ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ต่อจากตอนที่แล้ว
ชื่อศรีอาริย์เป็นที่กึกก้องกล่าวขานนานเพียงใด มนุษย์เราเกิดมาในยุคนี้ เพียงเพื่อรอคอยยุคของพระองค์ ยุคที่จะสร้างความมหัศจรรย์ให้กับมนุษยชาติได้แก่นแท้ถึงรสธรรม บุญกุศลที่มีอยู่ในกายและใจ คนเป็นมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้
มนุษย์จึงถือว่าเป็นบุคลที่ประเสริฐ สามารถสร้างบุญกุศลได้ สูงสุดและยิ่งยวด ดังนั้นความเกี่ยวพันที่ว่า ทุกศาสนารวมตัวกันแล้วเป็นหนึ่ง จึงหมายตรงและสื่อสารถึงพระองค์โดยตรง ผู้เป็นจักพรรดิยิ่งใหญ่เบื้องหน้านี้คือพระองค์ เป็นหนึ่งโดยไม่มีสอง พวกเรารับรู้ด้วยการเรียนรู้ คำพร่ำสอน ตามตำราอรรถกถาต่างที่พรรณนากล่าวถึงพระองค์ผ่านชาติต่างๆ เรื่องราวนิมิตบ้าง จะพบว่าพระองค์ แทรกกล่าวเข้ามาอยู่ใกล้ตัวเราทุกคนอย่างเนือง
หมายถึงการนิรมานกายแบ่งภพชาติของพระองค์ เพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติทั้งหมด เท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งถ้าหากว่ากล่าวแล้ว ไม่มีหมดสิ้น ทั่วโลก ทุกชนชั้นวรรณะ การไม่ถือองค์ จิตโพธิสัตว์ย่อมปรารถนากุศลอย่างมหาศาล การบำเพ็ญบารมีที่ผ่านมาพระองค์นั้นเพียบพร้อมเบ่งบานเต็มที่ อย่างที่ยากจะกล่าวเปรียบ หากการบำเพ็ยของพระองค์เปรียบดังดอกบัว ก็ดุจเช่นบัวที่เบ่งบานเต็มที่อวดกลีบดอกเกสรท้าท้ายอรุณแสงแดด
อย่างที่กล่าวบอก สิบหกอสงไขยกับอีกแสนมหาไขย ยิ่งยวดนัก พระองค์ผ่านภพชาติมานับไม่ถ้วยเอนกอนันตชาติเกิดจะบอกกล่าวได้ เพราะเพียงแค่กัปป์หนึ่งอนุมานประมาณเปรียบได้เท่ากับเม็ดทรายในท้องมหาสมุทร ให้ลองนับจำนวนเม็ดทรายเหล่านั้น นับหมดเมื่อไหร่นั่นล่ะ คือกัปป์หนึ่ง
มนุษย์ทุกคนจึงถือว่ามีบุญที่ได้อยู่ใกล้ชิดพระศรีอาริย์ตลอดเวลา เราได้แบ่งจิตใจความดีงามฝ่ายดีบุญกุศลจากพระองค์ และได้รับการปกป้องคุ้มครอง โดยที่พวกเราไม่เคยรู้ตัว แต่เราไม่เคยตอบแทนพระองค์ได้อย่างถ่องแท้ เป็นต้น เราถอนตัวเองจากการนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ห่างจากสิ่ง
เหล่านี้ การกระทำทั้งหมดหันไปยึดตัวเอง ยึดแบบมั่นถือมั่น ว่าทั้งปวงที่เกิดมา ทั้งหมดที่กระทำขึ้นมาเป็นฝีมือของเราเอง นั่นคือความอวดโอ้ของเราเองที่คิดต่อพระองค์ ดังนั้นเหมือนเราปิดกั้นบุญกุศลของตนเอง ปิดช่องทางที่จะรับรู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องสูงจะช่วยเหลือไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เปิดดใจ เปิดความรู้สึกของตนเองเต็มที่
และอีกประการเราไม่นึกถึงบุคลอื่นที่เป็นคนหรือสัตว์ต่างๆในโลกนี้ ในลักษณะที่แผ่เมตตา มีความรัก มีความสงสาร อยากจะช่วยเหลือเมื่อคนหรือสัตว์เหล่านี้เป็นทุกข์ อย่าลืมว่า สัตว์ทุกตัวในโลก หากกลับคืนสภาพมาก็เป็นมนุษย์เช่นเดียวกัน เพียงแต่กระทำผิดบาป ทำให้ต้องรับโทษทัณฑ์อย่างนั้น
การทำงานนั้น พระศรีอาริย์ทำงานหนักร่วมกับผู้ช่วยเหลือของท่าน ที่มีหน้าที่นี้โดยตรง ช่วยเหลือมนุษยชาติให้ได้เกิดทันศาสนาของพระองค์ที่เริ่มก้าวเข้ามาแล้ว อย่างเงียบ ในภพภูมิทิพย์ ที่มนุษย์ในยุคปัจจุบันไม่เคยทราบสักขณะจิต ว่ายุคของพระศรีอาริย์ได้ก้าวเข้ามาแล้ว คืบคลานมาเรื่อย แต่อยู่ในลักษณะการทำงานของภูมิทิพย์ จิตหยาบของมนุษย์ในปัจจุบันสัมผัสไม่ได้ ออันที่จริงการสร้างยุคพระศรีอาริย์แผ่นดินสวรรค์ที่บังเกิดมาในโลกมนุษย์ มีมาตั้งนมนานอดีตกาลตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษของเราแล้ว
จิตที่เชื่อมต่อของพวกเราทุกคนผ่านสายใยในดวงวิญญาณ มันเชื่อมกันอัตโนมัติ ถึงปู่ย่าตายายบรรพบุรุษ ที่ย้อนหลังกลับไป-ภพภูมิต่างๆที่เรามีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์บ้างเป็นอย่างอื่นบ้าง เพราะสายใยดวงวิญญาณนี้จะไม่ขาดผึง
ดังนั้นถ้าจุมีคนว่ากล่าวบรรพบุรุษของเราทุกคนทุกภพทุกชาตินั้นรวมตัวอยู่ที่เรา คอยดูแลมองเห็นตลอดเวลาว่าในทุกๆวัน ในแต่ละวัน บุตรหลานของตัวเองกระทำความดีหรือความชั่ว
ถ้าทำความดีนั้นบรรพบุรุษพลอยยินดีอนุโมทนาผลบุญร่วมด้วย ที่ท่านจะมีความสุขสบายเพราะการดูแลสอดส่องของเทพยดาเบื้องบนคอยรายงาน หากมีโทษทัณฑ์จากอดีตชาติเหล่านั้นก็สามารถผ่อนปรนจากหนักให้เป็นเบาได้
หากบุตรหลานกระทำความชั่ว ก็ยิ่งโทมนัสเสียใจหนักขึ้นไปอีก ที่นอกจากบรรพบุรุษจะทุกข์ทรมานด้วยบาปกรรมส่วนตัว จะมีความรู้สึกอิดโรยใบหน้าหมองเศร้า สิ่งเหล่านี้ปรากฏอยู่ในภูมิทิพย์ ภูมิที่มีแต่กายทิพย์ของวิญญาณสามารถล่องลอยไปได้
ทุกดวงวิญญาณเมื่ออยู่ในที่เหมาะสม มีความกรุณาเมตตาจากเบื้องบนให้ได้เข้าฝึกอบรมเรียนรู้ธรรม เพื่อคนที่คิดชั่วดวงวิญญาณที่ไม่ดี มีบาปกรรมหนักหนาจะได้กลับตัวเปลี่ยนใจ หันมาให้ปฏิญาณต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องสูง อันมีทั้งพระพุทธเจ้าบ้าง พระปัจเจกพุทธจ้า พระอรหันต์ ทุกพระองค์ทีแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมเยียนและแผ่บารมี
ดวงวิญญาณเหล่านี้ล่ะ เมื่อมีโอกาสเกิดในภพภูมิชาติใหม่ที่เป็นมนุษย์ ก็จะจดจำคำมั่นสัญญาของตนเองได้เป็นอย่างดี และไม่ลืมเลือน เพราะได้สัญญาไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง ว่าจะทำแต่ความดีเดินในทางดี แล้วบุพเพสัญญาเหล่านี้ก็บังคับให้เป็นไปตามนั้น
ณภูเขาที่พร่างขาวดุจอัจกลับแก้วและมีแสงเรืองทองพิเศษ คล้ายฉัพพรรณรัศมีเปล่งประกายระยิบระยับตลอดเวลา กล่าวถึงที่ประชุมของเทพ ภูเขาที่มีลักษณะสวยงาม อุบัติขึ้นมาเองอย่างประหลาดมหัศจรรย์ มีปะรำพิธีที่ตั้งไว้อย่างสวยงามต้อนรับเทพเจ้าชั้นต่างๆ ระดับสูง ระดับกลาง ระดับต่ำ สิ่งเหล่านี้รวมถึงพระอรหันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระพุทธเจ้าในอดีตทุกพระองค์ ล้วนถูกเชื้อเชิญเสด็จให้มาเป็นองค์ประธานใหญ่ เพื่อรับรู้เรื่องราวลำดับความ หน้าที่ยิ่ง
ใหญ่ดังกล่าวนั้น เหล่าทวยเทพเทวดาชั้นสูงร่วมกับทวยเทพชั้นสูงยิ่งขึ้นไป ปรมาจารย์แห่งดินแดนนิพพาน ดำริคิดค้นหาแนวทางเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ชาติให้พ้นจากทุกข์ภัย เพื่อแนะนำแนวการเดินที่แท้จริง ว่ามุ่งมาทางสายตรงเท่านั้น จะได้พบกับความสุขตลอดกาลนิรันดร สายตรงที่เป็นอริยสัจทั้งสี่ ที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบและกระทำให้เกิดผลสำเร็จได้แล้ว ขอให้ตัดการเวียนว่ายตายเกิด ชีวิตก็จะมีความสุข เหมือนถูกปลดจากพันธนาการต่างๆเป็นอิสระ
ณขุนเขาแห่งนี้ เหล่าเทวดาปีศาจนางฟ้าบริวาร เหาะมาประชุมพร้อมเพรียงกันตามที่นัดหมาย นิ่งฟังอย่างสงบ ไม่มีอาการกระดุกกระดิกพูดจา เป็นที่เสียมารยาท ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องสูงอันมีบุคลผู้มาจากแดนนิพพานเป็นต้น ทั้งพระพุทธเจ้า ปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ ขีณาสพทั้งหมดทั้งในอดีต และในปัจจุบัน เป็นบุคลที่สิ้นอาสาวกิเลส แต่ก็ยังปรากฏกายมาชี้แนะแนวทางคำสอนได้เช่นเดิม
ดังนั้นนิพพานคงหมายแท้ถึงความว่า ตายแล้วด้วยกิเลส สูญด้วยกิเลส ฆ่าสิ่งเหล่านี้ตาย หากแต่กายร่างยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่วนเวียนกลับมาในโลกของฉกามาพจรภูมิสี่ หรือในวังวนของวัฏฏสงสารเช่นสัตว์ต่างๆในโลก นอกจากนั้นทุกศาสนา ได้รับอนุญาต พญามาร ปีศาจ ชั้นพรหม ท่านยมพบาล เทพบริวารต่างๆก็ล้วนมาพร้อมหน้าพร้อมตา กำหนดหมายทุกครั้งในวันพระ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น