คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ทะเลาะ
ตอนเย็น ขณะที่แก้วกับเอกกำลังนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ตรงหน้าโทรทัศน์รุ่นโบราณสภาพเก่าเก็บอยู่นั้น ฉันก็เข้ามาช่วยน้าสายทิพย์ตระเตรียมอาหารเย็นในโซนของห้องครัวเล็กๆ ซึ่งอยู่บริเวณหลังบ้าน ด้วยหวังจะญาติดีกับเธอดูบ้าง
“ให้ริณช่วยนะคะ” ฉันพยายามทำเป็นใจดีสู้เสือ และสังเกตเห็นว่าคุณน้าที่กำลังยืนล้างใบกระเพราอยู่ตรงซิงก์น้ำก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจรังงอนอะไร จึงถือเสียว่าเธอได้อนุญาตแล้วละกัน
“งั้นเดี๋ยวหนูช่วยหั่นผักให้นะคะ” ฉันบอกแล้วจึงจัดแจงคว้าหัวแคร็อทที่เตรียมไว้ลงหั่นกับเขียงไม้ทรงสี่เหลี่ยมแผ่นบางที่อยู่ใกล้ๆ กัน
ระหว่างที่กำลังหั่นแคร็อทเป็นเส้นๆ เพื่อจะทำผัดกระเพราหมูสับอยู่นั้น จู่ๆ น้าสายทิพย์ที่เงียบอยู่เป็นนานก็เอ่ยปากพูดจากับฉัน
“ปีนี้คงอายุครบ 18 แล้วสินะ”
“ค่ะ...ใช่” ฉันตอบค่อยๆ เลื่อนปลายนิ้วดันหัวแคร็อทสดสีส้มเข้าไปใต้คมมีด และกดมีดเล่มเล็กบางลงหั่น
“ว่าแต่คุณน้าถามทำไมเหรอคะ?” แม้จะเป็นคำถามที่ดูธรรมดาอย่างที่สุด แต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจอยู่นิดๆ เหมือนกัน
“มันคงจะไม่เป็นการเสียมารยาทเกินไปหรอกนะถ้าฉันจะถามอายุของแก” แม่เลี้ยงตอบเสียงขุ่น ฉันเห็นเธอรูดเด็ดใบกระเพราแต่ละต้นจนเต็มกำมือแล้วจึงใส่ไว้ในอ่างพลาสติกเล็กๆ ปากกว้างก้นลึกสีน้ำเงินฟ้าที่วางอยู่ข้างๆ
ฉันเงียบไปพักหนึ่งก้มหน้าก้มตาหั่นแคร็อทจนเหลือเพียงหัวสุดท้าย จึงตัดสินใจปริปากถามในสิ่งที่ตนเองรู้สึกอัดอั้นอยู่ในอกมานาน
“ทำไมคุณน้าถึงไม่ชอบหนูหรือคะ?” น้ำเสียงอันแผ่วเบา เปล่งออกไปจากก้นบึ้งในจิตใจของฉัน มันอาจจะเป็นคำถามที่ไม่เหมาะไม่ควรที่จะเอื้อนเอ่ยกับผู้ใหญ่แต่ก็ตรงไปตรงมากับความรู้สึกของฉันที่สุดแล้วในตอนนี้
ช่วงเวลาที่ฉันรอคอยคำตอบ จริงแล้วเพียงไม่นานแต่กลับรู้สึกเหมือนกับชั่วนาตาปี มันช่างน่าอึดอัด และเจ็บปวดทุกลมหายใจเข้าออก
“ฉันรู้สึกกับแกเหมือนกับที่ฉันรู้สึกกับแม่ของแกนั่นแหละ...”
คำตอบของคุณน้ารุนแรงพอจะทำให้ฉันโกรธขึ้งระคนงุนงงในคราวเดียวกัน
“รู้สึกยังไงเหรอคะ...” ฉันสวนทันควัน “แม่ริณไม่ดีตรงไหน ไปทำอะไรให้คุณน้าโกรธเคืองอย่างนั้นเหรอคะ”
ทันใดนั้นน้าสายทิพย์ก็พลิกตัวหันกลับมา ก่อนจะจ้องมองมาที่ฉันด้วยแววตาแข็งกร้าว และเปล่งวาจาอันร้ายกาจใส่ฉันราวกับลูกกระสุนที่พุ่งทะลุทะลวงผ่านกระจกผืนหนาเกิดเป็นรูโหว่ก่อนจะปริเป็นรอยร้าวทั่วทั้งบานและแตกละเอียดลงในที่สุด
เหมือนเส้นแบ่งความอดทนของเธอขาดสะบั้นลงด้วยแรงแค้นที่โหมกระพือ
“เพราะแม่ของแกคนเดียวที่ทำให้ที่นี่ต้องเป็นแบบนี้ และแกก็เป็นแค่นังเด็กอกตัญญูที่ไม่เคยคิดจะรับผิดชอบอะไร ตั้งแต่ที่นังเกจมณีเข้ามาในหมู่บ้านแห่งนี้ ที่นี่ก็มีแต่ความหายนะ ดีแล้วที่แม่ของแกตายๆ ไปเสียได้ก็ดี” แม่เลี้ยงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันและชิงชังแผ่วเบาแต่บาดลึก เครื่องหน้าของเธอเขม็งตึงดูดุดันน่ากลัวเกรง แต่ความกลัว ณ เวลานี้มีค่าน้อยกว่าความโกรธเกลียดของฉันที่มีต่อเธอมากนัก
“ไม่จริงหรอก สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านนี้ มันเกิดขึ้นจากนักบวชพวกนั้นต่างหากคุณน้าอย่ามากล่าวหาแม่นะ” ฉันเถียงปากคอสั่นระริก รู้สึกถึงอารมณ์เดือดที่แล่นพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย
“อย่ามาพูดจาสามหาวดูหมิ่นเบื้องสูงนะ แม่แกนั่นแหละที่นำความฉิบหายมาสู่พวกเรา…เพราะแม่ของแกคนเดียว ทุกๆ คนที่นี่กำลังพากันล้มตายรวมถึงพ่อของแกเองด้วย...แกเองมันก็เป็นตัวกาลกิณีไม่ต่างอะไรกับแม่ของแกนังริณ” แม่เลี้ยงแผดเสียงสูงขึ้น
‘กาลกิณีอย่างนั้นหรือ’
ฉันรู้สึกอึ้งและชาวาบ
แม้เราสองคนจะไม่ได้ตะเบ็งเสียง หรือตะโกนต่อล้อต่อเถียงกัน แต่ฉันก็แน่ใจว่าคำพูดของฉันกับแม่เลี้ยงก็ดังพอจะทำให้ ชานนท์วิ่งเข้ามาดูสถานการณ์
“เกิดอะไรกันขึ้นเหรอครับ?” ชานนท์ร้องถามหน้าตาตื่นพร้อมกับแทรกตัวเข้ามาตรงช่องประตู
น้าสายทิพย์ตวัดสายตาอันแข็งกร้าวจิกใส่เอกในทันทีจนเขาออกอาการเหวอด้วยความตกใจ เมื่อทะเล่อทะล่าเข้ามาแบ่งรับความโกรธเกรี้ยวของเธอไปโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ฉันเองที่อารมณ์พุ่งปรี๊ดขึ้นมาก็ไม่อาจหยุดยั้งความโกรธนั้นได้เช่นเดียวกัน
ฉันกระแทกด้ามมีดลงบนเขียงไม้ทรงสี่เหลี่ยมอย่างแรง จนเกิดเสียงดังปึก! ก่อนที่จะหันตัววิ่งพรวดพราดออกไปจากห้องครัว ด้วยอาการควันออกหู เอกถึงกับเบี่ยงตัวหลบแทบไม่ทัน
รู้สึกโกรธตัวเองที่ต้องมาทนอยู่ที่นี่ เพื่อคอยรองรับความเกลียดชังของผู้หญิงคนนั้น แล้วก็นึกเสียใจว่าหาก ณ วันนี้แม่ยังมีชีวิตอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้
ความคิดเห็น