ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chavala ชวาลา

    ลำดับตอนที่ #29 : รูปถ่าย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 77
      0
      18 ส.ค. 57

     

    5

    รูปถ่าย

     

                หนึ่งคืนอันยาวนานได้ผ่านพ้นไป หลังจากที่เทวาอาการดีขึ้น อชิค่อยพาเขากลับไปหาอาจารย์เจตนา และรอคอยเวลาจนถึงรุ่งเช้าคณะเดินทางจึงสามารถออกนอกแปลงเกษตรไปได้อย่างราบรื่นกว่าที่คิด ที่บริเวณประตูหน้าได้กลายเป็นบริเวณร้างที่ไม่มีใครคอยคุมเฝ้าอีกต่อไป เนื่องจากผู้คุมทุกคนได้ถูกฆ่าทิ้งจนหมด และคนงานก็พากันหนีออกไปทางประตูหลัง ยามนี้จึงหลงเหลือแต่เพียงร่องรอยของการต่อสู้ รอยเลือดที่แห้งกรัง และร่างอันไร้ชีวิตให้พวกเธอได้รู้สึกสะท้านอยู่ในใจยามที่ก้าวพ้นออกไปจากที่แห่งนี้

                เหตุการณ์ที่เธอได้ประสบร่วมในครั้งนี้ หญิงสาวไม่อาจลืมมันได้ทั้งชีวิต

                และด้วยเนื่องมาจากว่าความตั้งใจที่จะใช้แปลงเกษตรเป็นที่พักสักคืนได้ล้มเหลวไปอย่างเห็นได้ชัด คณะเดินทางจำต้องหาที่กางเต้นท์นอนหลังจากที่เริ่มเดินทางต่อได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงด้วยความเป็นห่วงสภาพร่างกายของเทวาที่ได้รับบาดเจ็บหนักพอสมควร โชคยังดีที่เทวาเตรียมพร้อมอุปกรณ์พยาบาลมาดี และปฐมพยาบาลตัวเองเอาไว้อย่างยอดเยี่ยม แผลจึงไม่มีการติดเชื้ออักเสบ ถึงกระนั้นแล้วอาการบาดเจ็บของเขาก็เป็นเรื่องที่ต้องระวังรักษา และให้สบายใจเลยคือเดินทางกลับเสียตั้งแต่ตอนนี้

                ใกล้จะถึงแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”

                เทวาย้อนถามเสียงเรียบหลังจากที่อชิเริ่มเปิดประเด็นว่าควรหยุดการเดินทางไว้เสียตั้งแต่ตอนนี้

                ผมไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก บาดแผลไม่ลึกชายหนุ่มว่าช้าๆ ขณะเหยียดยิ้มบาง ถ้ากลับกันเสียตอนนี้ผมจะยิ่งไม่สบาย เราไปกันต่อเถอะ

                บทสนทนาในยามรุ่งเช้าของอีกวันหลังจากที่พักผ่อนในเต้นท์กันเต็มที่แล้วจบลงที่ตรงนี้ ทั้งๆ ที่หญิงสาวปรึกษากับผู้เป็นอาจารย์อยู่เป็นนานสองนานก่อนจะเอาเรื่องนี้มาคุยกับเทวา

                ทนอีกครึ่งวันแล้วกันนะอาจารย์เจตนาถอนหายใจอย่างจำยอม ก่อนที่ดวงตาจะกลับมาคมปลาบ แต่ถ้าเกิดแผลติดเชื้อขึ้นมาเมื่อไหร่ เราจะกลับทันที

                “ผมสบายดีมาก

                “เทวา ผมน่ะตั้งใจเอาคุณมาเพื่อคอยดึงๆ พวกผมเอาไว้ ขืนคุณมาดึงดันอย่างนี้เสียเอง แบบนี้ผมทำใจลำบาก

                ชายชราดูมีท่าทียุ่งยากใจยามเอ่ย ขณะที่เทวาเพียงขยับยิ้มรับอย่างเย็นใจ หญิงสาวที่ทีแรกเป็นคนที่รู้สึกลำบากใจที่สุด ขณะนี้กลับต้องเป็นฝ่ายพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้อย่างสุดความสามารถ

                ก็อาจารย์น่ะ ไม่ชอบให้ใครมาเป็นตัวป่วนมากกว่าตัวเองน่ะสิ ให้มารับบทผู้ใหญ่คอยห้ามปรามอย่างนี้มันเหมาะกันเสียเมื่อไหร่ ขนาดตอนที่เธอจะทำงานจบเกี่ยวกับคาวาน นอกจากจะไม่ห้ามแล้วยังยุยงให้เธอใส่ให้เต็มที่อีก ยังบอกมาอีกว่า

    การสื่อถึงความจริงน่ะ มีวิธีการอยู่มากมายที่ไม่ต้องพูดกันตรงๆ

                ขาถามมา คุณก็ไม่ต้องรับ แค่นั้นเอง

                อาจารย์เจตนามีหลายอย่างที่ทำให้เธอนึกถึงคาวาน เธอเลยชอบที่จะอยู่ด้วย แต่กระนั้นแล้วตัวตนของคาวานก็ยังคงชัดเจนที่สุดในความรู้สึกของเธอ

                จะดีแค่ไหนถ้าคุณยังอยู่ตรงนี้ …?

                ความคิดนี้มักทำให้เธอรู้สึกถึงพื้นที่กลวงเปล่าในหัวใจของเธอ

                แล้วการเดินทางในครั้งนี้จะเติมเต็มช่องว่าง หรือจะขยายพื้นที่ว่างให้กว้างขึ้นนั้น ก็เป็นอีกเรื่องที่เธอสงสัย

               

                คณะเดินทางใกล้เข้ามาจนถึงปลายทางในที่สุด ท่ามกลางพื้นที่รกร้าง มีซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ที่ยากจะจินตนาการถึงได้ว่าช่วงเวลาก่อนโลกเก่าจะล่มสลายนั้น มีเทคโนโลยีอันน่าตื่นตาตื่นใจบรรจุเอาไว้ภายในนี้มากมายเท่าไหร่ ลิฟท์ที่เคลื่อนที่จากชั้นแรกไปจนถึงชั้นสุดท้ายได้ภายในหน่วยเวลาวินาที เครื่องเร่งอนุภาค หุ่นยนต์ เครื่องพิมพ์สามมิติ หากแต่ความสนใจทั้งหมดทั้งมวลของอชิจดจ่ออยู่เพียงว่าคาวานได้ซ่อนห้องทำงานของเขาเอาไว้ได้นานขนาดนี้ได้อย่างไรโดยที่ไม่มีใครพบเจอ

                …มีอยู่จริงหรือ สถานที่ว่านั่น

                คาวานมีพี่ชายต่างพ่ออยู่หนึ่งคน เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานให้กับบริษัทขนาดยักษ์ชื่อว่าเอสสัน ปาคาล เราเคยเข้าใจว่าคาวานนั้นมีปัญหากับครอบครัวและได้แยกตัวออกมาในภายหลัง จึงไม่ค่อยมีใครรู้ว่าคาวานมีน้องชาย แต่ฉันพบมาว่ามีการติดต่อกันอย่างลับๆ ระหว่างคาวานกับปาคาลมาตั้งแต่ภายในห้าปีแรกที่คาวานเริ่มเข้าทำงานให้กับองค์กรลับของกลุ่มสแกนดิเนเวียที่เริ่มต้นโครงการออร์โบโนวาซึ่งคาดว่ามีความเกี่ยวข้องกับการล่มสลายของโลกเก่า

                ชายชราเริ่มต้นอธิบายหลังจากที่พวกเขาทั้งหมดได้ผูกม้าทิ้งไว้ทางด้านหน้า และเริ่มต้นก้าวเข้าไปในบริเวณซากปรัก ทั้งสามต่างสวมใส่ถุงมือยางสีขาว

                ดูเหมือนว่าห้องลับนี้จะถูกสร้างขึ้นหลังจากที่ปาคาลได้ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารของบริษัท และหนึ่งปีก่อนที่โลกเก่าจะล่มสลาย ก็ได้มีข่าวการตายของคาวาน เจตนาเหลือบมองหญิงสาวที่ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าด้วยอาการสงบนิ่ง แต่ฉันเพิ่งจะได้หลักฐานสำคัญมาเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ช่วงเวลาที่คาวานน่าจะตายไปแล้ว เขาอาจใช้ชีวิตซ่อนตัวอยู่ที่ห้องวิจัยลับใต้ดินซึ่งน้องชายของเขาได้สร้างไว้ให้

                “ผมเองก็ไม่เคยเข้าไปข้างในนั้น และไม่อาจบอกได้ว่า เราจะกลับไปมือเปล่าหรือได้พบความลับที่คาวานได้ซ่อนเอาไว้ในช่วงเวลาหนึ่งปีก่อนที่โลกเก่าจะล่มสลาย

                ดวงตาของหญิงสาววูบไหว

                เมื่อภาพของบุรุษในความทรงจำที่กำลังจะตายอยู่ที่นี่ถูกจำลองขึ้นมาในมโนภาพ

                จะทำอย่างไหร่หากไม่ใช่แค่ความลับของคาวานจะถูกค้นพบขึ้นที่นี่ แต่ที่นี่จะยังเป็นสถานที่สุดท้ายซึ่งเขาได้ทิ้งลมหายใจไป

                ที่แท้แล้วเธอไล่ตามเขามาเพื่ออะไรกัน?

                เพื่อความปรารถนาสุดท้ายที่เขาได้ฝากเอาไว้กับเธอ หรือเพื่อความปรารถนาของเธอที่เริ่มต้นขึ้นมานับตั้งแต่เขาจากไป?

     

                “ข้างในนี้

                ชายชราเอ่ยเสียงเรียบ ขณะที่พวกเขาทั้งหมดมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องๆ หนึ่งซึ่งถูกซ่อนอยู่ในชั้นที่ลึกลงมาใต้ดิน ทั้งประตูและผนังโดยรอบถูกสร้างขึ้นด้วยโลหะอย่างเดียวกัน ทางด้านเข้าถูกล๊อคเอาไว้ด้วยระบบแสกนม่านตา และรหัสหกตัว

                เรื่องระบบสแกนม่านตาผมเตรียมวิธีแก้มาแล้ว ส่วนรหัสหกตัวนั้นค่อยวัดใจกันว่าเราจะเข้าไปได้อย่างมีอารยะหรือใช้กำลังแบบคนเถื่อน

                อาจารย์เจตนาว่าพลางเอาแผ่นขนาดบางทาบลงที่ช่องแสกนม่านตา อชิไม่รู้ระบบการทำงานของเครื่อง แต่ดูเหมือนว่าขั้นตอนตรวจสอบลายนิ้วมือจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

                “จากลักษณะของคาวานที่ศึกษามา มีแนวโน้มมากว่ารหัสหกตัวนั้นจะเป็นตัวเลขแบบสุ่ม มากกว่าจะใช้ตัวเลขที่มีความเชื่อมโยงกับตัวเอง

                เทวาเอ่ยเสียงเครียด หันมองชายชราซึ่งถูกตั้งความหวังเอาไว้ว่าได้เตรียมการแก้ปัญหาเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว

                คราวก่อนผมมาพร้อมกับช่างเทคนิคฝีมือดี แต่ระบบของที่นี่ซับซ้อนเกินกว่าความรู้ของมนุษย์โลกใหม่หลายก้าว อาจต้องใช้วิธีระเบิดประตูเอา ผมไม่ค่อยอยาก เพราะหลักฐานสำคัญข้างในเสียหาย แต่ถ้าไม่มีทางเลือกก็ต้องทำ

                น้ำเสียงเรียบเฉยของเจตนาทำให้หนุ่มสาวทั้งสองพร้อมใจกันสูดลมหายใจเข้าแรงๆ หญิงสาวยกแขนขึ้นมากอดอก สายตาจดจ้องอยู่ที่เครื่องคีย์รหัสอย่างครุ่นคิด

                “เรื่องน่าจะต่างออกไป ถ้าคาวานต้องการให้ห้องนี้ถูกค้นพบ

                เธอว่าพลางขยับก้าวเข้าไป

                ถ้าคีย์รหัสผิดติดกันสามครั้ง ห้องจะปิดล๊อคเป็นเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง

                ผู้เป็นอาจารย์เอ่ยเตือน ทว่าหญิงสาวไม่สนใจ

                หกตัวรหัสหกตัว

                อชิสูดลมหายใจเข้าลึก พร้อมกับความรู้สึกมั่นใจบางอย่างที่วิ่งพล่านเข้ามาอย่างน่าประหลาดคาวานจะต้องอยากให้เธอได้เข้าไปเห็นสิ่งที่อยู่ในนี้อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นด้วยอุปนิสัยของเขาแล้วคงทำลายสถานที่แห่งนี้ทิ้งไปตั้งแต่คราวที่เขาเดินทางมายังอนาคต

                หญิงสาวรวบรวมความมั่นใจอีกครั้ง ก่อนจะยื่นมือไปคีย์รหัสลงบนเครื่อง

                ปุ่มไฟจุดติดขึ้นเป็นแสงสีเขียว

                “…ผ่านรึนี่

                เจตนาส่งเสียงครางด้วยความประหลาดใจ

                “รหัสคืออะไร

                กระทั่งเทวายังจ้องมองเธออย่างฉงน ดวงตาคมปลาบภายใต้แว่นทรงกลมนั้นจ้องมองมาที่เธอด้วยอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อน หากแต่หญิงสาวมองข้ามคำถามที่อยู่ในแววตาของคนทั้งสอง และดื่มด่ำอยู่กับอารมณ์ซาบซึ้งใจของตัวเองที่มีต่อชายผู้อยู่ในอดีต

                อชิยกมือขึ้นแตะบานประตูอย่างนุ่มนวล

                น้ำตาเอ่อคลอ 

                …รหัสคือวันเกิดของเธอ

                หญิงสาวจ้องมองบานประตูซึ่งยามนี้กลไกขยับเปิดทางให้เธอก้าวเข้าไปในห้องที่ถูกปิดล๊อคมานาน เธอออกแรงที่ฝ่ามือ ก้าวย่างเข้าไปด้านในด้วยหัวใจที่เงียบสงบ

                อะไรกันคือสิ่งที่คุณอยากให้ฉันได้เห็น?

                สิ่งแรกที่ปรากฏขึ้นแก่สายตาเมื่อคณะเดินทางได้เข้ามาหยุดยืนอยู่ภายในห้อง คือเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ มีสายไฟห้อยโยงรยางค์ พวกเขาไม่รู้ว่าเครื่องนี้มีไว้ทำอะไร แต่สิ่งที่แน่ชัดในความรู้สึกก็คือ สิ่งนี้อาจเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่น่าทึ่งที่สุดเท่าที่เขาได้ประสบมา

                สภาพสมบูรณ์มาก

                อาจารย์เจตนาอุทานออกมาด้วยความรู้สึกทึ่ง ไม่รีรอที่จะก้าวเข้าไปพิจารนาใกล้ๆ อย่างกระตือรือร้น ราวกับว่าไม่หลงเหลือความสนใจให้กับพื้นที่อื่น ขณะที่เทวายังคงกวาดตามองไปโดยรอบ และเมื่อแน่ชัดดีแล้วว่าภายในห้องแห่งนี้ไม่น่าจะมีอะไรที่เป็นประเด็นสำคัญเท่ากับเจ้าเครื่องจักรขนาดใหญ่นี่อีก เขาก็ตัดสินใจก้าวตามเข้าไปสำรวจ

                ยังทำงานได้ไหม

                “ผมจะพาช่างเทคนิคที่ไว้ใจได้มาตรวจสอบดูอีกทีนี่มันมีไว้ทำอะไรกันแน่นะ เกินความคาดหมายจริงๆ

                ในการเดินทางครั้งนี้เจตนาจงใจเลือกสรรมาเฉพาะคนที่เขาให้ความไว้วางใจ จึงไม่ได้นำผู้เชี่ยวชาญในแขนงอื่นๆ มาเผื่อ เนื่องด้วยการกระทำของพวกเขาครั้งนี้ หากล่วงรู้ไปถึงพวกเงาเมื่อไหร่ก็จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งยวด ยังไม่นับเรื่องที่ในยามนี้คาวานได้กลายเป็นกุญแจสำคัญของการล่มสลายของโลกเก่าอีกด้วย

                …บางทีอาจจะเป็นไทม์แมชชีน

                อชิคิดพลางจ้องมองเครื่องจักรด้วยสายตาเรียบนิ่ง เธอไม่ได้เอ่ยถึงความคาดเดาของตัวเองออกไป ก่อนที่จะกวาดสายตามองไปรอบห้องอย่างละเอียดถี่ถ้วน หยุดลงและจดจ่ออยู่ที่มุมหนึ่งซึ่งคาดว่าจะเป็นโต๊ะทำงานของคาวาน มันดึงดูดเธออย่างเหลือเชื่อ

                หญิงสาวเอื้อมแตะมือของตัวเอง สัมผัสได้ถึงไออุ่นภายใต้ถุงมือยาง ขณะที่ขาก็พาร่างก้าวเข้าไปใกล้ รีบเร่งทว่าระแวดระวัง ไม่ทันที่ความคิดจะได้ทันทำงาน เธอเอื้อมดึงส่วนที่ดูคล้ายกับลิ้นชักออกมา ภายในนั้นมีหนังสือเล่มโต และเอกสารมากมายบรรจุอยู่ เธอตั้งใจจะเอ่ยเรียกให้อาจารย์เจตนาเดินมาดู บางทีในนี้คงมีอะไรที่บ่งบอกรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องจักรที่แสนจะน่าทึ่งนั่น

                ทว่าสายตาของเธอได้หยุดลงที่รูปใบหนึ่ง มันคว่ำลงนอนนิ่งอยู่บนกองเอกสารทั้งหลาย

                เธอหยิบมันขึ้นมาโดยไม่คิดอะไร พลิกกลับเพื่อดูว่าเป็นรูปอะไร

                ลมหายใจของเธอหยุดชะงัก

                คาวานในแบบที่เธอเคยคุ้น

    และข้างๆ นั้นมีอชิยืนอยู่

                ไม่ใช่อชิที่เป็นเด็กสาว แต่เป็นอชิที่เป็นหญิงสาว

     

                อะไรหรืออชิ

                เทวาเอ่ยถาม สายตาจับจ้องสังเกตมาที่หญิงสาวซึ่งยืนนิ่งไม่ไหวติงมาได้พักหนึ่งแล้ว อชิรีบเก็บซ่อนรูปใบนั้นเอาไว้ใต้ร่มเสื้อ ก่อนจะหันไปตอบชายหนุ่มด้วยท่าทางปกติ

                เอกสารน่ะค่ะ น่าจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องนี้ด้วย

                เธอหันปลายนิ้วไปที่เครื่องจักร เห็นอาจารย์เจตนาเริ่มเบนความสนใจมาที่เธอ ก่อนที่สองหนุ่มต่างวัยจะเดินเข้ามาหา และจ้องมองกองเอกสารที่อชิหยิบยกขึ้นมาวางบนโต๊ะอย่างสนอกสนใจ

                ชายชราสะดุดตาอยู่กับเอกสารชุดหนึ่ง เย็บมุมที่หัวอย่างง่ายๆ และเป็นเพียงกลุ่มกระดาษไม่กี่แผ่น เขาเอื้อมหยิบมันขึ้นมาอ่านพิจารนาอย่างผ่านๆ มือที่ปูดโปนไปด้วยเส้นเลือดชะงักค้างที่หน้าหนึ่งซึ่งมีภาพเสก๊ตของเครื่องจักรนั้นอย่างชัดเจน

                มีอักษรเขียนกำกับเอาไว้อย่างลวกๆ แปลได้ใจความว่า ข้ามเวลา

                “การเดินทางไปยังอนาคตหรือย้อนไปในอดีตเป็นไปได้แค่ไหนนะเทวา

                เจตนาเปรยถาม เขาเป็นเพียงนักประวัติศาสตร์ที่อ่อนด้อยเรื่องวิทยาการ ในขณะที่เทวาเป็นจิตแพทย์ที่นอกจากจะเด่นเรื่องจิตวิทยา ยังเป็นคนที่รอบรู้อะไรอย่างกว้างขวางอีกด้วย แน่นอนว่าชายหนุ่มอาจไม่ใช่มือดีที่สุดในแต่ละเรื่อง หากก็เป็นบุคคลเอนกประสงค์ที่ชายชรานึกถูกใจ

                โดยส่วนตัวผมคิดว่าการเดินทางไปในอนาคตมีความเป็นไปได้ การเทเลพอร์ตที่เราใช้กันในทุกวันนี้ก็มีความใกล้เคียงกับการเดินทางไปยังอนาคต แต่การย้อนกลับไปในอดีตผมจินตนาการไม่ออกเลยว่าจะเป็นไปได้อย่างไร

                เทวาตอบเรียบๆ หากแต่สีหน้าท่าทางให้ความสนใจที่เอกสารในมือของอาจารย์เจตนาไม่แพ้กัน

                สิ่งนี้คือไทม์แมชชีนหรือครับ ทำงานได้จริงไหม?”
                “คงต้องตรวจสอบกันอีกที แต่ถ้าเกิดเจ้านี่เป็นของจริง คงต้องเป็นเรื่องใหญ่ระดับมนุษยชาติเลย

                คำตอบของผู้อาวุโสทำให้อีกหนุ่มสาวทั้งสองได้แต่ยืนเงียบ มีเพียงอชิเท่านั้นที่นิ่งเงียบไปด้วยรู้ดีว่าใช่ ของจริงไม่ผิดแน่

                เราจะเก็บหลักฐานและเอกสารที่สำคัญกับไปวิเคราะห์กันอีกที ข้อมูลพวกนี้ต้องใช้เวลาในการแปล เผื่อว่าเราอาจได้ข้อมูลอะไรที่น่าสนใจยิ่งไปกว่าไทม์แมชชีน

                …ทว่าภายในวันนั้น

    พวกเราไม่ได้พบอะไรมากไปกว่าเท่าที่มี 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×