ภพรัก (พบรัก) - นิยาย ภพรัก (พบรัก) : Dek-D.com - Writer
×

    ภพรัก (พบรัก)

    เหว่ยอ๋อง มองสิ่งพิลึกพิลั่นที่เกิดขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ เมื่อครู่ นางเดินผ่านร่างฮูหยินรอง ออกมาอย่างหน้าตาเฉย ตอนนี้ คนงามมาอยู่ตรงหน้า เหว่ยอ๋อง มองหญิงงดงามราวกับต้องมนต์สะกด

    ผู้เข้าชมรวม

    2,507

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    26

    ผู้เข้าชมรวม


    2.5K

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    44
    จำนวนตอน :  102 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  17 ส.ค. 67 / 05:56 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

             ตระกูลโม่ เป็นผู้นำชุมชน ในเขตแม่น้ำเหลียน

    บรรพบุรุษของพวกเขา อพยพหนีตายจากโรคระบาดที่คร่าชีวิตผู้คนมาจากหมู่บ้านเดิม ระหว่างทางพบกับผู้อพยพคนอื่น จึงรวมกลุ่มเข้าด้วยกันจากหลักสิบเพิ่มเป็นหลักร้อย หลักพัน

    พวกเขาต่างเดินทางรอนแรม จนกระทั่ง มาพบสถานที่แห่งใหม่ ที่เหมาะจะลงหลักปักฐาน

    จากหมู่บ้านเล็กๆ ขยายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีชีวิตที่ราบรื่นและสงบสุข

    วิถีชีวิตอันแสนสงบ มีได้ไม่นานก็ถูกรังควาญโดยกลุ่มโจรป่า

    โม่ยี่เซิ่ง บรรพบุรุษรุ่นแรกของตระกูลโม่ ผู้นำชุมชน จึงสร้างกองกำลังป้องกันตนเองขึ้น

    แม้จะแก้ปัญหาโจรป่าไปได้ แต่ก็ต้องพบเจอกับการรุกรานของชุมชนอื่น

    เพื่อปกป้องผู้คนของตน

    ยี่เซิ่ง จึงทำการใหญ่อีกครั้ง เขานำพาชาวบ้านช่วยกันสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา เมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ ป้องกันการบุกรุก ของกลุ่มต่างๆที่ไม่ประสงค์ดี

    จากความร่วมแรงร่วมใจของชาวเมือง

    ภายใต้การนำพาของโม่ยี่เซิ่ง

    ในที่สุด เมืองแห่งใหม่ก็ได้ถือกำเหนิด พวกเขาต่างขนานนาม เมืองของพวกเขาว่า เมืองเหลียง

    ในวันเฉลิมฉลองเมืองแห่งใหม่ ลานกว้างหน้าประตูเมือง ประชาชนเรือนหมื่น ต่างพร้อมใจกัน คุกเข่าลงจรดศรีษะลงพื้น

    ยกให้โม่ยี่เซิ่ง ขึ้นเป็นท่านอ๋องปกครองเมืองเหลียง

    อ๋องโม่ ได้พัฒนาระบบสาธารณะสุข เศรษฐกิจ การเกษตร ชลประทาน การคมนาคม อีกทั้งได้เขียนการจัดวางแผนงานต่างๆไว้ล่วงหน้า ในอีกห้าสิบปีข้างหน้า

    การขยายตัวของเมืองเหลียง ยิ่งพัฒนา ยิ่งมีความเจริญ

    ทำให้ผู้คนต่างมุ่งหน้า มาขออาศัยในเมืองแห่งความผาสุขแห่งนี้ มากขึ้น ส่งผลให้กองคลังสามารถเก็บภาษีในแต่ละปี ได้มากขึ้นเช่นกัน

    ยิ่งเห็นการพัฒนา เมืองเหลียงมีมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งกระตุ้นต่อมความโลภ ในกลุ่มผู้นำชุมชนอื่น ให้มีใจคิดแย่งครองเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ

    ทุกๆปี เมืองเหลียง ต้องพบเจอกับการรุกรานของชุมชนอื่นอย่างไม่ว่างเว้น ส่งผลกระทบต่อการทำไร่ทำนา ที่อยู่นอกกำแพงเมือง ชาวเมืองเริ่มขาดแคลนอาหารในบางช่วง

    ปัญหานี้ ถูกส่งต่อมาให้อ๋องโม่รุ่นที่สองและสาม

    หากอ๋องโม่รุ่นหนึ่ง คือนักคิดนักพัฒนา อ๋องโม่รุ่นที่สองและสาม ก็คือผู้ปกป้องและผู้รุกราน ในเวลาเดียวก้น

    มีการเคลื่อนพลไปเอาคืนชุมชนต่างๆ ที่มารุกราน สามารถขยายพื้นที่การปกครองออกไปเรื่อยๆ

    จนกระทั่งมาถึงรุ่นของ

    โม่เจิ้งเหยียน ผู้นำตระกูลโม่ และอ๋องปกครองรุ่นที่สี่ ว่ากันว่า เขาคือ อ๋องโม่รุ่นที่หนึ่งกลับชาติมาเกิด ผู้ที่สามารถรวบรวมดินแดนบริเวณที่ราบ ริมฝั่งแม่น้ำเหลียนอันกว้างใหญ่ไพศาลไว้ได้ทั้งหมด ที่ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วย แร่ธาตุ ที่ตกตะกอนทับถมมานับล้านๆปี จนสามารถปลูกพืชพันธ์ธัญญาหาร ที่อุดมสมบูรณ์ ข้าวทุกเม็ด ผักทุกต้น ล้วนงอกงามเจริญเติบโต เป็นอย่างดี

    ในขณะที่ดินแดนไกลห่างออกไป ซึ่งมีการรวบรวมผู้คน สร้างเมืองและตั้งตนเป็นอ๋องครองเมืองเช่นเดียวกับเมืองเหลียง เริ่มวางแผนยึดครองเมืองเหลียง อีกครั้ง

    จุดหมาย เพื่อแย่งชิงทรัพยากรและดินแดนมหาสมบัติแห่งปากท้องมาเป็นของตน

    ทำให้ อ๋องโม่เจิ้งเหยียน ต้องกรีฑากองทัพอันเกรียงไกรออกสู่สนามรบไม่หยุดหย่อน

    เพื่อปกป้องพื้นดิน อันเปรียบดั่งสมบัติล้ำค่าผืนนี้

    เมืองเล็กเมืองน้อย เมืองแล้วเมืองเล่า ที่อาจหาญท้าทายอำนาจกองทัพอันแข็งแกร่งเกรียงไกร ของโม่เจิ้งเหยียน กลับถูกกลืนกินเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดิน ตระกูลโม่โดยปริยาย

    จากการกรำศึกมาเป็นเวลายาวนาน ส่งผลให้

    โม่เจิ้งเหยียนล้มป่วย จนต้องกลับเมืองเหลียง

    ในช่วงสุดท้ายของชีวิต อ๋องโม่ ได้กำหนดดินแดนทั้งที่ถือครองอยู่เดิมและที่ยึดครองมาได้ทั้งหมดขึ้นเป็นแคว้น

    มีนามว่าเหลียงซาน

    และสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ พระองค์แรก แห่งราชวงศ์โม่

    พระองค์นั่งบัลลังก์ มองความผาสุข แห่งอาณาประชาราษฎร์ อย่างสงบ เป็นเวลาสองปี ในเวลาสองปีนี้ ก็เจ็บออดๆแอดๆ เพราะช่วงชีวิตทั้งหมด ส่วนใหญ่ จะรบทัพจับศึก อยู่แต่ในสนามรบ

    โม่เจิ้งเหยียน สิ้นพระชนม์ ในขณะที่นั่งชมอุทยานหลวง กายชราเอนพิง ซีผิงไทเฮา คนรักและพระชายาเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ ท่ามกลางดอกไม้ที่เบ่งบานงดงาม

    พระองค์จากไปพร้อมพระพักตร์ ที่อิ่มเอิบ

    ไปอย่างไม่ห่วง ไม่กังวล ด้วยเพราะมั่นใจในบุตรชายทั้งเจ็ด ว่าจะสามารถ ปกป้องดูแลดินแดนแห่งนี้ ตราบจนชั่วลูกชั่วหลาน

    ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของอาณาประชาราษฎร์ ทั่วทุกหนแห่ง

    ????????????????????????

    "ข้า มีนามว่าเวตารี ผู้มีชีวิตข้ามผ่านห้วงเวลา ข้าออกตระเวนท่องเที่ยว ผ่านห้วงมิติต่างๆ พบเห็นเรื่องราวอันแปลกประหลาดมากมาย ยามนี้ ข้าได้พบกับเรื่องราวที่จะนำมาบอกเล่าแก่พวกเจ้า พร้อมจะไปกับข้าแล้วหรือยัง อิอิ..."

    ?????????????????????????

    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นตามจินตนาการ ผู้แต่ง แต่งขึ้นเพื่อคลายเคลียดจากการทำงาน หากไม่ถูกใจใคร รบกวนผ่านไปอ่านเรื่องอื่นนะคะ กรุณาแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ ยินดีน้อมรับทุกคำติชมค่ะ

    การอัพนิยายอาจจะช้า ไม่ทันใจ

    ต้องขออภัยในความไม่สะดวกต่อผู้อ่านที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านทุกๆท่านค่ะ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น