คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Prologue
Insecure
Prologue
.
.
“พูดให้ฉันสบายใจทีว่านายไม่ได้ใช้ที่นี่เป็นที่ซุกหัวนอน”
เสียงแหบพร่าของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งเรียกให้ชายในเสื้อกล้ามสีดำเปียกชุ่มเงยหน้าขึ้นมาจากพื้นห้อง
คิ้วสีเข้มของคนที่พยุงตัวเองไว้ด้วยมือสองข้างเลิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพลิกตัวให้ปลายเท้าที่เคยชี้ขึ้นฟ้ากลับลงมาเป็นฐานของร่างกายได้อย่างที่ปกติสมควรจะเป็น
หวังจื่ออี้ เสยปอยผมดำยาวระใบหน้าที่หลุดออกจากปมด้านหลังลวกๆ
ชายหนุ่มเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนเก้าอี้ขึ้นซับเหงื่อบนใบหน้าและกดปิดแอพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือเพื่อให้ลำโพงบลูทูธรุ่นท็อปหยุดส่งเสียงบีทหนักๆออกมา
“Hi Bro”
“Broกับผีสิ
มาเอาไปเร็วๆ”
ชายร่างสูงโปร่งที่ยืนเท้าเอวพิงกรอบประตูมีสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก
โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าเด็กในสังกัดของตัวเองวางแผ่นเอกสารที่ตนอุตส่าห์ถ่อไปรับถึงบริษัทต้นสังกัดตั้งแต่เช้าตรู่ทั้งที่มีงานต้องสะสางลงบนเก้าอี้ตัวเดิม
แถมยังทำท่าจะเดินไปกดเปิดเพลงอีกรอบ
“หวังจื่ออี้”
จื่ออี้หันหน้ามาหาคนอายุมากกว่าซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการวงBBTอย่างเป็นทางการ เขาหยิบเอกสารที่ประทับตราสีฟ้าที่มุมกระดาษขึ้นอ่าน ช่องว่างสีเหลี่ยมด้านซ้ายมีรูปหน้าตรงของตนแบบเดียวกันกับที่ปรากฏบนฐานข้อมูลของบริษัทแปะอยู่อย่างเรียบร้อย
ขณะที่กล่องข้อความทางด้านขวายังว่างอยู่เป็นส่วนมาก
“รีบเขียนซะจื่ออี้
พรุ่งนี้ส่งใบสมัครวันสุดท้าย”
“ผมนึกว่าบริษัทจัดการหมดแล้วเสียอีก”
“ก็ส่วนหนึ่ง ข้อมูลพวกนี้นายต้องเขียนเอง
แล้วก็ลายเซ็นยินยอมรับข้อตกลงด้วย นั่นหยุดเลย ฉันรู้ว่านายอยากทำ
คนอื่นๆเซ็นกันไปหมดแล้ว เหลือแค่นาย”
ริมฝีปากได้รูปที่กำลังอ้าออกจำต้องหุบฉับ
จื่ออี้ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ที่แข็งเสียยิ่งกว่านั่งบนหิน
จรดปากกาลงบนช่องลายมือชื่ออย่างลังเลเล็กน้อย หมึกสีดำไม่ยอมออกมาตามแรงกดในทีแรก
แต่หลังจากพยายามขูดขีดมันลงบนที่ว่างข้างๆอยู่หลายครั้งท้ายที่สุดลายเซ็นของเขาก็ประดับอยู่ในช่องนั้นพอดิบพอดี
“เสร็จแล้วก็ไปกินข้าวกัน
พวกนั้นบอกว่านายหมกตัวอยู่ในนี้เป็นอาทิตย์”
จื่ออี้ขมวดคิ้วเล็กน้อยตอนที่ส่งเอกสารกลับให้ผู้จัดการคนเก่ง
หากยังไม่ทันได้ทักท้วงเสื้อแจ็กเก็ตสีแดงสดราคาครึ่งหมื่นก็ถูกโยนมาปะทะใบหน้าโชคดีที่ยังไม่มีส่วนไหนบุบสลาย
ชายหนุ่มถอนหายใจยาวทว่าริมฝีปากกลับเจือรอยยิ้มจางๆยามได้ยินเสียงบ่นอุบของคนมากประสบการณ์
“จะซ้อมก็รู้จักดูตัวเองเสียมั่ง
เพื่อนๆเขาเป็นห่วง ไม่ได้เต้นสักสองสามชั่วโมงคงไม่ขาดใจตายหรอกน่า”
“อยากจะทำให้ดีไงครับ ดีแล้วไม่ใช่เหรอ
จะได้ไม่มานั่งเสียใจทีหลัง”
ผู้จัดการร่างโปร่งเอียงศรีษะมองหนึ่งในสมาชิกที่ดีที่สุดของบริษัทก่อนจะแค่นหัวเราะในคอ
ไม่รู้จะพูดยังไงกับนิสัยดื้อกับความต้องการตัวเองของอีกฝ่าย
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ปฏิเสธจะเข้าร่วมด้วยเหตุผลล้านแปด ไม่พร้อมบ้างล่ะ
สมาชิกไม่เต็มที่บ้างล่ะ
แต่สุดท้ายก็แอบมาซ้อมคนเดียวจนดึกดื่นทุกวันให้ได้เป็นห่วงกันเล่นๆ
“ทีหลังอยากแข่งก็บอกกันตรงๆก็ได้”
.
.
หม้อไฟ
เนื้อสัตว์
บะหมี่
สามอย่างที่ทำให้จื่ออี้หยุดคิดเกี่ยวกับการซ้อมได้ชะงัดถูกวางลงตรงหน้า
ไอน้ำร้อนลอยฟุ้งเมื่อฝาหม้อถูกเปิดออกก่อนนานาเนื้อสัตว์และผักที่มีอัตราส่วนน้อยกว่าหนึ่งในสิบของปริมาณอาหารทั้งหมดถูกเทลงในหม้อโดยไม่ต้องมีพิธีรีตรอง
เสียงโครกครากของท้องไส้ดังคู่กับเสียงเดือดปุดของซุปสีแดงทำให้ช่วงเวลาแห่งการรอคอยกลายเป็นช่วงเวลาแสนทรมานที่สุขสม
“บะหมี่ก่อนไหม”
ไม่รอให้อีกฝ่ายถามซ้ำ
จื่ออี้ตวัดตะเกียบคีบเส้นหมี่นุ่มหนึบเข้าปากตัวเอง
โดยไม่ลืมจะคีบเนื้อสัตว์และผักในจานให้คนเป็นพี่ก่อน
“คนเขาจะคิดว่าบริษัทเราใช้งานนักร้องแบบแรงงานทาสก็เพราะนาย”
“ไม่มีใครเขาคิดแบบนั้นหรอกน่า”
ฉันนี่ไงคนนึง
คุณผู้จัดการคนเก่งคิดอยู่ในใจแต่ไม่ได้เอ่ยออกมา
เขาคีบเนื้อสไลด์ที่เริ่มจะสุกได้ที่ออกมาจากหม้อแล้วเริ่มจัดการอาหารของตัวเองเงียบๆเมื่อเห็นว่าเด็กในสังกัดกำลังวุ่นวายกับการจับทุกอย่างยัดเข้าปากเหมือนสัตว์ป่าที่หิวโซ
บางทีอาจจะไม่ใช่แค่แรงงานทาสก็ได้
“นี่พี่ ช่องนั้นน่ะ ใส่อัลฟ่าไปจะดีเหรอ”
หวังจื่ออี้เอ่ยถามขึ้นมาหลังรู้สึกว่าช่องว่างในท้องถูกเติมเต็มไปแล้วส่วนหนึ่ง
ผู้จัดการหนุ่มพยักหน้าขณะเคี้ยวกร้วมๆ
“บริษัทเห็นว่ามันเจ๋งดี ได้coolสมใจอยากแน่ ใครๆก็อยากเป็นอัลฟ่ากันทั้งนั้น”
“ไม่ดูข่มคนอื่นมากไปใช่ไหม ผมอยากให้คนเห็นผมเจ๋งที่ความสามารถมากกว่า”
ไม่เชิงว่าจะเป็นความกังวลไปเสียทีเดียว
อันที่จริงจื่ออี้มั่นใจในความสามารถของตนมากพอจะพูดได้ว่า
เขาจะกลายเป็นดาวเด่นของรายการเซอร์ไวเวิลที่เพิ่งลงสมัครไปได้ไม่ยาก
เขาต้องการสเตจดีๆสักครั้งก็เพียงพอให้ผลของความพยายามทั้งหมดที่ได้ลงแรงไปเปล่งประกาย
ถึงอย่างนั้นการที่ป่าวประกาศตั้งแต่ต้นว่าตนมีเพศรองเป็นอัลฟ่าทั้งที่ช่องไม่ระบุตัวตนก็เด่นหราอยู่ข้างๆ
ก็ดูจะเป็นการจงใจข่มขวัญผู้เข้าประกวดคนอื่นๆอยู่ไม่น้อย
ด้วยความคาดหวังต่อของอัลฟ่าที่มักจะเป็นผู้นำอยู่เสมอ
ความแข็งแกร่งที่ถูกเลือกแล้วโดยธรรมชาติทำให้เชื่อได้เลยว่าทันทีที่ข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ออกไป
หวังจื่ออี้กลายเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่คนจับตามองมากเป็นอันดับต้นๆ
อัลฟ่าที่มีจำนวนอยู่แค่ยี่สิบเปอร์เซ็นของประชากร
การจดจ้องที่ไม่จำเป็นแบบนั้นคงจะทำให้เขาเหนื่อยขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
สีหน้าเหมือนคนปวดท้องทำให้ชายอีกคนที่มีอักษรตัวบีสลักจางๆหลังใบหูต้องวางตะเกียบลงบนชาม
“นี่ปี2017นะครับผม ไม่ใช่มนุษย์ถ้ำที่อัลฟ่าจะออกล่าอาณานิคมสักหน่อย”
“อัลฟ่าไม่ได้ล่าอาณานิคมในยุคมนุษย์ถ้ำ”
ชายสูงวัยกว่ากลอกตาให้กับความดื้อด้านของชายหนุ่ม
แต่ก็ยอมหยิบเอกสารขึ้นมาแก้ไขข้อมูลและกากบาททับช่องไม่ระบุตัวตน
“เป็นฉัน ฉันจะใส่อัลฟ่าตัวโตๆ”
“สมมติผมเป็นโอเมก้าคงรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ถ้ามีคนทำแบบนั้น”
“ก็คงไม่ใช่ทุกคน”
จื่ออี้แปลกใจไม่น้อยกับคำตอบที่หลุดออกมาแทบจะทันทีของอีกฝ่าย
พี่ชายของเขาวางศอกลงบนโต๊ะลายหินอ่อนขณะทำท่าป้องปาก
“ช่ายสวี่คุน น่ะ
ได้ข่าวว่าระบุตัวเองว่าเป็นโอเมก้า ช็อกไหมล่ะ”
จื่ออี้ถือตะเกียบค้าง หัวใจกระตุกเมื่อนึกถึงใครบางคนที่โด่งดังเสียจนไม่น่าเชื่อว่าจะลงแข่งรายการเดียวกันกับเขาเสียด้วยซ้ำ
ความสามารถที่โดดเด่นจนเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งประเทศจีน
ไม่ต้องแข่งยังเดาได้เลยว่าคงจะต้องติดท็อปเป็นแน่
แล้วคนแบบนั้นกลับกลายมาเป็นโอเมก้า เพศรองที่ดูจะอ่อนแอที่สุดตามหลักธรรมชาติ
ทั้งน่าทึ่งและน่ากังวลไปพร้อมๆกัน
บอกว่าตัวเองเป็นโอเมก้าชัดเจนขนาดนั้น
จะไม่เป็นอะไรจริงๆน่ะหรือ
“เป็นอะไรไป . . . อ๋า
นายตามเขาอยู่นี่นะ นึกอยากเปลี่ยนใจให้ฉันเขียนอัลฟ่าลงไปไหม”
สีหน้ากรุ้มกริ่มของคนที่นั่งประจันหน้ากันทำให้จื่ออี้รู้สึกลำคอแห้งผาก
ก้อนเนื้อในอกเต้นตุบตับแต่ก็เอ่ยปฏิเสธออกไป เขาไม่ใช่คนเหยียดเพศ อัลฟ่าอยู่เหนือโอเมก้า
เรื่องพวกนั้นมันเก่าไปแล้วสำหรับยุคนี้
ช่ายสวี่คุนคงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของโอเมก้าที่เข้มแข็ง ทั้งสง่างามและสูงส่ง
เขาควรจะชื่นชม
แต่ก็นะ
โอเมก้าที่อายุย่างยี่สิบ จะปลอดภัยจริงๆเหรอ
อะไรทำให้เด็ก(ที่โคตรจะดูดี)นั่นมั่นใจได้ขนาดนั้นกัน
“อย่าไปเผลอกัดคอสวี่คุนเข้าล่ะ
แฟนคลับเป็นแสนนะจื่ออี้ ระวังตายศพไม่สวย”
“อย่าเหยียดเพศ”
“เปล่าเหยียด
แค่พูดสิ่งที่หน้านายแสดงออกมา”
จื่ออี้คำรามในคอใส่เบต้าที่แกล้งทำหน้าเหรอหรา
เขาครางฮึมฮัมขณะตัดอาหารใส่ปากหลังจบประเด็นเพศรองไปแล้ว
ไม่อยากปฏิเสธว่าตัวเองรู้สึกพอใจขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
จู่ๆก็อยากให้วันถ่ายทำวันแรกเป็นวันพรุ่งนี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“เตรียมโชว์ให้ดีล่ะ วันออดิชันจะได้เก็บออลเอ”
จื่ออี้ยกมือขึ้นลูบแมนบันของตัวเองป้อยๆก่อนละลดระดับมันลงมาแตะหลังใบหูตัวเอง
รอยแผลเป็นนูนที่สลักตัวอักษรคล้ายตัวเอ ณ ตำแหน่งนั้นเต้นตุบและร้อนผ่าว
หัวใจเขาบีบตัวในจังหวะเดียวกันกับเพลงที่เลือกใช้ในการแสดงความสามารถพิเศษของตัวเอง
หวังจื่ออี้มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้ดี
ถึงกระนั้นก็ยังตื่นเต้นจนออกอาการชัด
คงเพราะอาหารที่เพิ่งกินไปแน่ๆ หรือไม่ก็เพราะฟังเพลงนั่นจนเอียนในช่วงสองสามวันให้หลัง
ไม่ใช่หรอก
เหตุผลน่ะ. . .
เขารู้ตัวเองดีที่สุด. . .
TBC.
----------
เย้ เปิดเรื่องแล้ว แปะๆๆ
ยังไม่มีอะไรจะทอล์กมากเนื่องจากเป็นแค่โปรล็อก เอาเป็นว่าขอฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ
ถ้าจะหวีด พูดคุย ติชม กันในทวิตเตอร์ ฝากติดแท็ก #สวี่คุนเป็นโอเมก้า ด้วยนะคะ เค้าจะเข้าไปคุยด้วยทุกข้อความเลย
ยังไงฝากคู่นี้เอาไว้ แล้วก็ฝากคอมเม้นด้วยน้า จุ๊บ
ปอลิง ขอให้ได้เดกันทั้งคู่ เพี้ยง
ความคิดเห็น