ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประกายแก้ว

    ลำดับตอนที่ #1 : ลาวดวงดอกไม้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 52
      1
      27 ต.ค. 58



    “คีตะ..คีตกวี! ได้ฟังอยู่ไหมเนี่ย!” เสียงแว้ดของประธานสภาสาวทำให้ร่างสูงที่นั่งเหม่ออยู่สะดุ้งทันที

              “ฟังอยู่ครับ พี่มล” คีตกวีตอบทันควัน เขาเป็นเด็กหนุ่มอายุประมาณ๑๕-๑๖ปีที่มีเรือนผมสีน้ำตาลดำ ดวงตาสีอำพันทอประกายอ่อนโยน ดวงกมลมองขอบตาคล้ำๆของรุ่นน้องหนุ่มกับตั้งเอกสารที่กองสูงเป็นภูเขาเลากาด้วยความอ่อนใจ เธอชักจะสงสารรุ่นน้องคนนี้ที่มารับตำแหน่งสภานักเรียนโดยไม่ได้ตั้งใจซะแล้วสิ

              “พี่จะบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นมีประชุมสภาม.ปลาย นี่เราจะไปพักก่อนไหม สภาพดูไม่ได้เลย” เด็กสาวร่างโปร่งถามพลางมองรุ่นน้องที่อดหลับอดนอนเพื่อสะสางเอกสารจิปาถะที่เกินครึ่งเป็นของที่สภาคนอื่นฝากทำแทน “ไม่ต้องทำให้หมดก็ได้นะ เดี๋ยวพี่จะไปแว้ดใส่พวกมักง่ายแบบนี้ให้ทีหลัง”

              “ช่างมันเถอะครับ ผมชักจะชินแล้วล่ะ เกิดพี่ไปวีนใส่พวกนั้นก็หาว่าผมเป็นเด็กเส้นพี่ซะเปล่าๆ” คีตะตอบพลางถอนหายใจ “อีกอย่างงานก็จะเสร็จแล้วครับ เมื่อกี้ผมแค่พักสายตาเฉยๆ”

              “อืม นี่ก็เย็นมากแล้วล่ะ เรากลับไปพักก่อนเถอะ”

              “ครับ” เด็กหนุ่มรับคำ เขาบิดตัวเพื่อยืดเส้นยืดสายก่อนจะลุกขึ้นไหว้รองประธานนักเรียน

              “สวัสดีครับ พี่มล”

              “จ้า เจอกันวันพรุ่งนี้นะ” มลรับไหว้พลางบอกลารุ่นน้องคนขยัน ดวงตาสีนิลมองคีตกวีที่เดินออกไปแล้วเธอจึงเดินกลับไปเก็บของที่โต๊ะทำงานของตนเอง

              ท้องฟ้าถูกฉาบด้วยแสงสีส้ม บ่งบอกว่าเวลานี้เป็นเวลาเย็นมากโขแล้ว คีตะก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะพบว่า นี่เป็นเวลาที่เขาควรจะกลับบ้านได้แล้ว

              “เวรล่ะ โดนยัยแคทด่าแหงมเลย” เขาพึมพำ

              ..ล ฟซล ดํรํ.. เสียงขิมที่แว่วมาเป็นเพลงอันไพเราะทำให้ฝีเท้าของเด็กหนุ่มหยุดชะงัก จากที่ตั้งใจจะรีบสาวเท้ากลับบ้าน กลายเป็นว่าเขากำลังเดินเข้าไปยังเรือนไทยในสวน ที่ตั้งของห้องดนตรีไทยและเป็นที่มาของเสียง ไวเท่าความคิด มือหนาแหวกพุ่มไม้ที่บังตาออก ภาพที่เขาเห็นคือเรือนไม้สีน้ำตาลที่มีหลังคามุงกระเบื้องแบบโบราณสีแดงตั้งตระง่านอยู่ มีเด็กสาวคนหนึ่งนั่งเล่นขิมอยู่ตรงนั้น เธอมีเรือนผมสีน้ำตาลเข้มที่มัดรวบเป็นหางม้า ราวกับเธอจะรู้ว่ากำลังถูกจับจ้องอยู่ ร่างบางหันมายังทิศทางที่คีตกวีที่ยืนอยู่ทันที ดวงตาสีน้ำตาลเข้มฉายแววตระหนกเล็กน้อยเมื่อพบว่าตนเองเป็นเป้าสายตาอยู่

              “ง่า..ขอโทษครับ พอดีผมฟังเสียงขิมเพลินไปหน่อย” เขาอธิบายพลางเกาหัวแกรกๆเพราะความเก้อเขิน “ขอโทษที่มารบกวนนะครับ”

              เด็กสาวยิ้มออกมาอ่อนๆราวกับขำกับกิริยานั้น เธอส่ายศีรษะเป็นเชิงว่าไม่เป็นไรก่อนจะหันไปตั้งสมาธิกับเล่นขิมต่อ เสียงเพลงอันอ่อนหวานทำให้เด็กหนุ่มอดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า

              “ขอโทษนะครับ เพลงนี้ชื่อว่าเพลงอะไรเหรอ?”

              มือบางหยิบสมุดสเก็ชต์ภาพขึ้นมาแล้วเขียนอะไรบางอย่างลงไป เสร็จแล้วเธอจึงชูมันขึ้นมา เผยให้เห็นข้อความบนนั้น

              ลาวดวงดอกไม้น่ะ

              ดวงตาสีอำพันของคีตะเบิกกว้างเมื่อนึกถึงสมมุติฐานที่แวบเข้ามาในหัว เขามองเด็กสาว เธอยิ้มเศร้าๆแล้วชูสมุดขึ้น เผยให้เห็นข้อความอีกประโยคหนึ่งที่พึ่งเขียนขึ้นมาใหม่

              ขอโทษที คือฉันเป็นใบ้น่ะ อย่าใส่ใจเลย

              “...”

              ดวงตาโศกที่หรุบลงทำให้คีตกวีรู้สึกแย่มากขึ้นไปอีก ดวงตารูปเมล็ดอัลมอนด์มองร่างบางด้วยความรู้สึกผิด เด็กหนุ่มพะงาบปากอ้าหุบราวกับปลาขาดน้ำ แต่เขาก็ไม่สามารถทำให้คำพูดที่ติดอยู่ในคอหลุดออกมาได้

              ..ขอโทษ..

              ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมา แต่รู้ตัวอีกที่ก็ไม่เห็นเด็กสาวนั่งอยู่ตรงนั้นแล้ว แต่ขิมที่ยังคงตั้งอยู่นั้นบ่งบอกว่าสิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่ความฝัน คีตะขนลุกซู่ เมื่อนึกว่าตนเองอาจจะเผชิญกับเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติอยู่ เขารีบลุกขึ้นยืน คว้ากระเป๋าแล้วเดินออกมาจากบริเวณนั้น ทว่าใบหน้าคมสันก็ยังหันกลับไปด้วยความค้างคาใจและรู้สึกผิด

              เรายังไม่รู้จักชื่อของเธอเลย

              และความรู้สึกนั้นยังคงรบกวนเด็กหนุ่มอยู่ตลอดคืน



    writer's talk

    สวัสดีนักอ่านทุกๆคนค่ะ ผู้เขียนมีนามปากกาว่ามุกไฟ ซึ่งมาจากการตกแต่งโดยใช้เปลือกมุกไฟฝังไปในเครื่องเรือนหรือเครื่องดนตรีเช่นซอ ใครจะเรียกว่าไรเตอร์หรือว่ามุกก็ได้ค่ะ ไม่ขัดศรัทธา เอาเป็นว่าเรามาคุยกันเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ

    เรื่อง เสียงเรียกจากดนตรีไทยนี้ เป็นเรื่อนที่เขียนเกี่ยวกับวงดนตรีไทยของโรงเรียนแห่งหนึ่ง(ซึ่งก็คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจากโรงเรียนที่ผู้เขียนเรียนอยู่นั่นแหละ) จริงๆกะจะให้เป็นโปรเจคก์จบการศึกษาของรองปธ.ชมรมที่ว่า แต่อย่างจะทดลองดูว่าจะเขียนดีพอรึเปล่าก็เลยนำมาลงเว็บเพื่อดูความคิดเห็นก่อนน่ะค่ะ

    ส่วนหากใครอ่านไปแล้วรู้สึกว่า "เอ ตัวละครนี่มันคุ้นๆนะ หรือมันจะเป็นเพื่อนฉันหว่า?" ขอบอกเลยค่ะว่าค่อนข้างจะมีสิทธิ์ เพราะตัวละครหลายตัวก็มีที่มาที่ไปจากคนรู้จัก(แน่นอนว่าส่วนใหญ่อยู่ในวง) แต่ถ้าใครสงสัยจริงๆ คุยกันนอกรอบได้ค่ะ

    ติชมหรือแจ้งคำผิดได้ค่ะ ไม่กัด ถึงกัดก็ฉีดยาแล้ว(ฮา)

    ฝากนิยายเรื่องเสียงเรียกจากดนตรีไทยด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×