ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chavala ชวาลา

    ลำดับตอนที่ #30 : จดหมายเรียกตัว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 53
      0
      12 ธ.ค. 57

      

    6 

    จดหมายเรียกตัว

     

                หลังจากที่คณะเดินทางเก็บตัวอย่างหลักฐานเท่าที่จำเป็นมาครบถ้วน และเดินทางกลับมาจนถึงเขตหนึ่งก็ได้แยกย้ายจากกันไปชั่วคราว รอเวลาให้อาจารย์เจตนาซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบตรวจสอบหลักฐานและเอกสารจนเรียบร้อยจึงนัดหมายกันอีกที ซึ่งระหว่างนี้อชิจำเป็นต้องทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยให้อาจารย์เจตนาในขั้นตอนเหล่านี้ด้วย หากแต่ยังไม่ใช่ในวันนี้ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีสำหรับอชิผู้ที่สมาธิกระเจิดกระเจิงอย่างยากจะควบคุม

                หญิงสาวเดินทางกลับบ้านพักด้วยอาการเลื่อนลอย ตลอดการเดินทางพลั้งเผลอยกมือขึ้นมาแตะบริเวณหน้าอกตรงที่เก็บรูปเอาไว้ในกระเป๋าเสื้ออยู่บ่อยครั้ง และหักห้ามใจอย่างที่สุดเพื่อที่จะไม่หยิบรูปภาพนั้นขึ้นมาดู รวมไปถึงความคิดวิตกจริตไปถึงขั้นว่ารูปนั้นอาจไม่มีจริง

                อชิกลับมาถึงบ้านอีกทีในยามวิกาล ไฟในตะเกียงทุกดวงดับมอดเว้นบริเวณหน้าบ้าน ดูเหมือนว่าทุกคนในบ้านจะนอนหลับกันหมด รวมไปถึงลูกชายเจ้าของบ้านที่ดูเหมือนว่าจะกลับมาแล้วในช่วงระหว่างที่เดินออกเดินทาง เธอสังเกตได้จากรองเท้าคู่ใหม่เอี่ยมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

                ไม่ช้าคงได้เจอกัน…หญิงสาวคิด สายตาละจากรองเท้าคู่นั้น

                อชิเดินต่อเข้าไปจนถึงห้องพักของตัวเอง วางกระเป๋าทิ้งไว้ อาบน้ำและเข้านอน เพื่อที่จะพบว่าราตรีนั้นยิ่งยาวนานกว่าปกติ มือทั้งสองข้างของเธอสอดประสานกันที่บริเวณเหนือหน้าอก ใต้มือน้อยๆ นั้นมีรูปถ่ายคู่ระหว่างเธอกับคาวานแอบซ่อนอยู่

                ไม่อาจข่มตาลงได้อย่างง่ายดาย…

     

                หญิงสาวตื่นมาอีกทีในยามสาย อันที่จริงเธอทำเรื่องในการลางานสำหรับวันนี้ทั้งวันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว จึงน่าจะใช้เวลาที่เหลือในวันนี้หมดไปกับการพักผ่อนเสียมากกว่า หากแต่เธอก็ยังคงฝืนลุกขึ้นจากเตียง และคิดถึงภารกิจมากมายต่างๆ ที่เธอคิดเอาไว้ว่าจะทำ ซึ่งทั้งหมดก็มีไว้เพียงเพื่อนจุดประสงค์เดียวคือการตามล่าหาความจริง รวมไปถึงคำตอบที่ว่าเธอควรจะทำอะไรกับข้อมูลในการเปลี่ยนยีนกลับมาเป็นยีนโลกเก่าที่คาวานได้ทิ้งเอาไว้ให้เธอตัดสินใจ

                โดยรวมแล้วแม้วันนี้เธอจะตื่นขึ้นมาอย่างอ่อนล้าจากการนอนไม่เต็มอิ่ม ทว่าแรงใจนั้นเต็มเปี่ยม

                เนื่องจากวันนี้อชิตื่นสาย จึงทำให้พลาดการเจอกับลูกชายเจ้าของบ้านพักไปอีกครั้งอย่างน่าเสียดาย เธอได้ยินว่าเขาต้องออกไปทำธุระจัดการเกี่ยวกับพิธีแต่งงาน ส่วนเธอเองประเดี๋ยวก็คงต้องออกไปทำภารกิจระดับโลกอะไรของเธอต่อไป

                …กระทั่งจดหมายจากทางการถูกส่งเข้ามาถึงในมือเธอ

                ส่งมาเมื่อวานแหนะหนู

                คุณป้าเจ้าของที่พักบอก หญิงสาวรับมาด้วยความรู้สึกนิ่งเฉยไม่มีอาการเอะใจแต่ประการใด และยังคงเตรียมตัวเดินทางต่อไปยังศูนย์เก็บหลักฐานสำคัญทางวิทยาศาสตร์ที่เขตหนึ่งตามแผนเดิม อชิใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการเขียนงานวิจัยตามคำสั่งให้กับทางการจนกระทั่งได้รับสิทธิ์ในการเข้ามาในที่แห่งนี้จนได้ กระทั่งพื้นที่ที่เธอจะเข้าไปดูในวันนี้ก็นับเป็นพื้นที่ที่พิเศษมากอีกเช่นกัน จำเป็นต้องเล่นเส้นสายพอสมควรเพียงเพื่อที่จะให้ได้สิทธิ์นี้มาโดยเลือดตาแทบกระเด็น ซึ่งก็คือพื้นที่ในส่วนของการเก็บเอกสารงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ที่สำคัญในช่วงทศวรรษก่อนอารยธรรมโลกเก่าล่มสลาย

                ออร์โบโนวา

                โครงการสำคัญที่อาจไขกุมความลับทั้งหมดของการล่มสลายของโลกเก่า งานหลักที่เธอทุ่มเทค้นหาอยู่ ทว่าคว้าจับไม่เคยได้

                หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ขณะที่ยกข้อมือส่วนที่เป็นนัลฝังอยู่ขึ้นมาทาบเครื่องแสกน เพื่อที่จะเปิดเข้าไปยังพื้นที่ข้างใน ทว่าแทนที่จะตัวอักษรสีเขียวจะปรากฏขึ้นอย่างที่ควร กลับกลายเป็นอักษรสีแดงแจ้งชัดอยู่บนตัวเครื่อง

                ใบอนุญาติถูกระงับใช้ชั่วคราว

                หญิงสาวชะงักมือค้างอย่างงุนงง

    พลันหวนถึงถึงจดหมายจากทางการขึ้นมา มือเธอล้วงเข้าไปในกระเป๋าโดยอัตโนมัติ สัมผัสถึงเนื้อกระดาษอันเย็นเยียบของซองจดหมายที่นอนนิ่งอยู่ในกระเป๋า

                อชิหันหลังกลับแล้วเร่งสาวเท้าไปทางพื้นที่ในมุมอับสายตาผู้คน มือบางค่อยๆ เปิดซองจดหมายแล้วกวาดสายตาอ่านด้วยอากัปกิริยาที่เนิบช้า หากแต่ภายในใจนั้นปั่นป่วนรุนแรง

                หมายเรียกถึง คุณอชิ

                เพียงบรรทัดแรกที่เธอกวาดตาอ่าน ก็บ่งชัดถึงสถานการณ์ของเธอในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี

                เธอถูกทางการเรียกไปสอบสวน

                จดหมายแบบเดียวกันอย่างที่พ่อของเธอได้รับเมื่อหกปีก่อน

     

                อชิรู้สึกว่าตัวเองมีความทรงจำที่กระจ่างชัดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเธอได้กลับมาที่ศาลาในไร่องุ่นร้างที่เขตบ้านเกิด สถานที่ซึ่งได้กลายเป็นเป็นที่พักพิงให้เธอในยามอ่อนล้า เธอยังคงมีเวลาเหลืออีกสามวันในการรายงานตัว ไม่เช่นนั้นจะถูกจับกุมในข้อหากบฏไปอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

                ทว่าเธอจะไปรายงานตัวภายในวันนี้แหละ ประวิงเวลาไปก็เท่านั้น

                ด้วยเหตุนี้จึงมีเรื่องที่เธอจะต้องทำคือเขียนจดหมายขึ้นมาสองฉบับ ฉบับหนึ่งส่งถึงอาจารย์เจตนาเพื่อขอความช่วยเหลือในกรณีที่พวกเงาตัดสินใจกักตัวเธอเอาไว้ อีกฉบับให้ชานุ เพื่อที่เขาจะได้แจ้งเตือนพ่อแม่ของเธอหากในกรณีที่เธอหายตัวไป

                หญิงสาวไม่ได้คุยกับพ่อแม่ของเธออย่างจริงจังมานานแล้ว ยิ่งโดยเฉพาะกับเรื่องงานซึ่งมีแนวทางบางอย่างที่ขัดแย้งกัน เหตุผลหนึ่งก็เนื่องมาจากที่เธอเคยปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือกับหมอทัศนัยเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ซึ่งแม้กระทั่งมาจนถึงทุกวันนี้เธอก็ไม่เปลี่ยนใจ

                อชิเชื่อว่ากลไกบางอย่างสามารถถูกเปลี่ยนได้อย่างละมุนละม่อมกว่าการปฏิวัติ และเธอก็มีอาวุธในการเปลี่ยนยีนของมนุษย์โลกใหม่ให้กลับมาเป็นมนุษย์โลกเก่าที่คาวานเคยไว้วางใจฝากเอาไว้กับเธอ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป หญิงสาวมีปริศนาสองเรื่องที่จำต้องไขให้กระจ่างชัด

                หนึ่งคือสาเหตุที่แท้จริงของการล่มสลายของโลกเก่า สองคือสาเหตุที่เธอมียีนที่ต่างไป

                อาจถึงเวลาที่พ่อแม่ต้องให้คำตอบกับเธอบ้างแล้ว

                อชิพับเก็บจดหมายทั้งสองฉบับเอาไว้กับตัว ลุกขึ้นยืน ย่างก้าวออกไปจากไร่องุ่นร้างด้วยฝีเท้าที่มั่นคง

     

                หลังจากที่หญิงสาวทำการส่งจดหมายเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินทางต่อมายังที่บ้าน อชิผูกม้าเอาไว้กับรั้วหน้าบ้าน ก่อนจะขยับกริ่งเรียก

                ร่างหนึ่งก้าวพ้นออกมาจากภายในบ้าน น่าแปลกที่ไม่ใช่พ่อของเธอแต่เป็นแม่

                อชิ!”

                ปวีร์ร้องเรียกลูกสาว ก่อนที่โผเข้ามากอด อชิขยับยิ้มจาง ยกแขนขึ้นกอดตอบอย่างนุ่มนวล

                เป็นยังไงบ้าง ลูกไม่ค่อยติดต่อมาเลย

                “มีเรื่องให้คิดเยอะน่ะค่ะ

                ปวีร์เงียบนิ่งไป เข้าใจดีว่าเรื่องที่ต้องคิดของอชินั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรคุยกัน

                เข้ามาในบ้านก่อนสิผู้เป็นแม่ทอดมองมาที่เธออย่างอ่อนโยน เห็นแววตาของอชิไม่ผิดไปจากคนที่ต้องการคำตอบบางอย่าง พ่อไม่อยู่ แต่แม่เชื่อว่าแม่มีคำตอบให้มากกว่า

                คำตอบที่อชิต้องการทวงถาม

                หลังจากที่อดทนรอมาถึงสี่ปี

                หญิงสาวนึกย้อนไปถึงเมื่อสี่ปีก่อน เป็นช่วงเวลาที่เธอเพิ่งจะเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษามาได้สักระยะ และเริ่มที่จะคิดหาคำตอบอย่างจริงจังเกี่ยวกับยีนที่ต่างออกไปของตัวเอง เธอพยายามที่จะตามสืบด้วยการค้นหาเอกสารเท่าที่มีในบ้าน แต่แน่นอนว่าย่อมยากที่จะเป็นไปได้ในการค้นเจอหลักฐานบางอย่างจากคนรอบคอยอย่างเช่นพ่อแม่ของเธอ ดังนั้นอชิในตอนนั้นจึงตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปถามผู้เป็นพ่อตรงๆ และได้คำตอบมาเพียงว่ายังไม่ถึงเวลา

                แล้วตอนนี้เล่า? อชิคิดว่าแม้แต่ตอนนี้ก็ช้าไปสำหรับเธอด้วยซ้ำ

                ไปตักน้ำมาไป เราคงจะคอแห้งกัน

                ปวีร์บอก อชิทำตามอย่างว่าง่ายและใจเย็น ทั้งที่หัวใจนั้นกำลังเต้นถี่ด้วยความรู้สึกมั่นใจบางอย่างว่าวันนี้จะเป็นวันที่เธอได้รับคำตอบมา แม้จะไม่ทั้งหมดแต่คงต้องได้อะไรมาบ้าง

                เป็นคำถามเดียวกับที่ลูกเคยถามพ่อเมื่อสี่ปีก่อนใช่มั้ย

                ผู้เป็นแม่เกริ่นขึ้น

                ค่ะ

                “ตอนนั้นพ่อของลูกบอกอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่รู้แล้วก็เหมือนเรียกให้ดาบหันคมเข้ามาที่ตัว

                “หมายความว่าตอนนี้บอกได้?”

                อชิพูดเร็วๆ แสดงความใจร้อนออกไปอย่างไม่ปิดบัง หลังจากที่เธอไปตามหมายเรียกแล้วพวกเงาจะทำอะไรกับเธอก็ช่าง อย่างน้อยเธอก็ขอรู้ความจริงในเรื่องนี้เสียก่อน

                “แม่เห็นดาบที่กำลังจ่อรอบคอพวกเราทั้งคู่เพียบเลย เพิ่มไปอีกก็ไม่เท่าไหร่

                ปวีร์เอ่ยหน้าตาย อชิขยับยิ้มขำ เธอไม่ค่อยได้คุยอะไรกับแม่เยอะเหมือนกับพ่อก็จริง แต่ก็เคยชินว่าแม่ของเธอก็เป็นคนพูดจากอย่างนี้นี่แหละ

                แม่ไม่รู้หรอกนะว่าลูกกำลังตามสืบอะไรอยู่ แล้วตอนนี้ลูกรู้มากแค่ไหน ถือข้อมูลอะไรอยู่ในมือบ้างแต่แม่ก็คิดว่าไม่ควรช้าไปกว่านี้อีกแล้วหากลูกต้องการจะได้รับความจริงเรื่องนี้ปวีร์ทิ้งช่วงไปครู่หนึ่ง สีหน้าครุ่นคิด เคยอ่านหนังสือชื่อยี่สิบตุลาคม สองหนึ่งศูนย์ที่เขียนขึ้นโดยนายแพทย์ปิยะไหม

                “ไม่ไม่เคย

                หญิงสาวตอบไปพลางคิดพลาง หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เธอนึกอยากอ่านมานานมากแล้ว แต่หาอ่านได้ยากเหลือเกิน แม้กระทั่งอาจารย์เจตนาเองก็ไม่มี ทว่าส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากตัวเธอเองที่ยังไม่ได้ลองพยายามตามหาอย่างจริงจัง อาจจะเพราะเธอมัวแต่ไปสืบถึงเรื่องอดีตในช่วงก่อนที่โลกเก่าจะล่มสลาย จนละเลยเหตุการณ์ในอดีตที่ไม่ควรจะมองข้ามอย่างเช่น 20 ตุลา

                มันถูกเขียนขึ้นโดยแพทย์ที่รับผิดชอบครรภ์ของแม่ตอนตั้งท้องลูก ลองไปตามสืบเรื่องนี้เอาเองแล้วกัน ไม่ยากสำหรับลูกหรอกปวีร์ขยับยิ้ม ”…ทีนี้เราจะมาเข้าเรื่องกันจริงๆ ดีกว่ามีเรื่องหนึ่งที่พวกเงาได้หลอกเรามาโดยตลอด

                รอบด้านเงียบกริบ หญิงสาวกลั้นหายใจ

    ยีนของเด็กจะถูกปรับเปลี่ยนในช่วงแรกของการเริ่มครรภ์

    อชิมนุษย์โลกใหม่ไม่ได้รับยีนแบบนี้มาโดยวิธีการธรรมชาติ

     

                หญิงสาวทั้งรู้สึกถึงความหนักอึ้งและโล่งสบายอยู่ในทีเดียว เบาตรงที่ได้รับคำตอบที่สงสัยมาเนิ่นนาน หนักตรงที่ใจซึ่งรู้สึกขึ้นมาอีกครั้งว่าโลกนี้มันช่างโหดร้ายเหลือเกิน

                หมอคนที่รับผิดชอบครรภ์ของแม่เธอนั้นไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว หลังจากเธอเกิดมาได้เพียงไม่กี่วันก็มีการตีพิมพ์หนังสือที่เขียนถึงเหตุการณ์ในวันที่ 20 ตุลาคม 210 ขึ้น ซึ่งเขียนถึงเหตุการณ์ครั้งที่มีการพยายามปฏิวัติครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกใหม่ น่าเศร้าที่ทุกอย่างจบลงโดยที่สูญเสียทุกชีวิตไปอย่างโหดร้าย และถูกพยายามทำให้ลืมเลือนไป ซึ่งนายแพทย์ท่านนั้นก็ถูก กำจัดไปเพียงด้วยสาเหตุที่มาจากการพยายามตีแผ่และรื้อฟื้นเหตุการณ์ครั้งนั้นขึ้นมา

                ผู้เขียนถูกฆ่า หนังสือถูกเก็บกวาดทำลายล้าง

                หากแต่เธอยังมีชีวิตอยู่ ยีนตามธรรมชาติที่เธอมีอยู่ก็เป็นผลเนื่องมาจากความตั้งใจของนายแพทย์ปิยะ และกลุ่มของหมอทัศนัยก็ยังคงพยายามสืบทอดเจตนารมณ์ของกบฏ 20 ตุลา

                อชิย้ำชัดกับตัวเองอย่างหนักแน่นว่า หากเธอรอดพ้นจากการรายงานตัวกับพวกเงาในครั้งนี้มาได้ด้วยดี อย่างแรกที่เธอตั้งใจจะทำก็คือตามหาหนังสือเล่มนั้นมาอ่านให้ได้เสียที

                เรื่องหนึ่งที่น่าตกใจที่สุดที่เธอเพิ่งจะรู้มาวันนี้คือยีนของมนุษย์โลกใหม่ที่มีความต่างจากมนุษย์โลกเก่านั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาจากกระบวนการธรรมชาติอันเนื่องมาจากระยะเวลาที่ยาวนาน พวกเงาเข้าไปยุ่งเกี่ยว และปรับเปลี่ยนยีนของเด็กที่อยู่ในครรภ์เพื่อให้เติบโตขึ้นมาเป็นประชากรในอุดมคติ หรือจะเพื่อการควบคุมหรืออะไรก็แล้วแต่ เรื่องนี้นั้นเป็นเรื่องโหดร้ายอย่างที่สุดเรื่องหนึ่งที่พวกเงาได้คิดสร้าง อชิรู้สึกคลื่นไส้ ไม่ใช่เรื่องปกติเลยที่เธอจะรู้สึกปั่นป่วนไปด้วยความโกรธแค้น และเกลียดชังที่แผ่พุ่งเข้ามา

                รุนแรง และแผ่วจาง

                กลายเป็นความเศร้าเข้ามาแทนที่

                หญิงสาวรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเธอกลับมาที่ศาลาในไร่องุ่นแล้วเริ่มต้นร้องไห้

    โศกเศร้าไปกับชะตากรรมของทุกคนที่เธอรัก 

     

                อชิเดินทางไปตามหมายเรียกด้วยอาการสงบนิ่งอย่างประหลาด หากแต่ภายในสมองนั้นทำงานอย่างหนักหน่วงเพื่อที่จะรับส่งข้อมูลทุกอย่างเตรียมพร้อมสำหรับการสอบสวน เมื่อสักครู่หญิงสาวได้ติดต่อไปหาอาจารย์เจตนา ดูเหมือนว่าทางด้านนั้นจะไม่มีอะไรผิดปกติ สาเหตุจากหมายเรียกครั้งนี้จึงไม่น่าจะเกี่ยวโยงกับห้องทำงานลับของคาวานที่พวกเธอลักลอบกันไปสำรวจอย่างผิดกฏ

                ที่ผ่านมาแม้หญิงสาวจะคอยสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับทั้งเรื่องคาวานและเรื่องสาเหตุที่แท้จริงของการล่มสลายของโลกเก่าซึ่งเป็นเรื่องต้องห้าม แต่อชิก็ได้ดำเนินการทุกอย่างอย่างรอบคอบโดยความช่วยเหลือของชานุซึ่งคอยลบร่องรอยการเคลื่อนไหวของเธอ ถึงกระนั้น หากพวกเงาตรวจพบร่องรอยบางอย่างที่ยังหลงเหลือ ก็อาจเป็นไปได้ว่าเธอจะถูกสอบสวนในเรื่องนี้

                ขออย่างเดียวคือพวกเงาจะรู้เกี่ยวกับความผิดปกติของร่างกายเธอไม่ได้อย่างเด็ดขาด!

                เวลานี้อชิรู้สึกโดดเดี่ยวเหลือเกิน อดคิดไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไรหากเธอทำงานร่วมกับหมอทัศนัยเป็นไปได้ไหมว่าทุกอย่างจะดีกว่านี้

                หญิงสาวหลับตาแน่น นึกถึงรูปถ่ายของเธอและคาวาน

                พลันสายตากลับมาทอประกายกล้า

                เธอจะต้องหาคำตอบให้กับตัวเองให้ได้ เรื่องนี้สำคัญต่อสิ่งที่คาวานวางใจฝากไว้กับเธอ การปฏิวัติของหมอทัศนัยเป็นวิถีทางซึ่งนำไปสู่สงคราม และนั่นเป็นสิ่งที่อชิไม่ต้องการ

                “คุณอชิใช่ไหม

                เจ้าหน้าที่เอ่ยถาม อชิยื่นส่งหมายเรียกให้เขาดู

                ส่งข้อมือมาด้วย

                หญิงสาวทำตามอย่างว่าง่าย ปล่อยให้อีกฝ่ายใช้เครื่องมือตรวจสอบนัลเพื่อยืนยันตัวตนของเธอ

                กรุณาเดินตามเจ้าหน้าที่ตรงนั้นไปเจ้าหน้าที่ชี้มือไปทางบุรุษอีกสองคนที่ยืนรออยู่ พวกเขาจะนำคุณไปรอที่หน้าห้องสอบสวน และการสอบสวนจะเริ่มขึ้นในอีกครึ่งชั่วโมง

                อชิกระตุกยิ้มที่มุมปาก

                ยากเหลือเกินจะข่มกลั้นความเกลียดชังที่มีอยู่

     

                หญิงสาวนั่งประสานมือสงบนิ่งรอคอยเวลา

                และประตูก็เปิดออก เธอยืนขึ้นและก้าวเข้าไปในห้องนั้น

                ขออนุญาตค่ะ

    อชิเอ่ยขึ้นก่อนจะนั่งลง เบื้องหน้าเธอเป็นม่านสีดำทึบ ไม่เห็นแม้กระทั่งว่าผู้ที่อยู่ตรงข้ามเธอนั้นเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หรือแม้กระทั่งมีจำนวนกี่คน

    หัวใจของเธอกระตุกวูบหนึ่ง นี่เป็นครั้งแรกของเธอสำหรับการได้เผชิญหน้ากับผู้คุมกฎ หรือพวกเงา

    คุณอชิผู้คุมกฎเอ่ยขึ้น เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเสียงที่ถูกดัดแปลงจากเสียงจริง ทราบไหมว่าเหตุใดคุณถึงมานั่งอยู่ตรงนี้

    ไม่ทราบค่ะ

    หญิงสาวพยายามตอบกลับอย่างใจเย็น แม้จะสัมผัสได้ชัดเจนก็ตามว่าอีกฝ่ายกำลังคุมคามตัวเธออยู่ ทั้งที่แค่ว่าด้วยความแตกต่างของสถานะที่มีอยู่ ก็เพียงพอแล้วจะทำให้เธอไม่อาจแสดงความแข็งกร้าวข้างในออกไปได้แม้เพียงแต่สักนิด

                คุณมีความประพฤติและประวัติหลายอย่างที่มีแนวโน้มจะออกนอกกฏ

                ออกนอกกฏรึ…? อชิพยายามห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มหยันหมายถึง กบฏมากกว่ากระมัง

                ขออภัยค่ะ ดิฉันขอทราบ

                หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ อีกฝ่ายนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ได้ยินเสียงพลิกหน้าของกระดาษ

                “บิดาคุณมีประวัติในการทำผิดกฎร้ายแรงมาก่อน คุณมีความสนิทสนมเป็นพิเศษกับอาจารย์เจตนาซึ่งถูกจับตามองมาสิบกว่าปีในฐานะที่ถูกสงสัยว่ามีความคิดออกนอกกฎ  งานวิจัยชิ้นหนึ่งของคุณเป็นเรื่องบุคคลต้องห้ามอย่างคาวาน และเรามีข้อมูลยืนยันมาว่าคุณกำลังสืบหาข้อมูลในช่วงสองปีก่อนที่โลกเก่าจะล่มสลาย

                อชิยิ้มเครียด หากแต่ภายในใจนั้นโล่งเบาเหมือนเพิ่งจะยกภูเขาออกไปจากอก ทีแรกเธอนึกว่าพวกเงาจะมีข้อสงสัยในตัวเธอที่รุนแรงกว่านี้ แต่สุดท้ายแล้วทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นเพียงข้อสงสัยที่ไม่มีน้ำหนักอะไร

                ดิฉันคล้ายกับอาจารย์เจตนาค่ะ แม้จะอยากรู้อยากเห็นไปบ้างด้วยความเป็นนักประวัติศาสตร์ แต่ดิฉันยังคงมีความภัคดีต่อ กฏและปรารถนาให้โลกใหม่นี้ดำเนินต่อไปด้วยความสุขสงบ

                “คุณอชิเสียงที่ผ่านการดัดแปลงของผู้คุมกฎเข้มขึ้นอย่างมีอำนาจ คุณอาจไม่ทันตระหนักถึงคำเตือนที่แฝงอยู่เมื่อครู่นี้ เราต้องการจะบอกคุณตรงนี้อย่างชัดเจนว่าเลิกสืบหาในสิ่งที่คุณกำลังสงสัยอยู่เสีย นี่เป็นความปราถนาดีเพื่อไม่ให้คุณหลงผิด

                นี่หรือสิ่งที่พวกเงาพูดคุยกับมนุษย์โลกใหม่ผู้ที่ได้ชื่อว่ามีอารยะกว่ามนุษย์โลกเก่า? ดูราวกับคำสั่งที่มีต่อสัตว์เลี้ยงเชื่องๆ เสียมากกว่า

                มาจนถึงตอนนี้อชิเริ่มกลัวกลัวความรู้สึกโกรธแค้นของเธอที่มีต่อพวกเงา

     ที่นับวันยิ่งจะทวีคูณ

     

       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×