ
คุณสมบัติพื้นฐานของว่านหางจระเข้ก็คือสามารถช่วยให้กระบวนการเมตะโบลิซึมทำงานได้เป็นปกติ ลดการติดเชื้อ สลายพิษของเชื้อโรค กระตุ้นการเกิดใหม่ของเนื้อเยื่อส่วนที่ชำรุด ฉะนั้นว่านหางจระเข้จึงถูกนำมาใช้เพื่อบำรุงผิวพรรณ ผู้ที่ใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผิวพรรณอยู่เป็นประจำ จะรู้สึกได้ชัดว่าว่านหางจระเข้มีส่วนช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง สดชื่น มีน้ำมีนวล และยังสามารถขจัดสิวและลบรอยจุดด่างดำได้ด้วย
* ว่านหางจระเข้เพื่อบำรุงผิว
ปอกเปลือกว่านหางจระเข้ออกให้เกลี้ยงใช้แต่เมือกวุ้นสีขาวใสที่อยู่ภายใน ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการแพ้ ก่อนใช้ควรตรวจสอบอาการแพ้ โดยใช้น้ำที่ได้จากวุ้นสีขาวของว่านหางจระเข้ทาตรงบริเวณต้นแขนด้านในแล้วทิ้งไว้สักครู่ ถ้าเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดงแสดงว่าแพ้ ไม่เหมาะที่จะใช้กับผิวหน้าอีกต่อไป ถ้าไม่มีอาการแพ้ก็สามารถใช้ได้ตลอด
เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีเสียงกระซิบแว่วมาอีกว่าใช้ว่านหางจระเข้ทาหัวสิวแล้วช่วยทำให้หัวสิวแห้งเร็วอีกด้วย ที่สำคัญว่านหางจระเข้ยังสามารถลดความแห้งกร้านและลดความมันของผิวหน้าได้ โดยคนที่มีผิวที่มันก็จะช่วยให้ลดความมัน คนที่มีผิวหน้าแห้งก็ยังรักษาความชุ่มชื่นของผิวไว้ได้ โอ้ว เห็นความอะแมสซิ่งของมันรึยังล่ะคะคุณขา
2. งา
งาเม็ดดำๆ หน้าตาแม้จะดูไม่ค่อยน่ารับประทาน แต่ขอบอกค่ะว่าคุณค่านั้นล้นหลามมากมายเรียกได้ว่าคุณสมบัตินั้นใหญ่โตเกินตัวจริงๆ ค่ะ งาเป็นพืชล้มลุกให้เมล็ดเป็นจำนวนมาก เมล็ดงามีทั้งสีดำและสีขาว ในเมล็ดงาแต่ละเมล็ดนั้นมีน้ำมันอยู่ประมาณ 45-54 %
โดยธรรมชาติน้ำมันงามีกลิ่นหอมน่ารับประทาน ใช้เติมแต่งกลิ่นอาหารจำพวกอาหารจีนจะทำให้ยิ่งหอมฟุ้งน่าเจี๊ยะเชียวค่ะ แฮ่ๆ แต่วันนี้เราไม่ได้มาเขียนรณรงค์ให้รับประทานเมล็ดงากันหรอกนะคะ คือ คุณเมล็ดงานั้นนอกจากมีสารอาหารอย่างแคลเซี่ยมอยู่ในปริมาณสูงรับประทานแล้วดีต่อสุขภาพช่วยเสริมสร้างกระดูกแล้ว
* เมล็ดงาเพื่อบำรุง วิธีใช้ก็ง่ายนิดเดียวค่ะ เพียงนำเอาเมล็ดงาสด มาบีบเอาน้ำมันงาออกโดยไม่ผ่านความร้อน ฟังดูอาจจะยาก แต่จริงๆ แล้วจะอาศัยวิธีการโขลก หรือตำเพื่อรีดเอาน้ำมันก็ได้ไม่ว่ากันนะคะ ที่สำคัญอุปกรณ์ที่ใช้ในการโขลก การตำหรือการรีดเอาน้ำมันจากเมล็ดงานั้นจะต้องสะอาดเอี่ยม (เพราะน้ำมันงาที่ได้จะต้องมาสัมผัสกับผิวของเราโดยตรง) หลังจากที่ได้น้ำมันงาสดๆ มาแล้วก็ใช้ทาผิวได้ทั่วตัว
เอ่อ...สำหรับคุณผู้หญิงที่ไม่มั่นใจในความสะอาดหรือหวั่นเกรงต่ออาการแพ้ ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งใช้ทาใบหน้าโดยตรง ให้ลองทาถู ทาถูผิวกายดูสักระยะ จากนั้นค่อยประเมิณดูผลลับก่อนจะเขยิบขึ้นไปทาที่หน้าสวยๆ คุณสมบัติก็เพื่อบำรุงให้ผิวพรรณดูผุดผ่องเป็นยองใย แถมยังช่วยประทินผิวให้นุ่มนวลไม่หยาบกร้านอีกด้วยล่ะค่ะ
3. แตงกวา
ถ้าจะว่ากันด้วยคุณสมบัติทางโภชนาการ “แตงกวา” ก็นับเป็นผักจิ้มที่มีวิตามินสูงอยู่นะคะ นอกจากนี้ในผลแตงกว่ายังมีเอนไซม์ซึ่งช่วยย่อยโปรตีนได้อีก และเอนไซม์ที่ว่านี้เองยังสามารถช่วยในการย่อยผิวหนังที่หยาบกร้าน ให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่มกว่าเกิดขึ้นมาแทนที่ เรียกง่ายๆ ว่าใช้ได้ดีในการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวนั่นล่ะค่ะ
* แตงกวากับการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว เอาแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยากเลยก็แล้วกันนะคะ บางคนเขาก็ใช้แตงกวาสดแช่เย็นสไลด์เป็นแว่นบางๆ วางแปะไว้บนใบหน้าที่ล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสาวๆ ที่มีผิวมันด้วยแล้วล่ะก็ การพอกหน้าด้วยแตงกวาแบบนี้จะช่วยลดความมันบนใบหน้าลงได้แบบเห็นผลกันจะๆ เลยล่ะค่ะ
ปัจจุบันเครื่องสำอางมากมายมีส่วนผสมของสารสกัดจากแตงกวา ไม่ว่าจะเป็น เจลล้างหน้า หรือโลชั่นทาผิว ช่วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน ทั้งยังช่วยสมานผิว แตงกวาเป็นผักที่หาง่ายมีประโยชน์แถมราคาถูกอีก ใช้ติดต่อกันเป็นประจำจะทำให้คุณทั้งสวย ทั้งสดชื่น
4. มะเขือเทศ
คาดว่าคุณๆ คงเคยได้ยินคำร่ำลือเกี่ยวกับสรรพคุณทางความงามของมะเขือเทศมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกแล้วใช่มั้ยคะ พวกผู้ใหญ่น่ะชอบบอกให้เรากิน กิน กิน แล้วก็กินมะเขือเทศ เพราะอะไรน่ะเหรอคะ... ก็เพราะว่านอกจากในมะเขือเทศจะมีสารแคโรทีนอยแล้ว ยังอุดมไปด้วยวิตามินหลายต่อหลายชนิดด้วยกัน
* มะเขือเทศเพื่อการสมานผิว
น้ำจากผลมะเขือเทศสุกจะมีสารซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียได้ ดังนั้นหากนำน้ำมะเขือเทศสดๆ มาพอกหน้าจะสามารถรักษาสิว สมานผิวหน้าให้เต่งตึง สดใสมีเลือดฝาด หรือถ้ามีเวลาคั้นน้ำมะเขือเทศสดๆ ล่ะก็ คุณผู้หญิงอาจจะใช้วิธีฝานมะเขือเทศเป็นแว่นบางๆ แล้วแปะลงบนผิวหน้า ทิ้งไว้ 10 15 นาที จึงใช้น้ำสะอาดล้างออกแบบนี้ก็เวิร์คไม่เบานะคะ
5. น้ำผึ้ง
นอกจากจะมีรสชาติหวานหอม กลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์แล้ว ในน้ำผึ้งยังประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส, ฟรุกโตส, ขี้ผึ้ง, ละอองเกสรดอกไม้, และฮอร์โมนเอสโตรเจนจำนวนเล็กน้อยอีกด้วย ทุกวันนี้น้ำผึ้งถูกใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางหลายชนิดด้วยกัน
* น้ำผึ้งเพื่อผิว เพื่อผม
คุณสมบัติของน้ำผึ้งสดๆ ยังสามารถใช้พอกหน้าทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้นได้ด้วย เท่านั้นยังไม่พอน้ำผึ้งยังมีคุณสมบัติช่วยสมานผิว ทำให้ผิวนุ่มนิ่มและเรียบเนียน น้ำผึ้งเป็นเครื่องสำอางจากธรรมชาติที่ให้ประโยชน์สูงและหาง่าย นอกจากนี้ยังใช้น้ำผึ้งบำรุงผม ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะช่วยบำรุงหนังศรีษะ และกระตุ้นการงอกของเส้นผม
ทั้งหมดนี้เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่มีการใช้สืบต่อกันมาเป็นเวลานาน และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามที่มีส่วนผสมของสมุนไพรผลิตออกมาให้เราได้เลือกช้อป เลือกใช้กันได้ไม่มีหยุดหย่อน
ผลงานอื่นๆ ของ whitewing ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ whitewing
ความคิดเห็น